บทที่ 7 กบฏหัวใจ
บทที่ 7: กบฏหัวใจ
รถม้าสีดำเคลื่อนตัวผ่านความมืดมาหยุดลงที่หน้าหอคอยร้างอันเป็นที่พำนักของเอลาร่า ฝนเริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้ง ชะล้างคราบโคลนบนล้อรถ แต่ไม่อาจชะล้างกลิ่นอายแห่งราคะที่คละคลุ้งอยู่ภายในห้องโดยสารได้
คนขับรถม้า—ชายวัยกลางคนท่าทางขี้ขลาด—รีบกระโดดลงมาเปิดประตูรถด้วยมือที่สั่นเทา เขาได้ยินเสียงแปลกๆ ตลอดทาง และเห็นเงาวูบไหวผ่านม่านหน้าต่าง เขาแค่อยากรับเงินค่าจ้างแล้วรีบไปให้พ้นจากที่นี่
"ถึง... ถึงแล้วขอรับ นายหญิง" เขาพูดตะกุกตะกัก ก้มหน้าไม่กล้าสบตา
เอลาร่าก้าวลงจากรถม้าด้วยท่วงท่าสง่างาม แม้เสื้อผ้าจะหลุดลุ่ยเล็กน้อย นางจัดเสื้อคลุมให้เข้าที่ ก่อนจะหันไปมองคนขับรถด้วยแววตาเรียบเฉย
"เจ้ารู้งานดีนี่... ไม่พูดมาก ไม่ถามมาก" เอลาร่าเอ่ยชม น้ำเสียงเย็นเยียบ "ลิลิธ... จ่ายค่าจ้างให้เขาหน่อยสิ เอาให้คุ้มค่าเหนื่อย"
ลิลิธก้าวลงมาจากรถม้า รอยยิ้มหวานหยดย้อยประดับบนใบหน้าที่งดงามดุจเทพธิดา นางเดินเข้าไปหาคนขับรถ ไม่ได้ยื่นเหรียญทองให้ แต่กลับวางมือเรียวนุ่มลงบนบ่าของชายคนนั้น
"เจ้าทำงานหนักมาทั้งคืน..." ลิลิธกระซิบข้างหู กลิ่นกายหอมกรุ่นของนางทำเอาชายวัยกลางคนตัวแข็งทื่อ สติสัมปชัญญะเริ่มพร่ามัว "ไม่ต้องการรางวัลที่พิเศษกว่าเงินทองหรือ?"
นางดันร่างของเขาให้ถอยหลังไปชนกับตัวรถม้า ก่อนจะเบียดกายสาวเข้าแนบชิด มือซุกซนลูบไล้ผ่านสาบเสื้อเก่าๆ เข้าไปสัมผัสแผงอก ลิลิธเงยหน้าขึ้นส่งสายตายั่วยวนที่ทำลายกำแพงศีลธรรมของมนุษย์จนพังทลาย
"ข้า... ข้า..." ชายคนขับรถม้าพูดไม่ออก ลมหายใจขาดห้วงเมื่อลิลิธประกบริมฝีปากลงมา
จูบของนางดูดดื่มและรุนแรง ลิ้นร้อนตวัดเกี่ยวกระหวัดดูดดึงเรียวลิ้นของเขา ชายหนุ่มใหญ่หลงระเริงในรสสัมผัส เขาโอบกอดนางแน่น ร่างกายร้อนรุ่มด้วยไฟราคะที่ถูกจุดขึ้น แต่ในขณะที่เขากำลังจะถึงจุดสุดยอดแห่งความสุขสม... ความตายก็คืบคลานเข้ามา
"อึก... อ๊าก!"
