ตอนที่ 996 พลังของพระเจ้า

-A A +A

ตอนที่ 996 พลังของพระเจ้า

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 996 พลังของพระเจ้า

สงครามย่อมนำมาซึ่งความสูญเสียอยู่เสมอ โดยเฉพาะสงครามระหว่างเผ่าเทพและเผ่ามาร มันย่อมส่งผลกระทบในวงกว้างและทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน

ในเวลาเพียงแค่ 15 นาทีหลังจากสงครามเริ่มต้นขึ้น ทหารจากทั้งสองฝ่ายก็ถูกสังหารรวม ๆ กันไปมากกว่า 10,000 คนแล้ว และมันก็ไม่จำเป็นจะต้องนับจำนวนของผู้ได้รับบาดเจ็บเลย เพราะท้ายที่สุดนักรบหนึ่งคนก็สามารถสร้างความเสียหายได้ทั่วทั้งดวงดาว มันจึงมีจำนวนของผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วินาที

สงครามได้เริ่มต้นขึ้นในพื้นที่ที่เรียกว่าหุบเขาเกล็ดปลา โดยมันเป็นสถานที่ตั้งของสนามรบมาตั้งแต่สมัยโบราณ พื้นที่บริเวณนี้มักจะถูกนำมาใช้เป็นสนามรบอยู่เสมอ จนทำให้กาแล็กซีที่เคยสวยงามถูกแบ่งออกเป็นส่วน ๆ เป็นจำนวนนับไม่ถ้วนคล้ายกับเกล็ดปลาที่ปกคลุมไปทั่วทั้งอวกาศ

ระหว่างช่วงสงครามนักรบที่ไม่สามารถระบุเผ่าพันธุ์ได้ก็เคลื่อนที่ไปทั่วทั้งสนามรบ โดยถือภาชนะแปลก ๆ เอาไว้ในมือ ซึ่งถ้าหากว่าเซี่ยเฟยได้มาเห็นอุปกรณ์เหล่านี้เขาย่อมสามารถจำได้ในทันทีว่าพวกมันคือฮอร์ครักซ์!

แม้ฮอร์ครักซ์เหล่านี้จะไม่ได้ทรงพลังเหมือนกับฮอร์ครักซ์ที่ริเวอร์ทิ้งไว้ให้กับลินนิจ แต่พวกมันก็เป็นอุปกรณ์ชนิดพิเศษที่สามารถหาพบได้นอกประตูจักรวาลเท่านั้น คำถามก็คือทำไมนักรบปริศนาเหล่านี้ถึงได้ครอบครองอุปกรณ์จากนอกประตูจักรวาลได้!?

เหล่าบรรดานักรบชุดดำเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ สนามรบอันวุ่นวายอย่างรวดเร็ว ซึ่งในระหว่างนั้นมันก็มีควันสีขาวอ่อนถูกดูดเข้าไปภายในฮอร์ครักซ์ตลอดเวลา เพื่อทำการรวบรวมวิญญาณที่กระจัดกระจายอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ

ภายในกลุ่มประกอบไปด้วยนักรบผู้สวมหน้ากากเงินจำนวนหลายคน แต่มันมีผู้นำที่สวมหน้ากากสีทองอยู่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

“เป็นยังไงบ้าง?” นักรบหน้ากากทองกล่าวถาม

“สนามรบบริเวณนี้เป็นเพียงแค่สนามรบย่อยของทั้งสองเผ่าพันธุ์เท่านั้น ดวงวิญญาณที่พวกเรารวบรวมได้เป็นเพียงดวงวิญญาณระดับต่ำทั้งหมด ดวงวิญญาณที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานมีอยู่ไม่มากนัก เราคงต้องรอให้สงครามรุนแรงมากขึ้นกว่านี้เราถึงจะสามารถรวบรวมวิญญาณที่มีคุณสมบัติอันเหมาะสมได้” นักรบหน้ากากเงินรายงานหลังจากที่เขาเหลือบสายตามองฮอร์ครักซ์ขนาดใหญ่ภายในมือ

“ไม่ใช่ว่าเราทำข้อตกลงกับทั้งสองเผ่าพันธุ์แล้วงั้นเหรอว่าสงครามขนาดใหญ่จะต้องปะทุขึ้นในทันที มันจะต้องเกิดการสูญเสียอย่างร้ายแรงเท่านั้น พวกเราถึงจะสามารถรวบรวมวิญญาณได้มากพอ” นักรบหน้ากากทองกล่าวด้วยความโกรธ

