ตอนที่ 985 การหายตัวไปของบรรพบุรุษ
ตอนที่ 985 การหายตัวไปของบรรพบุรุษ
เมื่อเซี่ยเค่อบอกว่าบรรพบุรุษของตระกูลขาดการติดต่อไปนานกว่า 72 ชั่วโมง มันก็ทำให้ทุกคนเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความตกตะลึง
“บรรพบุรุษเคยบอกเอาไว้ว่าตราบใดที่เขาขาดการติดต่อเกิน 72 ชั่วโมงหมายความว่า มันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา ฉันเลยเรียกรวมตัวทีมกระเรียนขาวและอพยพสมาชิกของตระกูลให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย” เซี่ยเค่อกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“แล้วพวกเราควรจะทำยังไงต่อครับ?” เซี่ยเฟยถาม
“อันดับแรกบรรพบุรุษสั่งการว่าเราควรจะอพยพสมาชิกของตระกูลให้ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ซึ่งในเรื่องนี้ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว ส่วนอันดับที่ 2 คือเราจะต้องหาตัวมือสังหารที่แอบจัดการอีวิลวิงของเราให้ได้ และไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใครพวกเราก็ต้องร่วมมือกันจัดการเขาซะ” เซี่ยเค่อกล่าว
หลังได้รับคำสั่งทุกคนต่างก็ขมวดคิ้วอย่างพูดไม่ออก เพราะตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า 13 ผู้สร้างอยู่ที่ไหน แล้วมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงการสังหาร 1 ใน 13 ผู้สร้างที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้เลย
“การสังหารฆาตกรคือเรื่องที่พวกเราจะต้องจัดการอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่พวกเราควรจะทำในตอนนี้คือการหาว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับบรรพบุรุษ” เซี่ยเฟยก้าวเท้าไปข้างหน้าและกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
“บรรพบุรุษเคยสั่งเอาไว้ก่อนแล้วว่าห้ามให้ใครออกค้นหาเขาอย่างเด็ดขาด ทีมกระเรียนขาวควรจะทุ่มสมาธิไปกับการจัดการศัตรูของตระกูล” เซี่ยเค่อกล่าวค้าน
“สกายวิงไม่เคยละทิ้งสมาชิกคนใดของตระกูล ซึ่งบรรพบุรุษบอกให้พวกเรายึดมั่นกับคติประจำใจข้อนี้มาโดยตลอด ในเมื่อตอนนี้เขาหายตัวไปเราก็ต้องยึดมั่นคติประจำใจข้อนี้เอาไว้ ห้ามละทิ้งบรรพบุรุษอย่างเด็ดขาด!” เซี่ยเฟยสะบัดมือพร้อมกับกล่าวออกไปอย่างจริงจัง
“พูดได้ดี!”
“ใช่เลย กฎเหล็กของสกายวิงคือห้ามละทิ้งสมาชิกของตระกูล ถึงแม้ว่าพวกเราจะต้องพลิกจักรวาลกลับด้านแต่เราก็ต้องหาบรรพบุรุษให้เจอ”
ทุกคนต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับข้อเสนอของเซี่ยเฟย
“ฉันเห็นด้วยกับเรื่องที่เราควรออกตามหาบรรพบุรุษ แต่จักรวาลแห่งนี้ยิ่งใหญ่มาก พวกเราควรจะเริ่มออกหาจากตรงไหน?” เซี่ยเหลียงผู้ซึ่งมีระดับพลังสูงสุดภายในกลุ่มกล่าว
“ราชวังราชันย์เทพ! มันคือสถานที่สุดท้ายก่อนที่บรรพบุรุษจะหายตัวไป เราควรจะเริ่มออกค้นหาบรรพบุรุษจากตรงนั้นก่อน” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเย็นชา
“ราชวังราชันย์เทพเป็นพื้นที่ที่มีการป้องกันเข้มงวดมาก ถึงแม้พวกเราจะต้องการแต่พวกเราก็เข้าไปในนั้นไม่ได้หรอก” เซี่ยเค่อกล่าวค้าน
“ใครบอกว่าเราจะเข้าไปเราแค่ต้องเรียกร้องให้พวกเขาปล่อยตัวบรรพบุรุษออกมาเท่านั้น ถ้าหากว่าพวกเขาไม่ยอมปล่อยตัวบรรพบุรุษออกมา พวกเราก็จะระเบิดวังนั้นทิ้งซะแล้วเข้าไปหาบรรพบุรุษด้วยตัวเอง” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเด็ดขาด
หยิ่งผยอง!
