บทที่ 303 เสียงเรียกจากอีกโลกหนึ่ง
บทที่ 303 เสียงเรียกจากอีกโลกหนึ่ง
“หา?! ทำไมพวกมันตายกันง่ายจังเลย” มู่หยูมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างงุนงง โดยที่ฮั่นอิ่งก็กำลังมองไปทางลู่หยางด้วยความสงสัยเช่นกัน
“เป็นไง? มันคือที่ที่มหัศจรรย์อย่างที่ฉันได้บอกเอาไว้ใช่ไหมล่ะ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
นี่คือความมหัศจรรย์ของดันเจียนดีม่อนแทรปปิ้ง ซึ่งจากสิ่งที่ระบบได้อธิบายเอาไว้ก็คือสิ่งมีชีวิตในต่างมิติก็ไม่ต่างไปจากสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงนี้มากนัก สิ่งมีชีวิตในทุกพื้นที่ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ เนื่องมาจากทางองค์กรลึกลับได้ทำการอัญเชิญสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มาเป็นจำนวนมาก มันจึงทำให้สิ่งมีชีวิตบางชนิดแข็งแกร่งไม่ต่างไปจากเทพเจ้า ขณะที่สิ่งมีชีวิตบางชนิดอ่อนแอจนถึงขั้นแม้แต่จะสู้ชาวพื้นเมืองก็ทำไม่ได้
หลังจากอธิบายให้สองสาวฟังอย่างง่าย ๆ พวกเธอก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“เมื่อกี้นี้พี่ตั้งใจแกล้งพวกเราให้ตกใจเล่นใช่ไหม?” มู่หยูกล่าวพร้อมกับทำแก้มป่อง
“พี่ไม่ได้คิดจะแกล้งพวกเธอจริง ๆ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“หนูไม่เชื่อ! เดี๋ยวนี้พี่ดูไม่น่าเชื่อถือขึ้นทุกวันแล้วนะ” มู่หยูพูดขึ้นมาอย่างน่ารัก เพราะท้ายที่สุดลู่หยางก็มักจะหาเรื่องแปลก ๆ มาแกล้งเธออยู่เสมอ
เมื่อได้เห็นท่าทางของเด็กสาว มันก็ทำให้ลู่หยางหัวเราะขึ้นมาเสียงดังอย่างกลั้นไม่อยู่
“แล้วแบบนี้พวกเราจะแยกได้ยังไงคะว่าบอสตัวไหนแข็งแกร่งหรือบอสตัวไหนอ่อนแอ?” ฮั่นอิ่งถามอย่างจนปัญญา
“ทางเดียวที่จะรู้คือเราต้องลองสู้ดูเท่านั้น” ลู่หยางตอบ
“มู่หยูพูดถูกจริง ๆ ด้วย ดูเหมือนพี่จะไม่ค่อยน่าเชื่อถือมากขึ้นทุกวัน” ฮั่นอิ่งกล่าวพร้อมกับทำแก้มป่องด้วยเช่นกัน
ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าพลังของบอสระดับลอร์ดแข็งแกร่งมากแค่ไหน หากพวกเธอทดลองเข้าไปต่อสู้อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า มันก็ไม่ต่างไปจากการพยายามฆ่าตัวตายเลยชัด ๆ
“ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูนี่สิ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
ทันใดนั้นนกฟีนิกซ์ก็ส่งเสียงร้องก่อนที่จะบินออกไปด้านหน้า จากนั้นมันก็พ่นไฟเข้าใส่มอนสเตอร์ทุกตัวที่อยู่ระหว่างทาง ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานมันก็สามารถเคลียร์เส้นทางไปได้ไกลกว่า 80 เมตร
“พวกมันเป็นบอสปลอมหมดเลยงั้นเหรอเนี่ย?!” มู่หยูพูดอย่างสับสน
“บอสระดับลอร์ดปลอมหมดเลย ทางระบบจะเล่นตลกกับเรามากเกินไปแล้ว” ฮั่นอิ่งรู้สึกเหมือนกับตัวเองกำลังจะพูดไม่ออก
“เห็นไหม? วิธีเช็คก็ง่าย ๆ แบบนี้แหละ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้นมันก็มีเสียงร้องคำรามดังขึ้นมาแต่ไกลพร้อมกับเสียงแจ้งเตือนจากระบบว่านกฟีนิกซ์ของลู่หยางเสียชีวิตลงไปแล้ว
“เราเจอบอสตัวจริงแล้ว รีบตามพี่มาเร็วเข้า!” ลู่หยางกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย
หลังจากเดินไปด้านหน้าประมาณ 50 เมตร ลู่หยางก็สังเกตเห็นร่างของนกฟีนิกซ์ที่กำลังแหลกสลาย โดยมีเจ้าอสูรโบราณที่มีหมัดลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟอยู่ใกล้ ๆ
“โอ้โห! พวกเราโชคดีมากเลยนะ นกฟีนิกซ์ของพี่ก็ได้มาจากการฆ่าไอ้ตัวนี้แหละ ดูซิว่าคราวนี้มันจะดรอปนกฟีนิกซ์ลงมาอีกตัวให้มู่หยูหรือเปล่า?” ลู่หยางกล่าว
“ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ” มู่หยูกล่าว
“เอาล่ะ เดี๋ยวพี่จัดการมันเอง” ลู่หยางกล่าวก่อนที่จะเดินไปด้านหน้าเจ้าอสูรแล้วเริ่มร่ายคาถาสร้างเปลวไฟสีแดงขึ้นบนร่างของบอส
คอมบัสชัน!
