[เรื่องผี] รถสองแถว

-A A +A
[เรื่องผี] รถสองแถว

[เรื่องผี] รถสองแถว

ช่วงที่ผมเรียนปี 4 เทอมสุดท้าย ผมได้มีโอกาสไปฝึกงานที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในนครราชสีมา ต้องขอบอกก่อนว่า คณะที่ผมเรียนอยู่ไม่ใช่ครุศาสตร์ แต่เป็นมนุษยศาสตร์สาขาภาษาไทย แต่ที่ต้องไปฝึกตามโรงเรียนก็เพราะว่า ไปฝึกในนามนักวิชาการฝึกหัด หรืออะไรสักอย่าง ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจ หากฝึกเสร็จ แล้วโรงเรียนจ้างต่อ แค่ผมสอนอีกปีเดียว ก็สามารถต่อครูได้เหมือนกัน

 

จริงๆ แล้วประสบการณ์เจอเรื่องสยองขวัญของผมไม่ได้เกิดขึ้นในโรงเรียนที่ผมฝึกงานอยู่แต่อย่างใด หากทว่ามันก็ไม่ใกลกันสักเท่าไหร่ เพราะตอนที่เจอเรื่องนี้ มันก็อยู่ละแวกหน้าโรงเรียนนี่แหละครับ

 

ตอนที่ผมไปฝึก ทางโรงเรียนอนุญาตให้ผมพักบ้านพักในโรงเรียนที่ว่างอยู่ ซึ่งผมก็โอเค แต่มันจะมีข้อเสียอยู่อย่างก็คือ ในตอนกลางคืน หากจะเดินออกไปซื้อของที่ร้านค้าก็จะต้องทำใจสักหน่อย เพราะถนนหน้าโรงเรียนมันค่อนข้างเปลี่ยว เนื่องจากเป็นซอยขนาดเล็ก ส่วนตัวร้านค้าก็อยู่หน้าปากซอยโน่น ระยะก็ราวๆ เกือบครึ่งโลได้

 

สิ่งที่ผมประหลาดใจตอนไปฝึกที่นี่ใหม่ๆ ก็คือ ตรงบริเวณเยื้องๆ กับหน้าโรงเรียนฝั่งตรงข้าม มันจะมีรถสองแถวเก่าๆ จอดอยู่คันหนึ่ง เวลาผมเดินผ่านตอนกลางวัน มันก็จะจอดอยู่อย่างงั้นตลอด ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าของใคร ดูจากสภาพแล้วก็ยังหน้าจะวิ่งได้อยู่ แต่ก็ไม่เห็นมีใครมาขับ ไม่มีใครมายุ่งกับรถคันนี้เลย

 

เดินผ่านรถคันนี้ตอนกลางวันจะไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าเดินผ่านตอนกลางคืนเมื่อไหร่ ผมจะรู้สึกเสียวสันหลังทุกครั้ง ยังดีที่เวลาไปซื้อของตอนกลางคืน ยังมีเพื่อนที่ฝึกงานด้วยกันเดินไปด้วย อย่างน้อยๆ ไปด้วยกันสองคน ยังพอได้มีเพื่อนคุยบ้าง

 

ผมลืมบอกไปว่าซอยนี้หมาจรเยอะมาก ยิ่งเวลาตอนกลางคืนวิ่งกันเต็มถนนไปหมด ทั้งเห่าทั้งหอน โดยเฉพาะช่วงที่มันหอนรับกันเป็นทอดๆ หลายครั้งก็เล่นเอาผมกับเพื่อนรู้สึกกลัวไปเหมือนกัน

 

ผมกับเพื่อนฝึกงานที่โรงเรียนนี้ได้เกือบๆ สามเดือนโดยที่ไม่พบเรื่องน่ากลัวอะไร ทว่าวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก่อนจะเข้าเดือนที่สาม เพื่อนมันขอกลับบ้านไปงานแต่งญาติ ซึ่งมันก็ชวนผมไปนะ แต่ไอ้เราก็ไม่รู้จักใคร ไปก็จะอึดอัดเปล่าๆ ก็เลยขออยู่เฝ้าบ้านพักดีกว่า

 

