บทที่ 224 ช่องเขาแคบ
บทที่ 224 ช่องเขาแคบ
กองกำลังทั้ง 5,000 คนที่เย่กู่ซิงนำพามาต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นระดับสูงที่มีเลเวลเกิน 20 และสวมใส่อุปกรณ์ระดับเงินครบทั้งชุด และในตอนนี้เย่กู่ซิงก็กำลังนำทีมกระจายกันไปไล่ล่าสมาชิกของบลัดบราเธอร์ในแผนที่เลเวล 15
“กองกำลังหลักของลู่หยางปรากฏตัวแล้วแล้วงั้นเหรอ? ในที่สุดฉันก็หาตัวพวกแกเจอสักที” เย่กู่ซิงพึมพำด้วยใบหน้าที่ดุร้าย
“เมื่อกี้หัวหน้าพูดว่ายังไงนะครับ?” ลูกน้องคนที่อยู่ข้าง ๆ ถาม
เย่กู่ซิงไม่ได้สนใจลูกน้องคนนั้น ก่อนที่เขาจะส่งข้อความไปยังหัวหน้าทีมต่าง ๆ โดยมีใจความว่า
“กองกำลังหลักของบลัดบราเธอร์ 600 คนปรากฏตัวที่หน้าประตูดันเจียนสเปเชียลออคิด ขอให้ทุกคนไปรวมตัวกันที่เนินเขาออร์คภายใน 10 นาที หากใครไปไม่ทันจะถูกหักคะแนนกิลด์ 20 แต้ม”
เมื่อสมาชิกของบลัดเติสตี้ได้ยินว่าพวกเขาเจอกองกำลังหลักของบลัดบราเธอร์แล้ว พวกเขาก็รีบไปรวมตัวกันราวกับฝูงหมาป่าที่ได้กลิ่นเลือด
“หัวหน้า ให้พวกเราไปจัดทัพกันที่เนินเขาออร์คมันจะดีเหรอครับ? พวกเราควรจัดทัพที่นี่แล้วเดินทางไปด้วยกันจะปลอดภัยกว่าไหม?” รองหัวหน้าทีมที่มีชื่อว่าเมคเนติกถาม
“กว่าจะรวมตัวกันที่นี่มันนานเกินไป ถ้าหากพวกมันหนีไปนายจะรับผิดชอบหรือเปล่า?” เย่กู่ซิงกล่าว
เมคเนติกทำได้เพียงแต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกไป
“พวกมันมีกองกำลังแค่ 600 คน ขอแค่เราบุกเข้าไปครั้งเดียวแค่นั้นพวกมันก็แตกกระเจิงแล้ว” เย่กู่ซิงกล่าว
—
บริเวณทางเข้าดันเจียนสเปเชียลออคิด
ฉิงชางกำลังนำกองกำลังผู้เล่น 600 คนยืนรออยู่ที่ประตู โดยมีนักธนู 10 คนคอยสอดแนมอยู่ห่างออกไป 3 กิโลเมตรพร้อมกับส่งข้อความเข้ามารายงานทุกนาที
หัวหน้า ผมมาถึงตำแหน่งเป้าหมายแล้วครับ :ฉิงชางส่งข้อความถึงลู่หยาง
ฉันก็กำลังมาถึงช่องแคบพอดี หลังจัดการเรื่องนี้จนเสร็จเดี๋ยวฉันจะรีบไปหา :ลู่หยางกล่าวขณะนำทีมนักเวทไฟทั้ง 100 คนขึ้นไปบนช่องเขา
เร็วมาก! :พวกเซี่ยหยู่เว่ยส่งข้อความเข้ามาด้วยความประหลาดใจ เพราะพวกเธอเพิ่งจะนำกำลังคนทั้ง 2,400 คนเข้ามาถึงทางเข้าของช่องเขาเท่านั้น
ที่นี่มันมีอุโมงค์ลับเป็นทางลัดอยู่น่ะ :ลู่หยางกล่าว
ผู้เล่นสามารถใช้ประตูวาร์ปเดินทางไปยังเมืองมูนชาโดว์ ซึ่งเป็นแผนที่เลเวล 25 ได้และบริเวณนอกเมืองมันก็มีอุโมงค์ลับที่ปลายอีกด้านคือช่องแคบในภูเขาแห่งนี้
“หัวหน้าที่นี่เป็นที่ที่เหมาะแก่การซุ่มโจมตีจริง ๆ” แบล็คเฟลมกล่าวขณะที่เขามองลงไปยังทางเดินที่ค่อย ๆ บีบลงมาตามช่องเขา
ลู่หยางส่งเสียงหัวเราะพร้อมกับสังเกตเห็นฝุ่นตลบตั้งแต่ระยะไกล ก่อนที่เขาจะได้เห็นพวกเซี่ยหยู่เว่ยกำลังนำทีมวิ่งมาที่นี่อย่างรวดเร็ว
พวกเรามาถึงแล้วครับ :ไป๋ฉือส่งข้อความมาหาลู่หยาง
ร่างของนักเวทหนุ่มกลายเป็นแสงสว่างวาบ ตอนที่เขาจะมาปรากฏตัวกลางทางเดิน
“หัวหน้า!” ไป๋ฉือและบิทเทอร์เลิฟวิ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้น
ลู่หยางมองดูแม่ทัพของตัวเองและผู้เล่นชั้นยอดที่อยู่ด้านหลังก่อนจะพูดว่า
“หลายวันมานี้พวกนายคงเหนื่อยมากสินะ”
“ไม่หรอกครับ หัวหน้าลำบากกว่าพวกเราอีก” ไป๋ฉือกล่าว
“หัวหน้า พวกเราพร้อมแล้ว!”
