ตอนที่ 911 สมบัติ 3 ชิ้น

เนื่องมาจากสินค้าที่เซี่ยเฟยแลกเปลี่ยนมาเป็นสินค้าล้ำค่า ทางบริษัทฟิกส์จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาคุ้มกันในระหว่างการขนส่งเป็นจำนวนหลายร้อยคน โดยสินค้าที่ขนส่งเป็นกล่องโลหะขนาดใหญ่ 2 กล่องที่ถูกล็อกเอาไว้อย่างแน่นหนา

“ทำไมถึงมีแค่ 2 กล่อง?” เซี่ยเฟยขมวดคิ้วถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

“ตรงนี้มี 2 ชิ้น, อยู่บนถนนอีกหนึ่งชิ้น และนี่คือกุญแจอิเล็กทรอนิกส์สำหรับของที่อยู่บนถนน” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้ไว้หนวดเครากล่าวอย่างเคร่งขรึม

หลังจากพูดจบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยื่นการ์ดกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ให้กับเซี่ยเฟย ซึ่งโดยปกติแล้วการ์ดประเภทนี้จะใช้สำหรับยานรบเท่านั้น ฟลินน์จึงขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะเขาไม่รู้ว่าเซี่ยเฟยกำลังคิดอะไรถึงแลกยานรบมา

เซี่ยเฟยรับสินค้าทั้งหมด ก่อนที่เขาจะลงนามเพื่อเป็นการยืนยันการส่งมอบสินค้า

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมองไปยังกล่องโลหะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะจากไปโดยไม่พูดอะไรเหลือเพียงเซี่ยเฟยกับฟลินน์อยู่กัน 2 คน

เมื่อชายหนุ่มเปิดกล่องโลหะกล่องแรกมันก็เผยให้เห็นเครื่องป้องกันวางอยู่ในนั้น โดยมันมีลักษณะเป็นรูปทรงพีระมิดแต่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก

“นั่นมันวิญญาณพิทักษ์สวรรค์! ทั่วทั้งจักรวาลมีอุปกรณ์ชิ้นนี้อยู่เพียงแค่ 2 ชิ้นเท่านั้น อันหนึ่งอยู่ในดินแดนแห่งพระเจ้า ไม่น่าเชื่อเลยว่าอีกอันมันจะมาอยู่ในมือของนาย” อัลฟ่าส่งข้อความเข้ามาด้วยความตื่นเต้น

ดินแดนแห่งพระเจ้าเป็นสถานที่ที่ลึกลับที่สุดภายในแดนเทพ ซึ่งมันก็มีเพียงแต่เหล่าบรรดาจอมเทพระดับสูงสุดเท่านั้นที่สามารถเข้าไปยังพื้นที่บริเวณนั้นได้ การที่วิญญาณพิทักษ์สวรรค์ถูกใช้ในการป้องกันพื้นที่ที่สำคัญระดับนั้น มันจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าอุปกรณ์ป้องกันชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลังมากแค่ไหน

วิญญาณพิทักษ์สวรรค์คือเครื่องป้องกันที่มีกลไกการป้องกันอยู่ทั้งหมด 3 ชั้น โดยกลไกป้องกันชั้นแรกคือการอำพรางทำให้พื้นที่ภายในบาเรียป้องกันกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม และไม่สามารถถูกตรวจพบได้แม้ว่าจะใช้เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดในจักรวาลก็ตาม

กลไกป้องกันอย่างที่ 2 คือบาเรียป้องกันมีความแข็งแกร่งสูงมาก และกลไกป้องกันที่ 3 คือกำแพงบาเรียนั้นสามารถจู่โจมโต้กลับผู้ที่พยายามโจมตีเข้าใส่บาเรียได้ ทำให้มันเป็นเครื่องป้องกันที่สามารถรุกและรับได้ในอุปกรณ์ชิ้นเดียว

แม้ว่าจะมีกลไกการป้องกันอยู่ถึง 3 ชั้น แต่วิญญาณพิทักษ์สวรรค์ก็มีขนาดเพียงแค่ประมาณ 1 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น มันจึงสามารถเก็บไว้ในแหวนมิติได้อย่างง่ายดาย และสามารถนำไปใช้งานได้อย่างสะดวกสบายเป็นอย่างมาก

สถานการณ์ในปัจจุบันเริ่มซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ และสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์สูงสุดก็ใกล้ที่จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว 