เมื่อเซี่ยเฟยบอกว่าพวกเขาจะระเบิดราชวัง มันก็ทำให้สมาชิกทุกคนภายในกลุ่มตกใจ เพราะไม่มีใครคิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะกล้าวางแผนที่บ้าบิ่นขนาดนี้
“ผมคนนี้ยังไม่มีพลังมากเพียงพอ แต่ถ้าหากว่าทุกคนไว้ใจ ขอให้ผมเป็นคนวางแผนจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
จอมเทพทั้งห้าสื่อสารกันด้วยสายตาครู่หนึ่ง ก่อนที่เซี่ยเหลียงจะถามขึ้นมาว่า
“เซี่ยเฟย นายแน่ใจนะว่าทางราชวังจะส่งมอบบรรพบุรุษคืนเรามา?”
“ไม่มั่นใจครับ แต่ถึงยังไงสกายวิงก็วางแผนจะแยกตัวออกจากดินแดนกฎไม่ช้าก็เร็ว หากพวกเขาไม่ยอมส่งมอบบรรพบุรุษกลับคืนมา พวกเราก็แค่ต้องชิงตัวบรรพบุรุษกลับคืนมาด้วยกำลังของเราเอง” เซี่ยเฟยตอบตามตรงโดยไม่คิดที่จะปิดบัง
แม้ว่าแผนการของเขาจะบ้าบิ่นไปบ้าง แต่ความมุ่งมั่นที่จะออกตามหาบรรพบุรุษอย่างไม่ยอมแพ้ก็เป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดในสายตาของทุกคน การตัดสินใจในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญและบ้าบิ่นในเวลาเดียวกัน แต่มันก็ทำให้ทุกคนมองไปที่เซี่ยเฟยด้วยแววตาอันลุกโชน
“นานมากแล้วที่สกายวิงอาศัยอยู่ภายใต้ร่มเงาของบรรพบุรุษ ตอนนี้บรรพบุรุษของเรากำลังประสบปัญหา แล้วพวกเราจะปล่อยบรรพบุรุษไปได้ยังไง ทุกคนลองนึกถึงแผ่นจารึกในห้องของบรรพบุรุษให้ดี ๆ จำได้ไหมว่ามันคือจารึกที่เขียนเอาไว้ยังไง?”
“ไม่ว่าดาบคลั่งจะหันไปที่ใดทั้งเทพและมารต่างก็จะถูกสังหารทั้งหมด ความหมายของมันคือว่าศัตรูจะเป็นใครตราบใดก็ตามที่พวกมันกล้าแตะต้องสกายวิง พวกเราก็จะไม่มีปล่อยพวกมันไว้เป็นอันเด็ดขาด นี่คือหลักการที่สกายวิงได้ใช้มาโดยตลอดและมันก็ทำให้เราเป็นเราอย่างในทุกวันนี้”
คำพูดปลุกใจของเซี่ยเฟยทำให้หน้าอกของทุกคนเต้นกระหน่ำขึ้นมาด้วยความโกรธ พวกเขาก็พร้อมที่จะออกไปให้การช่วยเหลือบรรพบุรุษ
“พูดได้ดี”
“เซี่ยเฟยพูดถูกแล้ว ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครหากพวกมันกล้าแตะต้องบรรพบุรุษของเรา มันก็คือศัตรูของสกายวิง”
“บรรพบุรุษดูแลตระกูลมานานมากแล้ว มันถึงเวลาที่พวกเราจะต้องตอบแทนบรรพบุรุษบ้าง”
“พวกเราไปทวงคืนบรรพบุรุษกันเถอะ ต่อให้ต้องใช้สมบัติทั้งตระกูลแต่เราก็ต้องเอาบรรพบุรุษคืนมาให้ได้”
แววตาของนักรบทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธ แม้แต่เซี่ยเค่อก็กำลังตัวสั่นสะท้านและพร้อมที่จะหยิบไพ่ใบสำคัญทุกใบของตระกูลออกมาเพื่อตัดสินผลแพ้ชนะไปข้างหนึ่ง
“เอาล่ะทุกคนเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ซับซ้อนที่สุด อันดับแรกพวกเราก็ควรจะประนีประนอมก่อนที่จะเริ่มทำการต่อสู้” เซี่ยเฟยพยายามดึงสติของทุกคนกลับคืนมา
“ประนีประนอม!? ทำไมเราจะต้องประนีประนอมกับพวกมันด้วย” เซี่ยจิงกล่าวขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
ทันใดนั่นเองมุมปากของเซี่ยเฟยก็ยกรอยยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ ซึ่งมันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าศัตรูของเขากำลังจะประสบพบเจอกับความโชคร้ายจากเขาแล้ว
—
ราชวังราชันย์เทพถือได้ว่าเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ในแดนเทพที่ห้ามไม่ให้ใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต และมันก็เป็นพื้นที่ที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนามากที่สุดภายในดินแดนแห่งนี้ด้วย
