ตอนที่ 966 หนึ่งตายหนึ่งพิการ
ตอนที่ 966 หนึ่งตายหนึ่งพิการ
เมื่อเซี่ยเฟยระเบิดเม็ดพลังงานภายในสมอง มันก็ไม่เพียงแต่จะยกระดับพลังของเขาขึ้นอย่างกะทันหันเท่านั้น แต่หงส์ครามยังเกิดการวิวัฒนาการเพิ่มใบหญ้าเป็นเจ็ดใบ โดยใบหญ้าแต่ละใบมีความยาวมากที่สุดถึง 5 กิโลเมตร
“ทำลายมันซะ!”
เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับบังคับหงส์ครามให้เคลื่อนที่ออกไปทำลายคลื่นมิติอันทรงพลัง
ตูม!
การปะทะกันระหว่างหงส์ครามกับคลื่นมิติส่งเครื่องกระแทกออกมาราวกับดาวเคราะห์ที่พุ่งชนกันอย่างรุนแรง ซึ่งหลังจากการปะทะได้จบลงคลื่นมิติทั้ง 128 คลื่นก็ถูกหงส์ครามขัดขวางเอาไว้ได้สำเร็จ
พลังงานภายในสมองของชายหนุ่มก่อให้เกิดคลื่นพลังงานชั้นบาง ๆ เคลือบใบหญ้าทั้งเจ็ดใบของหงส์ครามไว้ มันจึงทำให้ใบหญ้าของหงส์ครามที่มีความแข็งแกร่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทวีความแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม จนแม้แต่คลื่นมิติอันทรงพลังของจอมเทพก็ไม่สามารถที่จะทำลายใบหญ้าทั้งเจ็ดใบนี้ลงได้
ฟุบ!
เซี่ยเฟยพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยความเร็วมากกว่า 4 ล้านเมตรต่อวินาที จากนั้นเขาก็บังคับหงส์ครามให้ทำการจู่โจมตามมาด้วยเนอร์วาน่าที่จู่โจมติดตามกันไปอย่างใกล้ชิด
จอมเทพปริศนาไม่เคยคาดคิดว่าเซี่ยเฟยจะสามารถต่อต้านการโจมตีอันทรงพลังของเขาได้ แม้แต่เหวินหยิงที่อยู่ใกล้ ๆ ก็กำลังเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ความลังเลในสนามรบถือได้ว่ามีอันตรายถึงชีวิต เพราะในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังตกตะลึง เซี่ยเฟยก็ได้ใช้ช่องว่างนี้ในการตอบโต้เข้าหาศัตรู
ใบหญ้าทั้งเจ็ดถักทอจนกลายเป็นเหมือนกับหัตถ์ของเทพเจ้าแห่งความตาย ทันใดนั้นมันก็คว้าเนอร์วาน่าเอาไว้ก่อนที่จะเขวี้ยงออกไปอย่างสุดกำลัง
ขวับ!
หลังจากวิวัฒนาการพลังของหงส์ครามก็เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก เมื่อรวมกับพลังงานปริมาณมหาศาลที่เซี่ยเฟยได้ป้อนให้ มันจึงทำให้การขว้างในครั้งนี้สร้างการโจมตีอันทรงพลังอย่างที่พวกเขาไม่เคยทำมาก่อน
แต่เดิมเซี่ยเฟยก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากกว่า 4 ล้านเมตรต่อวินาทีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อหงส์ครามทำการกว้างปาเนอร์วาน่าออกไปมันจึงเป็นการโจมตีที่เทียบเท่าได้กับความเร็วแสง
“แย่แล้ว!” จอมเทพปริศนาอุทานออกมาอย่างตกใจ ก่อนที่เขาจะรีบกระโดดหลบออกไปทางด้านข้างปล่อยให้เนอร์วาน่าวาดแนวโค้งผ่านร่างของเขาไปอย่างมหัศจรรย์
จอมเทพถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อเขาได้รอดพ้นจากภัยพิบัติ ท้ายที่สุดการจู่โจมในครั้งนี้มันก็รุนแรงมากแล้วมันย่อมเป็นการโจมตีที่มีอันตรายถึงชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย
ในความเป็นจริงการจะหลบการโจมตีด้วยความเร็วระดับนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แม้ว่าเขาจะมีปฏิกิริยาการตอบสนองในระดับจอมเทพก็ตาม แต่สาเหตุที่ทำให้เขาสามารถรอดพ้นภัยพิบัติมาได้อย่างฉิวเฉียด นั่นก็เพราะเซี่ยเฟยไม่ได้เลือกที่จะโจมตีเป็นเส้นตรง
การเคลื่อนไหวจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งด้วยระยะที่สั้นที่สุดย่อมเป็นการเคลื่อนไหวในแนวตรง แต่เนอร์วาน่ากลับถูกขว้างออกมาตามแนวโค้ง ซึ่งความเร็วของมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะทางที่มันเคลื่อนที่ผ่านไป
ด้วยความเร็วที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นแบบนี้ มันก็หมายความว่าเซี่ยเฟยตั้งใจจะสะสมความแข็งแกร่งเอาไว้เพื่อทำลายเป้าหมายของตัวเองในคราวเดียว
เหวินหยิงที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังจอมเทพเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความตกตะลึง เมื่อสังเกตเห็นว่าแท้ที่จริงแล้วเนอร์วาน่ามีเป้าหมายในการจู่โจมคือตัวเธอ
ดาบกลืนวิญญาณพุ่งจู่โจมด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้นเกล็ดงูก็ปรากฏขึ้นมาบนร่างของเหวินหยิงอย่างฉับพลันเพื่อปกป้องตัวเธอจากอันตราย
ร่างของเหวินหยิงเริ่มส่องแสงเจิดจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนั้นร่างของเธอก็ค่อย ๆ หายไปราวกับว่าตัวเธอเป็นเพียงแค่อากาศธาตุ
ขวับ!
ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่ร่างของเหวินหยิงจะหายไปนั้น เนอร์วาน่าก็ได้ตัดผ่านแขนข้างหนึ่งจนก่อให้เกิดเสียงร้องโหยหวนอันเจ็บปวด
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเหวินหยิงในครั้งนี้ทำให้หญิงสาวสูญเสียการควบคุมอสรพิษในทันที อสรพิษส่วนใหญ่จึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเซี่ยเฟย
ในที่สุดจอมเทพผู้ทรงพลังก็ตระหนักแล้วว่าเซี่ยเฟยไม่ได้ตั้งใจจู่โจมเขาตั้งแต่แรก แต่ตั้งใจกำจัดเหวินหยิงที่เข้ามาแทรกแซงการต่อสู้จากระยะไกล
สุดท้ายแล้วการต่อสู้ก็กลับมากลายเป็นการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งอีกครั้ง ซึ่งด้วยความช่วยเหลือจากขนอุย, หงส์ครามและอสรพิษดาร์คไนท์เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน มันก็ทำให้เซี่ยเฟยเริ่มกุมความได้เปรียบมากขึ้นเรื่อย ๆ
—
“เยี่ยม!!” เซี่ยจิงยกแขนตะโกนอย่างดีใจ หลังจากที่เซี่ยเฟยใช้เนอร์วาน่าตัดผ่านร่างของจอมเทพปริศนา
“เซี่ยเฟยเป็นคนที่แข็งแกร่งมากจริง ๆ ดูนั่นสิจอมเทพคนนั้นถูกดาบกลืนวิญญาณของเซี่ยเฟยดูดพลังไปจนหมดแล้ว ฉันว่าเขาคงจะไม่มีโอกาสได้เกิดใหม่เป็นครั้งที่ 2” เซี่ยหงกล่าวอย่างตื่นเต้นขณะชี้นิ้วไปยังเนอร์วาน่า
“บรรพบุรุษบอกว่าแม้แต่ตัวเขาก็ไม่เคยเห็นอาวุธแบบนี้มาก่อน มันเป็นอาวุธที่สามารถทำให้จอมกฎไม่สามารถฟื้นคืนชีพหลังความตายได้ มันย่อมเป็นอาวุธที่อันตรายที่สุดในจักรวาลนี้อย่างแน่นอน” เซี่ยเหอหลินกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ไม่ว่าจะเป็นอาวุธอุปกรณ์หรือผู้ช่วยของเซี่ยเฟยต่างก็ล้วนแล้วแต่ทรงพลังมากจริง ๆ หากเทียบกับเขาอาวุธอุปกรณ์ของเราก็เป็นเพียงแค่เศษขยะเท่านั้น ฉันคิดว่าทั่วทั้งตระกูลคงจะมีเพียงแต่อาวุธอุปกรณ์ของบรรพบุรุษคนเดียวเท่านั้นที่พอจะเทียบชั้นกับอาวุธอุปกรณ์ของเซี่ยเฟยได้” เซี่ยจิงกล่าวพร้อมกับแบะริมฝีปากเมื่อมองดูอาวุธอุปกรณ์ของตัวเอง
“นายจะคิดง่ายเกินไปแล้ว ไม่ว่าอาวุธอุปกรณ์จะดีแค่ไหนแต่พวกมันก็จะกลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่าเมื่อตกไปอยู่ในมือของคนที่ใช้พวกมันไม่เป็น แต่ของพวกนี้สามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างเต็มที่เมื่อพวกมันได้อยู่ภายในมือของเซี่ยเฟย”
“ยกตัวอย่างง่าย ๆ เลยนะว่าถึงแม้นายจะมีโอกาสได้เจออสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่ฉันก็มั่นใจว่านายคงไม่มีทางจะกำราบอสูรตัวนั้นมาเป็นอสูรในพันธสัญญาของนายได้” เซี่ยเหอหลินกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“เซี่ยเฟยแตกต่างออกไปจากคนอื่นจริง ๆ น่าเสียดายที่แม้แต่บรรพบุรุษก็ไม่สามารถสืบสาวหาเรื่องราวในอดีตของเขาได้ ฉันล่ะอยากรู้จริง ๆ ว่าเขาสืบทอดสายเลือดมาจากใครกันแน่?” เซี่ยจิงกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“คราวนี้เซี่ยเฟยทำให้องค์หญิงเหวินหยิงพิการและสังหารลูกน้องของพระเจ้าไปอีกหนึ่งคน ไม่ว่าจะเป็นราชาเหวินต้าหรือพระเจ้าที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะต้องโกรธแค้นเซี่ยเฟยอย่างมากแน่นอน ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานเวลาที่พวกเรารอคอยก็จะมาถึงแล้ว” เซี่ยเหอหลินกล่าว
