บทที่ 256: พบเจอแกะอ้วน
“เจ้าแน่ใจหรือว่านางแอบกลับไปที่หุบเขาหลังจากก่อปัญหาใหญ่ขนาดนั้นขึ้น?” มู่ไป๋ไป่หันไปถามกระรอกที่ติดตามเธอมา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินตามเธอไม่ทัน เธอก็รีบก้มลงไปรับตัวมันมาอุ้มไว้ในมือ
“รายงานท่านจ้าวอสูร เด็ก ๆ คอยจับตาดูตามที่ท่านสั่ง!” กระรอกน้อยขยับปากอย่างรวดเร็ว “เซียวถังถังไม่ได้ออกจากหุบเขาตั้งแต่ที่นางเข้าไป ตอนนี้นางจะต้องอยู่ในหุบเขาอย่างแน่นอน”
“ท่านจ้าวอสูร ท่านต้องการให้เราช่วยตามหานางก่อนหรือไม่?”
หญิงสาวนิ่งคิดสักพักแล้วรู้สึกว่าข้อเสนอนี้ดีทีเดียว ไม่อย่างนั้น เนื่องจากวิธีการซ่อนตัวที่พิสดารของเซียวถังถัง เธออาจจะตามหาตัวนางไม่พบแม้ว่าจะใช้เวลาทั้งวันก็ตาม
“ตามกฎเดิม ใครก็ตามที่ช่วยข้าตามหานางพบก่อน ข้าจะมอบรางวัลให้อย่างงาม”
สัตว์ตัวเล็ก ๆ กลุ่มนั้นส่งเสียงตอบรับ จากนั้นพวกมันก็พากันแยกย้ายวิ่งกระจายไปยังหุบเขาหมอเทวดาอย่างคุ้นเคยประหนึ่งว่าพวกมันเคยทำสิ่งนี้มานับครั้งไม่ถ้วน
หลังจากมู่ไป๋ไป่ส่งเหล่าสัตว์ตัวน้อยออกไปแล้ว เธอก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้อีกต่อไป
นับตั้งแต่ที่เจียงเหยากับอวี้เซิ่งไปร่วมงานชุมนุมจอมยุทธ์ ทุกอย่างในหุบเขาก็ตกมาอยู่ที่เธอ
ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เธอเบื่อหน่ายกับการจัดการเรื่องพวกนี้ แต่ทุกวันนี้เธอทำได้เพียงแค่ยอมจำนนเท่านั้นซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออกเลยทีเดียว
มู่ไป๋ไป่คิดว่าจะสั่งให้จื่อเฟิงเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อวัตถุดิบกลับมาทำอาหารอร่อย ๆ กินดีหรือไม่ แต่จู่ ๆ เธอก็ได้กลิ่นเลือดที่ปลายจมูก
ในช่วงเวลา 12 ปีที่ผ่านมา เธอคอยร่ำเรียนอยู่เคียงข้างเจียงเหยา และได้ผ่านประสบการณ์มากมายทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ จึงทำให้เธอคุ้นเคยกับกลิ่นเลือดเป็นอย่างมาก
นั่นทำให้หญิงสาวชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็หันหลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่มาของกลิ่นเลือด
คนบาดเจ็บดูเหมือนจะระวังตัวมากและกำลังซ่อนตัวอยู่ในป่าริมถนนที่ไร้ผู้คน
มู่ไป๋ไป่เดินหาอยู่นานก่อนที่จะพบตัวเขา
ผู้ชายคนนั้นสวมชุดสีดำนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น ทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นใบหน้าเขาได้ชัดเจน พร้อมกันนั้นต้นหญ้ารอบตัวเขาก็เปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉาน
หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้นพลางคาดเดาว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นจอมยุทธ์หลงทางมาที่หุบเขาหมอเทวดาเพื่อขอความช่วยเหลืออีกคนแล้ว
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีผู้คนจำนวนมากที่มาถึงที่นี่ในสภาพนี้ เมื่อพวกเขากำลังจะตาย พวกเขาก็จะนึกถึงหุบเขาหมอเทวดา และมาทิ้งตัวนอนอยู่ที่หน้าประตูหุบเขา
เนื่องจากคำสอนของบรรพบุรุษในหุบเขาหมอเทวดาที่กล่าวไว้ว่า หมอมีหน้าที่รักษาชีวิต และต้องช่วยเหลือผู้คนไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องคอยช่วยคนที่มาขอความช่วยเหลือทีละคน
โชคดีที่หลังจากเจียงเหยาได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าหุบเขาหมอเทวดา นางก็ได้กำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นมาอีกข้อหนึ่งว่า ‘1 ชีวิตแลกกับ 1 ตำลึงทอง’ ส่งผลให้มีคนมาขอรับการรักษาแบบเปล่า ๆ ที่หุบเขาหมอเทวดาน้อยลง ซึ่งมันช่วยบรรเทาความกดดันและภาระที่หุบเขาหมอเทวดาต้องแบกรับลงได้มากทีเดียว
แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ คนผู้นี้ยังกล้าถ่อสังขารมาถึงหุบเขาหมอเทวดา จากมุมมองนี้เขาไม่ต่างจากแกะอ้วน*ใช่หรือไม่?
*แกะอ้วน ในที่นี้ใช้เปรียบเปรยถึงคนที่ร่ำรวย มีเงินไม่ขาดมือ
มู่ไป๋ไป่ถูมือตัวเองอย่างมีความสุขและรีบหยิบถุงยาออกมาในขณะที่เอ่ยถามคนเจ็บว่า “ท่านจอมยุทธ์ ท่านได้ยินข้าหรือไม่?”
ต่อมา หญิงสาวพลิกตัวชายร่างสูงขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เธออยากจะรู้ว่าเขาเสียชีวิตแล้วหรือยัง แต่เธอก็ต้องตกตะลึงเมื่อพลิกอีกฝ่ายให้นอนหงาย
สีหน้าของชายหนุ่มซีดลงเล็กน้อยเนื่องจากการเสียเลือดมากเกินไป แต่ใบหน้านั้นยังคงดูหล่อเหลา คิ้วยาวคล้ายกระบี่ที่ชี้ตรงไปถึงขมับดูทรงพลังมาก ใบหน้าที่คมชัดและดวงตาดุจเหยี่ยว ทำให้ผู้คนอดตกตะลึงไม่ได้ยามที่ได้เห็นครั้งแรก
“หล่อมาก…” มู่ไป๋ไป่เผลอหลุดปากพึมพำออกมา
ผู้ชายคนนี้หล่อกว่าพ่อของเธออีก!
ที่สำคัญที่สุดก็คือเขาอายุน้อยกว่าพ่อของเธอด้วย!
หญิงสาวสะบัดหัวเบา ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ แล้วรีบหยิบยา 2 เม็ดยัดเข้าไปในปากของอีกฝ่าย
คงจะน่าเสียดายถ้าหนุ่มหล่อขนาดนี้ต้องตายไป!
หลังจากป้อนยาให้ชายหนุ่มแล้ว เธอก็ยื่นมือออกไปเพื่อตรวจชีพจรของคนเจ็บ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะทันได้สัมผัสชีพจรของชายคนนั้น ข้อมือของเธอก็ถูกฝ่ามือที่ทรงพลังกำไว้แน่น
หมับ!
“โอ๊ย! เจ็บนะ!” มู่ไป๋ไป่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ มือของข้าจะหักแล้ว!”
