บทที่ 168 ไล่เก็บของรางวัล

-A A +A

บทที่ 168 ไล่เก็บของรางวัล

บทที่ 168 ไล่เก็บของรางวัล

เมื่อพวกบิทเทอร์เลิฟเห็นว่าศัตรูเหลืออยู่เพียงแค่ไม่กี่คน พวกเขาก็เริ่มกระโจนเข้าสู่สนามรบด้วยเช่นกัน

“เหลือให้พวกเราบ้างสิ” ไลท์ไทม์รีบตะโกน

“รีบมาสิ เดี๋ยวฉันเหลือเอาไว้ให้” ไป๋เหลิงมองไปทางไลฟ์ไทม์อย่างถูกชะตา ซึ่งมันก็อาจจะเป็นเพราะชื่อของอีกฝ่ายมีความคล้ายกับนิสัยของเขา

“ฉันขออีกสองคน” ไลฟ์ไทม์มีอาชีพเป็นวอลอคซึ่งมีสกิลควบคุมค่อนข้างเยอะ เขาจึงมีความสามารถในการเผชิญหน้า 1 ต่อ 3 ได้อย่างไม่มีปัญหา

โคลด์วิลโลว์และคนอื่น ๆ ก็กระโดดเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยเช่นกัน และเนื่องมาจากฝ่ายตรงข้ามเหลือเพียงแค่ 9 คน ภายในชั่วพริบตาพวกเขาก็ถูกสังหารลงทั้งหมด

หลังมองดูศพที่ตายเกลื่อนพื้น พวกบิทเทอร์เลิฟต่างก็แสดงสีหน้าออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“พวกเราชนะแล้ว” กิวท์กายตะโกนอย่างตื่นเต้น

สามฝาแฝดตระกูลไป๋และพวกบิทเทอร์เลิฟต่างก็มองมาทางลู่หยางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์อันหลากหลายจนบรรยายไม่ถูก

“อย่ามองฉันแบบนั้นสิ รีบเก็บอุปกรณ์กันเถอะ อย่าปล่อยให้คนพวกนั้นเก็บอุปกรณ์กลับไปได้” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

สมาชิกชั้นยอดของบลัดเติสตี้ต่างก็สวมชุดเซ็ตอุปกรณ์จากหุบเขางูพิษครบทั้งเซ็ต หลังจากที่พวกเขาตายมันจึงมีอุปกรณ์ดรอปลงมาเป็นจำนวนมาก

“ฮ่า ๆ ๆ รวยแล้วโว้ย!” ไป๋เหลิงหัวเราะลั่นก่อนที่จะวิ่งเข้าไปเก็บอุปกรณ์

ไป๋ฉือกับไป๋หูก็รีบเข้าไปเก็บอุปกรณ์ด้วย โดยมีลู่หยางวิ่งตามไปด้วยเช่นกัน เพราะการเก็บของรางวัลหลังการต่อสู้มันก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอยู่เสมอ

หลังจากลู่หยางเก็บอุปกรณ์ขึ้นมาได้หลายชิ้น เขาก็ได้พบว่าพวกบิทเทอร์เลิฟยังคงยืนอึดอัดอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับไปไหน

“รีบมาเก็บอุปกรณ์กันสิ” ลู่หยางโบกมือเรียก

“พวกเราไม่เอาดีกว่า ความจริงพวกเราแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย” บิทเทอร์เลิฟกล่าว

โคลด์วิลโลว์และไลฟ์ไทม์ต่างก็มองไปยังอุปกรณ์ตรงหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่มีใครยอมขยับไปจากตำแหน่งเดิมเลยแม้แต่ก้าวเดียว

“ไม่ต้องเกรงใจ รีบมาเก็บอุปกรณ์พวกนี้ไปเถอะ ถึงยังไงพวกเราก็ใส่ของพวกนี้ได้ไม่หมดอยู่แล้ว ระวังพวกนั้นจะกลับมาแล้วแย่งชิงอุปกรณ์กลับไปนะ” ลู่หยางกล่าว