-500
โฮก!
เจ้าอสูรร้องคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวก่อนที่มันจะใช้สกิลชาร์จพุ่งเข้าหานักเวทหนุ่ม
ลู่หยางย่อมไม่ปล่อยให้บอสพุ่งเข้ามาโดนตัวของเขาอยู่แล้ว เขาจึงชี้คทาออกไปด้านหน้าพร้อมกับเริ่มร่ายคาถาขึ้นมาอีกครั้ง
เฟลมอิมแพค!
ลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งเข้าชนร่างของเจ้าอสูรเข้าอย่างจัง ก่อนจะทำให้มันติดสตั๊นเป็นเวลา 0.1 วินาที
โฮก!
เจ้าอสูรร้องคำรามก่อนที่มันจะใช้สกิลอินเตอร์เซปพุ่งเข้าหาลู่หยางอีกครั้งหนึ่ง
เฟลมสตอร์ม!
ลู่หยางเรียกพายุเพลิงขึ้นมาจากพื้นดักหน้าบอสเอาไว้ ภาพที่ปรากฏจึงให้ความรู้สึกราวกับว่าเจ้าอสูรกำลังพุ่งเข้าไปในพายุไฟด้วยตัวเอง
สัญลักษณ์สถานะสตั๊นปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเจ้าอสูรทำให้สกิลของมันถูกยกเลิกอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่มันได้สติกลับไปอีกครั้งมันก็ร้องคำรามด้วยความโกรธ ก่อนที่จะพยายามวิ่งเข้าหาลู่หยางเพราะตอนนี้มันไม่มีสกิลที่ไม่ใช้สำหรับการพุ่งเป้าไปยังเป้าหมายอีกแล้ว
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของมอนสเตอร์ระดับลอร์ดเร็วกว่าผู้เล่นถึง 2 เท่า ลู่หยางจึงไม่กล้าประมาทรีบเปิดใช้สกิลสคอร์ชิ่งสปีดแล้วหันหลังวิ่งไปยังเส้นทางที่เขาใช้สกิลไฟร์วอลล์วางเรียงกันรอเอาไว้
เจ้าอสูรพุ่งตามลู่หยางเข้าไปในไฟร์วอลล์ด้วยความโกรธ ซึ่งทุกครั้งที่มันเดินผ่านกำแพงไฟเหนือศีรษะของมันก็จะปรากฏตัวเลขความเสียหายขึ้นมา 1 ครั้ง
ขณะเดียวกันเนื่องมาจากความเร็วในการเคลื่อนที่ของมอนสเตอร์ระดับลอร์ดที่สูงมาก จึงทำให้เจ้าอสูรสามารถวิ่งผ่านไฟร์วอลล์ได้เกือบ 3 ชั้นภายในเวลา 1 วินาที
หลังลู่หยางวิ่งไปจนถึงปลายด้านหนึ่งของไฟร์วอลล์แล้ว เขาก็โยนมีดเอสเคพเดจเจอร์ออกไปทางด้านหลัง ก่อนที่มีดนั้นจะพุ่งทะลุผ่านเจ้าอสูรและไปตกลงอีกด้านห่างออกไปประมาณ 10 เมตร
เจ้าอสูรยังคงพุ่งตรงไปอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อร่างของมันกำลังจะวิ่งไปถึงลู่หยาง นักเวทหนุ่มก็เทเลพอร์ตหายตัวไปปรากฏทางด้านหลังห่างออกไป 30 เมตร
โฮก!