“ครั้งนี้พวกเราจะต้องเอาชนะพวกบลัดเติสตี้ให้ได้”
…
ผู้เล่นทั้ง 2,400 คนต่างก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธแค้น เพราะพวกเขารู้ดีว่าช่วงเวลาที่ผ่านมากิลด์ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาอะไรบ้าง
ลู่หยางพยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะพูดว่า
“พี่น้องทั้งหลาย ครั้งนี้คือการต่อสู้ครั้งสำคัญของพวกเรา การเอาชนะกองกำลังของเย่กู่ซิงทั้ง 5,000 คนเป็นเพียงแค่ก้าวแรก เพราะเป้าหมายหลักของเราคือการทำให้บลัดเติสตี้เจ็บหนักจนไม่กล้ากลับมารังแกพวกเราอีก”
“ครับ/ค่ะ” ทุกคนตะโกนพร้อมกันจนเสียงดังก้องไปทั่วทั้งหุบเขา
“หัวหน้าบอกมาได้เลยว่าพวกเราจะต้องทำยังไง” ไป๋หูกล่าวอย่างตื่นเต้น
ลู่หยางชี้ไปที่หน้าผาทั้งสองข้างทาง ก่อนจะพูดว่า
“พวกนายสามพี่น้องกับเซี่ยหยู่เว่ยนำกำลังคน 1,200 คนขึ้นไปข้างบนหน้าผาฝั่งขวา ส่วนบิทเทอร์เลิฟกับซุนหยูนำกำลังที่เหลืออีก 1,200 คนไปข้างบนหน้าผาฝั่งซ้าย”
“ครับ/ค่ะ” แม่ทัพทั้งสี่คนพูดพร้อมกัน
ลู่หยางชี้ไปยังนักเวทไฟทั้ง 100 คนที่อยู่ด้านหลังของตัวเอง ก่อนจะพูดแนะนำขึ้นมาว่า
“นี่คือกองกำลังนักเวทไฟพิเศษที่ฉันฝึกฝนมาโดยเฉพาะ พวกเขาเรียนรู้วิธีการย่อคาถาเบลซซิงเบิร์สกันหมดแล้ว อีกเดี๋ยวพวกเขาจะกลายเป็นอีกหนึ่งทีมที่เข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย”
“กองกำลังนักเวทไฟที่รู้วิธีย่อคาถา!?” เซี่ยหยู่เว่ยและคนอื่น ๆ ต่างก็อุทานอย่างตกตะลึง เพราะพวกเขารู้ดีว่าการย่อคาถาเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากแค่ไหน มันจึงไม่มีใครคิดว่าลู่หยางจะแอบสร้างกองกำลังแบบนี้ขึ้นมา
“เดี๋ยวพอฉันกับฉิงชางล่อพวกเย่กู่ซิงเข้ามาในวงล้อม ให้ทุกคนรอฟังคำสั่งแล้วค่อยทำการโจมตี พวกเราจะต้องทำลายกองกำลังทั้ง 5,000 คนของเย่กู่ซิงให้หมดเพื่อบีบให้บลัดไทแรนท์นำทัพใหญ่มาทำศึกตัดสินกับเรา” ลู่หยางกล่าว
“เราจะเป็นคนบีบบลัดไทแรนท์ให้มาทำศึกตัดสินงั้นเหรอคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยถามอย่างประหลาดใจ เพราะก่อนหน้านี้เธอคิดว่าลู่หยางแค่ต้องการกำจัดกองกำลังของเย่กู่ซิงทั้ง 5,000 คนเพื่อยกระดับขวัญกำลังใจภายในกิลด์เท่านั้น
“ใช่ ฉันต้องการทำศึกตัดสินกับบลัดไทแรนท์ พวกมันอยากจะเผชิญหน้ากับฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันได้นัดฉือมู่, ฉงป้า, เหลยหลงและเฉียนเฉียนให้ส่งกำลังเสริมมาช่วยแล้ว ครั้งนี้ถ้าบลัดไทแรนท์นำกองกำลังหลักของมันออกมาจริง ๆ มันก็จะประสบกับความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน” ลู่หยางกล่าว
“แต่พวกเรามีกันแค่ 3,000 คนเองนะคะ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“แล้วถ้าพวกเรามีนักเวทที่มีสกิลต้องห้าม 2 คน, เฮลไฟร์ลอร์ด 4 ตัวกับสกิลเรียกพายุระดับสูงของนักเวทลมอีก 25 คน แบบนั้นมันจะพอไหม?” ลู่หยางถามกลับ