“ถ้างั้นพวกเราก็ไปช่วยกันเก็บมาก่อนก็แล้วกัน” บิทเทอร์เลิฟโบกมือนำทุกคนเข้าไปในสนามรบเพื่อเก็บอุปกรณ์

สมาชิกชั้นยอดจากบลัดเติสตี้ทั้ง 200 คนดรอปน้ำยาและอุปกรณ์ลงมามากกว่า 1,000 ชิ้น พวกลู่หยางจึงจำเป็นจะต้องใช้เวลาเก็บไอเท็มทุกอย่างนานกว่า 10 นาที และถึงแม้กระเป๋าของพวกเขาจะเต็มแล้วแต่พวกเขาก็ยังเก็บของบนพื้นไม่หมด

“หัวหน้า กระเป๋าผมเต็มแล้ว” ไป๋เหลิงกล่าวอย่างร้อนรน

“ของชิ้นไหนไม่ดีทิ้งไปเลย เก็บแต่ของดี ๆ ไว้” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับโยนถุงมือระดับทองแดงทิ้งไปแล้วทำการเก็บอุปกรณ์ระดับเงินใส่ในกระเป๋า

“หลังจากกลับไปฉันจะซื้อกระเป๋าเพิ่มให้ ดูของที่ต้องทิ้งไปพวกนั้นสิน่าเสียดายชะมัด”

สามฝาแฝดตระกูลไป๋พยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่สิ่งที่พวกเขารู้สึกมากกว่านั้นคือลู่หยางเป็นคนที่ทั้งหน้าด้านและไร้จรรยาบรรณ แต่พวกเขากลับชอบหัวหน้าคนนี้มาก

“หัวหน้าเมื่อกี้มันสกิลอะไร? ใช่เวทมนตร์ต้องห้ามหรือเปล่า?” ไป๋เหลิงถาม

“มันชื่อสกิลเมเทโอฟอลล์เป็นเวทมนตร์กึ่งต้องห้ามที่ยังห่างไกลจากเวทมนตร์ต้องห้ามจริง ๆ อยู่อีกมาก” ลู่หยางตอบ

“ถ้ามีสกิลนี้พวกเราก็คงไม่ต้องกลัวการเจอคนเยอะ ๆ อีกต่อไปแล้ว” ไป๋หูกล่าวอย่างตื่นเต้น

“มันจำเป็นจะต้องอาศัยสภาพแวดล้อมพิเศษถึงจะใช้งานสกิลนี้ได้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเย่กู่ซิงเจอมันเลยประมาท แต่ครั้งหน้าทุกอย่างคงจะไม่ง่ายแบบนี้อีกแล้ว” ลู่หยางกล่าว

ทุกคนต่างก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

“ไม่ว่ายังไงเวทมนตร์อื่น ๆ ของหัวหน้ามันก็ยังแรงมากอยู่ดี” ไป๋ฉือกล่าว

โคลด์วิลโลว์ก็เป็นนักเวทเช่นเดียวกัน เธอจึงมองไปยังลู่หยางพร้อมกับเอ่ยถามด้วยแววตาอันเป็นประกาย

“คุณช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าคุณไปเรียนรู้เวทมนตร์นั้นมาจากที่ไหน? ฉันยินดีจะจ่ายเงินเพื่อซื้อข้อมูลมา”

“มันเป็นภารกิจพิเศษ ถึงฉันจะบอกเธอไปแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

โคลด์วิลโลว์แสดงสีหน้าออกมาอย่างผิดหวัง แต่เธอก็ยังไม่ท้อแท้ เธอจึงถามต่อไปว่า

“อาจารย์ ทำไมเวทมนตร์ที่คุณใช้มันถึงไม่จำเป็นจะต้องใช้เวลาร่ายเวทเลยล่ะ?”