เจ้าอสูรส่งเสียงร้องคำรามอย่างไม่พอใจ ก่อนที่มันจะหันหลังวิ่งไล่ตามลู่หยางไปอีกครั้งหนึ่ง
…
หลังจากวิ่งไปมาวนอยู่ 5 รอบลู่หยางก็ได้ใช้ทั้งสกิลสคอร์ชิ่งสปีดและร็อคเก็ตโมบายล์ไปจนหมด ขณะเดียวกันพลังชีวิตของเจ้าอสูรก็ลดลงไปประมาณ 200,000 หน่วย แต่มันก็ยังเหลือพลังชีวิตอีกสูงถึง 1,300,000 หน่วยเลยทีเดียว
“เรียกเฮลไฟร์ลอร์ดมาชนบอสเอาไว้เร็วเข้า!” ลู่หยางตะโกนสั่ง
ฮั่นอิ่งเริ่มเคลื่อนไหวในทันที ก่อนที่จะสั่งให้เฮลไฟร์ลอร์ดใช้สกิลดึงดูดความสนใจของบอสเอาไว้
เจ้าอสูรรวบรวมเปลวไฟขึ้นมายังมือทั้งสองข้าง ก่อนที่มันจะชกเข้าใส่เฮลไฟร์ลอร์ด 2 ครั้งติดต่อกัน
-2,868
-2,888
ทันใดนั้นองครักษ์เจ้าอสูร 20 ตัวก็ปรากฏขึ้นจากกองเพลิง ลู่หยางจึงร่ายคาถาใช้สกิลเฟลมเบิร์ดโจมตีองครักษ์เจ้าอสูรและเจ้าอสูรพร้อม ๆ กัน
ระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ได้อาศัยจังหวะในการวิ่งเพื่อให้องครักษ์เจ้าอสูรขวางเส้นทางการวิ่งของเจ้าอสูรเอาไว้ ก่อนที่เขาจะล่อพวกมันไปที่ทางแยกและใช้สกิลไฟร์วอลล์ 7 ชั้นขึ้นมาล้อมรอบตัวเอง
องครักษ์เจ้าอสูรเป็นมอนสเตอร์ที่กลัวเปลวไฟ พวกมันจึงหยุดอยู่ห่างจากไฟร์วอลล์ 2 เมตรโดยไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้ เจ้าอสูรที่อยู่ด้านหลังจึงส่งเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธ เพราะมันยืนติดองครักษ์เจ้าอสูรที่อยู่ด้านหน้าทำให้ไม่สามารถเข้าไปใกล้เพื่อทำลายศัตรูของมันได้
“พี่ชายเก่งจังเลย!” มู่หยูกับฮั่นอิ่งตะโกนเชียร์ขึ้นมาพร้อม ๆ กันและทั้งคู่ต่างก็ไม่คิดว่าลู่หยางจะมีเทคนิคในการจัดการบอสแบบนี้ด้วย
ลู่หยางมองดูแววตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจของทั้งคู่ ก่อนจะเริ่มร่ายคาถาเรียกไฟร์บอลยิงเข้าใส่เจ้าอสูรอย่างต่อเนื่อง
10 นาทีต่อมาเจ้าอสูรก็ส่งเสียงร้องครวญคราง ก่อนที่มันจะร่างแตกสลายและร่วงหล่นลงไปบนพื้น
ในเวลานั้นมันก็ได้มีไอเท็มดรอปลงมาเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่โดดเด่นคือไข่นกฟีนิกซ์ 1 ฟองและแหวนที่มีลักษณะคล้ายหนามกระดูกสีดำ
“มันมีไข่นกฟีนิกซ์ดรอปลงมาจริง ๆ ด้วย” มู่หยูกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
ลู่หยางทำการอัญเชิญนกฟีนิกซ์ออกใหม่อีกครั้งเพื่อจัดการกับองครักษ์เจ้าอสูรที่อยู่รอบ ๆ จากนั้นเขาก็หยิบไข่นกฟีนิกซ์ส่งให้กับมู่หยูแล้วพูดขึ้นมาว่า
“เอาไปใช้สิ”
มู่หยูตัดสินใจที่จะไม่รับไข่ฟีนิกซ์เอาไว้ ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาอย่างน่ารักว่า
“พี่เอาไปให้นักเวทไฟภายในกิลด์พี่ดีกว่า หนูเลือกเล่นสายเวทมนตร์สายฟ้าถึงพี่ให้ไข่นกฟีนิกซ์หนูมาแต่หนูก็ใช้มันไม่คุ้มหรอก”
“ไม่เป็นไรใช้ ๆ ไปเถอะ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
หลังจากพูดจบเขาก็ได้ส่งหัวใจแห่งเทพอสูร, ตราชีวิตนิรันดร์และไฟร์ริงให้มู่หยู ก่อนจะพูดเสริมขึ้นมาว่า
“สวมอุปกรณ์พวกนี้แล้วค่อยเรียกมันออกมานะ เธอจะได้นกฟีนิกซ์เลเวล 7 ไม่ใช่เลเวล 1”
“จริงเหรอคะ?” มู่หยูกล่าวก่อนจะรับอุปกรณ์มาอย่างดีใจ จากนั้นเธอก็เรียนรู้สกิลอัญเชิญนกฟีนิกซ์และทำการอัญเชิญนกฟีนิกซ์เลเวล 7 ขึ้นมาปรากฏข้าง ๆ กาย
“ขอบคุณค่ะพี่” มู่หยูกล่าว
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องมาเกรงใจพี่หรอก” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“พี่ นี่มันอุปกรณ์อะไรเหรอคะ?” ฮั่นอิ่งถามหลังจากเก็บแหวนและกำไลข้อมือสีดำขึ้นมาจากพื้น
แหวนต่างมิติ
เลเวล ???
คุณสมบัติ ???
รายละเอียด ของที่มาจากต่างมิติ ใครจะรู้ว่ามันมีคุณสมบัติอะไรซ่อนอยู่
ของดีหรือไม่ดีน๊อ?
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 162
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น