ดวงตาของเขาเบิกโพลง ร่างกายกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง ไม่ใช่เพราะความเสียวซ่าน แต่เป็นเพราะ 'แก่นชีวิต' ถูกกระชากออกจากร่างผ่านทางริมฝีปาก ลิลิธดูดกลืนวิญญาณของเขาอย่างตะกละตะกลาม ผิวหนังของชายคนขับรถเริ่มเหี่ยวย่น กล้ามเนื้อลีบฝ่อลงในชั่วพริบตา
เขาร้องไม่ออก ได้แต่ดิ้นพล่านเหมือนปลาขาดน้ำ ในขณะที่ลิลิธยังคงบดจูบต่อไปอย่างไม่ไยดี จนกระทั่งร่างกายของเขาแห้งกรังเป็นเพียงหนังหุ้มกระดูก
ตุบ.
ร่างไร้วิญญาณร่วงลงสู่พื้นโคลน ใบหน้ายังคงค้างอยู่ในลักษณะบิดเบี้ยวผสมปนเปกันระหว่างความสุขและความสยดสยอง
ลิลิธเช็ดปากตัวเองอย่างพึงพอใจ นางหันไปหาเอลาร่า "รสชาติของคนชั้นต่ำ... ก็พอแก้ขัดได้เจ้าค่ะ"
"ทิ้งซากมันไว้ตรงนี้แหละ" เอลาร่าสั่งเสียงเรียบ ก่อนจะเดินนำขึ้นหอคอยไป
...
เมื่อกลับขึ้นมาถึงห้องนอนบนยอดหอคอย เอลาร่าทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยความอ่อนเพลีย ลิลิธเข้ามาปรนนิบัติถอดรองเท้าและเช็ดตัวให้อย่างอ่อนโยน จนกระทั่งแม่มดสาวผล็อยหลับไป
เมื่อเสียงลมหายใจของเอลาร่าสม่ำเสมอ ลิลิธก็ลุกขึ้นยืน แววตาที่เคยอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นประกายวาวโรจน์ พลังจากคนขับรถม้ามันน้อยเกินไป... นางยังหิว และนางต้องการ 'ของหวาน' ที่ละมุนลิ้นกว่านี้
ลิลิธปีนออกทางหน้าต่าง หายวับไปในความมืดมิด
...
ณ หมู่บ้านชายป่า
แสงไฟสลัวจากเทียนไขส่องสว่างในกระท่อมไม้หลังเล็ก หญิงสาวชาวบ้านหน้าตาจิ้มลิ้มกำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจกเพียงลำพัง ลิลิธปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู แสร้งทำเป็นหญิงหลงทางผู้เปียกปอน
ทันทีที่หญิงสาวเปิดประตูรับด้วยความเมตตา ชะตากรรมของนางก็ขาดสะบั้น
"เจ้าช่างงดงาม..." ลิลิธเอ่ยชมหลังจากปิดประตูลง นางไม่รอช้า พุ่งเข้าประชิดตัวหญิงสาวจากด้านหลัง สวมกอดเอวบางไว้แน่น จมูกโด่งรั้นซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น
"ด... เดี๋ยว... ท่านจะทำอะไร?" หญิงสาวตกใจ แต่ร่างกายกลับอ่อนระทวยเมื่อถูกสัมผัสโดยปีศาจแห่งราคะ
"ข้าหนาวเหลือเกิน..." ลิลิธกระซิบเสียงพร่า พลิกร่างอีกฝ่ายให้หันมาเผชิญหน้า "แบ่งปันไออุ่นให้ข้าที"
ลิลิธประกบปากจูบหญิงสาวอย่างเร่าร้อน บดขยี้ริมฝีปากบางนั้นจนบวมเจ่อ มือเรียวสอดเข้าไปใต้ชุดนอนเนื้อหยาบ ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างนุ่มนิ่ม หญิงชาวบ้านไร้ทางสู้ นางถูกมอมเมาด้วยรสสัมผัสแปลกใหม่ที่วาบหวามจนลืมความกลัว
"อื้อ... อ๊า..."