ตอนนี้เป็นเวลาช่วงบ่ายแล้วผู้คนเป็นจำนวนมากจึงเดินทางมายังราชวังเพื่อฟังการหารือจัดการปัญหาเรื่องต่าง ๆ ในวันนี้
ผู้ที่สามารถเข้าร่วมการหารือได้มีเพียงเฉพาะผู้นำของตระกูลขนาดใหญ่เท่านั้น แต่คนเป็นจำนวนมากก็ชอบเข้ามาฟังผลลัพธ์ของการหารือด้วยตัวของพวกเขาเอง
ท้ายที่สุดคำสั่งที่ออกจากราชวงศ์ราชันย์เทพก็มีความสำคัญมาก ซึ่งเรื่องเหล่านี้มันก็จำเป็นจะต้องเดินทางมาฟังด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะสามารถรับฟังข่าวได้อย่างครบถ้วน
ทันใดนั่นเองมันก็มีสมาชิกสกายวิง 2 คนเดินเข้ามาภายในโถงนอกวัง โดยสองคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นใดเลยนอกเสียจากเซี่ยเฟยกับเซี่ยเค่อนั่นเอง
ส่วนทางด้านจอมเทพทั้งห้าของสกายวิงทำได้เพียงแต่รออยู่บริเวณรอบนอกเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่ได้ลงทะเบียนภายในดินแดนกฎเอาไว้ นอกเหนือจากเหล่าบรรดาสมาชิกระดับสูงของตระกูลแล้วมันจึงไม่มีใครรู้ว่าบุคคลทั้งห้ามีตัวตนอยู่ในตระกูลแห่งนี้ด้วย
เมื่อเซี่ยเค่อกับเซี่ยเฟยเดินทางไปถึงแผนกต้อนรับ ทหารที่ยืนประจำการอยู่ด้านในก็ทำความเคารพชายชราในทันที
“ไม่ทราบว่าหัวหน้าผู้จัดการสกายวิงต้องการพบกับผู้นำตระกูลงั้นเหรอครับ?”
เซี่ยเค่อพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร ท้ายที่สุดทักษะในการแสดงของเขาก็ไม่ได้ดีเหมือนกับเซี่ยเฟย ภายในจิตใจของเขามันจึงเต็มไปด้วยจิตสังหาร หากเขาเผลอพูดอะไรออกไปมันย่อมเผยเจตนาของเขาออกไปด้วยเช่นกัน
ท่าทางของชายชราทำให้เจ้าหน้าที่ในแผนกต้อนรับรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เพราะทุกคนต่างก็รู้จักชื่อเสียงในเรื่องความบ้าคลั่งของสกายวิงเป็นอย่างดี แค่การที่สกายวิงปรากฏตัวที่นี่มันก็มากพอที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวแล้ว
“ขอโทษด้วยครับผู้อาวุโส ตอนนี้ผู้นำตระกูลของคุณกำลังพูดคุยเรื่องสำคัญ เขายังไม่สะดวกที่จะออกมาพบ” เจ้าหน้าที่ออกมารายงานหลังจากที่พยายามติดต่อไปหาเซี่ยกู่เฉิง
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังรินน้ำชาให้ทั้งคู่อยู่นั้น เขาก็แอบเหลือบสายตามองไปยังเซี่ยเฟย เพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมคราวนี้เซี่ยเค่อถึงนำตัวเซี่ยเฟยมาด้วย ทั้ง ๆ ที่ชายหนุ่มคนนี้เป็นเพียงคนธรรมดาไม่มีคลื่นพลังหลุดรอดออกมาจากสมองเลยแม้แต่นิดเดียว
เซี่ยเค่อเหลือบสายตามองไปยังเซี่ยเฟยในทันที เพราะคำตอบนี้ไม่ต่างไปจากสิ่งที่ชายหนุ่มคาดการณ์เอาไว้มากนัก
“คำตอบนี้เป็นคำตอบของบรรพบุรุษหรือเป็นคำตอบของคนอื่น?” เซี่ยเฟยถามกลับอย่างใจเย็น
“ผมจะกล้ารายงานข่าวปลอมได้ยังไง คำตอบที่ผมพูดคือสิ่งที่ส่งกลับมาจากราชวังราชันย์เทพ” เจ้าหน้าที่กล่าวด้วยความเคารพ และมันก็ไม่สำคัญว่าเซี่ยเฟยจะมีพลังหรือไม่ เพราะตราบใดที่อีกฝ่ายคือสมาชิกของสกายวิงเขาก็ไม่สามารถที่จะละเลยชายหนุ่มคนนี้ได้เลย
“สรุปว่าตอนนี้บรรพบุรุษของเราอยู่ในวังใช่ไหม?” เซี่ยเฟยจงใจถามเสียงดัง
“ใช่ครับ ผู้นำตระกูลของคุณกำลังพูดคุยเรื่องสำคัญอยู่ในวัง…”
เพี้ยะ!
แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่คนนี้จะพูดอะไรต่อไป เขากลับถูกเซี่ยเฟยตบเข้าใส่ใบหน้าอย่างรุนแรง
“นายเป็นใคร?! กล้าดียังไงถึงมาตอบแทนบรรพบุรุษของฉันแบบนี้! ถ้าหากว่านายกล้าพูดอะไรออกมาอีกแม้แต่คำเดียว ฉันจะจัดการกับนายด้วยตัวเอง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับปล่อยจิตอสูรออกมาโดยไม่ลังเล
ทุกคนต่างก็รีบหันมามองทางเซี่ยเฟยในทันที เพราะในตอนนี้ชายหนุ่มจากสกายวิงกำลังจะสร้างปัญหา
“ใครคือคนดูแลที่นี่ รีบออกมาซะ!!” เซี่ยเฟยตะโกนเสียงดังอย่างไร้มารยาท
เซี่ยเค่อไม่คิดเลยว่าเซี่ยเฟยจะลงมืออย่างรุนแรงถึงขนาดนี้ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะยืนอยู่เคียงข้างชายหนุ่มแม้ภายในใจจะเต็มไปด้วยความสับสนก็ตาม
แม้ว่าทุกคนจะไม่พอใจการใช้อำนาจของเซี่ยเฟย แต่คำว่าสกายวิงที่ติดอยู่กับชายคนนี้ก็ทำให้ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เพราะทุกคนต่างก็รู้เกียรติศักดิ์ของสกายวิงเป็นอย่างดีว่าศัตรูของคนบ้าพวกนี้จะมีผลลัพธ์เป็นยังไง
ตึง ๆ ๆ ๆ
เสียงฝีเท้ารีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ชายอ้วนคนหนึ่งจะชี้นิ้วไปทางเซี่ยเฟยอย่างโกรธเกรี้ยว
“นี่คือห้องโถงนอกหวังเชียวนะ! คุณกล้าดียังไงถึงมาสร้างปัญหาที่นี่ ทำไมคุณจะต้องมาตบตีเจ้าหน้าที่ของเราด้วย?”
เมื่อเซี่ยเฟยเห็นชายอ้วนคนนี้ เขาก็ประเมินว่าอีกฝ่ายพอจะมีภูมิหลังอยู่บ้างและคนคนนี้ก็คือคนที่เขากำลังมองหาอยู่อย่างแน่นอน
“ตบตี!? มันกล้าแอบอ้างพูดแทนบรรพบุรุษของฉัน ถึงแม้ว่าฉันจะฆ่ามันแต่มันก็คือเรื่องที่สมควรแล้ว” เซี่ยเฟยตะโกนกลับไปอย่างไร้เหตุผล
ชายอ้วนกำลังจะตะโกนตอบโต้กลับคืนมา แต่น่าเสียดายที่เซี่ยเฟยไม่ได้เปิดช่องไฟให้เขาได้พูดอะไรเลย
“รีบแจ้งเข้าไปในวังเดี๋ยวนี้ว่ามันมีเรื่องด่วนเกิดขึ้นกับสกายวิง ฉันต้องการจะพบกับผู้นำตระกูล นี่คือเรื่องที่เกี่ยวพันกับชะตากรรมของสกายวิงโดยเฉพาะ ถ้าหากว่าคุณกล้าชักช้าแม้แต่เพียงนิดเดียวสกายวิงจะจัดการกับตระกูลของคุณด้วย!!” เซี่ยเฟยตะโกนพร้อมกับชี้นิ้วไปยังผู้ดูแลโถงนอกวังอย่างเย่อหยิ่ง
***************
เซี่ยเค่อถึงกับสับสน พี่เฟยคงบอกแผนแบบคร่าว ๆ อีกแล้วสินะ 5555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 261
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น