ตอนที่ 986 คำขาด

“รีบแจ้งเข้าไปในวังเดี๋ยวนี้ว่ามันมีเรื่องด่วนเกิดขึ้นกับสกายวิง ฉันต้องการจะพบกับผู้นำตระกูล นี่คือเรื่องที่เกี่ยวพันกับชะตากรรมของสกายวิงโดยเฉพาะ ถ้าหากว่าคุณกล้าชักช้าแม้แต่เพียงนิดเดียวสกายวิงจะจัดการกับตระกูลของคุณด้วย!!” เซี่ยเฟยตะโกนพร้อมกับชี้นิ้วไปยังผู้ดูแลโถงนอกวังอย่างเย่อหยิ่ง

ทุกคนต่างก็รู้สึกตกใจและยอมรับว่าคำพูดของเซี่ยเฟยคือสิ่งที่สมเหตุสมผลอย่างแท้จริง หากมันมีเรื่องใหญ่เรื่องไหนเกิดขึ้นกับตระกูล คนแรกที่พวกเขาควรจะรายงานย่อมจะต้องเป็นผู้นำตระกูลอย่างแน่นอน เพียงแต่มันไม่มีใครคิดว่าเซี่ยเฟยจะใช้วิธีที่รุนแรงถึงขนาดนี้ แม้ว่าความจริงมันจะเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่บริเวณโถงด้านนอกราชวังก็ตาม

ท้ายที่สุดโถงนอกวังก็มีหน้าที่รับผิดชอบช่วยติดต่อส่งผ่านความต้องการไปยังผู้นำของตระกูลต่าง ๆ การที่เจ้าหน้าที่ของโถงนอกวังไม่สามารถติดต่อไปยังผู้นำสกายวิงได้ มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะทำให้เซี่ยเฟยโกรธ

พื้นที่บริเวณนี้มีผู้นำตระกูลใหญ่อยู่หลายคน และพวกเขาก็กำลังคิดว่าหากในตอนนี้มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นกับตระกูล แต่เมื่อสมาชิกภายในตระกูลของพวกเขาเดินทางมาที่นี่และไม่สามารถส่งต่อข้อความมาถึงพวกเขาได้ ในตอนนั้นเหตุการณ์ร้ายมันก็อาจจะลุกลามไปมากกว่าเดิม

สถานการณ์เริ่มพลิกผันอย่างเงียบ ๆ และถึงแม้ว่าทุกคนจะโทษเซี่ยเฟยที่รุนแรงไปบ้าง แต่พวกเขาก็เข้าใจได้ว่ามันเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน ความรู้สึกเมื่อมันเกิดเหตุร้ายกับตระกูลย่อมทำให้ทุกคนรู้สึกหงุดหงิดมากเกินกว่าปกติอยู่แล้ว การกระทำของเซี่ยเฟยจึงไม่ใช่สิ่งที่เข้าใจไม่ได้ขนาดนั้น

“รีบไปรายงานผู้นำตระกูลของเขาเร็ว ๆ เข้า มันคือความรับผิดชอบของพวกคุณไม่ใช่เหรอที่จะต้องแจ้งความประสงค์ไปให้ผู้นำตระกูลของเขา”

“ใช่แล้ว พวกคุณจะยังยืนอยู่ที่นี่ทำไม? รีบไปรายงานให้ผู้นำตระกูลของเขาเดี๋ยวนี้”

ผู้นำตระกูลหลาย ๆ คนที่อยู่ในบริเวณนั้นเริ่มส่งเสียงตะโกน จนทำให้ชายอ้วนซึ่งเป็นผู้ดูแลโถงนอกวังไม่สามารถโต้เถียงอะไรได้

จิตใจของทุกคนย่อมเห็นแก่ตัวโดยเนื้อแท้ และเซี่ยเฟยก็เข้าใจหลักจิตวิทยาเรื่องนี้เป็นอย่างดี เขาจึงจงใจสร้างเรื่องที่มีผลเป็นวงกว้างออกไป เพราะผู้นำตระกูลเหล่านี้ย่อมกลัวว่าวันหนึ่งปัญหาเดียวกันอาจจะเกิดขึ้นกับตระกูลของพวกเขา

เมื่อฝูงชนเริ่มโกรธเคือง ชายอ้วนก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องวิ่งหนีไปเพื่อรายงานเรื่องนี้ให้เจ้านายของตัวเองทราบ