ตอนแรกโคลด์วิลโลว์คิดว่าลู่หยางมีสกิลประเภทจดจำเวทมนตร์ทำให้สามารถปลดปล่อยเวทมนตร์ออกมาได้ในทันที อย่างไรก็ตามหลังจากที่เธอได้เห็นอีกฝ่ายปลดปล่อยเวทมนตร์ออกมาได้ซ้ำ ๆ หลายครั้ง เธอก็รู้แล้วว่าสิ่งที่ตัวเองคิดคือสิ่งที่ผิด

“นี่คือโหมดอิสระของนักเวทและสิ่งที่ฉันใช้ก็คือการย่อคาถา” ลู่หยางตอบอย่างไม่ปิดบัง

“ย่อคาถา? มันคืออะไร?” โคลด์วิลโลว์ถามอย่างสงสัย

ลู่หยางเริ่มร่ายคาถาเรียกลูกไฟขณะใหญ่ขึ้นมาที่ปลายเท้า

“นี่คือการย่อคาถาที่ทำให้สามารถใช้สกิลเบลซซิงเบิร์สออกมาได้ภายใน 0.5 วินาทีทั้ง ๆ ที่ปกติจะต้องใช้เวลาร่าย 6 วินาที”

“มันทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย?!” พวกบิทเทอร์เลิฟมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง

“ฉันอยากเรียนการย่อคาถา คุณต้องการอะไรเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน?” โคลด์วิลโลว์ถาม

คนที่พูดด้วยน้ำเสียงลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะมีฐานะทางบ้านที่ค่อนข้างดี ลู่หยางจึงมองไปทางโคลด์วิลโลว์และพูดว่า

“นี่คือความลับส่วนตัวของฉัน นอกเหนือจากการเซ็นสัญญาเข้าร่วมกิลด์ ฉันก็ไม่มีทางสอนมันให้กับคนนอกอย่างแน่นอน”

“เข้าร่วมกิลด์?” พวกบิทเทอร์เลิฟทวนคำอย่างตกใจ แต่พวกเขาก็สามารถทำความเข้าใจได้ในเวลาเพียงแค่ไม่นาน

ทุกคนหันไปมองสบตากัน ซึ่งในก่อนหน้านี้พวกเขาก็เคยมีความคิดที่จะเข้าร่วมกิลด์เพียงแต่ยังไม่มีใครเจอกิลด์ที่เหมาะสมก็เท่านั้นเอง

“พวกเราถูกหมายหัวจากบลัดเติสตี้ไปแล้วคงจะไม่มีกิลด์ไหนกล้ารับพวกเราเข้าไปภายในกิลด์หรอก ถึงแม้จะมีคนรับพวกเราเข้ากิลด์แต่เราก็ยังต้องมากังวลว่าคนพวกนั้นจะขายพวกเราให้กับบลัดเติสตี้หรือเปล่า ไหน ๆ สถานการณ์มันก็เป็นแบบนี้แล้วพวกเราก็เข้าร่วมกิลด์ของอาจารย์เขาเลยดีไหม? อย่างน้อยการมีหัวหน้ากิลด์ที่เก่งกว่าพวกเราก็ไม่ต้องกลัวคนของบลัดเติสตี้อีกต่อไป” ไลฟ์ไทม์กล่าว

บิทเทอร์เลิฟมองไปทางกิวท์กายและทไวไลท์รีปเปอร์ ก่อนที่จะได้เห็นว่าทั้งสองคนยอมเข้าร่วมกิลด์โดยไม่มีปัญหา เมื่อเขาหันไปมองหน้าโคลด์วิลโลว์ หญิงสาวก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“ถ้าคุณไม่รังเกียจ พวกเราก็ยินดีที่จะเข้าร่วมกิลด์ของคุณ” บิทเทอร์เลิฟกล่าว

ลู่หยางไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะชวนพวกบิทเทอร์เลิฟเข้าร่วมกิลด์ได้เร็วขนาดนี้ แต่ถึงยังไงเขาก็ยังคงส่ายหัวพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า

