ตอนที่ 967 ไม้จันทร์กระซิบ
ตอนที่ 967 ไม้จันทร์กระซิบ
ณ ราชวังราชันย์มาร
สถานที่แห่งนี้คือสถานที่ที่ไม่ต่างไปจากราชวังราชันย์เทพ มันเป็นพื้นที่สำคัญที่เอาไว้หารือกันเรื่องต่าง ๆ ของเผ่ามาร
ฟูลมูนเดินเข้ามาทักทายเหล่าบรรดาจอมมารภายในห้องโถงด้วยรอยยิ้ม น่าเสียดายที่ผลตอบรับกลับมีเพียงแววตาที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามเท่านั้น คล้ายกับว่าเหล่าบรรดาจอมมารภายในวังไม่พอใจที่ได้เห็นฟูลมูนภายในวังแห่งนี้
แม้ว่าทุกคนจะมองมาที่เขาด้วยแววตาแห่งความดูถูกเหยียดหยาม แต่ฟูลมูนก็ยังคงยิ้มแย้มให้กับทุกคนอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาออกจากห้องโถงไปยังทางเดินรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเสแสร้งก็ค่อย ๆ จางหายไป
“สักวันพวกแกทุกคนจะต้องชดใช้” ฟูลมูนพึมพำอย่างเย็นชา
ทันใดนั้นมันก็มีเงาดำปรากฏขึ้นบริเวณด้านหลังของฟูลมูนอย่างลับ ๆ และการที่เขาสามารถแอบติดตามชายชรามาได้โดยไม่มีใครภายในวังพบเห็น มันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าพลังของคนคนนี้อยู่ในระดับที่น่ากลัวมากแค่ไหน
“คุณอยากจะให้ใครต้องชดใช้ล่ะ?” ผู้มาใหม่กล่าวถาม
“ใครก็ตามที่กล้ามาดูถูกฉัน” ฟูลมูนกล่าวอย่างเฉยเมยราวกับว่าเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าเขากำลังถูกใครบางคนแอบติดตาม
“แล้วถ้าฉันดูถูกคุณล่ะ ฉันจะตกเป็นเป้าหมายของคุณด้วยไหม?”
“ของทุกอย่างในจักรวาลมีราคาของมันเอง ตราบใดก็ตามที่มีคนเสนอราคามาให้มากพอ ฉันก็พร้อมที่จะกำจัดคุณด้วยเหมือนกัน” ฟูลมูนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“คุณช่างเป็นคนที่โหดเหี้ยมจริง ๆ ในสายตาของคุณมันไม่มีอะไรที่ไม่มีราคาของมันสินะ” ชายชราส่ายหัวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
“หากคุณเต็มใจมอบพลังทั้งหมดของคุณให้กับฉัน ฉันก็พร้อมจะมอบชีวิตของคนทั้งตระกูลฉันให้กับคุณเช่นกัน แม้แต่เด็กในท้องภรรยาของฉัน ฉันก็พร้อมที่จะขายตราบใดก็ตามที่ฉันได้ราคาที่พึงพอใจ” ฟูลมูนตอบกลับอย่างง่ายดาย แต่คำตอบของเขากลับแฝงไปด้วยความโหดร้ายจนเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
“สาเหตุที่คุณไม่สามารถทะลวงไปจนถึงจอมเทพระดับสูงสุด มันก็อาจจะเป็นเพราะว่าคุณโหดร้ายมากจนเกินไป อย่าลืมนะว่าคุณคือผู้ทรยศจากเผ่าเทพ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จอมมารพวกนั้นจะมองมาที่คุณด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม” ชายชรากล่าวพร้อมกับยักไหล่
ฟูลมูนยักไหล่โดยไม่พูดอะไร เพราะท้ายที่สุดครั้งหนึ่งตระกูลของเขาก็เคยเป็นดาบลับพิฆาตของเผ่าเทพที่ทรยศมาเข้าร่วมกับเผ่ามารจริง ๆ
เผ่าเทพกับเผ่ามารเป็นศัตรูกันมาอย่างยาวนาน และถึงแม้ว่าทางเผ่าจะรับตระกูลของฟูลมูนเอาไว้ แต่การแปรพรรคมันก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเหมือนกับที่ควรจะเป็น
“ฉันมีงานให้คุณทำ ตราบใดก็ตามที่คุณทำภารกิจนี้สำเร็จ ฉันก็จะช่วยให้คุณบรรลุพลังระดับจอมเทพขั้นสูงสุด” ชายชรากล่าวหลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
ฟูลมูนชะงักค้างไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะโบกมือสร้างบาเรียออกมาปิดล้อมพวกเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้ใครแอบฟังบทสนทนาหลังจากนี้
“ตกลง” ฟูลมูนตอบกลับอย่างง่ายดาย
“คุณไม่คิดจะถามเลยเหรอว่าเป้าหมายคือใคร และมันมีข้อกำหนดอะไรในภารกิจนี้บ้าง?”