“พวกเราควรจะทำยังไงต่อ? ฉันว่าพวกเขาคงจะไม่ยอมส่งมอบบรรพบุรุษกลับมาให้เราง่าย ๆ” เซี่ยเค่อกระซิบถามเซี่ยเฟย

“แค่ทำตามผมก็พอ ถ้าพวกเขาไม่ยอมปล่อยตัวบรรพบุรุษออกมา พวกเราก็แค่ต้องบุกทำลายชื่อเสียงของพวกเขาไปเรื่อย ๆ” เซี่ยเฟยตอบกลับพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

เซี่ยเค่อสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจและถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าแผนการของเซี่ยเฟยคืออะไร แต่ที่แน่ ๆ มันก็ดูเหมือนกับว่าเซี่ยเฟยต้องการจะเปิดสงครามจิตวิทยากับราชวังราชันย์เทพแล้ว

ในไม่ช้าชายอ้วนก็วิ่งกลับมาด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง

“บรรพบุรุษของพวกคุณไม่ได้อยู่ในวัง” ชายอ้วนกล่าวด้วยสีหน้าอันบูดบึ้ง

“พวกแกกล้าดียังไงถึงมาเล่นลิ้นกับสกายวิง! อย่าบอกนะว่าราชวังราชันย์เทพต้องการจะจัดการบรรพบุรุษของเรา!!” เซี่ยเฟยตะโกนเสียงดัง

อุกอาจมาก!

จู่ ๆ เซี่ยเฟยก็เริ่มโยนความผิดให้ราชวังราชันย์เทพ!

“ไร้สาระ ราชวังจะกล้าวางแผนสังหารผู้นำสกายวิงได้ยังไง”

“ใช่ เมื่อ 2 วันก่อนฉันยังเห็นเซี่ยกู่เฉิงอยู่เลย ตอนนั้นเขายังหารือภายในวังเหมือนปกติชัด ๆ”

ผู้นำตระกูลเริ่มกล่าวแย้งขึ้นมาทีละคน ขณะที่ชายอ้วนกำลังตัวสั่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว เพราะความผิดของการสังหารจอมเทพระดับสูงสุดอาจจะทำให้ตระกูลของเขาถูกสังหารยกตระกูล

เผ่าพันธุ์มนุษย์มีจอมเทพระดับสูงสุดอยู่เพียงแค่ 2 คนเท่านั้น ซึ่งนอกเหนือจากเซี่ยกู่เฉิงจะเป็นหนึ่งในจอมเทพระดับสูงสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์แล้ว เขายังเป็นผู้นำตระกูลคนบ้าอย่างตระกูลสกายวิงอีกด้วย

“เมื่อกี้ทางวังเพิ่งจะตอบกลับมาว่าบรรพบุรุษของเรากำลังพูดคุยเรื่องสำคัญอยู่ในวัง แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าผู้นำตระกูลของเราไม่ได้อยู่ในวังแล้ว ถ้าไม่ให้ฉันคิดว่าทางวังมีเจตนาไม่ดีกับบรรพบุรุษ แล้วทำไมคำตอบของพวกแกถึงพลิกกลับไปกลับมาแบบนี้” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเย็นชา

“จริงเหรอ?”

“ใช่ ก่อนหน้านี้ฉันเพิ่งได้ยินที่เจ้าหน้าที่บอกว่าเซี่ยกู่เฉิงอยู่ในวังเหมือนกัน แต่ตอนนี้พวกเขากลับบอกว่าเซี่ยกู่เฉิงไม่อยู่ในวังแล้ว คำพูดของพวกเขามันเป็นเรื่องโกหกชัด ๆ”

“ฉันก็ได้ยินเหมือนกัน เจ้าหน้าที่คนนั้นแหละที่เป็นคนพูด”

ฝูงชนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์อย่างเดือดดาล เพราะข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าทางราชวังกำลังหลอกลวงสกายวิงอยู่จริง ๆ

นี่คือกับดัก!