คนที่หมดสติไปในตอนแรกพยายามลืมตาขึ้นราวกับว่าเขาไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เขาทำหน้าสับสนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ มองภาพตรงหน้าเขม็ง
ในการมองเห็นที่ค่อนข้างพร่ามัวของชายหนุ่ม หญิงสาวในชุดสีขาวกำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยความโกรธ
ดวงตาสีแดงก่ำที่แสดงออกว่าเจ็บปวดของนางทำให้เขาปล่อยมือโดยไม่รู้ตัว
“ชิ! นี่ท่านเป็นคนเจ็บจริง ๆ หรือไม่เนี่ย? ทำไมถึงได้ตอบแทนบุญคุณคนอื่นอย่างนี้” มู่ไป๋ไป่กุมข้อมือตัวเองแล้วยืนขึ้นชี้หน้าบ่นชายที่ยังคงนอนอยู่บนพื้น “ข้าอุตส่าห์ป้อนยารักษาอาการบาดเจ็บของท่านและจะตรวจชีพจรให้ท่าน แล้วดูสิว่าเป็นอย่างไร?!”
เมื่อชายหนุ่มผู้บาดเจ็บออกแรงเพียงเล็กน้อย เขาก็พบว่าอาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ของเขาหายดีแล้ว
ในตอนที่เขาใกล้จะหมดสติ เขาได้มุ่งหน้ามายังหุบเขาหมอเทวดาโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะมาถึงอาณาเขตของหุบเขาหมอเทวดาแล้ว
ทางด้านมู่ไป๋ไป่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าชายคนนั้นยังคงเอาแต่เงียบหลังจากที่เธอบ่นอีกฝ่ายอยู่นาน เธอจึงย่อตัวลงนั่งอีกครั้งพร้อมกับถามว่า “นี่ ท่านเป็นใบ้หรือหูหนวกกันแน่?”
“ถึงอย่างไรก็เถอะ ข้าจะบอกให้นะ ถึงท่านจะแกล้งหูหนวกไปก็ไม่มีประโยชน์”
“หุบเขาหมอเทวดาของเราได้ออกกฎใหม่เมื่อปีที่แล้ว หากท่านมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากเรา ถ้าเราช่วยรักษาท่านแล้ว ท่านจะต้องจ่ายเงินให้เราด้วย”
“แล้วก็อย่าได้คิดที่จะเบี้ยวค่ารักษาล่ะ!”
ทันทีที่หญิงสาวพูดจบ ก็มีทองคำแท่งหนึ่งถูกโยนเข้ามาในมือของเธอ
“!!!”
นี่มันแกะอ้วนจริง ๆ ด้วย!
“ขอบคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ แม่นาง” ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลในขณะที่กล่าวว่า “ถ้าแค่นี้ยังไม่เพียงพอ ข้าจะสั่งให้คนของข้าส่งเงินมาให้เจ้าในภายหลัง”
ชายหนุ่มผู้นี้ไม่ได้มีเพียงแค่หน้าตาดีเท่านั้น แต่เสียงของเขายังฟังดูไพเราะมากด้วย เสียงทุ้มต่ำของเขาฟังดูมีเสน่ห์มากจนทำให้มู่ไป๋ไป่ขนลุก
หลังจากที่เขาลุกขึ้นยืน เธอก็ตระหนักว่าคนตรงหน้าสูงมาก
เธอต้องเงยหน้าขึ้น แต่ก็ยังแทบจะมองเห็นเพียงคางของเขา
ผู้ชายคนนี้จะต้องสูงถึง 6 ฉื่อ*เศษ ๆ เป็นแน่!
*1 ฉื่อ เท่ากับความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร
“เอ๊ะ ช้าก่อน!” เมื่อหญิงสาวเห็นชายคนนั้นหันหลังเดินออกไป เธอที่เพิ่งรู้ตัวก็รีบเรียกเขาเอาไว้ “อาการบาดเจ็บของท่านยังไม่หายดีเลย ท่านจะไปไหน?”