เสียงครางหวานดังระงมกระท่อมเมื่อลิลิธรุกรานหนักขึ้น แต่ทุกสัมผัสคือการ 'สูบเลือดสูบเนื้อ'
ลิลิธไม่คิดจะยั้งมือ นางดูดกลืนพลังหยิน ของอิสตรีที่บริสุทธิ์อย่างหิวกระหาย ร่างกายของหญิงสาวชาวบ้านเริ่มซีดเผือด ลมหายใจเริ่มติดขัด ดวงตาเหลือกถลนขึ้นด้านบนเมื่อพลังชีวิตเฮือกสุดท้ายถูกดึงออกไป
"ไม่... หยุด... ได้โปรด..."
เสียงขอร้องแผ่วเบาไร้ความหมาย ลิลิธยังคงเสพสมกับร่างที่กำลังจะตายต่อไป นางจูบซับเอาวิญญาณหยดสุดท้ายออกมา
เฮือก!
ร่างของหญิงสาวกระตุกเฮือกสุดท้าย ก่อนจะแน่นิ่งไป ดวงตาเบิกโพลงไร้แววชีวิต ผิวหนังแห้งผากราวกับดอกไม้ที่ถูกทิ้งไว้กลางแดดจนกรอบ
ลิลิธผลักศพนั้นลงกับพื้นอย่างไม่ไยดี นางเลียริมฝีปากที่แดงฉ่ำ ผิวพรรณของนางเปล่งปลั่งและดูมีอำนาจยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า
"หวาน..." ลิลิธยิ้มมุมปาก
"หวานกว่าพวกผู้ชายเป็นไหนๆ"
...
ลิลิธกลับมาถึงหอคอย นางปีนกลับเข้ามาทางหน้าต่างอย่างเงียบเชียบ หวังจะล้มตัวลงนอนข้างเอลาร่า แต่ทว่า...
"สนุกพอหรือยัง?"
เสียงเย็นเยียบดังขึ้น เอลาร่านั่งรออยู่ที่ปลายเตียง สายตาจับจ้องมาที่นาง
แสงจันทร์สาดส่องเผยให้เห็นลิลิธในสภาพที่พลังเวทย์เอ่อล้นจนแทบระเบิด กลิ่นความตายและกลิ่นกายของหญิงอื่นคละคลุ้ง
"นายท่าน..." ลิลิธหน้าซีดเผือด
"พลังมหาศาลขนาดนี้..." เอลาร่าลุกขึ้นเดินเข้ามาหา สัมผัสได้ถึงออร่าวิญญาณที่กรีดร้องอยู่ในตัวลิลิธ "เจ้าไปฆ่าใครมา? และทำไมเจ้าถึงไม่ส่งพลังนั้นมาให้ข้า!"
เอลาร่าตวาดลั่น ร่ายเวทย์โซ่ตรวนแสงสีม่วงมัดร่างลิลิธตรึงติดกำแพงทันที
"เจ้าแอบเก็บพลังไว้เพื่ออะไร! คิดจะปีกกล้าขาแข็ง ทรยศข้า แล้วหนีไปเสวยสุขคนเดียวงั้นรึ!"
ความหวาดระแวงกัดกินใจเอลาร่า นางกลัว... กลัวว่าปีศาจที่นางสร้างจะหลุดการควบคุมและทิ้งนางไป
"ไม่ใช่!" ลิลิธตะโกนตอบทั้งน้ำตา
"ข้าไม่ได้จะหนี... ข้าเก็บพลังไว้เพื่อตัวข้าเอง จะได้มีกายเนื้อที่ถาวร... เพื่อจะได้อยู่รักท่านตลอดไป!"
คำสารภาพท่ามกลางความตึงเครียดทำให้เอลาร่าชะงัก นางมองลึกเข้าไปในดวงตาปีศาจ เห็นเพียงความรักที่บิดเบี้ยวและความภักดีที่เตมไปด้วยโลหิต
ลิลิธยอมมือเปื้อนเลือด ยอมฆ่าคนบริสุทธิ์ ไม่ใช่เพื่ออำนาจ แต่เพื่อจะได้สัมผัสเอลาร่าตลอดกาล
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 15
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น