เซี่ยเฟยมีนิสัยเจ้าเล่ห์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร และนี่ก็คือกับดักที่เขาวางไว้เพื่อดึงฝูงชนมาเป็นศัตรูกับราชวัง

“ถ้าพวกแกหาคำอธิบายดี ๆ มาให้กับฉันไม่ได้ สกายวิงจะทำลายราชวังและบุกเข้าหาบรรพบุรุษของเราด้วยตัวเอง!” เซี่ยเฟยตะโกนด้วยความโกรธ

“ใช่ ราชวังควรจะต้องให้คำอธิบายกับสกายวิง”

“หน่วยงานของวังกล้าโกหกได้ยังไง? พวกคุณกล้าทรยศต่อความไว้วางใจของพวกเรางั้นเหรอ”

ฝูงชนเริ่มส่งเสียงตะโกนด่าทอราชวัง เพราะพวกเขาคิดว่าในคราวนี้สกายวิงคือฝ่ายที่ถูกรังแกอยู่จริง ๆ

“ตอนนี้ฉันมีเหตุผลเพียงพอแล้วหรือยังว่าทางราชวังกำลังวางแผนที่จะสังหารบรรพบุรุษของสกายวิง ฉันให้เวลาพวกแกเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น รีบส่งตัวบรรพบุรุษออกมาคืนพวกเราเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นสกายวิงก็พร้อมที่จะประกาศสงคราม!!” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

สงคราม!?

คำพูดเพียงสองพยางค์กลับทำให้ทุกคนสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะใครจะไปคิดว่าดาบคลั่งกำลังประกาศสงครามกับราชวังราชันย์เทพอยู่จริง ๆ

“นี่คุณกล้าประกาศขู่ราชวังงั้นเหรอ?!” ชายอ้วนถามกลับไปด้วยความโกรธ

“ขู่? เชื่อฉันเถอะว่าฉันไม่ได้พูดเล่น ๆ หรอก” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเยาะเย้ย ก่อนที่เขาจะหยุดชั่วคราวและตะโกนออกไปด้วยความโกรธว่า

“ในนามของสกายวิงฉันขอยื่นคำขาดต่อราชวังราชันย์เทพ ภายใน 1 ชั่วโมงถ้าหากเรายังไม่ได้พบกับบรรพบุรุษ ตอนนั้นพวกเราก็จะเปลี่ยนที่นี่ให้กลายเป็นสนามรบเอง”

เพล้ง!

ทันทีที่กล่าวจบตราอสูรคลั่งภายในมือของชายหนุ่มก็ถูกบีบทำลาย ซึ่งมันเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังพูดเรื่องจริง

“สกายวิงบ้าไปแล้ว! พวกเขากล้ายื่นคำขาดให้กับราชวังงั้นเหรอ?!”

“รีบส่งข่าวกลับไปที่ตระกูลเดี๋ยวนี้ ฉันเกรงว่าบางทีมันอาจจะเกิดสงครามครั้งใหญ่ภายในดินแดนกฎ”

ข่าวเรื่องที่สกายวิงประกาศสงครามต่อราชวังแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานทุกตระกูลก็ได้รู้แล้วว่าสกายวิงกำลังยื่นคำขาดให้กับทางราชวัง

เหตุการณ์นี้สร้างความวุ่นวายไปทั่วทั้งดินแดนกฎในทันที เพราะทุกคนรู้ดีว่าสกายวิงเป็นตระกูลที่บ้าคลั่งมากแค่ไหน

เซี่ยเฟยไม่เหลือที่ว่างให้ใครเข้ามาเจรจาเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งถ้าหากว่าภายใน 1 ชั่วโมงพวกเขาไม่ได้พบกับบรรพบุรุษของตัวเอง ในเวลานั้นสกายวิงก็จะบุกโจมตีราชวังอย่างเปิดเผย

ต้องบอกว่าแผนการของเซี่ยเฟยในครั้งนี้เฉียบขาดมาก เพราะเขาเริ่มจากการทำลายชื่อเสียงของราชวังลงไปก่อน จากนั้นเขาจึงเริ่มประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ และถึงแม้ว่าตระกูลต่าง ๆ จะไม่ยืนเคียงข้างสกายวิง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จะไม่กลายเป็นศัตรูของสกายวิงด้วยเหมือนกัน

ท้ายที่สุดเขาก็ได้พิสูจน์ต่อหน้าทุกคนแล้วว่าราชวังกำลังโกหกสกายวิงอยู่จริง ๆ ในมุมมองของตระกูลอื่น ๆ สกายวิงจึงกลายเป็นผู้ประสบภัย และนั่นก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมสกายวิงถึงกล้าประกาศสงครามออกมาแบบนี้

น่าเสียดายที่ฝูงชนไม่รู้เลยว่าการยื่นคำขาดให้กับราชวังเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของความบ้าคลั่งในแผนการครั้งนี้เท่านั้น

—

เมื่อตราอสูรคลั่งถูกบีบทำลายตระกูลสกายวิงจึงเข้าสู่สภาวะสงคราม

เหล่าบรรดานักรบที่กระจายกำลังกันอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ จึงรีบกลับมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

“เกิดอะไรขึ้น!?”