“พวกนายควรคิดเรื่องนี้ให้ดี ๆ การเซ็นสัญญาเป็นการเซ็นสัญญาระยะยาว 3 ปี ในระหว่างนั้นคือห้ามออกจากกิลด์เป็นอันขาด ในกรณีของโคลด์วิลโลว์จะต้องเซ็นสัญญารักษาความลับเพิ่มขึ้นด้วย หากความลับเรื่องการย่อเวทถูกเปิดเผยออกไป จำนวนเงินที่ต้องจ่ายชดเชยมันก็มากพอที่จะทำให้ครอบครัวชนชั้นกลางล้มละลายได้เลยนะ”

หลังได้ฟังคำพูดของลู่หยาง มันก็ทำให้พวกบิทเทอร์เลิฟหยุดชะงัก เพราะมันไม่มีใครคิดว่าสัญญาที่ลู่หยางพูดถึงจะมีข้อผูกมัดมากมายขนาดนี้

“เราขอดูสัญญากันก่อนได้ไหม?” โคลด์วิลโลว์ถาม

“ได้สิ” ลู่หยางคัดลอกสัญญาที่เคยให้สามพี่น้องตระกูลไป๋เซ็นส่งไปให้กับพวกบิทเทอร์เลิฟ

เนื้อหาในสัญญามีทั้งหมด 12 หน้าที่อธิบายรายละเอียด, ผลตอบแทนและความรับผิดชอบเอาไว้อย่างชัดเจน

“ในสัญญามีการให้หุ้นของกิลด์ด้วยงั้นเหรอ?” โคลด์วิลโลว์ถามอย่างประหลาดใจ

“ใช่ เมื่อกิลด์มีกำไรทุกคนที่ร่วมกันก่อตั้งขึ้นมาก็จะได้รับส่วนแบ่งตามสัดส่วนการมีส่วนร่วมด้วยเหมือนกัน” ลู่หยางตอบ

“พวกเราทั้งสามคนก็เซ็นสัญญาแบบนี้เหมือนกัน” ไป๋เหลิงกล่าว

“พวกเราขอเวลาปรึกษากันหน่อยนะ” บิทเทอร์เลิฟกล่าวก่อนที่จะพาทุกคนออกไปคุยอยู่ห่าง ๆ

หลังจากปรึกษากันอยู่พักใหญ่ ทุกคนก็กลับมาหาลู่หยางอีกครั้ง

“ผมขอเป็นตัวแทนของทุกคนเซ็นสัญญานี้กับคุณ แต่เราไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกเราจะมีประโยชน์กับคุณอย่างที่คุณคาดหวังเอาไว้”

“ไม่เป็นไร ฉันเชื่อใจทุกคนอยู่แล้ว” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“หัวหน้าดูเหมือนว่าคุณจะมีเป้าหมายใหญ่นะ” โคลด์วิลโลว์ถามอย่างหยอกล้อ

“ก็ใช่น่ะสิ”

ลู่หยางมองดูทุกคนเซ็นชื่อในสัญญา ก่อนที่เขาจะหยิบสัญญารักษาความลับให้โคลด์วิลโลว์เซ็นอีกหนึ่งฉบับ

“หลังจากเซ็นสัญญาฉบับนี้แล้วฉันจะสอนวิธีการใช้เวทมนตร์ให้กับเธอ แต่เธอจะต้องเตรียมใจรับความลำบากเอาไว้ให้ดี ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิดเอาไว้หรอกนะ”

โคลด์วิลโลว์มั่นใจในความสามารถของตัวเองมาก หลังจากที่เธอเซ็นสัญญาเธอก็เดินตามลู่หยางไปยังอีกที่เพื่อฟังคำสอน

 

 


จู่ ๆ ภาพของพวกฉิงชางที่ได้เรียนวิธีย่อคาถาก็ลอยเข้ามา 555

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.