นอกจากนี้สิ่งมีชีวิตจากดาร์คไนท์ยังเริ่มเคลื่อนไหวเข้ามา การเลือกสินค้าชิ้นนี้มาจึงไม่เพียงแต่จะช่วยให้ชายหนุ่มสามารถปกป้องตัวเองได้เท่านั้น แต่มันยังสามารถนำไปปกป้องฐานทัพหลักของเขาอย่างดินแดนลับของเผ่าจักรกลได้อีกด้วย

ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะทำการเปิดกล่องโลหะกล่องที่ 2 ที่มีขนาดเล็กกว่ากล่องแรกอยู่มากพอสมควร

ของที่บรรจุอยู่ด้านในคือเครื่องมือแปลก ๆ ที่มีลวดลายลึกลับถูกสลักอยู่อย่างมากมาย แต่โดยรวมแล้วมันดูเป็นสิ่งของที่ไม่เหมือนเครื่องมือใด ๆ ภายในดินแดนกฎเลย

ยิ่งไปกว่านั้นอัลฟ่าก็ยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน เขาจึงไม่มีปฏิกิริยาแม้ว่าเซี่ยเฟยจะเปิดสินค้ากล่องที่ 2 ขึ้นมาแล้วก็ตาม

“นี่คือเทลออฟวิสดอม ระบบพิเศษที่เอาไว้สำหรับติดตั้งบนอาวุธ ซึ่งมันก็จะช่วยให้อาวุธทั้งหมดของผมบินได้อย่างใจต้องการ” เซี่ยเฟยกล่าวก่อนที่เขาจะติดตั้งอุปกรณ์ชิ้นนี้เข้ากับบลัดบิวเทียส แล้วมันก็ได้กลายเป็นดาบที่สามารถบินไปบินมาได้ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า

เมื่อระดับพลังของชายหนุ่มเพิ่มสูงขึ้นความสามารถในการใช้พลังจิตควบคุมของเขาก็อ่อนแอลงไปเรื่อย ๆ 

นอกจากนี้อุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการควบคุมด้วยพลังจิตอย่างวิญญาณหวนและดาบดราก้อนสเกลก็เป็นอุปกรณ์ระดับต่ำเกินกว่าศัตรูในปัจจุบันของเขาแล้ว พวกมันจึงไม่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกต่อไป

เมื่อมีเทลออฟวิสดอมชายหนุ่มก็สามารถต่อยอดแนวทางการใช้พลังจิตเพื่อควบคุมอาวุธต่อไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังทำให้บลัดบิวเทียสสามารถบินได้ด้วยความรวดเร็วในระดับที่สูงมากอีกด้วย

บลัดบิวเทียสคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุดของเซี่ยเฟยในปัจจุบัน และถ้าหากว่าดาบเล่มนี้สามารถบินได้อย่างอิสระ มันก็ยากจะจินตนาการว่าอาวุธชิ้นนี้จะกลายเป็นอาวุธที่ทรงพลังมากแค่ไหน

“นี่น่ะเหรอสมบัติชิ้นที่ 2 ที่นายเลือก” อัลฟ่าถามขึ้นมาอย่างประหลาดใจ

“มันช่วยให้ผมควบคุมอาวุธได้ตามต้องการแค่นั้นมันก็ดีพอแล้วไม่ใช่เหรอ?” เซี่ยเฟยถามกลับอย่างสงสัย

“แล้วสมบัติชิ้นที่ 3 ล่ะนายเลือกอะไรมา?” อัลฟ่าเลือกถามคำถามต่อไปโดยไม่ตอบคำถามของชายหนุ่ม

เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เพราะในตอนที่ได้เห็นวิญญาณพิทักษ์สวรรค์อัลฟ่าได้ส่งข้อความขึ้นมาอย่างตื่นเต้น แต่เมื่ออีกฝ่ายได้เห็นเทลออฟวิสดอมอัลฟ่ากลับดูแปลกประหลาดไปคล้ายกับว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเลือกสินค้าของเขาในคราวนี้

“ชิ้นที่ 3 คือยานเจมินี่” เซี่ยเฟยตอบ

“ยานเจมินี่!” คราวนี้อัลฟ่าได้ส่งข้อความกลับมาอย่างตื่นเต้น

ยานเจมินี่คือยานรบที่เร็วที่สุดในดินแดนกฎ ตัวยานประกอบไปด้วยยาน 2 ลำโดยเป็นยานขนาดใหญ่ 1 ลำและยานขนาดเล็กอีกหนึ่งลำ มันจึงได้ชื่อว่าเจมินี่ที่หมายถึงราศีคนคู่