“นักรบของทั้งสองเผ่ามีจำนวนมากเกินไป ถ้าหากพวกเขาเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบสนามรบย่อมขยายขนาดออกไปมากกว่านี้แน่นอน กำลังคนในปัจจุบันของเรามันยังไม่เพียงพอ หากสนามรบขยายออกไปผมก็เกรงว่าพวกเราจะไม่สามารถรวบรวมดวงวิญญาณทั้งหมดได้”

“ไม่ว่ายังไงดวงวิญญาณก็สามารถสูญสลายได้ตามกาลเวลา เว้นแต่ว่าดวงวิญญาณพวกนั้นจะเกิดการกลายพันธุ์จนกลายเป็นวิญญาณอมตะ” นักรบหน้ากากเงินกล่าว

“ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนแต่เราก็ต้องรวบรวมดวงวิญญาณมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นความพยายามทั้งหมดในก่อนหน้านี้มันจะเป็นเพียงแค่เรื่องสูญเปล่า” นักรบหน้ากากทองกล่าวอย่างเคร่งขรึม

ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็สังเกตเห็นดาวตกที่กำลังพุ่งผ่านท้องฟ้ามุ่งตรงไปยังสนามรบระหว่างเผ่าเทพและเผ่ามาร

“นั่นมันผู้มีพลังระดับพระเจ้า ให้ตายเถอะเซี่ยกู่เฉิงมันจะมาทำไม?! ถ้ามันเข้ามายุ่งในตอนนี้สถานการณ์มันจะย่ำแย่ไปมากกว่าเดิม” นักรบหน้ากากทองจ้องมองไปยังท้องฟ้าอย่างตกใจ

แขวก!

เมื่อเซี่ยกู่เฉิงปรากฏตัวเขาก็ใช้พลังแวกมิติออกอย่างรุนแรง แยกนักรบทั้งสองเผ่าพันธุ์ที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดให้ถอยกลับมาตั้งหลักด้วยกันทั้งสองฝ่าย

นี่คือพลังในระดับเดียวกันกับ 13 ผู้สร้าง เหล่าบรรดานักรบที่ไม่เคยเห็นพลังในระดับนี้มาก่อนจึงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ จากนั้นพวกเขาก็มองไปยังเซี่ยกู่เฉิงบนท้องฟ้าด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ ชายชราคนนี้ถึงเข้ามาแทรกแซงสงคราม

“ทุกคนหยุดก่อน!” เซี่ยกู่เฉิงตะโกนเสียงดัง แต่แรงกดดันที่เกิดขึ้นมามันก็ทำให้นักรบที่ไม่ทันได้ตั้งตัวคุกเข่าลงไปกองกับพื้น

นี่คือพลังของพระเจ้า!

ไม่ว่าเซี่ยกู่เฉิงจะทำอะไรแต่มันจะสร้างผลกระทบร้ายแรงออกเป็นกว้างเสมอ

“ฉันชื่อเซี่ยกู่เฉิงเป็นผู้นำตระกูลสกายวิง”

“สกายวิงถอนตัวออกไปจากดินแดนกฎแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วตอนนี้เขากลับมาเข้าร่วมสงครามกับฝ่ายไหน?”

“เดี๋ยวก่อนนะ! เมื่อก่อนเซี่ยกู่เฉิงไม่ได้มีกลิ่นอายแบบนี้ อย่าบอกนะว่าเขาสามารถทะลวงขีดจำกัดขึ้นไปได้แล้ว!?”

เหล่าบรรดานักรบเริ่มพูดคุยกันอย่างสงสัย โดยไม่เข้าใจว่าเซี่ยกู่เฉิงปรากฏตัวขึ้นมาทำอะไรกันแน่

“ในเมื่อสกายวิงถอนตัวออกจากดินแดนกฎไปแล้ว คุณก็ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างสองเผ่าพันธุ์อีกต่อไป” นักรบเผ่ามารคนหนึ่งส่งเสียงตะโกนขึ้นมาอย่างร้อนใจ 

เนื่องจากท้ายที่สุดแล้วสาเหตุที่พวกเขากล้าเปิดสงครามขึ้นมาก่อนแบบนี้ก็เพราะสกายวิงเลือกที่จะถอนตัวออกไปจากเผ่าเทพ ถ้าหากดาบคลั่งได้เข้าร่วมสงครามจริง ๆ มันย่อมทำให้สถานการณ์พลิกผันไปจากเดิมอย่างแน่นอน

“อันดับแรกตอนนี้ฉันไม่ใช่จอมกฎระดับสูงสุดอีกต่อไปแล้ว เพราะฉันได้พัฒนาจนกลายเป็นพระเจ้า” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“พระเจ้า!”

