ตอนที่ 906 ศูนย์คะแนน
ตอนที่ 906 ศูนย์คะแนน
ในฐานะที่ฟลินน์เคยเป็นอดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยหลัก 4 ทักษะความสามารถในด้านเครื่องกลของเขาจึงจัดอยู่ในชั้นแนวหน้า และถึงม้าว่าเขาจะได้ประกอบหุ่นยนต์ตามพิมพ์เขียวของเซี่ยเฟยเป็นครั้งแรก แต่เขาก็ยังสามารถติดตั้งเครื่องยนต์กลไกทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ไม่จำเป็นจะต้องมีการแก้ไข
“รูปร่างหุ่นยนต์ตัวนี้มันไม่แปลกเกินไปหน่อยเหรอ? ชุดเกราะของมันก็ไม่มี, ระบบพลังงานก็ถูกโชว์ออกมาตรง ๆ แบบนี้ มันเท่ากับเป็นการประกาศบอกให้ศัตรูโจมตีเข้ามาชัด ๆ” ฟลินน์กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
ระบบพลังงานถือได้ว่าเป็นระบบที่มีความสำคัญสูงสุดของจักรกล เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ระบบพลังงานถูกทำลาย จักรกลเครื่องนั้นก็จะกลายเป็นอัมพาตในทันที การที่เซี่ยเฟยไม่ออกแบบการป้องกันระบบพลังงานเอาไว้จึงสร้างความสงสัยให้กับฟลินน์เป็นอย่างมาก
“พวกเราไม่ได้จะเอามันไปเข้าร่วมสงครามจริง ๆ สักหน่อย พวกเราแค่ต้องจัดแสดงมันต่อหน้าทุกคน ดังนั้นระบบป้องกันจึงไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่จะต้องติดตั้งเข้าไป” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฟลินน์พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจมากนัก เพราะอันที่จริงการติดตั้งการป้องกันพวกนั้นใช้เวลาเพียงแค่นิดเดียว แต่ในเมื่อเซี่ยเฟยไม่ต้องการที่จะติดตั้งระบบป้องกันเอาไว้จริง ๆ ฟลินน์ก็ไม่ต้องการที่จะแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกต่อไป
“คุณช่วยออกไปสักครู่หนึ่งได้ไหม ผมยังมีเรื่องจะต้องจัดการให้เรียบร้อย” เซี่ยเฟยกล่าว
“นี่นายไม่เชื่อใจฉันเหรอ? ฉันกล้ารับประกันว่าหุ่นยนต์ตัวนี้ตรงตามพิมพ์เขียวทุกประการ” ฟลินน์กล่าวถามอย่างสงสัย
ฟลินน์ถือได้ว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์คนหนึ่งเมื่อเขาได้ยินว่าเซี่ยเฟยกำลังจะทำการเปลี่ยนแปลงผลงานชิ้นอื่นของเขา มันจึงทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย
“คุณเข้าใจผิดแล้ว หุ่นยนต์ตัวนี้ไม่ได้มีข้อผิดพลาดเหมือนกับที่คุณได้บอกเอาไว้จริง ๆ แต่คุณสร้างมันขึ้นมาปราณีตเกินไป ผมจึงจำเป็นจะต้องเก็บซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ไม่ให้มันเตะตาศัตรู” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะใช้มือค่อย ๆ พยุงฟลินน์ไปที่ประตู
ฟลินน์ทั้งรู้สึกเข้าใจและไม่เข้าใจในเวลาเดียวกัน เพราะหุ่นยนต์ตัวนี้คือผลงานชิ้นที่ดีที่สุดตลอดทั้งชีวิตของเขา และเขาก็ไม่อยากจะให้ชายหนุ่มไปแตะต้องมันโดยที่เขาไม่ได้รับรู้เรื่องอะไรด้วยเลย
ความจริงเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซี่ยเฟยกำลังพยายามทำอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องเดินออกจากห้องโดยไม่เต็มใจ ซึ่งเขาก็ไม่ได้รู้เลยว่าการเดินออกจากห้องในครั้งนี้ มันจะทำให้เขาได้เห็นหุ่นยนต์ที่เขาสร้างขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากที่ชายหนุ่มทำการดัดแปลงหุ่นยนต์เพิ่มเติม เขาก็ไม่อนุญาตให้ฟลินน์เข้าไปภายในห้องเพื่อดูหุ่นยนต์อีกเลย
—
ในช่วงเช้าทีมเจ้าหน้าที่ของบริษัทก็นำกล่องบรรจุหุ่นยนต์ต่อสู้ออกไปสู่เวทีการแข่งขัน เพื่อเตรียมนำพวกมันเข้าร่วมการประมูลในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างสาขาอิสระและสาขานิรันดร์
