บทที่ 9 เข้าใจ
บทที่ 9 เข้าใจ
สายฝนหยุดตกแล้ว ทิ้งไว้เพียงกลิ่นอายของดินชื้นและกลิ่นคาวเลือดจางๆ ที่ยังอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ
ภายในห้องนอนที่ข้าวของกระจัดกระจาย ลิลิธในร่างมนุษย์ปกติ (แม้เสื้อผ้าจะฉีกขาดหลุดลุ่ย) กำลังอุ้มร่างของเอลาร่าขึ้นวางบนเตียงอย่างทะนุถนอมราวกับวางแก้วเจียระไนที่เปราะบาง
ปีศาจสาวไม่สนใจคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนตามตัวนางเอง สิ่งเดียวที่นางสนคือแผลไหม้สีดำน่ากลัวที่ข้อเท้าของนายท่าน
"แร่เงินกัดกินลึก..." ลิลิธพึมพำเสียงเครียด คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน นางมองดูแผลนั้นด้วยความเจ็บปวดแทน
"พลังเวทย์ของท่านตอนนี้อ่อนแอเกินกว่าจะรักษามันได้ด้วยตัวเอง"
เอลาร่ามองดูหญิงสาวเบื้องหน้าด้วยสายตาที่พร่ามัวจากความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้า ปกตินางเกลียดความอ่อนแอ เกลียดการถูกช่วยเหลือ แต่ในยามนี้... การมีลิลิธอยู่เคียงข้างกลับทำให้ความกลัวทั้งมวลมลายหายไป
"ข้าไม่เป็นไร..." เอลาร่าพยายามฝืนยิ้ม แต่ความเจ็บปวดที่แล่นพล่านทำให้หน้าของนางซีดเผือด
"ไม่... ท่านเจ็บ" ลิลิธส่ายหน้า นางปีนขึ้นมาบนเตียง คร่อมร่างของเอลาร่าไว้อย่างระมัดระวังไม่ให้กระทบกระเทือนบาดแผล
"พลังที่ข้าเพิ่งได้รับมา... ข้าเก็บมันไว้เพื่อสิ่งนี้ เพื่อท่าน"
"ลิลิธ...?"
"หลับตาลงเถิดเจ้าค่ะ... เอลาร่า" ลิลิธกระซิบเรียกชื่อนายท่านอย่างอ่อนโยน
ปีศาจสาวโน้มใบหน้าลงมา ประทับริมฝีปากลงบนปากซีดเซียวของแม่มดสาว
ทันทีที่ริมฝีปากสัมผัสกัน มันไม่ใช่ความหิวกระหายเหมือนตอนล่าเหยื่อ แต่มันคือการ 'มอบให้'
แสงสว่างสีทองนวลตาเปล่งประกายออกมาจากร่างของทั้งคู่ ลิลิธปลดปล่อยพลังชีวิตบริสุทธิ์มหาศาลที่นางกักเก็บไว้ในแกนวิญญาณ ให้ไหลบ่าผ่านรสจูบ เข้าสู่ร่างกายของเอลาร่าดั่งสายน้ำทิพย์
ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ขับไล่ความหนาวเหน็บและพิษร้ายออกไป
ที่ข้อเท้าของเอลาร่า เนื้อเยื่อที่ถูกเผาไหม้ด้วยแร่เงินสมานตัวเข้าหากันอย่างรวดเร็วราวกับปาฏิหาริย์ ผิวพรรณที่เคยซีดเซียวกลับมามีเลือดฝาดเปล่งปลั่ง
เอลาร่าจูบตอบด้วยความตื้นตัน นางยกแขนขึ้นโอบรอบคอของลิลิธ รับรู้ได้ถึงความรักที่อัดแน่นอยู่ในทุกอณูพลังงานที่ถูกส่งผ่านมา
เมื่อลิลิธถอนจูบออก นางหอบหายใจเล็กน้อย ใบหน้าแดงระเรื่อ แต่แววตาเปี่ยมไปด้วยความสุข "ดีขึ้นไหมเจ้าคะ?"
เอลาร่าไม่ตอบด้วยคำพูด แต่นางยื่นมือไปลูบแก้มของลิลิธอย่างรักใคร่ "เจ้าช่วยชีวิตข้า..."
คำพูดนั้นกระแทกใจเอลาร่าอย่างจัง ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางมองลิลิธเป็นเพียงผลงาน เป็นเครื่องมือ เป็นเงาสะท้อน... แต่วันนี้ เครื่องมือชิ้นนี้กลับช่วยชีวิตนางไว้ด้วยเจตจำนงของตัวเอง ไม่ใช่เพราะคำสั่ง
"ข้าเคยคิดว่าข้าสร้างเจ้ามาเพื่อเติมเต็มความทะเยอทะยาน" เอลาร่าสารภาพเสียงสั่นเครือ ดึงรั้งร่างของลิลิธให้ลงมาซบที่อก
"แต่ข้าคิดผิด... ข้าสร้างเจ้ามาเพื่อเติมเต็มส่วนที่แหว่งวิ่นในใจข้าต่างหาก"
"นายท่าน..."
"เลิกเรียกข้าว่านายท่านเถอะ ลิลิธ" เอลาร่ากระชับอ้อมกอด "ในห้องนี้ บนเตียงนี้... เราเท่าเทียมกัน เจ้าไม่ใช่ทาส และข้าไม่ใช่เจ้านาย"
ลิลิธเบิกตากว้าง รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้า เป็นรอยยิ้มที่สดใสและงดงามที่สุดเท่าที่เอลาร่าเคยเห็น
"เช่นนั้น... เอลาร่า" ลิลิธเรียกชื่อนางด้วยน้ำเสียงหวานล้ำ
"ให้ข้ารักท่าน... ในแบบที่ข้าต้องการเถิด"
ค่ำคืนนั้นไม่ได้จบลงด้วยความรุนแรงหรือความใคร่ที่ดิบเถื่อนเหมือนทุกครั้ง แต่มันคือการร่วมรักที่เต็มไปด้วยความละมุนละไมและการปลอบประโลม ร่างกายของทั้งสองกอดก่ายกันแนบแน่น ราวกับต้องการจะหลอมรวมวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีสิ่งใดมาพรากพวกนางจากกันได้อีก
เมื่อพายุอารมณ์สงบลง ลิลิธนอนซบอยู่บนอกของเอลาร่า ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
"หอคอยนี้ไม่ปลอดภัยแล้ว" เอลาร่าเอ่ยขึ้นท่ามกลางความมืด
"พวกมันจะแห่กันมาอีก"
"เราจะไปที่ไหนกัน?" ลิลิธถามโดยไร้ความกังวล ตราบใดที่มีเอลาร่า นางไปได้ทุกที่
"ที่ไหนก็ได้..." เอลาร่าจูบลงบนเรือนผมสีดำขลับ
"แต่เราจะไม่หนีไป…. ซ่อนตัวอีกต่อไป เราจะไปเพื่อสร้างอาณาจักรของเรา... ที่ที่ราชินีอย่างข้าและปีศาจอย่างเจ้าจะได้ครองคู่กัน โดยไม่ต้องสนกฎเกณฑ์ของใคร"
ลิลิธยิ้มแก้มปริ นางเงยหน้าขึ้นจูบปลายคางของคนรัก "ข้าพร้อมเสมอ... ยอดรักของข้า"
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 9
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น