คำพูด 2 พยางค์ง่าย ๆ มันกลับทำให้นักรบทุกคนรู้สึกราวกับว่ามันมีฟ้าผ่าเข้าสู่หัวใจของพวกเขาโดยตรง

พระเจ้าคือตัวตนสูงสุดของจักรวาล ที่นอกเหนือจาก 13 ผู้สร้างแล้วพวกเขาก็ไม่เคยได้ยินว่ามีใครมีพลังอยู่ในระดับนี้มาก่อน

แน่นอนว่าครั้งหนึ่งเคยมีนักรบเป็นจำนวนมากพยายามจะบุกทะลวงขึ้นมาเพื่อกลายเป็นพระเจ้าด้วยเช่นกัน แต่ผู้สร้างทั้ง 13 คนได้ควบคุมสมดุลย์จักรวาลอย่างเข้มงวด จนทำให้ผู้คนหลงลืมพลังในระดับพระเจ้าไปตั้งนานแล้ว

การเลื่อนระดับของเซี่ยกู่เฉิงในครั้งนี้อยู่เหนือเกินกว่าจินตนาการของทุกคน และมันก็ทำให้ตระกูลสกายวิงไม่ใช่ตระกูลชั้นแนวหน้าของดินแดนกฎอีกต่อไป แต่กลายเป็นตระกูลที่มีผู้ปกครองคือพระเจ้า

ระหว่างนั้นมันก็มีการส่งกระแสจิตเข้าไปหาเซี่ยกู่เฉิงเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เพื่อต้องการจะตรวจสอบว่าชายชราคนนี้สามารถบุกทะลวงผ่านอุปสรรคของจอมกฎระดับสูงสุดขึ้นไปกลายเป็นพระเจ้าได้แล้วจริง ๆ เหรอ

“หากไม่เห็นโลงศพคงไม่หลั่งน้ำตาสินะ ในเมื่อพวกนายอยากเห็นว่าพระเจ้ามีพลังแบบไหน ฉันก็จะช่วยสงเคราะห์ให้กับพวกนายเอง!” เซี่ยกู่เฉิงตะคอกอย่างไม่พอใจ เมื่อมีคนส่งกระแสจิตมาตรวจสอบเขาจนทำให้เขารู้สึกรำคาญ

ตูม!

วินาทีต่อมาพลังมหาศาลก็ถูกระเบิดออกมาจากร่างของเซี่ยกู่เฉิง ซึ่งพลังงานนี้ไหลท่วมนักรบหลายล้านคนในสนามรบภายในพริบตา

การระเบิดพลังในครั้งนี้เป็นการกระทำที่อึกทึกมาก เพราะในชั่วพริบตาที่พลังถูกระเบิดออกมา มันก็ไม่มีอะไรภายในรัศมี 100,000 กิโลเมตรเหลืออยู่รอบ ๆ เซี่ยกู่เฉิงอีกต่อไป

ไม่ว่าจะเป็นดาวเคราะห์หรือนักรบต่างก็ถูกผลักออกไปไม่ต่างกัน เมื่อเหล่าบรรดานักรบเรียกสติกลับมาได้อีกครั้ง พวกเขาก็ได้พบว่าตัวเองถูกผลักออกมาไกลแสนไกลจากแรงกดดันของเซี่ยกู่เฉิง

“ตอนนี้พวกนายเชื่อแล้วใช่ไหมว่านี่คือพลังของพระเจ้า?” เสียงของเซี่ยกู่เฉิงดังกึกก้องเข้าสู่หูของทุกคนราวกับว่าเขาเป็นพระเจ้าที่สามารถบันดาลได้ทุกสิ่ง

“เซี่ยกู่เฉิงทะลุขีดจำกัดไปแล้วจริง ๆ”

“ทำไม!? ทำไมคนที่ทะลุขีดจำกัดได้ถึงไม่ใช่บรรพบุรุษของเรา บรรพบุรุษของเราติดอยู่ที่อุปสรรคมานานกว่าเซี่ยกู่เฉิงอีก”

“นี่น่ะเหรอพลังในระดับพระเจ้า หลังจากนี้มันจะมีใครที่มาหยุดสกายวิงเอาไว้ได้”

ตกใจ! 