แม้ว่าตอนนี้หุบเขาหมอเทวดาจะเรียกเก็บค่ารักษาแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นเพียงกฎที่ตั้งขึ้นบังคับใช้กับคนเจ็บฝ่ายเดียว
เนื่องจากเธอรับเงินจากชายคนนี้มาเรียบร้อยแล้ว เธอจึงมีหน้าที่ที่ต้องรักษาอีกฝ่ายให้หายสนิทเสียก่อน
“ไม่จำเป็น” ชายหนุ่มปฏิเสธอย่างเฉยเมย “ข้าไม่เป็นไร ยารักษาอาการบาดเจ็บภายในของหุบเขาหมอเทวดานั้นวิเศษมากมาตลอด ขอเพียงแค่ข้ากินเข้าไป ข้าก็จะไม่ตายในเร็ววันแน่นอน”
มู่ไป๋ไป่รู้สึกโมโหขึ้นมาไม่น้อย คนผู้นี้หมายความว่าอย่างไร นี่เขากำลังดูถูกเธอหรือไม่?
นอกจากนี้เขาจะถ่อมาไกลถึงหุบเขาหมอเทวดาเพื่อจ่ายเงินซื้อยารักษาอาการบาดเจ็บภายในเพียง 2 เม็ดไปทำไมกัน ทำไมเขาไม่หาซื้อข้างนอกล่ะ?
หุบเขาหมอเทวดาของพวกเธอนั้นได้นำยาที่หลอมขึ้นมาออกไปจำหน่ายด้านนอกทุกปี ซึ่งนั่นเป็นวิธีที่เธอเสนอขึ้นมา
“เอาเถอะ เชิญท่านกลับไปเอง ข้าไม่ส่ง!” เมื่อมู่ไป๋ไป่เห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทีไม่ค่อยดี เธอก็ไม่รั้งเขาไว้อีก “ถ้าท่านตายอยู่ข้างนอกทีหลัง ก็อย่าได้โทษหุบเขาหมอเทวดาของพวกเราล่ะ”
ชายคนนั้นยกมือขึ้นเป็นเชิงตอบรับในขณะที่ยังคงหันหลังเดินจากไป
ในขณะนั้นเอง จู่ ๆ ก็เกิดความผันผวนเล็กน้อยในอากาศ
ก่อนหน้านี้มู่ไป๋ไป่ไม่ได้เรียนวิชาแพทย์มานานหลายปี จึงทำให้เธอว่างงานมาก ดังนั้นเธอจึงถูกอวี้เซิ่งลากตัวไปเพื่อเรียนวิชาบางอย่าง
ช่วงเวลาที่ผ่านมาหลายปี เธอได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายจากอวี้เซิ่ง
แล้วเธอก็รู้ทันทีว่ายามนี้มีบางอย่างผิดปกติ
มู่ไป๋ไป่ไม่มีเวลาให้คิดไตร่ตรองใด ๆ อีก รู้ตัวอีกทีเธอก็พุ่งเข้าหาชายคนนั้นแล้ว
หลังจากที่เธอกระแทกชายหนุ่มจนกระเด็นออกไป เข็มเงินหลายเล่มก็พุ่งมาปักตรงตำแหน่งที่เขาเคยยืนอยู่
“สำนักตระกูลถัง?” หญิงสาวจำได้ว่าใครเป็นเจ้าของอาวุธนี้ เพราะเธอได้พูดถึงสำนักตระกูลถังอยู่บ่อยครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “ทำไมท่านถึงไปมีเรื่องกับคนของสำนักตระกูลถัง?”
แต่เธอก็ไม่ได้รอให้ชายคนนั้นตอบ เธอดึงเขาขึ้นมาแล้วพูดต่อว่า “ช่างเถอะ เอาไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลัง สำนักตระกูลถังรู้ดีแก่ใจว่าบริเวณนี้เป็นอาณาเขตของหุบเขาหมอเทวดาของเรา แต่พวกเขายังกล้าลงมืออีก พวกเขาไม่เห็นหุบเขาหมอเทวดาของเราอยู่ในสายตาแล้วสินะ”
“ท่านรีบไปซ่อนตัวก่อนเถอะ ข้าจะรีบไปรีบกลับ”
ทางด้านชายหนุ่มมองดูหญิงสาวร่างผอมบางตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ
เขาสาบานเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินใครบางคนบอกให้เขาไปซ่อนตัว
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 181
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น