“ยิ่งเซี่ยเฟยก่อปัญหาในดินแดนดาร์คไนท์มากเท่าไหร่ ศัตรูก็จะยิ่งหาวิธีกำจัดเซี่ยเฟยอย่างรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น เมื่อพระเจ้าผู้เป็นตัวการได้พบว่าลูกน้องของตัวเองไม่สามารถจัดการเซี่ยเฟยได้ เมื่อนั้นเขาจะต้องลงมือด้วยตัวเองอย่างแน่นอน และนั่นก็คือสิ่งที่สกายวิงได้เฝ้ารอมาเป็นเวลานาน”
พระเจ้าคือตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาล และมันก็มีคนเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของพระเจ้าทั้ง 13 คนผู้ซึ่งเป็นคนก่อตั้งดินแดนกฎอันยิ่งใหญ่
กลุ่มคนทั้ง 13 คนนี้คือกลุ่มคนที่ลึกลับที่สุดของดินแดนกฎ และตราบใดก็ตามที่ตัวการได้ปรากฏตัว จอมเทพทั้งสามก็จะเข้าร่วมมือกับเซี่ยเฟยเพื่อจัดการกับศัตรูจนกว่าจะมีใครตายกันไปสักข้างหนึ่ง
แผนการของสกายวิงในครั้งนี้เป็นแผนการที่บ้าคลั่งที่สุดในจักรวาลอย่างแน่นอน เพราะมันไม่เคยมีใครกล้าเป็นศัตรูกับพระเจ้ามาก่อน แต่สกายวิงกลับวางแผนที่จะทำการสังหาร 1 ใน 13 พระเจ้าผู้คอยบงการสังหารสมาชิกของพวกเขา
“คราวนี้เราต้องขอบคุณนิสัยแม่เหล็กดูดปัญหาของเซี่ยเฟยจริง ๆ ถ้าเจ้าเด็กนั่นไม่ได้ก้าวร้าวมากขนาดนี้ บางทีพวกเราก็อาจจะไม่สามารถหลอกล่อศัตรูออกมาตามแผนการได้” เซี่ยจิงกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะเหลือบมองเซี่ยเฟยที่กำลังตรวจสอบสินสงคราม
“ฉันก็ว่าแบบนั้นแหละ ตอนนี้เซี่ยเฟยได้แสดงดีม่อนวิงออกมาแล้ว และเขาก็สามารถสังหารลูกน้องของพระเจ้าไปได้อีกคน คราวนี้ฉันว่าพระเจ้าคนนั้นจะต้องส่งลูกน้องที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาจัดการกับเซี่ยเฟยอย่างแน่นอน แผนการของเราคงจะใกล้ความจริงเข้าไปทุกที” เซี่ยหงกล่าวพร้อมกับแสดงรอยยิ้มอย่างรู้กันทั้งสามคน
ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็สังเกตเห็นเซี่ยเฟยตรวจสอบสินสงครามทั้งหมดจนเสร็จ และเมื่อพิจารณาจากสีหน้าของชายหนุ่ม มันก็สามารถบอกได้เลยว่าผลกำไรที่เขาเก็บเกี่ยวได้ในคราวนี้ย่อมมีมูลค่าไม่น้อย
ท้ายที่สุดศัตรูก็เป็นถึงจอมเทพที่อยู่ภายใต้คำสั่งของพระเจ้า สมบัติที่เขาได้ครอบครองอยู่ภายในแหวนมิติจึงไม่ต่างไปจากสมบัติภายในตระกูลขนาดใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นพลังงานของจอมเทพยังสูงมากจนทำให้เม็ดพลังงานภายในสมองของชายหนุ่มถูกเติมเต็มกลับมาจนเต็มเปี่ยมอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากจัดการเก็บเกี่ยวสินสงครามจากจอมเทพปริศนาเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเฟยก็เดินไปตรวจสอบแขนข้างซ้ายของเหวินหยิง ก่อนที่เขาจะได้พบกับแหวนมิติสีแดงบนแขนอันแห้งเหี่ยว
“เอ่อ…”
สีหน้าของเซี่ยเฟยเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อเขาได้ส่งกระแสจิตเข้าไปสำรวจสิ่งของภายในแหวน
***************
อย่าบอกนะว่าจะเจอพวกของไร้สาระเหมือนตอนเข้าร่วมบททดสอบจัสทิสฝึกหัดที่โลก? ว่าแต่ทุกคนยังจำได้อยู่ไหม 5555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 356
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น