บทที่ 308 กองพันที่ 6

อ่านต่อ
-A A +A

บทที่ 308 กองพันที่ 6

บทที่ 308 กองพันที่ 6

ระหว่างทางกลับเจียงเจ๋อมองไปยังลู่หยางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมไม่หยุด ชายหนุ่มจึงจำเป็นจะต้องพูดขึ้นมาด้วยความอึดอัดว่า

“เลิกมองฉันแบบนั้นได้แล้ว”

“นายไปคุยอะไรกับพ่อฉันกันแน่? พ่อไม่ยอมเล่าอะไรให้ฉันฟังเลย” เจียงเจ๋อกล่าว

“พ่อนายบอกว่าเรื่องนี้สมควรเก็บไว้เป็นความลับและมันก็ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะพูดให้นายฟัง” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ยุติธรรมเลย” เจียงเจ๋อบ่น

“เดี๋ยวฉันชดเชยเรื่องอื่นให้ ตอนนี้กิลด์พึ่งรับสมัครสมาชิกใหม่เข้ามาอีก 20,000 คน ฉันเลยตั้งใจที่จะแต่งตั้งนายขึ้นเป็นแม่ทัพ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ไม่เอาอ่ะ ฉันขี้เกียจปั้นผู้เล่นขึ้นมาใหม่” เจียงเจ๋อกล่าว

“แล้วถ้าในทีมนั้นมีผู้เล่นที่เปลี่ยนอาชีพแล้ว 20 คนและมีผู้เล่นที่ครอบครองอาวุธระดับตำนานเลเวล 30 อีก 10 คนล่ะ พอจะน่าสนใจขึ้นมาบ้างไหม?” ลู่หยางกล่าว

“ถ้าแบบนั้นฉันก็ไม่มีปัญหา” เจียงเจ๋อกล่าวอย่างตื่นเต้น

สถานการณ์ในปัจจุบันทำให้เจียงเจ๋อรู้แล้วว่าการเปลี่ยนอาชีพเป็นเรื่องยากมากแค่ไหน เพราะถ้าหากใครไม่โชคดีจริง ๆ พวกเขาก็แทบที่จะไม่มีโอกาสเปลี่ยนอาชีพในช่วงเวลานี้ของเกมได้เลย แล้วถ้าหากจะบอกว่าใบเปลี่ยนอาชีพเป็นไอเท็มที่หาได้ยากแล้ว อาวุธระดับตำนานก็เป็นสิ่งที่หาได้ยากมากยิ่งกว่า

กิลด์เล็ก ๆ หลาย ๆ กิลด์ยังไม่มีคนเปลี่ยนอาชีพภายในกิลด์เลยด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้นลู่หยางก็ยังบอกเขาว่าทีมใหม่ที่เขาจะได้ดูแลจะมีผู้เล่นที่ผู้เล่นที่เปลี่ยนอาชีพแล้วถึง 20 คน ตำแหน่งแม่ทัพที่เขาจะได้รับจึงทำให้เจียงเจ๋อลืมเรื่องการลงทุนของพ่อเขาไปเลย

“ฉันจะให้อาวุธระดับตำนาน 4 ชิ้นกับใบเปลี่ยนอาชีพ 6 ใบกับนายไปก่อน ส่วนเรื่องคนนายเลือกเองได้เลย ฉันไม่ได้มีข้อกำหนดอะไรเป็นพิเศษ” ลู่หยางกล่าว

“หลังเข้าเกมนายจะเอาของพวกนั้นมาให้ฉันเลยใช่ไหม?” เจียงเจ๋อถามด้วยแววตาอันเป็นประกาย

“ตอนนี้ยังไม่ได้เพราะฉันติดอยู่ในแผนที่พิเศษ แต่ฉันจะบอกอาชีพให้ก่อน นายคัดเลือกคนมารอเปลี่ยนอาชีพได้เลย นอกจากนี้ทีมนักเวทไฟ 100 คนที่ฉันปั้นมาฉันก็จะยกให้ทีมนั้นไปอยู่ภายใต้การดูแลของนายในช่วงที่ไม่มีสงครามด้วย” ลู่หยางกล่าว

“นี่นายพูดจริงเหรอ?! ตอนนี้พวกเขาหลายคนเรียนสกิลลมหายใจมังกรมาแล้วนะ” เจียงเจ๋อถามอย่างตื่นเต้น

“ฉันจะโกหกนายทำไม” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“นายนี่มันใจดีจริง ๆ” เจียงเจ๋อกล่าว

หากลู่หยางให้เขาดูแลทีมนักเวทไฟ 100 คนที่สามารถใช้การย่อคาถาได้ ประกอบกับผู้เล่นที่เปลี่ยนอาชีพแล้วอีก 20 คน มันก็จะทำให้การคุมทัพ 20,000 คนไม่ใช่เรื่องยากลำบากอีกต่อไป

หลังจอดส่งลู่หยางที่สตูดิโอ เจียงเจ๋อก็รีบขับรถกลับบ้านในทันที เพราะเขาอยากเห็นคุณสมบัติของอาวุธระดับตำนาน

