ตอนที่ 907 วอร์สตาร์เวอร์ชั่นปรับปรุง
ตอนที่ 907 วอร์สตาร์เวอร์ชั่นปรับปรุง
สถานการณ์ในปัจจุบันทำให้สมาชิกของสาขาอิสระรู้สึกหดหู่มาก เพราะไม่ว่าพวกเขาจะนำเสนอสินค้าที่ดีมากแค่ไหน แต่ผลลัพธ์สุดท้ายมันก็จะจบลงด้วยการที่ไม่มีใครยอมเสนอคะแนนประมูลสินค้าพวกนั้นเลย
การแข่งขันครั้งนี้คล้ายกับจะถูกวางแผนเอาไว้เป็นอย่างดี และสาขาอิสระก็ถูกกำหนดให้เป็นผู้พ่ายแพ้ตั้งแต่การแข่งขันยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น
ในพริบตาสินค้าได้ถูกประมูลไปแล้วทั้งสิ้น 20 ชิ้น สาขานิรันดร์จึงนำโด่งมาด้วยคะแนน 260 ล้านคะแนน ขณะที่สาขาอิสระยังคงมี 0 คะแนนอยู่เช่นเดิม
“จบแล้ว มันจบแล้ว!” ศาสตราจารย์จากสาขาอิสระร้องครวญครางขึ้นมาอย่างสิ้นหวัง เนื่องมาจากว่าเขาไม่สามารถรับผลการแข่งขันที่นำห่างในลักษณะนี้ได้
ศาสตราจารย์จากสาขาอิสระรู้ดีว่าทางฝั่งของสาขานิรันดร์ยังคงมีเครื่องปฏิสสารเก็บงำเอาไว้ อุปกรณ์ชิ้นนี้ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ชั้นนำในดินแดนกฎอย่างแท้จริง และราคาของมันก็ไม่ควรจะต่ำกว่า 500 ล้านคะแนน
ไพ่เด็ดที่สุดของสาขาอิสระคือหุ่นยนต์ต่อสู้อัจฉริยะของเซี่ยเฟย และถึงแม้ว่ามันจะมีพลังในการลอกเลียนพลังพิเศษได้ แต่หุ่นยนต์เพียงตัวเดียวจะสามารถชดเชยช่องว่างที่พวกเขาตามหลังอยู่มากกว่า 700 ล้านคะแนนได้จริง ๆ เหรอ
สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือตอนนี้พนักงานทั่วทั้งบริษัทเลือกอยู่เคียงข้างสาขานิรันดร์โดยสมบูรณ์ ไม่ว่าผลงานของเซี่ยเฟยจะน่าตื่นตาตื่นใจมากเพียงใด แต่ผลลัพธ์สุดท้ายมันก็คงจะจบลงที่ 0 คะแนนอยู่เหมือนเดิม
ฟลินน์กัดฟันกำหมัดลุกยืนขึ้นเตรียมพร้อมจะพุ่งตัวออกไปชกเข้าใส่หน้าเหล่าบรรดาผู้คนที่กำลังหัวเราะเยาะพวกเขา
“พวกเรายังไม่แพ้จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย” เซี่ยเฟยกล่าวขณะยื่นมือออกไปจับชายชราไว้
“นายยังคิดว่าพวกเรามีความหวังจะกลับมาชนะได้อีกเหรอ?! นายลองมองไปรอบ ๆ สิไอ้แก่พวกนั้นใช้อิทธิพลของตัวเองควบคุมการประมูลนี้เอาไว้แล้วชัด ๆ ถึงแม้การแข่งขันจะดำเนินต่อไปแต่มันก็ยิ่งทำให้พวกเราอับอายมากกว่าเดิม” ฟลินน์กล่าวด้วยน้ำเสียงอันเศร้าสร้อย
“คุณลองคิดดูดี ๆ สถานการณ์นี้ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในการคาดหมายของคณะกรรมการบริษัทจริง ๆ เหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นายกำลังบอกว่าทางคณะกรรมการมีข้อพิจารณาอื่นด้วยงั้นเหรอ?” ฟลินน์กระซิบถามขึ้นมาอย่างแผ่วเบา
เซี่ยเฟยเปิดหน้าจอขึ้นมาก่อนที่เขาจะชี้นิ้วไปยังรายชื่อบางส่วนแล้วพูดขึ้นมาว่า
“คุณลองดูชื่อคนพวกนี้ให้ดี ๆ พวกเขาไม่เคยมีประวัติในบริษัทมาก่อน แต่พวกเขากลับสามารถเข้าร่วมการประมูลภายในของบริษัทได้ หรือมันก็หมายความว่าพวกเขาทำการปลอมแปลงตัวตนก่อนที่จะเข้ามาภายในงานประมูล คนกลุ่มนี้แหละที่จะเป็นกุญแจสำคัญตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ที่ได้รับชัยชนะหรือใครจะเป็นผู้ที่ได้รับความพ่ายแพ้”