จากข้อมูลที่ระบุไว้เจมินี่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1 ล้านปีแสงต่อชั่วโมง ทั้ง ๆ ที่ความเร็วโดยเฉลี่ยของยานประจัญบานภายในพันธมิตรอยู่ที่ 50,000 ปีแสงต่อชั่วโมงเท่านั้น หรือมันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าเจมินี่คือยานรบที่เร็วที่สุดในจักรวาล

“ทำไมนายถึงเลือกยานรบลำนี้มา การเดินทางด้วยเข็มทิศมิติไม่เร็วกว่างั้นเหรอ?” อัลฟ่าเริ่มถามคำถามแปลก ๆ

“ผมยอมรับว่าการเคลื่อนที่ผ่านเข็มทิศมิติหรือประตูมิติสะดวกและรวดเร็วกว่าการใช้ยานรบมาก แต่เข็มทิศมิติจำเป็นจะต้องใช้ในระหว่างที่ดินแดนกฎอยู่ในสภาวะปกติ เมื่อไหร่ก็ตามที่ดินแดนกฎถูกทำลายเข็มทิศมิติก็จะไม่สามารถใช้งานได้ด้วยเช่นกัน” เซี่ยเฟยตอบ

“นายกำลังคิดว่าวันหนึ่งดินแดนกฎจะล่มสลายลงงั้นเหรอ?” อัลฟ่าถามอีกครั้ง

“คราวนี้พวกเรากำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากนอกประตูจักรวาล แต่เผ่าพันธุ์สูงสุดทั้งสองเผ่าพันธุ์ก็ยังเลือกที่จะทำสงครามห้ำหั่นกัน ผมไม่สามารถควบคุมความคิดของคนอื่นได้ แต่ผมสามารถเตรียมตัวรับสถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นกับดินแดนกฎได้” เซี่ยเฟยตอบ

“เจมินี่เป็นยานรบที่รวดเร็วที่สุดในจักรวาล และมันก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะนำอะไรมาทดแทนได้ การแลกมันมาย่อมสร้างประโยชน์ให้กับนายอย่างแน่นอน แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมนายถึงเลือกเทลออฟวิสดอม”

“เท่าที่ฉันรู้เทลออฟวิสดอมทำได้เพียงช่วยให้นายควบคุมอาวุธได้อย่างอิสระเท่านั้น แต่ภายในรายการลับมีอาวุธชั้นยอดให้นายเลือกสรรอยู่ตั้งหลายชิ้น ทำไมนายถึงไม่เลือกอาวุธพวกนั้นแล้วมาเลือกอุปกรณ์เสริมชิ้นนี้แทน?” อัลฟ่าถามอย่างสงสัย

“ในรายการลับมีอาวุธชั้นยอดอยู่ 5 ชิ้น แต่ผมยังไม่เห็นอาวุธชิ้นไหนดีเหมือนกับบลัดบิวเทียสของผมเลย ในเมื่ออาวุธของผมดีอยู่แล้วผมก็แค่ต้องเสริมความสามารถให้กับมัน ไม่มีความจำเป็นที่ผมจะต้องหาอาวุธชิ้นใหม่ที่ไม่ได้ดีเท่ากับอาวุธชิ้นเดิม” เซี่ยเฟยตอบกลับขณะชั่งน้ำหนักบลัดบิวเทียสภายในมือ

บลัดบิวเทียสมีพลังในการกลืนกินพลังชีวิตของศัตรู การทำให้มันเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระจะทำให้อาวุธชิ้นนี้แสดงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างน่าหวาดกลัว

ยิ่งไปกว่านั้นโดยปกติบลัดบิวเทียสจะไม่สามารถส่งพลังงานกลับคืนมายังสมองของเขาได้ ถ้าหากว่าเขาปล่อยมือจากมันไป แต่เมื่อเขาได้ติดตั้งมันเข้ากับเทลออฟวิสดอม มันกลับทั้งสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและส่งพลังงานกลับคืนมายังสมองของเขาได้อีกด้วย พวกมันจึงเป็นเหมือนอุปกรณ์ที่เกิดขึ้นมาสำหรับกันและกันอย่างแท้จริง

