ตอนที่ 914 ศูนย์วิจัยในสถานีอวกาศ

-A A +A

ตอนที่ 914 ศูนย์วิจัยในสถานีอวกาศ

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 914 ศูนย์วิจัยในสถานีอวกาศ

ระหว่างที่เซี่ยเฟยมีแผนการเป็นของตัวเอง เหล่าบรรดาคณะกรรมการก็มีแผนการเป็นของตัวเองด้วยเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็กำลังแอบห้ำหั่นกันอย่างลับ ๆ ซึ่งทันทีที่ชายหนุ่มถูกส่งตัวไปยังทีมวิจัยลับฟลินน์ก็ถูกจับกุมมาสอบปากคำ

เห็นได้ชัดเลยว่าเหล่าบรรดาคณะกรรมการของบริษัทไม่ได้ให้ความไว้วางใจเซี่ยเฟยเลยแม้แต่นิดเดียว ความจริงพวกเขาเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่ชายหนุ่มได้คาดการณ์เอาไว้ด้วยซ้ำ

ขณะที่ฟลินน์ถูกโยนเข้าไปภายในห้องขัง เซี่ยเฟยก็กำลังสลบไสลไม่ได้สติ

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแบกเซี่ยเฟยเอาไว้บนไหล่คล้ายกับว่าเขากำลังแบกกระสอบ ซึ่งหลังจากที่เขาเข้าประตูมิติไปหลายสิบครั้ง มันก็มากพอที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญกฎมิติรู้สึกสับสนว่าในปัจจุบันพวกเขากำลังอยู่ที่ไหน

เซี่ยเฟยไม่ได้สลบไสลไร้สติอยู่จริง ๆ แต่เขาได้ใช้วิชาพรางจิตและแกล้งสลบอยู่เท่านั้น ชายหนุ่มจึงแอบจดจำเส้นทางที่เขาเดินทางมา ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกโยนเข้าไปในห้องทำงานอันหรูหรา จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็แยกกันไปยืนเฝ้าบริเวณประตู

อีกฟากฝั่งของประตูเป็นหน้าต่างที่สูงตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน และบริเวณด้านนอกหน้าต่างก็คือภาพของดาวเคราะห์อันเดือดพล่าน ที่มีทะเลลาวาขนาดมหึมาโหมกระหน่ำก่อให้เกิดคลื่นแมกม่ากระเด็นขึ้นมาหลายกิโลเมตร

โชคดีที่ห้องแห่งนี้ถูกออกแบบมาไว้เป็นอย่างดี ดังนั้นถึงแม้สภาพแวดล้อมบริเวณด้านนอกจะเลวร้ายมาก แต่สภาพอากาศภายในห้องก็ยังคงเย็นสบาย

เซี่ยเฟยยังคงแสร้งทำเป็นสลบต่อไปและเอนกายนอนบนโซฟาอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ไม่มีใครสามารถจับพิรุธของชายหนุ่มคนนี้ได้

ไม่กี่นาทีต่อมาชายชราในชุดที่ค่อนข้างสกปรกก็เดินเข้ามาภายในห้อง โดยผมเผ้าหนวดเคราของเขายุ่งเหยิงราวกับไม่ได้รับการแต่งมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว และมันก็มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ลอยโชยออกมาทั่วทั้งร่างกาย

“ท่านอาจารย์คาวิส เขาคือหยิงเฟย” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าวขึ้นมาด้วยความเคารพแสดงให้เห็นว่าชายชราผู้สกปรกคนนี้คือคาวิส ผู้ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบทีมวิจัยลับแห่งนี้นี่เอง

“เขาคือคนที่คิดค้นระบบจำลองพลังกฎใช่ไหม?” คาวิสทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับหยิบไม้จิ้มฟันขึ้นมาแคะฟันอย่างสบายใจ

“ใช่ครับ”

“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาเป็นคนทำ ทำไมเมแกนไม่ส่งตัวฟลินน์มาแทนล่ะ? ฉันคิดว่าคนนั้นน่าสงสัยมากกว่าไอ้หนุ่มนี่อีก” คาวิสกล่าว

