บทที่ 186 แทนเมีย...
เราสองคนนอนกอดก่ายดื่มด่ำความสุขระหว่างกันและกัน จนกระทั่งป้าเสริมเดินมาบอกว่าตั้งโต๊ะอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เขาที่เช้านี้ดูเหมือนว่าจะกินอะไรได้ไม่ค่อยมากเท่าไร เนื่องจากยังรู้สึกวิงเวียนหัวเหมือนจะคลื่นไส้อยู่ตลอดเวลาที่ได้กลิ่นอาหาร ต่างจากฉันที่เช้านี้ฉันเจริญอาหารสุด ๆ กินได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งสิ่งที่เมื่อวานเพิ่งจะรู้สึกเหม็นไป ทำให้ป้าเสริมที่ไม่รู้เรื่องอะไร ได้แต่มองฉันกับเขาสลับกันไปมาด้วยความรู้สึกงุนงง
“วันนี้อาการของนายท่านและนายหญิงแปลกจังเลยนะเจ้าค่ะ อย่างกับว่าสลับกันเป็นอย่างนั้นแหละ” ป้าเสริมที่ทนไม่ไหวถึงกับต้องเอ่ยออกมา เพราะตัวเองรู้สึกแปลกใจกับสิ่งที่เจ้านายทั้งสองเป็นเหลือเกิน
คุณเซฟหันไปมองทางป้าเสริมทันที หลังจากป้าแกพูดจบ พร้อมกับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความสงสัย?
“แปลกอะไร สลับอะไร กันนะป้า” เขาเอ่ยถามด้วยความสงสัย
ป้าเสริมยิ้มบาง ๆ ด้วยความเอ็นดูเราทั้งสอง ก่อนจะตอบเขากลับมาว่า...
“ก็เมื่อวานนายหญิงก็มีอาการแบบเดียวกับนายท่านเป๊ะเลยค่ะ เพียงแต่ว่าวันนี้นายท่านไม่ได้วิ่งไปอ้วกเหมือนกับนายหญิงเท่านั้น” ป้าเสริมพูดแกมฟ้องคุณเซฟ เป็นกลาย ๆ เหมือนอยากให้เขารู้ว่าฉันไม่สบาย นั่นก็เพราะส่วนลึกในหัวใจของแก แกเป็นห่วงกลัวว่าฉันจะเป็นอะไรไป เพราะเมื่อวานแกจะไปตามหมอประจำตัวของคุณเซฟมาเพื่อดูอาการฉันแล้ว แต่ฉันอ้างไปว่าฉันนัดหมอไว้แล้ว เลยทำให้แกอดเป็นห่วงไม่ได้
“เอ๊ะ!!!” เขาเปลี่ยนเป้าหมายจากความสงสัยในคำถามของป้าเสริมมาที่ฉันทันที
“ทำไมไม่บอกเฮียล่ะคะว่าเอลิซไม่สบาย นี่ยังมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้อยู่อีกหรอ” สีหน้าที่เป็นกังวลของเขาปรากฏขึ้นที่บนใบหน้าคมอย่างเห็นได้ชัด
“เอลิซไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะเฮีย เมื่อวานที่มีอาการสงสัยเอลิซไม่ได้กินข้าวเพราะรอเฮียกลับมานั่นแหละ” ฉันเอื้อมมือไปจับที่มือเขา ก่อนจะทำทีเป็นเบี่ยงเบนประเด็น เพื่อที่จะปกปิดความลับของตัวเอง
“โธ่...ก็เฮียบอกแล้วไงคะว่าถ้าหิวก็กินก่อนได้เลย” เขาที่ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ ที่เห็นฉันไม่ยอมกินอะไรจนเจ็บป่วย
ฉันที่เห็นเขาแสดงออกถึงความเป็นห่วงฉันอย่างมากที่สุด ถึงกับทำให้ฉันอดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้ (รอก่อนนะคะเฮีย รอให้เอลิซมั่นใจก่อน ถึงวันนั้นเอลิซจะไม่ทำให้เฮียต้องเป็นห่วงเลย เอลิซจะดูแลเจ้าแสบของเฮียให้ดีที่สุดค่ะ ^-^)
