Hell, Michigan: เมืองนรกที่มีจริงในอเมริกา หรือแค่เรื่องขำขัน?

เมื่อพูดถึงคำว่า "นรก" คนไทยส่วนใหญ่อาจนึกถึงเรื่องราวทางศาสนา ภาพของไฟลุกท่วม ดวงวิญญาณรับกรรม และยมบาลตัดสินโทษ แต่เชื่อหรือไม่ว่าในประเทศสหรัฐอเมริกา มีเมืองที่มีชื่อว่า "Hell" (เฮลล์) หรือก็คือ "นรก" อยู่จริง! และไม่ใช่เมืองที่เต็มไปด้วยความหดหู่หรือความทุกข์ทรมาน แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวริมถนนที่เต็มไปด้วยความขบขันและไอเดียสุดแหวกแนว

เมืองนรกแห่งนี้ตั้งอยู่ในรัฐมิชิแกน และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวผ่านมาแวะถ่ายรูป เล่นมุก และซื้อของที่ระลึกแบบสุดกวน ความพิเศษของมันคือ แม้ว่าชื่อจะดูดุดันและฟังดูเหมือนเรื่องของศาสนา แต่แท้จริงแล้ว เมืองนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อปลุกจิตสำนึกทางศาสนาแต่อย่างใด แต่มันเกิดจากความขี้เล่นของชายชราคนหนึ่ง

กำเนิดของเมืองนรก: อุบัติเหตุทางภาษา หรืออารมณ์ขันของคนยุคเก่า?

มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของชื่อ "Hell" แต่เรื่องที่เล่าขานกันมากที่สุดคือ เรื่องของ จอร์จ รีฟส์ (George Reeves) ชาวนาในท้องถิ่นที่ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่นี้ในช่วงปี 1830s

ว่ากันว่าในยุคนั้น รีฟส์เปิดโรงกลั่นเหล้าผิดกฎหมายและมักขายให้กับชาวบ้านและนักเดินทางที่ผ่านไปมา เมื่อนักเดินทางดื่มมากเกินไปและกลับไปเล่าให้ภรรยาหรือครอบครัวฟัง พวกเขามักพูดว่า "I’ve been to Hell" หรือแปลเป็นไทยว่า "ฉันเพิ่งไปนรกมา" เพราะพวกเขาเมาจนจำอะไรไม่ได้!

เมื่อทางการรัฐมิชิแกนต้องการให้รีฟส์ตั้งชื่อเมือง เขาตอบกลับอย่างขี้เล่นว่า "Call it Hell for all I care" หรือ "จะเรียกว่านรกก็ได้ ฉันไม่สนใจหรอก" และชื่อ "Hell" ก็ติดตัวมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งก็ทำให้เกิดพาดหัวข่าวฮา ๆ เช่น เมื่อปี 2017 ทีเ่กิดพายุหิมะกระหน่ำทั่ว่รัฐมิชิแกน Hell เองก็ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ จนสื่อดังระดับโลกหลายเจ้ายังพาดหัวว่า “Hell is frozen over” หรือ “นรกเยือกแข็งไปหมดแล้ว” ซึ่งก็สร้างกระแสให้กับเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ดีเลยทีเดียว

เมืองที่เปรียบเสมือน ‘นรก’... ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน!

แม้ชื่อจะฟังดูน่ากลัว แต่เมือง Hell, Michigan ไม่ได้มีโทนมืดมนหรือเป็นสถานที่แปลกหลอนแบบเมืองผีในหนังสยองขวัญ ตรงกันข้าม เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นให้เป็น สถานที่ท่องเที่ยวแนวกวนๆ และเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน

1. ใบรับรองขายวิญญาณให้ปีศาจ

หนึ่งในของที่ระลึกยอดฮิตของเมืองนี้คือ ใบประกาศขายวิญญาณให้ปีศาจ (Certificate of Being a Citizen of Hell) นักท่องเที่ยวสามารถซื้อใบนี้เพื่อ "รับรอง" ว่าตัวเองเป็นพลเมืองของนรกแบบติดตลก

2. ไปรษณีย์จากนรก

เมืองนี้มีที่ทำการไปรษณีย์เล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถส่งโปสการ์ดพร้อมตราประทับว่า "Mailed from Hell" หรือ "ส่งมาจากนรก" ทำให้คนรับจดหมายหัวเราะขำขัน

3. ธุรกิจที่ตั้งชื่อตามธีมนรก

ร้านค้าและธุรกิจในเมืองนี้ก็ไม่พลาดโอกาสในการเล่นกับชื่อของเมือง เช่น

• ร้านไอศกรีมชื่อ "Screams" (เสียงกรีดร้อง)
• ร้านขายของที่ระลึกชื่อ "Hell’s General Store"
• บาร์ชื่อ "Hell Saloon"

เมืองนี้ยังมีป้ายทางเข้าที่เขียนว่า "Welcome to Hell" (ยินดีต้อนรับสู่นรก) ทำให้นักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะหยุดถ่ายรูปคู่กับป้าย ไว้เป็นที่ระลึกว่าเคยได้มาเยือนเมืองนรกแห่งนี้แล้วอีกด้วย

อยากเป็นนายกเทศมนตรีนรกไหม? ที่นี่ให้คุณเป็นได้!

หนึ่งในมุกตลกที่ทำให้เมือง Hell โด่งดังมากขึ้นก็คือ "นายกเทศมนตรีประจำวัน" (Mayor of Hell for a Day) ซึ่งเป็นกิมมิกที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถจ่ายเงินเพื่อเป็นนายกเทศมนตรีของเมือง Hell ได้แบบขำๆ หนึ่งวัน

แนวคิดนี้กลายเป็นเสน่ห์ของเมือง เพราะไม่มีโครงสร้างการปกครองจริงๆ ที่นี่ เจ้าของเมืองและธุรกิจหลักๆ เลยถือโอกาสใช้ไอเดียนี้มาทำการตลาดให้เมืองมีสีสันและสร้างความสนุกให้กับนักท่องเที่ยว

Tom Scott ยูทูบเบอร์ชื่อดังที่มักนำเสนอเรื่องราวแปลกๆ ทั่วโลก เคยเดินทางมา Hell และซื้อ "ตำแหน่งนายกเทศมนตรีนรก" มาแล้ว เขาถ่ายวิดีโอและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้ ซึ่งช่วยให้ Hell, Michigan เป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับนานาชาติ

นรกที่ไม่มีไฟ แค่ความขำขันและไอเดียแปลกๆ

ในขณะที่คนไทยอาจมอง "นรก" เป็นสถานที่แห่งความทุกข์ทรมานและการชดใช้กรรม เมือง Hell, Michigan กลับเป็นตัวอย่างของ การใช้ชื่อที่ดูดุดันมาเปลี่ยนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ไม่มีไฟนรก ไม่มีเสียงกรีดร้อง มีเพียงป้ายตลก ไอศกรีมอร่อยๆ และสินค้าที่เต็มไปด้วยมุกขบขัน

ดังนั้น ถ้าใครเคยคิดว่าการไปนรกเป็นเรื่องน่ากลัว ลองไป Hell, Michigan ดูสักครั้ง แล้วคุณอาจพบว่าที่นรกนั้นไม่ได้มีแค่ความร้อน แต่มีเสียงหัวเราะและมุกกวนๆ รอคุณอยู่!

ขอบคุณภาพจาก Explorebrightonhowellarea.com