ฟลินน์รีบจ้องมองไปยังรายชื่อบนหน้าจออย่างระมัดระวัง และเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าในระหว่างที่ทุกคนกำลังเต็มไปด้วยความกังวล แต่เซี่ยเฟยกลับใช้เวลานั้นในการวิเคราะห์รายชื่อผู้เข้าร่วมการประมูลอย่างเงียบ ๆ
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังใช้ฟังก์ชั่นการค้นหาของระบบเพื่อระบุรายชื่อของผู้ที่ไม่ได้มีประวัติอยู่ในบริษัทอีกด้วย
จู่ ๆ ชายชราก็หน้าแดงขึ้นมาด้วยความอับอาย ซึ่งเรื่องนี้มันก็อาจจะเป็นความแตกต่างระหว่างคนทั่วไปกับผู้ที่จะประสบความสำเร็จ
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังไม่พอใจและพูดจาตัดพ้อในเรื่องต่าง ๆ นานา แต่เซี่ยเฟยกลับไม่หยุดคิดเลยแม้แต่วินาทีเดียว และยังพยายามค้นหาวิธีชนะท่ามกลางสถานการณ์ที่ผู้อื่นมองว่าเป็นวิกฤต
นี่คือความหมายของคำว่าอย่ายอมแพ้ ถึงแม้ว่ามันจะมีโอกาสได้รับชัยชนะเพียงแค่เล็กน้อย แต่พวกเขาก็จะต้องค้นหาโอกาสนั้นให้เจอให้ได้
“คนพวกนั้นคือคณะกรรมการบริษัทงั้นเหรอ?” ฟลินน์ถามขณะค่อย ๆ นั่งลง
“ทางคณะกรรมการไม่จำเป็นจะต้องปรากฏตัวขึ้นมาหรอกครับ ผมคิดว่าบางทีพวกเขาอาจจะเป็นทีมวิจัยลับของบริษัทนี้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“ทีมวิจัยลับ!” ฟลินน์สะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะทีมวิจัยลับถือได้ว่าเป็นตำนานของบริษัท
ทีมวิจัยลับคือกลุ่มนักวิจัยที่โดดเด่นที่สุดในจักรวาล มันไม่มีใครรู้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้กำลังทำการวิจัยในเรื่องอะไรอยู่ และมันก็ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่ระบุถึงการมีอยู่ของคนกลุ่มนี้
หากจะบอกว่าศูนย์เทคโนโลยีคือเป้าหมายของนักวิจัยทุกคนภายในบริษัท กลุ่มวิจัยลับของบริษัทก็คงจะเป็นความฝันสูงสุดที่พวกเขาอยากจะเอื้อมมือไปถึง
“ทีมวิจัยลับ!? ทีมวิจัยลับกำลังดูการประมูลครั้งนี้อยู่ พวกเราควรจะทำยังไงกันดี?” แม้ว่าฟลินน์จะมีอายุมากแล้ว แต่เมื่อได้ยินว่าคนกลุ่มนั้นอาจจะเป็นทีมวิจัยลับเขาก็เริ่มตัวสั่นอย่างลนลาน ซึ่งมันแสดงให้เห็นเป็นอย่างดีว่าชื่อเสียงของทีมวิจัยลับส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนนอกมากแค่ไหน
“อยู่นิ่ง ๆ อย่าพึ่งตื่นตระหนก เชื่อผมเถอะว่าหุ่นรบของเราสามารถพลิกแพลงสถานการณ์ในครั้งนี้ได้” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างแน่วแน่
—
“สินค้าชุดต่อไปจะเป็นสินค้าชุดสุดท้ายของการประมูลในวันนี้แล้ว พวกเราได้รับเกียรติจากผู้อำนวยการไลก้าจะมาทำการสาธิตอุปกรณ์ชิ้นนี้ด้วยตัวเอง” พิธีกรการประมูลประกาศอย่างตื่นเต้น
เมื่อไลก้าลุกยืนขึ้นมันก็มีเสียงเชียร์ดังกระหึ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านอกเหนือจากคนของสาขาอิสระแล้ว พนักงานทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้สนับสนุนวิทยาลัยด้วยกันทั้งหมด
ไลก้าลุกยืนขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบเสียงลงและเดินขึ้นไปสู่เวทีการประมูล