“ก็ตอนนี้เอลิซไม่เป็นไรแล้วไงคะ...เฮียเห็นไหม เอลิซเจริญอาหารสุด ๆ ฟาดเรียบทุกอย่าง มีแต่เฮียนั่นแหละ ดูท่าจะกินอะไรไม่ค่อยได้เลย สงสัยจะป่วยซะเองแล้ว” ฉันเอ่ยบอกพร้อมเฉไฉไปที่เขาทันที
เขาที่เห็นว่าเป็นจริงดั่งที่ฉันบอกทุกอย่าง เพราะสิ่งที่เขาเห็น ฉันดูไม่เป็นอะไรเลย แถมยังกินอาหารได้เยอะมาก ต่างจากเขาที่เช้านี้ เขาแทบจะกินอะไรไม่ค่อยได้เลย ทั้งมึนหัว อยากจะอาเจียนอย่างเดียว
และเมื่อเราทั้งสองกินอาหารเช้ากันจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาที่ดูอาการเหมือนว่าจะยังไม่เป็นปกติ ก็ถูกฉันจับประคองให้ขึ้นไปนอนบนห้องเพื่อพักผ่อน
ก่อนที่ฉันจะลงไปบอกพี่กิตให้เคลียร์งานแทนเขา พร้อมกับเคลียร์ตารางของเขาในวันนี้ให้หมด เนื่องจากฉันดูแล้วว่าวันนี้ เขาน่าจะไปทำงานไม่ไหว...
ทั้งวันฉันที่ค่อยหมั่นเข้าไปดูแลเขา ครั้นเมื่อถึงเวลาอาหารฉันก็นำอาหารไปให้เขา แม้ว่าเขาจะกินอะไรได้ไม่ค่อยมากนัก แต่เขาก็ยอมฝืนกินจนเกือบหมด นั่นก็เพราะว่าฉันคอยคะยั้นคะยอให้เขากิน และถึงแม้ภาพตรงหน้าจะทำให้ฉันรู้สึกสงสารเขามากขนาดไหน แต่ความรู้สึกข้างในหัวใจกับเบ่งบาน อิ่มฟูได้ด้วยมวลของความสุข ที่ได้เห็นถึงสิ่งมหัศจรรย์สิ่งที่เป็นสายใยความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขา บวกกับชีวิตน้อย ๆ ที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นในท้องของฉันจนทำให้เขามีอาการแพ้แทนฉันแบบนี้
“เฮียไหวไหมคะ...ให้เอลิซตามหมอมาให้ไหม” ฉันที่นั่งอยู่ข้างกายเขาเอ่ยถาม เพราะดูอาการยังไม่สู้ดีเท่าไร
“ไม่เอาอ่ะ...” เขาออกอาการงอแงขึ้นมาทันที
“หรืออยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ พวกผลไม้หรือ...” ฉันลองหยั่งเชิงถาม และในขณะที่ฉันยังไม่ทันพูดจบ
“เปรี้ยว ๆ ขอเปรี้ยว ๆ เลยนะ” เขาที่พูดโพล่งออกมาทันที จนฉันรู้สึกตกใจ
หลังจากที่เขาได้พูดความต้องการที่กินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เขาก็ดูจะกระตือรือร้นขึ้นมาทันที พร้อมกับหยัดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางตื่นเต้น
ฉันหัวเราะเบา ๆ ให้กับท่าทางเหมือนเด็กน้อยที่จะได้กินของโปรดของเขา ก่อนที่ตัวเองจะเดินออกไปนอกห้องเพื่อบอกให้ป้าเสริมเตรียมมาให้
“ว่ายังไงนะคะ!! นายหญิง นายท่านอยากกินผลไม้เปรี้ยว ๆ หรอค่ะ” ป้าเสริมถึงกับตาโตเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉันพูด
ฉันพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยิ้มให้เป็นคำตอบ
“เป็นไปได้ยังไงคะเนี้ย เกิดอะไรกับนายท่านหรือเปล่าคะ ทำไมจู่ ๆ ถึงอยากกินสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบที่สุดได้ล่ะคะ” ป้าเสริมที่ยังคงไม่เชื่อกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน นั่นก็เพราะว่าทำไมแกจะไม่รู้ถึงความชอบไม่ชอบของเจ้านายที่ตนเองเลี้ยงมากับมือ
“น่าจะเพราะเวียนหัวแหละค่ะ คงอยากจะกินอะไรที่มันสดชื่น เสร็จแล้วเอาขึ้นไปให้บนห้องหน่อยนะคะ” ฉันพูดจบก็เดินผละออกจากป้าเสริมที่ยังคงยืนงงอยู่ตรงนั้น
หลังจากนั้นไม่นานป้าเสริมก็มาพร้อมกับผลไม้จานใหญ่ที่นำมาเสิร์ฟให้ โดยที่ในจานมีแต่ผลไม้ชนิดที่ว่าเปรี้ยวเข็ดฟัน
และหลังจากป้าเสริมออกไปเขาที่เห็นผลไม้จานใหญ่ก็ตาลุกวาวในทันที
ท่าทางที่กินเหมือนเด็กน้อย พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มเริงร่า จนฉันอดยิ้มตามไม่ได้ เนื่องจากตอนนี้ใบหน้าของเขาดูจะเปล่งประกายแผ่ไปด้วยรังสีแห่งความสุข และออร่านั้นก็ทำให้ฉันถึงกับ...
จุ๊บ ~~
ฉันโน้มตัวลงไปจูบที่ริมฝีปากของเขา ที่ตอนนี้มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของผลไม้รสเปรี้ยว อย่างไม่รู้ตัว...
ดวงตาที่สอดประสานกัน บวกกับเขาที่เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ฉันที่ได้สติหลังจากหลงไปกับความสดใสของเขาจนเผลอทำตามอำเภอใจโดยไม่รู้ตัว ถึงกับรีบผละริมฝีปากออกจากความหอมหวานนั้น
...และในขณะฉันกำลังจะผละตัวออกไป...
หมับ!!
ร่างบางนุ่มนิ่มก็ถูกเขาจับพลิกลงนอนราบกับที่นอนนุ่ม โดยที่มีตัวเขาขึ้นคร่อมร่างฉันอยู่
ร่างสูงกำยำที่มักจะหลอมละลายให้ร่างกายของฉันคล้อยไปตามปรารถนาของเขา ก็ได้โน้มใบหน้าอันหล่อเหลาลงมาเพื่อเอาคืนในสิ่งที่ตนเองเพิ่งโดนกระทำไป
“อื้อออ ~~” ริมฝีปากที่มีรสเปรี้ยวหน่อย ๆ ของผลไม้ที่กินไปติดอยู่ ถูกทาบทับลงมาบนริมฝีปากนุ่ม ก่อนจะแทรกลิ้นร้อนเข้ามากระจายความหอมของผลไม้ให้คละคลุ้งไปทั่วทั้งปาก
ความวาบหวามจากปลายลิ้นที่สอดเข้ามาหยอกล้อเข้ากับลิ้นอุ่น ทำให้เลือดในกายสาวถูกปลุกให้วิ่งพล่านเร่งให้เรือนร่างร้อนผ่าว
ความชำนาญในการจุดไฟสวาทที่ไม่ได้มีอยู่แค่ที่ลิ้นของเขา แต่ทว่า...ยังมีที่มือหนาที่ตอนนี้กำลังซุกซนรุกล้ำไปทั่วทุกพื้นผิวที่สัมผัสได้ ราวกับว่าร่างกายของหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างเป็นของเขามาแต่ชาติปางไหน...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 38
แสดงความคิดเห็น