ลู่หยางมองดูท่าทางของสหายพร้อมกับส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปที่ห้องของตัวเองบนชั้น 2 เพื่อทำการล็อกอินเข้าสู่เกม

“พี่ลู่หยางกลับมาแล้ว” ฮั่นอิ่งกล่าวอย่างตื่นเต้น

“เป็นไง เหนื่อยไหม?” ลู่หยางถามและเนื่องมาจากเขาอยู่กินอาหารเย็นกับครอบครัวของเจียงเจ๋อ มันจึงทำให้ฮั่นอิ่งต้องคอยดูแลมู่หยูเป็นเวลาหลายชั่วโมง

“ไม่เหนื่อยค่ะ ความจริงหนูแทบไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำนอกจากนั่งรออยู่ตรงนี้” ฮั่นอิ่งกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“อีกเดี๋ยวพี่จะให้ของรางวัลกับเธอก็แล้วกัน” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ฮั่นอิ่งส่ายหน้าโดยไม่พูดอะไรออกมาและลู่หยางก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

ท้ายที่สุดเขาได้ตกลงกับเจียงถงเหนียนเอาไว้แล้วว่าอีกฝ่ายจะโอนเงินเข้ามาเป็นงวด ๆ ภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนเรื่องการเซ็นสัญญาจะไม่มีการประกาศให้คนภายนอกรับรู้

“เสี่ยวหยูเป็นยังไงบ้าง?” ลู่หยางถาม

“เสี่ยวหยูกำลังหลอกล่อเจ้าก้อนเขียวให้ช่วยฆ่ามอนสเตอร์อยู่ค่ะ เด็กคนนั้นทั้งขยันและมีทักษะที่ดีมากจริง ๆ” ฮั่นอิ่งกล่าว

“โอเค ถ้างั้นพวกเราก็ไปดูเสี่ยวหยูด้วยกันเถอะ” ลู่หยางกล่าว

ทั้ง 3 คนช่วยกันล่อมอนสเตอร์และเก็บของจนกระทั่งถึงเที่ยงคืน ลู่หยางจึงบอกให้มู่หยูกับฮั่นอิ่งออกไปพักผ่อนโดยมีเขารับหน้าที่คอยเฝ้าเก็บของอยู่คนเดียว

กลางดึก

ลู่หยางกำลังนั่งเบื่อ ๆ เมื่อเขาเห็นถูเฟิงยังคงออนไลน์อยู่เขาจึงติดต่อไปหาเพื่อนคุย

“นายยังไม่นอนอีกเหรอ?”

“ฉันกำลังทำบัญชีอยู่” ถูเฟิงตอบ

ตอนนี้สมาชิกภายในกิลด์มีอยู่เกินกว่า 150,000 คนแล้ว รายรับรายจ่ายภายในกิลด์จึงมีจำนวนรายการอยู่เยอะมาก ถูเฟิงจึงคอยดูแลเรื่องบัญชีอย่างรอบคอบมากเป็นพิเศษ

“ตอนนี้กิลด์ของเรามีเมจิกซิลค์, คอนเนคไฮด์กับพาเรนท์สะสมเอาไว้เท่าไหร่?” ลู่หยางถาม

วัตถุดิบเหล่านี้เป็นวัตถุดิบที่หาได้ทั่วไปในแผนที่เลเวล 24-36 เพียงแต่อัตราการดรอปของพวกมันอยู่ในระดับที่ต่ำมาก

“พวกเรามีของพวกนั้นสะสมอยู่อย่างละไม่เกิน 500 ชุด ฉันได้ยินมาว่าพวกมันเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตอุปกรณ์ที่ฉงป้ากับบลัดไทแรนท์ได้รับบลูปริ้นมา เราเลยหาซื้อวัตถุดิบพวกนั้นเพิ่มไม่ได้ ว่าแต่นายก็ได้บลูปริ้นมาเหมือนกันเหรอ?” ถูเฟิงถาม

“ยังไม่ได้ แต่พรุ่งนี้ฉันจะไปคุยกับพวกเขา นายช่วยบอกให้ทุกคนพยายามหาวัตถุดิบพวกนี้มาหน่อยนะ หากเป็นไปได้ให้เตรียมวัตถุดิบแต่ละอย่างเอาไว้อย่างละ 5,000 ชุด” ลู่หยางกล่าว

“ฉันว่ามันเยอะเกินไปหน่อย วัตถุดิบพวกนั้นมีอัตราการดรอปต่ำมาก ถึงฉันจะส่งทีม 3,000 คนไปฟาร์มมอนสเตอร์ทั้งวันแต่มันก็ได้มาไม่เกิน 30 ชุด ในร้านประมูลราคาของพวกมันก็แพงมากด้วยเหมือนกัน เพราะทั้งบลัดไทแรนท์และฉงป้าต่างก็ปั่นราคาจนเราสู้ราคาไม่ไหว” ถูเฟิงกล่าว

“เดี๋ยวฉันจะลองคิดหาวิธีดูก็แล้วกัน นายก็พยายามทำเท่าที่ทำได้” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“ดูท่าต้องรีบไปเผ่าเอลฟ์แล้วสินะ” ชายหนุ่มคิดกับตัวเอง