ในเวลานี้บนลานประมูลถูกวางเอาไว้ด้วยอาวุธที่ค่อนข้างใหญ่ โดยมันมีลักษณะเป็นปืนใหญ่ที่มีด้ามจับสองด้ามและมันก็คือเครื่องปฏิสสารที่ไลก้าภาคภูมิใจ
เครื่องปฏิสสารเป็นเครื่องมือที่ควบคุมปฏิกิริยาได้ยากลำบากเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากว่ามันหลุดจากการควบคุมขึ้นมา สถานะต่อไปของมันคือการก่อให้เกิดหลุมดำอันน่ากลัว นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่จึงพยายามหาวิธีควบคุมปฏิกิริยานี้เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในเรื่องต่าง ๆ
ด้วยเหตุนี้ปืนใหญ่ภายในมือของไลก้าที่สามารถสร้างปฏิกิริยาปฏิสสารขึ้นมาได้ ถ้าหากว่ามันถูกยิงเข้าใส่อะไรสักอย่างโมเลกุลของสสารเป้าหมายก็จะแตกสลายในทันที
ไม่นานหลังจากนั้นก็มีพนักงานนำแผ่นเกราะของยานรบมาตั้งไว้บนเวที ซึ่งเศษซากยานอวกาศเหล่านี้สามารถหาพบได้โดยทั่วไป
ต่อมาไลก้าก็เริ่มปรับแต่งอุปกรณ์ภายในมือ ขณะที่ทุกคนกลั้นใจเฝ้ารอชมผลงานของอุปกรณ์ชิ้นนี้อย่างเงียบ ๆ
ปุ้ง!
ลูกบอลพลังงานสีดำถูกยิงออกไปจากเครื่องปฏิสสารอย่างรวดเร็ว และในทันทีที่ลูกบอลพลังงานนี้ตกกระทบกับเป้าหมาย แผ่นเกราะที่มีน้ำหนักหลายสิบตันก็สลายหายไปในเวลาไม่ถึง 1 ใน 10,000 วินาที
วินาทีต่อมาเมฆบนท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้ม ซึ่งสถานการณ์ต่อจากนี้เป็นสถานการณ์ที่สำคัญที่สุด เพราะสิ่งที่ยากที่สุดของการใช้ปฏิกิริยาปฏิสสารคือเราจะหยุดปฏิกิริยาไม่ให้มันก่อเกิดเป็นหลุมดำได้อย่างไร
หากลูกบอลสีดำมีความไม่เสถียรและเริ่มแพร่กระจายแรงทำลายออกเป็นวงกว้าง ในเวลานั้นมันก็จะหมายความว่าเครื่องปฏิสสารของไลก้าไม่สามารถทำงานของมันได้อย่างสมบูรณ์
ในระหว่างที่สมาชิกของสาขาอิสระกำลังเริ่มมีความหวัง เมฆดำบนท้องฟ้าก็ค่อย ๆ สลายหายไปกลับกลายเป็นสถานการณ์ปกติในเวลาเพียงแค่ไม่นาน
เฮ้!
ผู้ชมทั้งหมดต่างก็ส่งเสียงเชียร์ขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ไลก้าจึงยืดอกรับคำชมอย่างภาคภูมิใจ ขณะมองไปทางบุคลากรของสาขาอิสระด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง
“มันเป็นการควบคุมที่สมบูรณ์แบบมาก! แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าเครื่องปฏิสสารที่แท้จริง เราทุกคนต่างก็รู้กันดีว่าการสลายปฏิกิริยาปฏิสสารเป็นสิ่งที่ยากที่สุด แต่ผู้อำนวยการไลก้าก็สามารถสลายปฏิกิริยาปฏิสสารได้อย่างสมบูรณ์” พิธีกรกล่าวยกยอขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ซึ่งเซี่ยเฟยก็สามารถรู้ได้โดยไม่ต้องสืบว่าผู้ชายคนนี้ก็เป็นคนของไลก้าด้วยเหมือนกัน
“เอาล่ะครับถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องเสนอราคาแล้ว เชื่อผมเถอะว่าอุปกรณ์เครื่องนี้คุ้มค่ากับทุก ๆ คะแนนของทุกคนอย่างแน่นอน”
ก่อนที่พิธีกรจะพูดจบตัวเลขประมูลบนหน้าจอก็เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ในระหว่างที่ฟลินน์กับศาสตราจารย์จากสาขาอิสระคนอื่น ๆ ต่างก็แสดงสีหน้าออกมาอย่างน่าเกลียด
1,000 ล้านคะแนน!