“ท่านเมแกนต้องการแยกตัวสืบสวน คุณเลยได้รับหน้าที่ให้จัดการหยิงเฟยที่นี่ ขณะที่ทางคณะกรรมการจะจัดการกับฟลินน์ที่บริษัทครับ”

ทันทีที่สิ้นเสียงรายงานเซี่ยเฟยก็สะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย เพราะเขาไม่คิดเลยว่าตอนนี้ทางฝั่งของฟลินน์ก็ได้ถูกจับตัวไปทำการสืบสวนแล้ว

แน่นอนว่าชายหนุ่มได้เตรียมแผนการรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้แล้ว เพราะมันเป็นเรื่องยากจะบอกได้ว่าฟลินน์จะสามารถทนต่อการทรมานได้ถึงขั้นไหนกันแน่ เพียงแต่เขาไม่คิดว่าศัตรูจะเคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้

“ฟลินน์แก่มากแล้วและเขาก็ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่ เมแกนคงอยากจะให้ฉันลองดูว่าหยิงเฟยใช้การได้หรือเปล่า ถ้าเขาใช้การได้เราก็แค่ให้เขามีชีวิตต่อไปและทำงานให้กับเราที่นี่ไปตลอดชีวิตสินะ” คาวิสกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“ท่านเมแกนฝากมาบอกว่าแบบนั้นจริง ๆ ครับ เหตุผลที่เขาไม่ได้ใช้ความรุนแรงกับหยิงเฟยก็เพราะว่าเด็กคนนี้มีรากฐานที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย การกำจัดเขาทิ้งไปคงจะน่าเสียดายมากเกินไป ไม่อย่างนั้นทางคณะกรรมการคงจะจัดการกับเขาไปตั้งนานแล้ว” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าว

บทสนทนาระหว่างคาวิสกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ค่อยมีประโยชน์กับเซี่ยเฟยที่แอบฟังอยู่มากนัก เพราะพวกเขาแค่พูดคุยกันว่าพวกเขาจะทำการหลอกล่อให้ชายหนุ่มเปิดเผยความลับออกมาได้ยังไง 

จากนั้นพวกเขาก็จะทำการทดสอบศักยภาพของชายหนุ่มคนนี้ หากเขามีศักยภาพที่ดีคนพวกนั้นก็จะเก็บเขาไว้ แต่ตราบใดก็ตามที่เขามีศักยภาพไม่มากพอคนพวกนั้นก็จะกำจัดเขาทิ้ง

บทสนทนาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะคนพวกนี้ดูเหมือนจะไม่กังวลว่าเขาจะทำการต่อต้านหรือหลบหนีออกไปจากที่นี่เลยแม้แต่นิดเดียว เซี่ยเฟยจึงสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงมีความมั่นใจว่าพวกเขาสามารถควบคุมนักวิจัยให้ทำงานกับพวกเขาได้

“อีกนานไหมกว่าเขาจะตื่น?” คาวิสถามขณะหันไปมองทางเซี่ยเฟย

“มันน่าจะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 3 ชั่วโมงหรืออาจจะเลยไปถึง 6 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าว

ผลของยาสลบขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของร่างกาย แต่เนื่องจากทุกคนคิดว่าเซี่ยเฟยอ่อนแอมากพวกเขาจึงประเมินผลของน้ำยาผิดพลาดไปไกล

“เอาตัวเขาไปไว้ในห้อง ส่วนพวกนายก็กลับไปได้แล้ว” คาวิสกล่าวพร้อมกับโบกมือไล่ทุกคนกลับไป

ณ ห้องพักที่สะดวกสบายและมีไฟถูกเปิดอย่างสลัว ๆ

เซี่ยเฟยยังคงแสร้งนอนนิ่งอยู่บนเตียง แต่สมองของเขากำลังประมวลสถานการณ์ทั้งหมดด้วยความเร็วสูง

จนถึงตอนนี้เขาได้รับข้อมูลสำคัญมา 3 อย่างแล้ว เรื่องแรกคือทางฝั่งคณะกรรมการระวังเขากับฟลินน์อยู่เสมอ แต่เนื่องจากเขากับฟลินน์มีศักยภาพที่แตกต่างกัน การปฎิบัติของทางบริษัทระหว่างเขากับฟลินน์จึงแตกต่างกันไปด้วย