หลังตัดการสื่อสารลู่หยางก็ไล่เก็บของไปตลอดทั้งคืน ซึ่งมันก็ทำให้เขาได้รับอาวุธระดับตำนานเพิ่มอีก 2 ชิ้นและได้รับใบเปลี่ยนอาชีพมาเพิ่มอีก 5 ใบ

ขณะเดียวกันเด็กสาวทั้งสองก็ได้เปิดระบบความสนิทสนมกับลู่หยางเอาไว้ ซึ่งทุกครั้งที่ลู่หยางเดินทางเขาก็จะแบกร่างของทั้งคู่ไปพร้อมกับเขาด้วย

อย่าลืมว่าเกมนี้ตัวละครจะไม่หายไปหลังจากผู้เล่นทำการล็อกเอาท์ ดังนั้นหากผู้เล่นไม่ได้ล็อกเอาท์ในโรงแรม มันก็จำเป็นจะต้องมีคนที่คอยดูแลตัวละครของพวกเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้มอนสเตอร์เข้ามาทำการสังหารในระหว่างที่พวกเขาออกไปพักผ่อน

ตอนเช้า

เมื่อมู่หยูล็อกอินเข้ามาเธอก็พบว่าลู่หยางกำลังแบกร่างตัวละครของเธออยู่

“พี่ หนูเข้ามาแล้วค่ะ” เด็กสาวพูดอย่างมีความสุข

มู่หยูสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก ความอบอุ่นที่ลู่หยางมอบให้จึงทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจมาก

“ทำไมไม่นอนต่ออีกหน่อยล่ะ?” ลู่หยางถามหลังจากดูเวลาและได้พบว่ามันเพิ่งจะ 5.30 น.

“พวกเรานอนไม่หลับค่ะ” มู่หยูกล่าว

ลู่หยางรู้ดีว่าเด็กสาวทั้งสองจะต้องเป็นห่วงเขาแน่ ๆ เขาจึงถามออกไปว่า

“ฮั่นเฟยตื่นแล้วหรือยัง?”

“ตื่นแล้วค่ะ ตอนนี้พวกพี่เขากำลังออกกำลังกายอยู่” มู่หยูกล่าว

ไม่นานฮั่นอิ่งก็เข้าไปในเกมแต่เมื่อเธอได้เห็นมู่หยูยังคงเกาะหลังลู่หยางอยู่ เธอก็อดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้

ลู่หยางพูดกับมู่หยูอยู่สักพัก ก่อนที่เขาจะพูดว่า

“โอเค พี่ขอออกไปพักก่อนนะ”

“พี่รีบไปนอนเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูกับพี่ฮั่นอิ่งจะจัดการทุกอย่างเอง” มู่หยูกล่าวด้วยสีหน้าอันภาคภูมิใจ

ลู่หยางพยักหน้าก่อนที่เขาจะเอาตัวพิงกำแพงและออกจากเกม

หลังถอดหมวกเกมออกจากศีรษะ ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงวิ่งดังมาจากลานด้านล่างของหอพัก เขาจึงเดินไปดูที่หน้าต่างและได้พบว่าฮั่นจงกำลังนำเด็กหนุ่มกว่า 100 คนฝึกฝนอยู่ด้านล่าง

แม้ร่างกายของทุกคนจะเต็มไปด้วยเหงื่ออันเปียกโชก แต่พวกเขาต่างก็มีสีหน้าอันเด็ดเดี่ยว

“อาจารย์เก่งจริง ๆ ที่พาพวกเขามาฝึกได้เยอะขนาดนี้” ลู่หยางกล่าวหลังจากที่เขาลงไปวิ่งพร้อมกับฮั่นจงด้วย

“ถ้าทุกคนนอนเล่นเกมทั้งวันร่างกายของพวกเขาก็คงจะพังหมด แต่ความจริงมันเป็นพวกเขาเองต่างหากที่เต็มใจจะมาฝึกกับฉัน” ฮั่นจงกล่าว

ลู่หยางพยักหน้ารับซึ่งหลังจากที่พวกเขาวิ่งออกกำลังกายจนเสร็จ ฮั่นเฟย, ฮั่นอวี่, มู่ยี่และเสี่ยวเหลียงก็ทำการฝึกพิเศษร่วมกันต่อไปอีก 2 ชั่วโมง

เหล่าบรรดาสมาชิกในสตูดิโอที่กำลังกินข้าวมองไปยังพวกลู่หยางที่ดูเหมือนกำลังทรมานตัวเองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร อย่างไรก็ตามความเด็ดเดี่ยวที่พวกลู่หยางได้แสดงออกมามันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกมีไฟมากยิ่งขึ้น

หากหัวหน้าของพวกเขายังต้องพยายามกันมากขนาดนี้ แล้วพวกเขาจะมีเวลามาขี้เกียจอยู่ได้ยังไง?!

 

 


อ่านเสร็จแล้วทุกคนไปออกกำลังกายได้!

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.