เพียงแค่ช่วงเริ่มต้นของการประมูล มันก็มีคนเสนอราคามาแล้วถึง 1,000 ล้านคะแนน หรือมันก็หมายความว่าคะแนนนี้มีมูลค่าเทียบเท่ากับการตอบคำถามที่ยากที่สุดของบริษัทครบทั้ง 100 ข้อ
ยิ่งไปกว่านั้นการมีคะแนน 1,000 ล้านคะแนนมันก็หมายความว่าคนคนนั้นจะเข้าดูบัญชีระดับ 5 ของบริษัท ซึ่งสินค้าทุกชิ้นที่ถูกวางอยู่ในบัญชีระดับนั้นต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นสมบัติของบริษัททั้งหมด
คะแนนประมูล 1,000 ล้านคะแนนทำให้ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แต่ในทันใดนั้นมันก็มีร่าง ๆ หนึ่งเดินขึ้นมาบนเวทีการประมูล
“นายกลับไปนั่งที่นั่งของตัวเองดีกว่า นายไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้หรอก” พิธีกรโบกมือไล่เซี่ยเฟยกลับไปอย่างไร้ปรานี
ฮ่า ๆ ๆ ๆ
พนักงานทุกคนต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ขณะที่ไลก้ากับผู้อำนวยการทั้งสองกำลังเผยรอยยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ
แต่ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะยืนอยู่ท่ามกลางสายตาอันดูถูก แต่เขาก็ยังคงเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเย็นชา จนทำให้ทุกคนรู้สึกสับสนว่าชายคนนี้ไปเอาความมั่นใจในตัวเองมาจากไหน
“ผู้อาวุโส ผมมีของบางอย่างต้องการจะนำมาโชว์ คุณพอจะให้เกียรติผมโชว์ผลงานของตัวเองบ้างได้ไหมครับ?” เซี่ยเฟยหันไปพูดกับไลก้าด้วยความเคารพ
เหตุการณ์นี้ทำให้ชายชรารู้สึกงุนงงอยู่เล็กน้อย เพราะเขากับเซี่ยเฟยมีความบาดหมางกันอย่างชัดเจน การที่อีกฝ่ายแสดงความเคารพออกมาแบบนี้ มันก็หมายความว่าชายหนุ่มจะต้องมีแผนการร้ายซ่อนอยู่แน่ ๆ
อย่างไรก็ตามที่ตรงนี้ก็มีผู้ชมอยู่อย่างมากมาย ซึ่งในฐานะที่เขาเป็นผู้อำนวยการของวิทยาลัย การปฏิเสธคำขอของเซี่ยเฟยต่อหน้าของทุกคนมันก็ดูจะเป็นเรื่องที่หยาบคายมากเกินไปหน่อย
“เอาสิ ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าวันนี้นายจะเอาอะไรมาโชว์” ไลก้ากล่าวพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย
“เชื่อผมเถอะว่าทุกคนจะต้องจดจำช่วงเวลาในวันนี้ไปตลอดชีวิต” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนที่พนักงานจะขนกล่องโลหะขนาดใหญ่ขึ้นมาบนเวทีประมูล ชายหนุ่มจึงเดินไปปลดตัวล็อกของกล่องโลหะโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ปัง!
เมื่อตัวกล่องถูกเปิดออกวอร์สตาร์รุ่นปรับปรุงก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของทุกคน และถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะแสดงท่าทีเคารพต่อไลก้า แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีใครเคยรู้ว่าศัตรูที่เซี่ยเฟยให้ความเคารพต่างก็ล้วนแล้วแต่ตกตายอย่างน่าสังเวชทั้งหมด
***************
เปิดฉากการต่อสู้กลับ!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 374
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น