“เมื่อคืนนายทำอะไร? ทำไมนายถึงไม่ให้ฉันเข้าไปดูมันหน่อยล่ะ? วันนี้เป็นวันประมูลแล้วนะ หลังจากมันถูกประมูลออกไปมันก็จะกลายเป็นของคนอื่น” ฟลินน์ถามอย่างไม่ค่อยพอใจ
“ตอนนี้คุณมีเทคโนโลยีการสร้างหุ่นนั้นแล้ว แค่คุณมีเวลาคุณจะสร้างมันขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้” เซี่ยเฟยกล่าวแย้ง
“แต่นายยังไม่ได้บอกขั้นตอนสำคัญที่สุดให้ฉันรู้เลยนะ ถึงแม้ฉันจะสร้างหุ่นยนต์เลียนแบบขึ้นมาได้ แต่มันก็ไม่สามารถลอกเลียนพลังพิเศษของนักรบได้” ฟลินน์กล่าว
“อย่าลืมว่าพวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ตราบใดก็ตามที่เราช่วยเหลืออัลฟ่าได้สำเร็จ มันก็อย่าว่าแต่เทคโนโลยีการสร้างหุ่นรบพลังพิเศษขึ้นมาเลย เพราะคุณจะได้เทคโนโลยีทุกอย่างตามที่คุณต้องการ แต่ถ้าหากว่ามันมีข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมา ในเวลานั้นผมก็พร้อมจะดึงคุณให้จมลงไปในน้ำพร้อมกับผมแน่นอน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
นี่คือสไตล์ของชายหนุ่มมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะถึงแม้ว่าเขาจะเผยความลับของตัวเองออกไป แต่เขาก็มักจะกักเก็บสิ่งที่สำคัญที่สุดเอาไว้เสมอ ความเจ้าเล่ห์ของเซี่ยเฟยไม่ใช่สิ่งที่ฟลินน์จะปรับตัวตามเขาทันได้ง่าย ๆ ดังนั้นจนกว่าภารกิจจะสำเร็จลุล่วงเขาก็ยังไม่เชื่อใจใครร้อยเปอร์เซ็นต์
—
สถานที่สำหรับการตัดสินด้วยการประมูลถูกตั้งอยู่ในอาคารทรงพีระมิดภายในบริษัทฟิกส์ โดยมันเป็นโดมที่สามารถรองรับผู้คนได้ประมาณ 3,000 คน ส่วนคนที่เหลือสามารถเข้าร่วมการประมูลผ่านระบบเสมือนจริงได้เท่านั้น
ความจริงแล้วทางบริษัทฟิกส์ก็มักจะมีการจัดประมูลลักษณะนี้เป็นระยะ ๆ คะแนนของบริษัทจึงมีค่าสูงกว่าคริสตัลต้นกำเนิดมาก และยิ่งพนักงานสะสมระดับบัญชีเพิ่มขึ้นไปมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งได้พบกับสินค้าดี ๆ มากขึ้นไปเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น ในตอนแรกพนักงานใหม่อาจจะเห็นว่าชุดเกราะต่อสู้มูลค่าหลายล้านคือผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดของบริษัท แต่เมื่อพวกเขาเปิดบัญชีระดับ 2 พวกเขาก็จะได้พบว่ามันมีชุดเกราะมูลค่าหลาย 10 ล้านแอบซ่อนอยู่ และเมื่อพวกเขาได้เปิดบัญชีไปจนถึงระดับ 3 พวกเขาก็จะได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างออกไปจากเดิม
กลยุทธ์การแสดงผลิตภัณฑ์แบบลำดับขั้นอันน่าตื่นเต้นนี่เอง มันจึงทำให้ทุกคนในบริษัทพยายามที่จะเก็บคะแนนอย่างบ้าคลั่งเพื่อที่มันจะทำให้พวกเขามีอำนาจสูงขึ้น
ตอนนี้ในบัญชีของเซี่ยเฟยมีคะแนนอยู่มากกว่า 13 ล้านคะแนน และมีสิทธิ์ทางบัญชีอยู่ในระดับ 3 อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่เริ่มจับจ่ายใช้สอยอย่างที่ควรจะเป็น เพราะเขารอให้ยอดคะแนนในบัญชีเกิน 100 ล้านเพื่อที่เขาจะมีสิทธิ์เข้าสู่บัญชีระดับ 4
เหล่าบรรดาศาสตราจารย์ทั้ง 11 คนของสาขาอิสระและศิษย์เอกของพวกเขาต่างก็ได้มารวมตัวกันรอบ ๆ บริเวณทางเข้า เซี่ยเฟยที่ยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนทั้ง 22 คนนี้จึงไม่ได้มีความโดดเด่นเลยแม้แต่น้อย
“วันนี้พวกเราจะต้องแสดงให้พวกวิทยาลัยเห็นว่าพวกเรามีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน!”
“ใช่ สาขาอิสระของพวกเราไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวประกอบ แต่แท้ที่จริงแล้วพวกเราคือสาขาที่ดีที่สุดของบริษัท”
“สาเหตุที่พวกเราไม่ได้ไปยุ่งกับวิทยาลัย ไม่ใช่เพราะว่าพวกเรากลัวพวกมัน แต่มันเป็นเพราะพวกเรารำคาญพวกมันต่างหาก”
ศิษย์อาจารย์จากสาขาอิสระต่างก็พูดคุยกันอย่างมากมาย และคำพูดของพวกเขาต่างก็ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง
ทันใดนั่นเองคนอีกกลุ่มก็เดินทางมาถึงแล้ว ซึ่งพวกเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกเสียจากสามยักษ์ใหญ่จากวิทยาลัยและทีมจากสาขานิรันดร์นั่นเอง
ทีมจากสาขานิรันดร์ต่างก็สวมชุดเครื่องแบบวิทยาลัยอย่างเต็มยศ ขณะที่คนจากสาขาอิสระสวมใส่เพียงแค่ชุดลำลองเท่านั้น ซึ่งการทำแบบนี้มันก็ถือว่ามันเป็นการแบ่งพรรคแบ่งพวกออกจากกันโดยสิ้นเชิง
ศิษย์คนโปรดที่เดินตามไลก้ามาคือคาเตอร์ผู้เสียหายที่สาบสูญไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน หลังจากที่ชายหนุ่มคนนี้ได้หายตัวไปอย่างลึกลับเป็นเวลานานกว่า 10 วัน ในที่สุดเขาก็กลับมากลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองอยู่เช่นเดิม
“ฉันได้ยินมาว่าพวกนายเตรียมของดีเอาไว้สำหรับการประมูลด้วยสินะ” ไลก้าเดินไปหยุดอยู่หน้าศาสตราจารย์ทั้ง 11 คนจากสาขาอิสระและพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเจ้าเล่ห์
“ใช่ พวกเราทุกคนต่างก็พยายามกันมาอย่างเต็มที่ พวกนายเตรียมตัวแพ้เอาไว้ได้เลย”
ศาสตราจารย์จากทางฝั่งสาขาอิสระพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ ในระหว่างนั้นฟลินน์ต้องการที่จะเดินออกไปเพื่อขัดจังหวะ แต่เซี่ยเฟยกลับหยุดเขาเอาไว้และส่ายหัวอย่างเงียบ ๆ
“มันไม่สำคัญหรอกว่าวันนี้พวกแกจะเตรียมอะไรมา แต่หนึ่งสิ่งที่สำคัญคือในวันนี้พวกแกทุกคนจะต้องตาย! หลังจากการแข่งขันในครั้งนี้จบลงถึงแม้พวกแกจะคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตา แต่สุดท้ายพวกแกก็จะถูกกำจัดออกไปอยู่ดี” ไลก้ากวาดสายตามองทุกคนอย่างเย็นชา ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะหยุดลงในระหว่างการมองไปที่เซี่ยเฟย
ในเวลาเดียวกันคาเตอร์ที่อยู่ด้านหลังชายชราก็เริ่มเคลื่อนไหว โดยการนำนิ้วโป้งขึ้นมาทำท่าเชือดคอตัวเองเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้เซี่ยเฟยรู้ว่า
คราวนี้แกตายแน่!
