ตอนที่ 984 กระเรียนขาวรวมตัว
ตอนที่ 984 กระเรียนขาวรวมตัว
เซี่ยเฟยบุกเข้าไปภายในปากเสือโดยตรง ก่อนที่จะต้องเผชิญหน้ากับนักรบชั้นยอดชาวดาร์คไนท์เป็นจำนวนถึง 12 คนพร้อม ๆ กัน และถึงแม้เขาจะใช้ไวท์สคัลสังหารหนึ่งในนั้นได้ แต่สถานการณ์โดยรวมเขาก็ยังคงตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบอยู่ดี
อิ้ว!
ขนทั่วทั้งร่างขนอุยพองฟูขึ้นมาราวกับปลาปักเป้า ระหว่างที่มันพยายามสกัดกั้นนักรบทั้งหกบริเวณด้านหลังเซี่ยเฟยเอาไว้ ตอนนี้เพียงแค่เจ้านายของมันต้องมาเผชิญหน้ากับศัตรูเพียงแค่ห้าคน มันก็ทำให้เซี่ยเฟยตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบมากแล้ว หากจำนวนของศัตรูเพิ่มขึ้นเป็น 11 คนผลลัพธ์ของการต่อสู้ก็อาจจะจบลงด้วยหายนะ
ลำแสงพลังงานพุ่งออกไปอย่างต่อเนื่องราวกับฝนดาวตก จนทำให้นักรบทั้งหกแทบที่จะไม่สามารถรุกคืบเข้ามาใกล้เซี่ยเฟยได้เลย แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังพยายามรุบคืบเข้ามาโดยไม่พูดอะไร ซึ่งถ้าหากพิจารณาจากความเร็วของอีกฝ่าย เซี่ยเฟยจะถูกปิดล้อมในเวลาเพียงแค่ประมาณ 3 นาที
ดาบจันทร์ทมิฬ!
ดาบเสี้ยวจันทร์ที่เกิดจากกฎแห่งความโกลาหลพุ่งออกไปสังหารนักรบคนหนึ่งโดยตรงจนทำให้ร่างของอีกฝ่ายแหลกสลายไปในชั่วพริบตา
หลังจากปลดปล่อยพลังงานภายในสมอง พลังการต่อสู้ของเซี่ยเฟยก็เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นสองเท่า เหล่าบรรดานักรบเกราะดำจึงบุกเข้าหาเซี่ยเฟยด้วยความระมัดระวังมากกว่าเดิม โดยนักรบ 4 คนที่เหลือแยกกันโจมตีได้ 4 ทิศทางที่แตกต่างกันเพื่อปิดล้อมชายหนุ่มเอาไว้ตรงกลาง
‘แค่ค่าศัตรูหนึ่งในนั้น กระบวนทัพของมันก็พังทลายลงไปเอง’ เซี่ยเฟยตะโกนบอกตัวเองภายในใจ ก่อนที่เขาจะรีบมุ่งหน้าไปเผชิญหน้ากับศัตรูโดยตรง
ทันใดนั่นเองศัตรูทั้งหกจากด้านหลังก็เคลื่อนที่เข้ามาอยู่ในระยะที่พวกเขาสามารถใช้วิชาการโจมตีในระยะไกลได้ นักรบทั้งหกจึงทำการปลดปล่อยคมดาบแห่งความมืดมิดหลายสิบเล่มตรงไปยังเซี่ยเฟย โดยใช้ประโยชน์จากช่องว่างการโจมตีของขนอุยเพื่อปล่อยให้การโจมตีเหล่านี้เคลื่อนที่ผ่านเจ้าตัวน้อยไป
เล่ห์กายา!
เซี่ยเฟยบิดร่างกายหลบการโจมตีด้วยท่าทางผิดธรรมชาติ หลบหลีกคมดาบแห่งความมืดมิดได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามการโจมตีเหล่านี้ก็เบี่ยงเบนความสนใจของเขาได้สำเร็จ และในที่สุดเซี่ยเฟยก็ถูกปิดล้อมจากศัตรูโดยสมบูรณ์
1 ต่อ 10!
ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลอยู่นั่นเอง จู่ ๆ เขาก็ได้ยินประโยคคุ้นเคยดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“นี่คือเรื่องของสกายวิง ใครไม่เกี่ยวไสหัวออกไปซะ!”