ด้วยผลประโยชน์ที่สอดคล้องกับบลัดบิวเทียสแบบนี้นี่เอง มันก็อย่าว่าแต่อุปกรณ์ชิ้นนี้จะมีราคา 1,000 ล้านคะแนนเลย เพราะถึงแม้ว่าเขาจะต้องทุ่มเทคะแนนทั้งหมดเพื่อซื้อมันชิ้นเดียว เขาก็จะไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“นายฉลาดมากที่รู้ว่าไม่มีอาวุธชิ้นไหนมาแทนบลัดบิวเทียสได้ นายจึงเลือกที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับมันแทน” อัลฟ่าส่งข้อความมาอย่างเข้าใจ

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไรตอบกลับไป

“ยินดีด้วย” จู่ ๆ อัลฟ่าก็ส่งข้อความปริศนามาหาเซี่ยเฟย

“ยินดีด้วยเรื่องอะไร?” เซี่ยเฟยถามกลับด้วยความตกใจ

“ยินดีด้วยที่นายเลือกของ 3 อย่างที่สำคัญที่สุดในบรรดารายการลับทั้งหมด” อัลฟ่าส่งข้อความมาอีกครั้ง

“คุณกำลังหมายความว่ายังไง?!” เซี่ยเฟยสับสนมากยิ่งขึ้น

“นายรู้จักอาร์คไหม?” อัลฟ่าถามอย่างลึกลับ

“ความจริงแล้ววิญญาณพิทักษ์สวรรค์คือระบบป้องกันของอาร์ค ทางผู้ก่อตั้งบริษัทฟิกส์จึงได้แยกระบบป้องกันนั้นออกมากลายเป็นวิญญาณพิทักษ์สวรรค์ที่มีเพียงแค่ 2 ชิ้นในจักรวาลนั่นเอง”

“เทลออฟวิสดอมคืออุปกรณ์ที่เกิดจากการหลอมชิ้นส่วนอาร์คขึ้นมาใหม่ มันมีหน้าที่ในการช่วยเพิ่มการควบคุมให้กับนักรบและช่วยให้นักรบสามารถทำการต่อสู้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”

“เจมินี่ถูกสร้างขึ้นจากระบบขับเคลื่อนส่วนหนึ่งของอาร์ค ที่บริษัทฟิกส์ใช้เวลาเนิ่นนานมากกว่าที่จะสามารถฟื้นฟูระบบขับเคลื่อนพวกนี้กลับมาได้ มันจึงได้กลายเป็นยานรบที่มีความเร็วสูงสุดของจักรวาล” อัลฟ่าอธิบาย

เซี่ยเฟยอ้าปากกว้างขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะเขาไม่รู้เลยว่าสมบัติทั้งสามชิ้นที่เขาเลือกต่างก็ล้วนแล้วแต่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาร์คด้วยกันทั้งหมด

“ผมเคยเจอชิ้นส่วนอาร์คมาก่อน ไม่ใช่ว่าชิ้นส่วนอาร์คจะมีความผันผวนของพลังงานอย่างรุนแรงงั้นเหรอ? ทำไมอุปกรณ์ทั้งสามชิ้นนี้ถึงไม่มีความผันผวนของพลังงานแบบนั้นเลย” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย

“ทางบริษัทดูดซับพลังงานพวกนั้นไปตั้งนานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยานอาร์คยังถูกระเบิดออกมาหลายล้านชิ้นและมันก็ไม่ใช่ชิ้นส่วนทุกชิ้นที่จะมีพลังงาน” อัลฟ่าตอบ

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมผมถึงรู้สึกแปลก ๆ ที่แท้เทคโนโลยีของพวกมันก็สูงกว่าเทคโนโลยีในดินแดนกฎมาก แล้วมันก็เป็นเทคโนโลยีที่ติดมากับชิ้นส่วนของยานอาร์คนี่เอง” เซี่ยเฟยอุทานอย่างตื่นเต้น

“เดี๋ยวก่อนนะ! ถ้าคุณรู้ว่ายานอาร์คระเบิดออกเป็นหลายล้านชิ้น มันก็หมายความว่าคุณรู้เรื่องเกี่ยวกับยานอาร์คงั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยถามหลังจากตระหนักถึงอะไรบางอย่าง

“ใช่ ฉันรู้จักยานอาร์คเป็นอย่างดี” อัลฟ่าตอบกลับโดยไม่คิดที่จะปิดบัง

***************

รู้จักยานอาร์คเป็นอย่างดีหมายความว่า…