“ไม่จำเป็นหรอก การพัฒนากลายเป็นจอมเทพระดับสูงสุดเป็นสิ่งที่คุ้มค่าไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นใครก็ตาม” ฟูลมูนกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“เป้าหมายของภารกิจนี้คือคนที่โหดเหี้ยมกว่าคุณ” ชายชรากล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
“ฉันไม่คิดว่าจะมีใครโหดเหี้ยมกว่าฉันหรอกนะ เว้นแต่…” ฟูลมูนกล่าวก่อนที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ใช่ เป้าหมายของเราในคราวนี้คือคนของสกายวิง” ชายชราตอบกลับตามตรง
“นี่พวกคุณวางแผนการจัดการกับสกายวิงเลยงั้นเหรอ?! น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถจัดการเซี่ยกู่เฉิงได้ เขาเป็นคนเดียวในดินแดนกฎที่ฉันไม่อยากจะเผชิญหน้าด้วย” ฟูลมูนกล่าวด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ยากมากเลยนะเนี่ยที่คนอย่างฟูลมูนจะกลัวใครเป็นด้วย” ชายชรากล่าวด้วยสีหน้าอันแปลกใจ
“เซี่ยกู่เฉิงมันไม่ใช่มนุษย์ สกายวิงมันเป็นพวกตระกูลปีศาจ” ฟูลมูนกล่าวด้วยใบหน้าที่น่าเกลียดมากขึ้นกว่าเดิม
“สบายใจได้ คราวนี้เป้าหมายไม่ใช่เซี่ยกู่เฉิงหรอก เพราะปัจจุบันสกายวิงได้มีนักรบที่น่ากลัวปรากฏขึ้นมาอีกคน เขาคนนี้ชื่อเซี่ยเฟยเพิ่งจะมีพลังอยู่ในระดับราชันย์ขั้นพื้นฐานเท่านั้น”
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าคุณจะยอมรับงานนี้ แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าพวกคุณจะยังคงเกรงกลัวสกายวิงมาจนถึงปัจจุบัน มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริง ๆ” ชายชรากล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“เดี๋ยวก่อน! เป้าหมายในคราวนี้มันไม่ใช่เซี่ยกู่เฉิงงั้นเหรอ” ฟูลมูนรีบหยุดชายชราไว้และกล่าวถามขึ้นไปอย่างสงสัย
“ใช่”
“คุณจะช่วยให้ฉันกลายเป็นเทพกฎระดับสูงสุดหลังจากที่สังหารนักรบระดับราชันย์ไปเพียงแค่คนเดียวเนี่ยนะ?!”