นักรบทั้งสามเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าพุ่งตัวเข้ามาเพื่อช่วยเหลือเซี่ยเฟยอย่างฉับพลัน จากนั้นพวกเขาก็เริ่มร่ายรำอาวุธของตัวเองเพื่อทำการสังหารศัตรูที่กล้ามาปิดล้อมชายหนุ่มเอาไว้
แน่นอนว่าผู้มาใหม่ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากสามจอมเทพแห่งสกายวิงที่ได้รับมอบหมายให้คอยสนับสนุนเซี่ยเฟย
จอมเทพทั้งสามต่างก็ล้วนแล้วแต่มีศักยภาพเป็นอีวิลวิง พวกเขาทั้งหมดจึงสามารถเร่งความเร็วได้เกินกว่า 10 ล้านเมตรต่อวินาที
การปรากฏตัวของสามจอมเทพทำให้สถานการณ์พลิกผันอย่างฉับพลัน เพราะกระบวนทัพใด ๆ ก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้กับกระบวนทัพหมาป่าของสกายวิง
เงาดำทั้งสามรวมตัวกันและแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวจะมีศัตรูตายลงไปก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้รู้ตัว
ทุก ๆ วินาทีจะมีนักรบเกราะดำถูกสังหารลงไป 1 คน โดยจอมเทพทั้งสามได้ใช้ความเร็วล้อมรอบศัตรูเอาไว้แล้วจะทำการจู่โจมทุกครั้งที่ศัตรูเปิดเผยจุดอ่อนออกมา
เซี่ยเฟยมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง และเมื่อพิจารณาจากกระบวนทัพหมาป่าที่ทั้งสามคนกำลังใช้อยู่ในตอนนี้ มันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งสามคือสมาชิกของสกายวิงแน่นอน
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ไม่เคยเห็นบุคคลทั้งสามนี้มาก่อน เพราะเขาไม่รู้ว่าสกายวิงได้แอบซ่อนจอมเทพของตระกูลเอาไว้
พายุการสังหารหมู่ยังคงดำเนินต่อไปและทันใดนั้นเซี่ยเหอหลินก็ตะโกนเพื่อดึงสติของเซี่ยเฟย
“นายจะรออะไรอยู่! ในฐานะหมาป่าเดียวดายห้ามปล่อยให้ศัตรูหนีรอดออกไปได้อย่างเด็ดขาด!!”
เซี่ยเฟยสะดุ้งดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะกระโจนเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง
ในฐานะหมาป่าเดียวดายของตระกูล เขามีหน้าที่รับผิดชอบเติมส่วนที่ขาดให้กับฝูงหมาป่าสกายวิง ตอนนี้หมาป่าทั้งสามกำลังกระโจนเข้าใส่ศัตรูอย่างโหดเหี้ยม หน้าที่ของเขาคือการเก็บกวาดพื้นที่ด้านนอกเพื่อไม่ให้ศัตรูคนไหนหลบรอดจากสนามรบแห่งนี้ไปได้
ความรู้สึกอันแปลกประหลาดไหลท่วมท้นภายในใจของเซี่ยเฟย เพราะเมื่อฝูงหมาป่าถูกขับเคลื่อนโดยจอมเทพ มันจึงทำให้กระบวนทัพอันแข็งแกร่งของสกายวิงให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเทียบกับการปฎิบัติหน้าที่เป็นหมาป่าเดียวดายในสงครามครั้งก่อน ในคราวนี้เขาจำเป็นจะต้องทุ่มเทสมาธิมากกว่า 120% เพื่อที่จะตามฝูงหมาป่าจอมเทพทั้งสามคนนี้ให้ทัน
ภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที นักรบเกราะดำก็ถูกสังหารลงไปแล้ว 9 คนหลงเหลือศัตรูผู้มีชีวิตอยู่อีกเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
ศัตรูคนสุดท้ายพยายามล่าถอยอย่างรวดเร็ว และเมื่อพิจารณาจากแววตาของอีกฝ่าย มันก็ไม่จำเป็นจะต้องอธิบายออกมาเลยว่าเขาคนนี้กำลังรู้สึกหวาดกลัวมากแค่ไหน
จิ้ว!