“นักเวทที่มีสกิลต้องห้าม 2 คน!? หัวหน้านอกจากคุณแล้วพวกเรายังมีนักเวทคนอื่นที่ใช้สกิลต้องห้ามได้อีกเหรอครับ?” บิทเทอร์เลิฟกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ ในตอนนี้พวกเธอก็ได้เตรียมความพร้อมอยู่ในแผนที่ถัดไปแล้ว” ลู่หยางกล่าว
เมื่อได้ยินลู่หยางอธิบายเพิ่มเติมมันก็ทำให้ทุกคนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะถ้าหากในทีมมีลู่หยางที่ใช้เวทมนตร์ต้องห้ามได้เพียงแค่คนเดียว มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาเอาชนะกองกำลังหลักของบลัดเติสตี้ได้ แต่ถ้าหากว่ามันมีนักเวทต้องห้ามเพิ่มขึ้นมาอีกคน มันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้น
“หัวหน้า เฮลไฟร์ลอร์ดคืออะไรงั้นเหรอครับ?” ไลฟ์ไทม์ถาม
ลู่หยางหยิบน้ำยากุรุกุรุ 100 ขวดขึ้นมาส่งให้ไลฟ์ไทม์พร้อมกับกล่าวว่า
“หลังจากกินน้ำยาพวกนี้เข้าไป มันมีโอกาสที่จะเพิ่มค่าสติปัญญาอีก 1,700 หน่วย เมื่อไหร่ก็ตามที่ค่าสติปัญญาของผู้เล่นถึง 2,000 หน่วยเมื่อนั้นเฮลไฟร์ที่ถูกอัญเชิญออกมาก็จะวิวัฒนาการเป็นเฮลไฟร์ลอร์ดโดยอัตโนมัติ โดยเฮลไฟร์ลอร์ดจะมีพลังเป็นสองเท่าของเฮลไฟร์ธรรมดา”
เมื่อได้ยินว่าเฮลไฟร์ลอร์ดมีพลังเป็นสองเท่าของเฮลไฟร์ธรรมดา มันก็ทำให้ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แน่นอนว่าไลฟ์ไทม์ได้พยายามดื่มน้ำยากุรุกุรุเข้าไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานเขาก็ได้รับเอฟเฟกต์ที่ช่วยเพิ่มค่าสติปัญญาอีก 1,700 หน่วย
ทันทีที่ไลฟ์ไทม์อัญเชิญเฮลไฟร์ขึ้นมา ทันใดนั้นโกเลมสีเขียวที่มีร่างกายใหญ่โตกว่าเฮลไฟร์ปกติ 1 เท่าก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า ซึ่งหลังจากที่เศษฝุ่นฟุ้งกระจายกันออกไป มันก็เผยให้เห็นเฮลไฟร์ลอร์ดตัวใหญ่กว่า 8 เมตรสวมชุดเกราะทั่วทั้งร่างกายกำลังยืนอยู่อย่างน่าเกรงขาม
หลังจากพวกเซี่ยหยู่เว่ยได้ทำการตรวจค่าสถานะของเฮลไฟร์ลอร์ดแล้ว ไป๋ฉือก็พูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“หัวหน้าบอกว่าพวกเรามีไอ้ตัวแบบนี้อีกสามตัวงั้นเหรอครับ?”
“ใช่ เมื่อเฮลไฟร์ลอร์ดมีเลเวล 7 ช่วงที่ไม่ได้ต่อสู้พวกมันจะกลายเป็นลูกแก้วเขียวที่วอลอคสามารถขว้างมันออกไปอีกครั้งได้ และผลลัพธ์ที่เกิดจากการขว้างลูกแก้วเขียวก็จะทำให้เป้าหมายสตั๊นเหมือนกับตอนที่อัญเชิญเฮลไฟร์ลงมา” ลู่หยางตอบ
“ส่วนเรื่องเวทมนตร์พายุเรื่องนั้นฉันขอเก็บเอาไว้เป็นความลับก่อนก็แล้วกัน เมื่อถึงเวลาฉันรับรองว่าทุกคนจะต้องประหลาดใจแน่ ๆ” ลู่หยางพูดต่อ
“หัวหน้าไม่เคยมีตอนไหนเลยที่ผมเชื่อมั่นเหมือนกับในครั้งนี้มาก่อน สงครามในครั้งนี้พวกเราจะต้องเป็นฝ่ายชนะแน่ ๆ” ไลฟ์ไทม์กล่าวอย่างตื่นเต้นโดยมีทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ทุกคนเตรียมตัวเถอะ เดี๋ยวฉันจะต้องรีบไปหาฉิงชาง เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันปรากฏตัวเย่กู่ซิงมันจะต้องพยายามวิ่งไล่ล่าฉันโดยไม่สนใจอะไรแน่นอน” ลู่หยางกล่าว
เย่กู่ซิงจะตายกี่รอบกันนะ?


แสดงความคิดเห็น