“ถูกต้อง”
“ทำไม? ผลตอบแทนของภารกิจนี้มันเหนือกว่าการสังหารนักรบระดับราชันย์ทั่ว ๆ ไปชัด ๆ” ฟูลมูนถามอย่างสับสน
“เซี่ยเฟยคนนี้เป็นคนที่โหดเหี้ยมมากกว่าคุณและเป็นนักรบคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสกายวิงที่สามารถกางดีม่อนวิงออกมาได้ คุณว่าด้วยเหตุผลแค่นี้มันพอจะคุ้มค่ากับราคาที่ฉันจะจ่ายไปไหม?” ชายชราตอบกลับอย่างใจเย็น
ฟูลมูนสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าเป้าหมายคือดีม่อนวิง
เซี่ยกู่เฉิงเคยได้ใช้ดีม่อนวิงสร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งจักรวาล ทุกคนจึงรู้ดีว่าดีม่อนวิงคือสัญลักษณ์ของหายนะที่มาในรูปแบบของความเร็ว การที่สกายวิงมีดีม่อนวิงคนที่ 2 ย่อมไม่ใช่ข่าวดีสำหรับตระกูลอื่นอย่างแน่นอน เพราะตัวตนในระดับเซี่ยกู่เฉิงคนที่ 2 มันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของจักรวาลมากเกินไป
“หวังว่าเป้าหมายในครั้งนี้มันจะไม่ได้ทำให้ฉันผิดหวังนะ” ฟูลมูนกล่าวอย่างเย็นชาเป็นการยืนยันว่าเขายอมรับภารกิจจากชายชราแล้ว
“อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ ถึงแม้เป้าหมายในครั้งนี้จะมีพลังในระดับราชันย์เท่านั้น แต่พลังการต่อสู้ของเขาอยู่ในระดับเดียวกันกับจอมเทพแล้ว อีกอย่างคุณก็น่าจะรู้ดีว่าคนบ้าพวกนี้มันไม่เคยต่อสู้ด้วยวิธีธรรมดา หากคุณประมาทเป้าหมายมากเกินไปคุณอาจจะเป็นเหยื่อของเขาแทน” ชายชรากล่าวเตือนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินจากไปด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ต้องห่วง ท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็จะเป็นเพียงแค่ขั้นบันไดที่จะทำให้ฉันก้าวขึ้นไปสู่จอมเทพระดับสูงสุด” ฟูลมูนกล่าวขึ้นมาด้วยแววตาอันเป็นประกาย เพราะถ้าหากเป้าหมายไม่ใช่เซี่ยกู่เฉิง เขาก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถสังหารสกายวิงได้ทุกคน
—
“นั่นมันไม้จันทร์กระซิบ!” เซี่ยหงสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจขณะที่ชี้นิ้วออกไปยังเซี่ยเฟย
แม้ว่าเนอร์วาน่าจะสังหารเหวินหยิงไม่สำเร็จ แต่มันก็สามารถตัดแขนซ้ายที่มีแหวนมิติของเธอออกมาได้ เซี่ยเฟยจึงแอบคิดว่าอย่างน้อยแหวนวงนี้ก็คือของรางวัลปลอบใจที่เขาไม่สามารถสังหารเป้าหมายได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่บรรจุภายในแหวนมันก็ทำให้เขาสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะมันคือไม้จันทร์กระซิบหนึ่งในอาวุธมายาธาตุพืชที่เขากำลังออกตามหา
ทันทีที่ไม้จันทร์กระซิบปรากฏตัวขึ้นมา ทั่วทั้งบริเวณก็ถูกปกคลุมไปด้วยสายลมแรงที่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“มันคือไม้จันทร์กระซิบ หนึ่งในอาวุธมายาธาตุพืชจริง ๆ”
“เซี่ยเฟยโชคดีเป็นบ้า! ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะสามารถค้นหาอาวุธมายาธาตุพืชชิ้นที่ 5 ได้อย่างรวดเร็วแบบนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่หงส์ครามสามารถหลอมรวมไม้จันทร์กระซิบเข้าไปได้สำเร็จ เมื่อนั้นมันก็คงจะได้ความสามารถคมมีดสายลมของไม้จันทร์กระซิบเข้าไปด้วย”
“ฉันว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของโชคหรอก ถ้าหากเซี่ยเฟยไม่ได้ลอบโจมตีตัดแขนของเหวินหยิงออกมาได้ เขาก็คงจะไม่ได้แหวนมิติมาด้วยเหมือนกัน อย่าลืมนะว่าการเผชิญหน้ากับศัตรูระดับนั้นสองคนพร้อม ๆ กันมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ความพยายามของเขาต่างหากที่ช่วยให้เขาได้รับอาวุธมายาชิ้นนี้มาไว้ในครอบครอง”