ช่วงบ่ายของวันเสาร์ เด็กๆ มาชวนผมไปเตะบอล ซึ่งผมก็ไป เตะกันจนถึง 6 โมงเย็นกว่าๆ ก่อนเด็กจะขอแยกย้ายกันกลับ ส่วนผมก็ว่าจะขึ้นไปอาบน้ำที่บ้านพัก เพราะเหงื่อเต็มตัวไปหมด

 

ทว่าระหว่างนั้นแม่ของผมท่านโทร. มาพอดี ผมเลยนั่งคุยกับท่านตรงหน้าบ้านพัก กว่าจะคุยกันเสร็จ ก็ราวสองทุ่มแล้ว ผมเลยคิดว่า ถ้าอาบน้ำเสร็จ ก็จะต้มมาม่ากิน แล้วพักผ่อน

 

แต่พอผมไปดูในห้องน้ำก็พบว่า สบู่และยาสระผมที่ซื้อไว้ครั้งที่แล้วมันหมด หากว่าจะไม่อาบ ค่อยอาบพรุ่งนี้ก็คงจะไม่ไหว เพราะเหนียวตัวไปหมด เลยตัดสินใจเดินออกไปซื้อ เพราะร้านมันก็ไม่ได้ไกลอะไรขนาดนั้น

 

แสงไฟสลัวๆ จากหน้าโรงเรียน ยังส่องให้ผมมองเห็นรถสองแถวคันเก่าจอดเป็นเงาตะคุ่มอยู่ที่เดิมของมัน ทว่าในรอบนี้ความรู้สึกของผมมันกลับแตกต่างออกไปเพราะมาคนเดียว ณ ตอนนั้นสมองพานคิดไปว่า ถ้าสมมุติว่ามองอยู่ดีๆ แล้วเห็นคนนั่งอยู่ด้านหลังรถตรงเหบาะผู้โดยสารขึ้นมาจะทำยังไง

 

ผมละสายตาออกจากรถสองแถวแล้วรีบจ้ำท้าวเดินไปตามถนน คิดว่าถ้าไม่รีบขากลับคงดึกกว่านี้แน่ๆ หมาจรหลายตัววิ่งดักหน้าดักหลังพร้อมกับเสียงเห่าขรม ทำให้พออุ่นใจได้บ้าง อย่างน้อยก็ยังรู้ว่าไม่ได้เดินคนเดียว

 

เมื่อผมไปถึงร้านแล้วได้ของที่ต้องการครบแล้ว ผมก็รีบกลับในทันที คิดว่าไปถึงโรงเรียนก็คงสามทุ่มพอดี

 

ในขากลับ จากเสียงหมาจรที่เห่ารับกันพอได้อุ่นใจ ในตอนนี้กลับกลายเป็นเห่ารับกันเป็นเสียงทอดยาวยะเยือก ผมเร่งฝีท้าวขึ้นอีกอย่างใจไม่ดี เห็นอะไรก็พานจะคิดไปถึงเรื่องผีอย่างเสียไม่ได้ ทั้งเสียงใบไม้ไหวข้างทาง เงาต้นไม้ใหญ่ หรือแม้แต่ตามมุมมืดต่างๆ ของบ้านหลังเก่า

 

เงาตะคุ่มของรถสองแถวเริ่มปรากฏให้เห็นข้างหน้า โดยมีหมาจรหลายตัวยืนแหงนคอเห่าเหมือนกับมันเห็นอะไรบางอย่างที่ผมยังไม่รู้

 

ผมข่มใจเดินใกล้เข้าไปเรื่อยๆ ตาเจ้ากรรมเผลอมองลอดเข้าไปยังที่นั่งผู้โดยสารที่สภาพเก่าผุพัง ยังดีที่ไม่พบเห็นใครนั่งอยู่ตรงนั้น ถ้าเกิดมันมีขึ้นมาจริงๆ คงเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก

 

ผมรีบเดินไปที่ประตูของโรงเรียนโดยทิ้งภาพรถสองแถวคันนั้นเอาไว้เบื้องหลัง ณ ตอนนั้นเริ่มใจชื้นขึ้นมาแล้ว คิดว่าดีที่ไม่มีอะไรให้ต้องขวัญผวา

 