เซี่ยเฟยนำธนูผนึกสวรรค์ออกมาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะยิงลูกศร 3 สีตรงไปยังด้านหลังของนักรบที่กำลังหลบหนี
ดอกไม้ไฟอันเจิดจ้าสุกสว่างขึ้นมาอย่างฉับพลัน และเมื่อดอกไม้ไฟขนาดใหญ่จางหายไปนักรบเกราะดำคนสุดท้ายก็ถูกกำจัดไปเรียบร้อยแล้ว
—
“แรงมาก! ลูกศรของนายน่ากลัวกว่าลูกศรของฟูลมูนด้วยซ้ำ! เซี่ยเฟยนายทำแบบนี้ได้ยังไง?” เซี่ยจิงถามอย่างตกตะลึงเมื่อเขาได้เห็นลูกศร 3 กฎของเซี่ยเฟยเป็นครั้งแรก
เซี่ยเหอหลินกับเซี่ยหงก็มองภาพตรงหน้าอย่างประหลาดใจด้วยเช่นกัน ซึ่งโดยรวมแล้วพวกเขาก็ค่อนข้างรู้สึกประทับใจกับพลังของลูกศรที่ถูกปล่อยออกไปด้วยกฎแห่งความโกลาหล
“พวกคุณเป็นใคร?” เซี่ยเฟยถาม
เซี่ยเหอหลินแนะนำชื่อของทั้งสามคนง่าย ๆ ก่อนที่พวกเขาจะหยิบกระเรียนขาวออกมาพร้อมกัน
“พวกเราทุกคนคือกองกำลังลับของสกายวิง ตอนนี้ทางตระกูลมีคำสั่งเรียกรวมตัวพวกเราควรจะรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด” เซี่ยเหอหลินกล่าว
“ใช่ ถ้าหากมีเรื่องอะไรจะถามค่อยถามระหว่างทางเถอะ นายมีเจมินี่อยู่ใช่ไหม? รีบเอามันออกมาเร็วเข้า การเดินทางด้วยยานลำนั้นคือการเดินทางที่เร็วที่สุดแล้ว” เซี่ยจิงกล่าว
“ครับ! แต่เรายังมีอีกเรื่องที่ต้องทำก่อนออกเดินทาง” เซี่ยเฟยพยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะหันไปมองพื้นที่บริเวณปากเสืออย่างเย็นชา
“เรื่องอะไร?” เซี่ยหงถามอย่างสับสน
“ทำลายปากเสือ!”
จอมเทพทั้งสามตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนที่พวกเขาจะเข้าใจว่าเซี่ยเฟยกำลังหมายถึงอะไรกันแน่
พื้นที่บริเวณปากเสือเป็นพื้นที่บริเวณเดียวที่จะเข้าออกดินแดนดาร์คไนท์ได้ ตราบใดก็ตามที่พื้นที่บริเวณนี้ถูกทำลาย การเข้าออกดินแดนดาร์คไนท์ก็จะเป็นไปได้อย่างยากลำบากด้วยเช่นกัน ในเวลานั้นศัตรูก็จำเป็นจะต้องเคลื่อนไหวท่ามกลางช่องว่างมิติ และมันย่อมลดแรงกดดันต่อดินแดนกฎลงไปอย่างไม่ต้องสงสัย
การทำลายพื้นที่บริเวณปากเสือออกไปจึงเป็นการเข้าทำลายเส้นทางเดินทัพของศัตรู ทำให้ศัตรูเดินทางอย่างยากลำบากมากขึ้นกว่าเดิม
หลังจากนั้นเซี่ยเฟยกับจอมเทพทั้งสามก็เคลื่อนที่ออกไปพร้อมกัน เพื่อพยายามทำลายปากเสือลงไปโดยตรง และเมื่อบุคคลทั้งสี่ได้เดินทางจากไปดินแดนดาร์คไนท์ก็ได้รับความเสียหายครั้งใหญ่จากการมาเยือนของหมาป่าเดียวดายที่ชื่อว่าเซี่ยเฟย
—
ฟุบ!
เจมินี่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเพื่อนำพาเซี่ยเฟยและจอมเทพทั้งสามไปยังจุดรวมตัว
ระหว่างทางเซี่ยเหอหลินได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้เซี่ยเฟยฟังจนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตกตะลึง เพราะเขาไม่คิดเลยว่าบรรพบุรุษจะกำลังวางแผนใหญ่โตขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังกลายเป็นเหยื่อล่อโดยไม่รู้ตัว โดยมีจอมเทพทั้งสามคอยสนับสนุนอยู่อย่างลับ ๆ
สิ่งที่ทำให้เซี่ยเฟยประหลาดใจมากยิ่งกว่าคือสกายวิงได้ซ่อนกองกำลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้เอาไว้ในเงามืด โดยเซี่ยเหอหลินได้บอกว่านอกเหนือจากพวกเขาทั้งสาม สกายวิงยังมีจอมเทพอีกสองคนที่แฝงตัวอยู่ในเงามืดด้วยเช่นกัน และหนึ่งในนั้นคือเซี่ยเหลียงซึ่งมีพลังถึงจอมเทพขั้นที่ 7
บุคคลทั้งห้าต่างก็ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่ราชวังราชันย์เทพ แต่พวกเขาจำเป็นจะต้องหลบซ่อนตัวเพื่อเตรียมการล้างแค้นให้กับคนที่มาจัดการสมาชิกของสกายวิง
เลือดต้องล้างด้วยเลือด!