“แม้ว่าในตอนนี้หงส์ครามจะเป็นอาวุธมายาที่ทรงพลังมาก แต่มันก็สามารถจู่โจมในระยะประชิดได้เท่านั้น ตราบใดก็ตามที่ศัตรูอยู่ในระยะที่ห่างไกลออกไป หงส์ครามก็จะไม่สามารถจู่โจมเข้าใส่ศัตรูที่อยู่นอกระยะได้เลย”
“คุณลักษณะของไม้จันทร์กระซิบคือคมมีดสายลม หากหงส์ครามหลอมรวมอาวุธมายาชิ้นนี้เข้าไป มันย่อมได้รับความสามารถในการโจมตีระยะไกลมาได้อย่างแน่นอน ในเวลานั้นหงส์ครามก็จะกลายเป็นอาวุธที่ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เพราะมันสามารถใช้ในการจู่โจมศัตรูทั้งในระยะใกล้และระยะไกลได้ในเวลาเดียวกัน” เซี่ยเหอหลินกล่าว
จอมเทพสกายวิงอีกสองคนต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย และพวกพวกเขาต่างก็ดีใจที่เซี่ยเฟยได้รับอาวุธมายาธาตุพืชชิ้นที่ 5 มาไว้ในครอบครอง
อาวุธมายาคืออาวุธที่ดีที่สุดสำหรับการเผชิญหน้ากับดาร์คไนท์และอสูรกาย หากเซี่ยเฟยสามารถหลอมรวมอาวุธมายาธาตุพืชได้สำเร็จ มันก็ไม่เพียงแต่ชายหนุ่มจะได้รับผลประโยชน์คนเดียวเท่านั้น แต่เขายังจะกลายเป็นอาวุธชิ้นสำคัญของสกายวิงอีกด้วย
หลังจากจัดการเก็บกวาดสนามรบเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเฟยก็เริ่มออกเดินทางด้วยเจมินี่อีกครั้ง
“ตอนนี้เซี่ยเฟยได้รับไม้จันทร์กระซิบมาแล้วก็จริง แต่การปราบปรามอาวุธมายามันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ด้วยเหมือนกัน ฉันได้แต่หวังว่าเขาจะสามารถพิชิตไม้จันทร์กระซิบได้ภายในระยะเวลาอันสั้นนะ” เซี่ยเหอหลินกล่าวหลังจากมองเซี่ยเฟยจากไป
“หงส์ครามหลอมรวมอาวุธมายาเข้าไป 4 ชิ้นแล้ว การหลอมรวมอาวุธมายาชิ้นอื่นเข้าไปมันก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิมไม่ใช่เหรอ?” เซี่ยหงถามอย่างสงสัย
“เราจะใช้ความคิดแบบนั้นมาตัดสินอาวุธมายาไม่ได้หรอก อย่าลืมนะว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการหลอมรวมอาวุธมายาธาตุพืชทั้งหมดเข้าด้วยกัน สิ่งที่เราทำได้มีเพียงแค่การอวยพรให้เขาประสบความสำเร็จได้ด้วยดี แต่เราไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคอะไรในระหว่างกระบวนการหลอมรวม” เซี่ยเหอหลินกล่าว
—
ภายในมิติฝึกฝน
หลังจากที่เซี่ยเฟยได้รับไม้จันทร์กระซิบมาเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบเข้ามาในมิติฝึกฝนเพื่อพิชิตอาวุธมายาชิ้นนี้ในทันที
ศัตรูที่เขาต้องเผชิญหน้าในปัจจุบันต่างก็ล้วนแล้วแต่มีพลังอยู่ในระดับจอมกฎแล้ว ศัตรูเหล่านี้จึงอยู่คนละระดับกับศัตรูที่เขาเคยเผชิญหน้าในอดีตอย่างสิ้นเชิง เขาจึงพยายามเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุดเพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้น
“พวกเรามาเริ่มกันเถอะ ตราบใดก็ตามที่เราสามารถหลอมรวมไม้จันทร์กระซิบเข้ากับหงส์ครามได้ มันย่อมปรับปรุงศักยภาพของหงส์ครามได้ครั้งใหญ่แน่ ๆ” ลินนิจกล่าวหลังจากที่เซี่ยเฟยนำไม้จันทร์กระซิบออกมาด้านนอก
“อือ!” เซี่ยเฟยพยักหน้าตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
***************
มุ่งสู่การหลอมรวมอาวุธมายาชิ้นที่ 5 พี่เฟยสู้ ๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 280
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น