หวาดกลัว! 

เหลือเชื่อ!

“วันนี้ฉันมีเรื่องสำคัญที่อยากจะพูดคุยกับผู้นำของทุกตระกูล ทุกคนช่วยหยุดการต่อสู้กันชั่วคราวก่อนได้ไหม?” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม

สิ่งที่เขาพูดถึงมีเพียงผู้นำตระกูลของเผ่าเทพและเผ่ามารเท่านั้น โดยไม่พูดถึงราชวังราชันย์เทพหรือราชวังราชันย์มารเลย เพราะเขารู้ดีว่าทั้งสองราชวังตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้สร้าง แม้กระทั่งสงครามในครั้งนี้ก็เกิดขึ้นบนผลประโยชน์ของพวกผู้สร้างด้วยเหมือนกัน

“คุณเป็นคนทรยศต่อดินแดนกฎ แล้วคุณจะมาหยุดสงครามในครั้งนี้เอาไว้ทำไม?!”

ฉัวะ!

ทันทีที่มีคนตั้งคำถามเซี่ยกู่เฉิงก็ทำการสังหารคนที่สงสัยในทันที!

“เพราะว่าฉันเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในที่แห่งนี้ และฉันอยากจะทำอะไรก็ทำไม่จำเป็นจะต้องมาขออนุญาตใคร” เซี่ยกู่เฉิงกล่าวอย่างไร้เหตุผล

คำพูดเหล่านี้ค่อนข้างที่จะเป็นการรังแกคนอื่นอยู่เล็กน้อย แต่มันก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธคำพูดของชายชราอีกเลย ท้ายที่สุดคำพูดที่ว่าเขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในที่แห่งนี้มันก็คือความจริง และด้วยชื่อเสียงของสกายวิงมันก็ยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว

“หากใครเต็มใจจะหยุดสงครามและมาพูดคุยกันกับฉัน ฉันก็พร้อมที่จะแบ่งปันวิธีที่ฉันก้าวข้ามผ่านอุปสรรคจนกลายมาเป็นพระเจ้าด้วยเหมือนกัน” เซี่ยกู่เฉิงกล่าว

ทันทีที่เขาพูดจบทุกคนต่างก็ส่งเสียงอุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เพราะการที่อีกฝ่ายตั้งใจจะแชร์ประสบการณ์การก้าวข้ามผ่านระดับ มันก็เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ากว่าสมบัติชิ้นใด ๆ 

ท้ายที่สุดมันก็ไม่มีนักรบคนไหนที่ไม่ต้องการจะก้าวหน้า โดยเฉพาะเหล่าบรรดาผู้นำตระกูลขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ในพลังระดับจอมกฎขั้นสูงสุดมาเป็นเวลานานหลายหมื่นปีแล้ว บางคนถึงกับสิ้นหวังคิดว่าระดับพลังในปัจจุบันเป็นพลังในระดับสูงสุด และพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาไปไกลได้มากกว่านี้

แต่คำพูดของเซี่ยกู่เฉิงได้จุดประกายความหวังของผู้นำตระกูลต่าง ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง จนทำให้พวกเขาไม่เหลือสมาธิในการทำสงครามอีกต่อไป

คำพูดนี้ได้พิสูจน์ว่าเซี่ยกู่เฉิงคือจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์อีกครั้ง ท้ายที่สุดเขาก็จำเป็นจะต้องเสี่ยงชีวิตถึงจะสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคครั้งสำคัญครั้งนี้มาได้ ความกล้าหาญในการเผชิญหน้ากับความตายไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถเลียนแบบได้อย่างแน่นอน ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะแชร์ประสบการณ์ของตัวเองออกไปจริง ๆ แต่มันย่อมไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบวิธีการของเขาได้

***************

ไม่ทำลายไม่ก่อกำเนิดสินะ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.