“ทำไมถึงมีการทำลายตราอสูรคลั่ง มันเกิดวิกฤตกับตระกูลงั้นเหรอ?”

เหล่าบรรดาหมาป่าส่วนใหญ่ของสกายวิงยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจึงเริ่มถามด้วยความสับสน

“ตอนนี้ราชวังราชันย์เทพคุมตัวบรรพบุรุษของเราเอาไว้ และพยายามจะจัดการกับบรรพบุรุษของเรา” เซี่ยเฟยกล่าวขณะเหลือบสายตามองสมาชิกหลายร้อยคน

“หา!”

คำพูดไม่กี่คำปลุกไฟแค้นภายในใจของนักรบทุกคนขึ้นมาในทันที

“อะไรนะ?! พวกมันกล้าแตะต้องบรรพบุรุษของเรางั้นเหรอ?”

“ทำลายราชวังเดี๋ยวนี้! ฉันจะฆ่าพวกมันเอง”

นักรบสกายวิงส่งเสียงตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งและพวกเขาก็แทบจะไม่สามารถระงับความโกรธของตัวเองเอาไว้ได้ ตราบใดก็ตามที่เซี่ยเฟยออกคำสั่งขึ้นมาเพียงแค่คำเดียว ฝูงหมาป่าย่อมเคลื่อนที่บุกไปทำลายราชวังโดยไม่ลังเล

“ผมกับผู้อาวุโสยื่นคำขาดต่อราชวังเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากพวกเขาไม่ส่งมอบบรรพบุรุษกลับมาให้พวกเราภายใน 1 ชั่วโมง ตอนนั้นพวกเราจะบุกเข้าทำลายราชวังด้วยกัน!” เซี่ยเฟยประกาศ 

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มแตะนิ้วอย่างรวดเร็วบนเข็มทิศมิติเพื่อปรากฏเข็มนาฬิกาเดินนับถอยหลังในอากาศ ซึ่งในขณะนี้มันก็เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 55 นาทีเท่านั้น

“อีก 55 นาทีถ้าบรรพบุรุษยังไม่กลับมา พวกเราจะทำสงครามกับราชวังจนตายกันไปข้างหนึ่ง ไม่ว่ายังไงพวกเราก็จะต้องช่วยบรรพบุรุษกลับมาให้ได้!” เซี่ยเฟยส่งเสียงตะโกนปลุกใจนักรบทุกคน

การประกาศสงครามกับราชวังราชันย์เทพไม่ได้ทำให้นักรบสกายวิงรู้สึกลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว ในทางกลับกันพวกเขากลับรู้สึกว่าเวลา 1 ชั่วโมงเป็นเวลาที่ยาวนานมากจนเกินไป เพราะเมื่อทุกคนได้ยินว่ามันเกิดอันตรายกับบรรพบุรุษ พวกเขาก็ไม่อยากจะรั้งรออยู่ที่นี่เลยแม้แต่วินาทีเดียว

“สกายวิงกล้าคุกคามราชวังจริง ๆ งั้นเหรอ?” จู่ ๆ มันก็มีเสียงชายชราคนหนึ่งพูดขึ้นมา และการปรากฏตัวของเขาก็ทำให้เหล่าบรรดาเจ้าหน้าที่รีบหลีกทางด้วยความเคารพในทันที

ฟุบ!

อย่างไรก็ตามในพริบตาต่อมาเซี่ยเฟยกลับพุ่งตัวเข้าไปควักลูกตาของชายชราคนนั้นออกมากระทืบทำลายโดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายคือใครกันแน่

“ไม่มีอะไรที่สกายวิงจะไม่กล้าทำ!”

ทันทีที่พูดจบเซี่ยเฟยก็พุ่งตัวออกไปเหวี่ยงเนอร์วาน่าทำลายป้ายสีทองของโถงนอกวังออกเป็นชิ้น ๆ

“นี่คือคำเตือน! หากภายใน 54 นาทีเรายังไม่เห็นบรรพบุรุษ หลังจากนี้มันจะคือสงครามจริง ๆ!!” เซี่ยเฟยตะโกนอย่างดุร้ายพร้อมกับปลดปล่อยจิตอสูรออกไปอย่างเต็มกำลัง

***************

ประกาศสงครามอีกแล้วววว