หลังจากคำพูดอันหยิ่งผยองของไลก้าจบลง ต่อจากนั้นมันก็กลายเป็นสงครามน้ำลายแต่เซี่ยเฟยยังคงยืนอยู่นิ่ง ๆ อย่างใจเย็น
ในที่สุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ต้องเข้ามาแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน ก่อนที่จะให้คนจากสาขาอิสระและสาขานิรันดร์ยืนคนละฝั่งกันโดยสิ้นเชิง
“ดูนั่นสิ พวกตัวตลกจากสาขาอิสระกำลังก่อเรื่องอีกแล้ว”
“พวกเขากล้าดียังไงถึงก่อกบฏกับวิทยาลัย คนพวกนี้ช่างเป็นพวกเนรคุณจริง ๆ”
ในระหว่างนั้นฝูงชนก็ชี้นิ้วมายังสาขาอิสระพร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาอย่างสนุกปาก เพราะท้ายที่สุดผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากสาขาอิสระในบริษัทมีจำนวนอยู่น้อยมาก พนักงานส่วนใหญ่จึงให้การสนับสนุนไปทางฝั่งวิทยาลัยมากกว่า
“ดูเหมือนว่าการแข่งขันในครั้งนี้มันจะไม่ใช่การแข่งขันที่ยุติธรรมตั้งแต่แรกแล้วสินะ” ฟลินน์กล่าวพร้อมกับถอนหายใจหลังจากที่เขาได้เห็นปฏิกิริยาของฝูงชน
“จักรวาลนี้มันไม่เคยมีความยุติธรรมตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ แต่รอดูเถอะสุดท้ายผลลัพธ์มันก็จะออกมาเป็นเหมือนเดิม” เซี่ยเฟยกล่าว
—
การประมูลดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยสินค้าชิ้นแรกที่ถูกนำมาประมูลคือสินค้าจากสาขาอิสระ
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลา 2 นาทีระหว่างที่สินค้าชิ้นนี้ถูกนำขึ้นมาประมูล มันกลับไม่มีใครเสนอราคาสำหรับระบบกำจัดหลุมดำเลยแม้แต่คนเดียว
แม้ว่าระบบกำจัดหลุมดำนี้จะไม่สามารถกำจัดหลุมดำได้โดยสิ้นเชิง แต่อุปกรณ์ที่ติดตั้งระบบกำจัดหลุมดำเอาไว้ก็สามารถเปิดระบบเพื่อต้านทานแรงดึงดูดอันมหาศาลของหลุมดำได้ อุปกรณ์ชิ้นนี้จึงถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์มากพอสมควร
หากระบบนี้หลุดออกไปยังโลกภายนอก มันย่อมมีราคามากกว่า 10 ล้านคริสตัลฟ้าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ภายในการประมูลของบริษัทฟิกส์ มันกลับไม่มีใครเต็มใจจะเสนอคะแนนขึ้นมาประมูลเลยแม้แต่คะแนนเดียว
เมื่อค้อนครั้งสุดท้ายของพิธีกรถูกทุบลง การประมูลของสาขาอิสระครั้งแรกก็จบลงด้วยการประมูล 0 คะแนน
เหตุการณ์นี้ทำให้ศาสตราจารย์ทั้ง 11 คนของสาขาอิสระยืนนิ่งอย่างตกตะลึง ขณะที่ศาสตราจารย์ผู้เป็นคนริเริ่มสร้างระบบกำจัดหลุมดำขึ้นมาถึงกับหน้ามืดจนเกือบจะเป็นลม
“นี่มันโกงกันชัด ๆ มันจะต้องมีการเตรียมการก่อนการแข่งขันแล้วแน่ ๆ!” ศาสตราจารย์ผู้คิดค้นระบบกำจัดหลุมดำส่งเสียงคำรามออกมาเสียงดัง
น่าเสียดายสิ่งที่เขาได้รับกลับมามีเพียงแค่แววตาที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยเท่านั้น ราวกับว่าคนทั้งบริษัทกำลังมองพวกเขาเป็นตัวตลก
สินค้าชิ้นที่ 2 คือเลเซอร์พลังงานสูงจากสาขานิรันดร์ ที่ผู้สร้างอ้างว่ามันสามารถตัดโลหะชนิดใดในจักรวาลแห่งนี้ได้ ซึ่งในมุมมองของเซี่ยเฟยอุปกรณ์ชิ้นนี้ยังห่างไกลจากระบบกำจัดหลุมดำมากพอสมควร แต่ถึงกระนั้นมันกลับถูกขายออกไปในราคาที่สูงถึง 15 ล้านคะแนน
การประมูลนี้มันเต็มไปด้วยกับดักตั้งแต่แรก แล้วมันยังเป็นกับดักที่หมายมั่นจะสับสาขาอิสระให้เป็นชิ้น ๆ
เมื่อการประมูลสินค้าชิ้นที่ 12 ได้จบลง สินค้าจากทางฝั่งสาขานิรันดร์ก็ได้รับคะแนนไปแล้วถึง 120 ล้านคะแนน ขณะที่คะแนนจากทางฝั่งสาขาอิสระยังคงเป็นศูนย์อยู่เช่นเดิม
ไลก้าหันศีรษะมองมาทางเซี่ยเฟยอย่างเย้ยหยันราวกับว่าเขาต้องการแสดงพลังเพื่อเอาชนะชายหนุ่มคนนี้ให้ได้อย่างย่อยยับ
“พวกแกหาเรื่องฉันก่อนเองนะ” เซี่ยเฟยแอบส่ายหัวช้า ๆ พร้อมกับกลิ่นอายของจิตสังหารอันบ้าคลั่งที่ปรากฏขึ้นมาในแววตาของเขา
***************
พี่เฟยจะพลิกเกมยังไงกันแน่นะ? สินค้าตัวนั้นต้องราคาขนาดไหนถึงจะพลิกเกมได้ขนาดนี้
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 352
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น