เรื่องที่ 2 คือตำแหน่งทีมวิจัยลับเป็นสถานที่ที่ลึกลับมาก บางทีสถานที่แห่งนี้อาจจะไม่ได้ตั้งอยู่ในขอบเขตของดินแดนกฎด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเขามองออกไปนอกหน้าต่าง มันก็ดูเหมือนกับว่าที่นี่จะตั้งอยู่บนสถานีอวกาศซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทุก ๆ 1 ชั่วโมง

เรื่องที่ 3 ถึงแม้เขาจะเดินทางมาถึงทีมวิจัยลับแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้พบกับอัลฟ่า ซึ่งมันอาจจะมีความเป็นไปได้ว่าบริษัทมีศูนย์วิจัยลับอยู่หลายแห่ง ถ้าเกิดว่าเขากับอัลฟ่าอยู่คนละศูนย์วิจัยกันจริง ๆ ความพยายามทั้งหมดในก่อนหน้านี้มันก็จะกลายเป็นเรื่องที่สูญเปล่า

ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นยังไงเขาก็ต้องอดทนรอจนกว่าตัวเองจะได้พบกับอัลฟ่าเสียก่อน เพราะเขายังไม่สามารถดำเนินแผนการหลบหนีได้จนกว่าจะสามารถระบุตำแหน่งของตัวเองในปัจจุบันได้แล้วเท่านั้น

เมื่อได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะนอนหลับเพื่อพักผ่อน ไม่ว่ายังไงตอนนี้เขาก็ยังคงปลอดภัย เขาจึงพักผ่อนเพื่อฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าหลังจากฝึกฝนมานานหลายวัน

เซี่ยเฟยตื่นนอนในอีก 6 ชั่วโมงต่อมา เมื่อเขาเปิดม่านที่หน้าต่างเขาก็ได้เห็นว่าวิวทิวทัศน์ด้านนอกเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอีกครั้ง

เมื่อชายหนุ่มเดินออกไปทางประตู เขาก็ได้พบว่ามันไม่มีใครอยู่ในทางเดินเลยแม้แต่คนเดียว แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อดังมาแต่ไกล

หลังจากที่เขามองไปยังต้นเสียงเขาได้พบว่าคนที่ตะโกนเรียกชื่อเขาอยู่คือคาวิส ชายชราผู้เป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยแห่งนี้นี่เอง แต่ในตอนนี้มันไม่ได้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยคุ้มกันอีกฝ่ายอยู่ด้วยซ้ำ หมายความว่าถ้าเขาเลือกที่จะลงมือคาวิสก็ไม่มีทางที่จะรอดพ้นไปจากเงื้อมมือของเขาได้

“ฉันชื่อคาวิสเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยนี้ นายตามฉันมาทางนี้ได้เลย” คาวิสแนะนำตัวอย่างเรียบง่ายพร้อมกับนำทางเซี่ยเฟยไปตามทางเดิน

“ผมมาที่นี่ได้ยังไง? ทำไมผมถึงจำอะไรไม่ได้เลย?” เซี่ยเฟยกล่าวถามโดยยังคงแสร้งทำเป็นปวดหัวราวกับว่าเขาเพิ่งฟื้นตัวขึ้นมาจากการสลบไสล

“เมแกนส่งตัวนายมาที่นี่ แต่ระหว่างการเดินทางมีความผันผวนในประตูมิติอยู่เล็กน้อย นายเลยเป็นลมล้มพับหมดสติไป” คาวิสหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ เมื่อได้เห็นท่าทางอ่อนแอของเซี่ยเฟย

“คุณเมแกนอยู่ที่ไหนเหรอครับ? ทำไมผมถึงไม่เห็นเขาเลย” เซี่ยเฟยถามขณะมองสำรวจพื้นที่บริเวณโดยรอบ

“ที่นี่คือศูนย์วิจัยลับที่แม้แต่กรรมการของบริษัทก็เข้ามาไม่ได้ หลังจากที่เขามาส่งนายเขาก็กลับไปแล้ว ตอนนี้จึงเหลือแค่พวกเราสองคนเท่านั้น” คาวิสกล่าว