หากในระหว่างนั้นเอง ผมก็ได้ยินเสียงใสๆ ของผู้หญิงร้องเรียกจากด้านหลัง ‘คุณๆ’ ตอนที่ได้ยินเสียงผมตกใจมาก เพราะจู่ๆ ก็มีคนเรียก ไม่ตกใจก็แปลกแล้ว แต่ตอนนั้นคิดว่า เสียงเรียกนั้น ก็คงเป็นใครสักคนที่บ้านอยู่แถวนี้ แล้วอยากจะให้ช่วยอะไรสักอย่าง เลยรีบหยุดเดินแล้วหันกลับไปดู

 

ผมมองแล้วมองอีกก็ไม่เห็นใคร เลยนึกว่าอาจจะกำลังถูกแกล้ง เลยคิดจะเดินต่อ ทว่าตอนนั้น ก็มีเสียงพูดขึ้นมาอีกว่า ‘คุณ เห็นฉันไหม ฉันอยู่ตรงนี้ๆ’

 

เสียงนั่นมันดังออกมาจากทางที่รถสองแถวจอดอยู่ ไม่รู้ทำไม แต่ผมเริ่มใจไม่ดีแล้ว เอาวะ ตอนนั้นคิดว่า ถ้าเป็นผี ก็คงจะไม่ร้องเรียกเราได้ถึงขนาดนี้

 

แต่พอผมเดินเข้าไปตรงจุดนั้นแล้วมองดูรอบๆ ตัวรถ ก็ยังไม่เห็นใคร ยอมรับว่าความรู้สึกบางส่วนก็เริ่มโกรธบ้างแล้ว คนยิ่งกลัว ยังจะมาแกล้งกันอีก ทว่าก่อนจะทันได้พูดอะไรออกไป เสียงหญิงปริศนาก็ดังขึ้นมาอีก ‘คุณ ฉันอยู่ตรงนี้’

 

รอบนี้ ผมได้ยินชัดเจน เสียงมันดังออกมาจากพื้นบริเวณใต้ท้องรถ ผมรีบก้มมองอย่างไม่ทันคิด สิ่งที่ผมเห็นจะๆ ก็คือ มีเงาร่างดำๆ กำลังนอนดิ้มทุรนทุรายอยู่ตรงพื้นดินด้านหน้ารถ

 

พอผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เงาดำนั้นก็ยิ่งดิ้นแรงขึ้น แล้วสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นจนได้ เงานั้นนอนกองอยู่ที่พื้นดินในส่วนติดกับกันชนรถ แล้วแหงนหน้าขึ้นมามองผม

 

เงานั้นมีรายละเอียดที่ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ก็พอทำให้รู้ว่า ซีกหน้าด้านหนึ่งบิดเบี้ยวผิดมนุษย์มนา แขนขาหงิกงอคล้ายกับคนถูกไฟเผา

 

ความกลัวของผมวิ่งจนถึงขีดสุด ตอนนั้นผมรู้แค่ว่าจะต้องวิ่งหนีไปจากตรงนี้ ต้องวิ่งไปที่บ้านพักให้เร็วที่สุด ผมยังจำได้ดีว่าตอนที่ผมวิ่งออกมา ยังมีเสียงใสๆ ของผู้หญิงหัวเราะแว่วไล่หลังมา ระคนไปกับคำว่า ‘คุณๆ’

 

หลังจากคืนนั้น ผมต้องกลายเป็นคนขี้ระแวงอยู่พักใหญ่ ยิ่งตอนกลางคืน เวลาเพื่อนชวนออกไปซื้อของข้างนอก ผมจะไม่ยอมไปเด็ดขาด ต่อให้มีคนเดินไปเป็นเพื่อนหลายคนก็ตาม

 

ก่อนผมจะฝึกงานเสร็จ ผมลองถามๆ ดูจากคุณครูที่สอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เขาเลยเล่าให้ฟังว่า ที่จริงแล้วรถคันนี้ก็คือของเจ้าของที่ฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนนี่แหละ แต่เขาขับรถไปชนคนตายเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว คนขับยอมเข้ามอบตัว อีกทั้งญาติทางผู้ตายก็ไม่ได้เอาเรื่องอะไร เลยติดคุกไม่นาน

 

ไม่รู้ว่าทางเจ้าของรถเคยพบเคยเห็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะตั้งแต่ขับไปชนคนตายในครั้งนั้น เจ้าของก็ไม่เคยมาขับอีกเลย

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.