สกายวิงไม่เคยคิดที่จะปล่อยให้ศัตรูคนไหนหนีรอดไปจากเงื้อมมือของพวกเขาได้อยู่แล้ว!!
“ผู้สร้างที่ควรจะปรากฏตัวแต่ไม่ปรากฏตัว แล้วจู่ ๆ กระเรียนขาวก็มีคำสั่งเรียกรวมตัวขึ้นมาแทน สถานการณ์นี้มันผิดปกติมาก หรือว่ามันจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรบางอย่างเกิดขึ้น?” เซี่ยเฟยพึมพำขึ้นมาเบา ๆ หลังจากนิ่งเงียบไปเป็นเวลานาน
“นายคือกุนซือของตระกูล นายพอจะมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้บ้างไหม?” เซี่ยหงกล่าว
“กองกำลังหลักของพวกเราถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ถ้าหากว่าทีมในดินแดนดาร์คไนท์ไม่เจอปัญหาอะไร ปัญหานั้นมันก็ควรจะไปตกอยู่ที่บ้านของเรา” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเคร่งเครียด
“นายกำลังบอกว่ามันมีเรื่องเกิดขึ้นกับบรรพบุรุษงั้นเหรอ?!” เซี่ยเหอหลินอุทานด้วยความตกตะลึง
“ถ้าผมคิดไม่ผิด ตอนนี้บรรพบุรุษน่าจะกำลังมีปัญหาอยู่จริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างหนักใจ
—
การคาดเดาของเซี่ยเฟยยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกวิตกกังวลมากยิ่งขึ้น ทันทีที่เจมินี่เข้าสู่พื้นที่ดินแดนกฎทุกคนก็รีบใช้เข็มทิศมิติเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังจุดหมายในทันที
สถานที่นัดหมายเป็นหุบเขาอันกว้างใหญ่ไร้ร่องรอยของสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา แต่พื้นที่บริเวณนี้ถือได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับเหล่าบรรดาสัตว์ร้าย
แสงสว่างสีขาว 4 ดวงปรากฏขึ้นมาอย่างฉับพลัน ก่อนที่เซี่ยเฟยและจอมเทพทั้งสามจะปรากฏตัวในหุบเขาแห่งนี้
วินาทีถัดมามันก็มีเงาดำพุ่งเข้ามาหาพวกเขาด้วยความเร็วสูง ซึ่งมันเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าคนคนนี้คือสมาชิกของสกายวิง
“ตามฉันมา!” ทันทีที่เซี่ยเค่อปรากฏตัว เขาก็รีบเรียกให้ผู้มาใหม่ทั้งสี่ตามเขาไปด้วยสีหน้าที่จริงจัง
เซี่ยเฟยสัมผัสได้ในทันทีว่าสถานการณ์ในตอนนี้มีความยุ่งยากขึ้นกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นเซี่ยเค่อคงจะไม่แสดงท่าทางจริงจังออกมามากขนาดนี้
บุคคลทั้งห้าวิ่งไปตามเส้นทางบนภูเขา ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงทะเลสาบขนาดใหญ่ ซึ่งมีเซี่ยเหลียงและเซี่ยเหยา ผู้ซึ่งเป็นสมาชิกของทีมกระเรียนขาว 2 คนสุดท้ายยืนรออยู่ก่อนแล้ว
“ทำไมคุณถึงใช้คำสั่งเรียกรวมตัวของทีมกระเรียนขาว?” เซี่ยเหลียงถามอย่างจริงจัง
“บรรพบุรุษมอบหมายคำสั่งเอาไว้ให้ทีมกระเรียนขาวเริ่มปฏิบัติภารกิจลับของตระกูล” เซี่ยเค่อกล่าวพร้อมกับหันมองหน้าทุกคน
“ตอนนี้เราอพยพสมาชิกออกจากหมู่บ้านสายลมกับคฤหาสน์อีวิลวิงเรียบร้อยแล้ว เซี่ยกวงไห่กับเซี่ยเหล่าสือมีหน้าที่รับผิดชอบในการอพยพสมาชิกไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย” เซี่ยเค่อกล่าวต่อหลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก
“มันเกิดอะไรขึ้นครับ? ทำไมถึงมีคำสั่งอพยพหรือว่ามันมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับตระกูล?!” เซี่ยเฟยรีบถามหลังจากสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี
“ใช่ พวกเรากำลังเจอเรื่องใหญ่มาก เพราะบรรพบุรุษขาดการติดต่อไปนานกว่า 72 ชั่วโมงแล้ว” เซี่ยเค่อกล่าวด้วยดวงตาสีแดงก่ำ
***************
อย่าบอกนะว่าผู้สร้างจับบรรพบุรุษเป็นตัวประกัน?!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 238
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น