เมื่อได้ยินว่าพวกเขาอยู่ในสถานีอวกาศเพียงแค่ 2 คน ชายหนุ่มก็ต้องการจะลงมือทรมานคาวิสในตอนนี้เลย แต่เขาก็ล้มเลิกความคิดอย่างฉับพลัน เพราะโอกาสในการลงมือมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ก่อนที่จะถึงจังหวะชี้ขาดเขาต้องไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม ไม่อย่างนั้นเขาก็อาจจะเสียโอกาสทั้งหมดที่เขาเฝ้ารอมานาน

คาวิสพาเซี่ยเฟยไปกินอาหารง่าย ๆ ซึ่งหลังจากที่รับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วเขาก็พาชายหนุ่มมุ่งหน้าไปยังห้องทดลอง

เมื่อประตูถูกเปิดออกชายหนุ่มก็เบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความตกตะลึง เพราะภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าคือตึกระฟ้า 99 ชั้นที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เห็นอย่างมากมาย และระดับของอุปกรณ์เหล่านั้นมันก็สูงกว่าตอนที่เขาได้อยู่ภายในบริษัทฟิกส์เสียอีก

“นี่คือห้องวิจัยของนาย” คาวิสกล่าวขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจ เมื่อได้เห็นท่าทางตกตะลึงของเซี่ยเฟย

“ของผมหมดเลยงั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

“ใช่ ศูนย์วิจัยในสถานีอวกาศขนาดเล็กนี้เป็นของนายทั้งหมด สิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างคือสิ่งที่ล้ำสมัยที่สุดในจักรวาล ถ้าหากว่านายมีอะไรต้องการเพิ่มเติมก็บอกฉันมาได้เลย” คาวิสกล่าว

เซี่ยเฟยแสร้งทำเป็นเดินไปสำรวจสิ่งต่าง ๆ อย่างสนใจ ก่อนที่เขาจะหันกลับมาถามด้วยความสับสน

“แล้วเพื่อนร่วมงานคนอื่นไปไหนหมดล่ะครับ ทำไมผมไม่เห็นใครเลย?”

“ทุกคนต่างก็มีศูนย์วิจัยเป็นของตัวเอง ในวันปกติทุกคนจะไม่ได้ออกมาพบปะกันเท่าไหร่นัก มีเฉพาะในตอนที่พวกเขาต้องเผชิญกับหัวข้อที่ยากลำบากมากเท่านั้น พวกเขาจึงจะเดินทางมาหารือกัน ปกตินักวิจัยก็ชอบอยู่คนเดียวอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ การวิจัยคนเดียวแบบนี้เป็นส่วนตัวจะตายไป” คาวิสกล่าว

เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อสถานการณ์เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้ ใครจะรู้ว่าทุกคนในทีมวิจัยลับจะถูกแยกออกจากกัน และเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสมาชิกภายในทีมวิจัยจะมีโอกาสได้พบเจอกันหรือเปล่า

“งานบางงานผมก็ทำคนเดียวไม่ได้ บางครั้งผมก็ต้องการผู้ช่วย” เซี่ยเฟยกล่าว

สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างก็มีจุดอ่อนเป็นของตัวเอง ตราบใดก็ตามที่คาวิสส่งผู้ช่วยมาให้กับเขา เขามีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถล้วงความลับออกมาจากผู้ช่วยเหล่านั้นได้

แปะ ๆ ๆ

คาวิสปรบมือให้สัญญาณ 3 ครั้งก่อนที่หุ่นยนต์ 12 ตัวจะเดินมาจากหลังประตู

“นี่ไงผู้ช่วยของนาย” คาวิสกล่าวอย่างสบาย ๆ คล้ายกับว่าเขาได้เตรียมเรื่องทุกอย่างเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

สีหน้าของเซี่ยเฟยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อย เพราะหุ่นยนต์ผู้ช่วยคือสิ่งที่เขาต้องการน้อยที่สุด ไม่ว่ายังไงหุ่นยนต์ก็ถูกออกแบบมาให้ทำตามโปรแกรม พวกมันจึงเป็นผู้ช่วยที่เขาไม่มีทางล้วงความลับออกมาจากพวกมันได้เลย

***************

งานยากแล้วสินะพี่เฟย

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.