ตอนที่ 870 เงื่อนไขของบรรพบุรุษ

-A A +A

ตอนที่ 870 เงื่อนไขของบรรพบุรุษ

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 870 เงื่อนไขของบรรพบุรุษ 

โดยปกติรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเซี่ยเฟยมักจะปรากฏเมื่อชายหนุ่มมีแผนการภายในใจ โอโร่จึงพยายามถามเหตุผลซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่เขากำลังจะไปเกิดใหม่อีกครั้ง

“ทำไมนายถึงไม่คิดว่าพวกเราจะเป็นศัตรูกัน?”

“ทำไมนายถึงมั่นใจขนาดนั้น?”

เซี่ยเฟยยังคงเผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่พูดอะไร จากนั้นเขาก็เปิดเข็มทิศมิติเดินทางไปยังดวงดาวภายในแดนเนรเทศ ก่อนที่เขาจะชี้นิ้วไปยังภูเขาที่อยู่ห่างไกลและพูดขึ้นมาว่า

“ผมจำได้ว่าคุณเกลียดดวงดาวที่แห้งแล้ง ดาวดวงนี้พอจะใช้งานได้ใช่ไหม?”

 โอโร่หันไปมองทิวทัศน์อันห่างไกล ก่อนที่เขาจะได้พบกับภูเขาและทะเลสาบอันสวยงาม เขาจึงพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงว่าเขาก็ชอบดาวดวงนี้อยู่เหมือนกัน

“นายยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลย อย่าบอกนะว่านายกำลังจะฆ่าปิดปากฉัน เพราะว่าฉันรู้ความลับของนายมากเกินไป?” โอโร่กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

เขาเคยเห็นวิธีการลงมือของเซี่ยเฟยมาแล้วหลายครั้ง เขาจึงสามารถยืนยันได้เลยว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นคนที่โหดเหี้ยมมาก เมื่อไหร่ก็ตามที่เซี่ยเฟยตัดสินใจแล้วชายหนุ่มจะไม่ลังเลใด ๆ อีกเรื่องหนึ่งคือเซี่ยเฟยเป็นคนที่เจ้าเล่ห์มากด้วยเช่นกัน

ด้วยการที่โอโร่อยู่ติดกับเซี่ยเฟยเกือบตลอดเวลา มันจึงทำให้เขาได้รู้ความลับเรื่องกฎแห่งความเร็วของตระกูลสกายวิง รู้ว่าเซี่ยเฟยมีความสัมพันธ์อะไรกับเทพขาวและเทพดำ ที่สำคัญคือเขารู้ว่าชายหนุ่มได้ฝึกฝนกฎอะไรบางอย่างที่มีความแปลกประหลาดผิดไปจากธรรมชาติของพลังปกติ

เซี่ยเฟยให้ความสำคัญกับการเก็บความลับมาโดยตลอด ใครจะไปรู้ว่าสาเหตุที่ชายหนุ่มเลือกดวงดาวที่เขาชอบเพื่อลงมือแบบนี้ มันก็อาจจะเป็นเพราะเซี่ยเฟยต้องการจะใช้บลัดบิวเทียสดูดพลังชีวิตของเขาจนเหือดแห้งไปก็ได้

“คุณรู้ความลับของผมแล้วแต่ผมก็เกรงว่าคุณอาจจะไม่เข้าใจในประเด็นสำคัญ เหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงไม่กลัวในระหว่างที่คุณไปกับผม นั่นก็เพราะว่าผมรู้ความลับของคุณมากกว่าที่คุณรู้ความลับของผม” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์

โอโร่สะดุ้งขึ้นมาในทันที เพราะเขาไม่เข้าใจว่าเซี่ยเฟยกำลังจะสื่อถึงอะไร

“ถ้าผมเดาไม่ผิด เผ่ามารน่าจะใช้เรื่องกฎแห่งชีวิตเป็นข้อแก้ตัวในการจัดการกับคุณ ถ้าหากว่าผมปล่อยข่าวเรื่องที่คุณครอบครองกฎแห่งชีวิตออกไป ในตอนนั้นไม่เพียงแต่คุณจะถูกจัดการ แต่เผ่าไลอ้อนฮาร์ททั้งเผ่าพันธุ์ก็คงจะถูกจัดการไปพร้อมกับคุณด้วย” เซี่ยเฟยเริ่มอธิบาย

ใบหน้าของโอโร่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปยังฉับพลัน เพราะสิ่งที่เซี่ยเฟยพูดไม่ต่างไปจากความจริงเลยแม้แต่นิดเดียว

เมื่อไหร่ก็ตามที่มันมีหลักฐานหลุดออกไปว่าเขาคือคนที่ได้ครอบครองกฎแห่งชีวิต ในเวลานั้นอันตรายมันก็จะไม่ได้ส่งผลกระทบกับเขาเท่านั้น แต่มันจะส่งผลกระทบต่อเผ่าไลอ้อนฮาร์ทหมดทั้งเผ่าพันธุ์อีกด้วย

“นอกจากนี้เมื่อคุณต้องไปเกิดใหม่ มันก็หมายความว่าคุณไม่สามารถเอาแหวนราชันย์สิงโตติดตัวไปด้วยได้ ในเมื่อคุณทิ้งแหวนเอาไว้กับผม มันก็หมายความว่าอีกไม่นานคุณก็จะต้องกลับมาหาผมแน่นอน”

คำอธิบายของเซี่ยเฟยทำให้โอโร่พูดไม่ออกอีกครั้ง เพราะถ้าหากว่าเซี่ยเฟยลงมือสังหารเขาจริง ๆ ทุกสิ่งที่เขาครอบครองอยู่ในปัจจุบันก็จะตกอยู่ในมือของชายหนุ่มด้วยเช่นกัน 

ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะเกิดใหม่ แต่มันก็ไม่มีทางที่ใครจะจดจำเขาได้ถ้าหากว่าเขาไม่มีแหวนราชันย์สิงโต การที่เซี่ยเฟยยึดครองแหวนราชันย์สิงโตไว้ มันจึงกลับกลายเป็นไพ่ตายใบที่ 2 ที่ทำให้เขาไม่สามารถเผยความลับใด ๆ ของชายหนุ่มออกไปได้

เพียงแค่การเปิดเผยความลับออกมา 2 เรื่อง มันก็เพียงพอจะทำให้โอโร่ตัวสั่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว และด้วยนิสัยของเซี่ยเฟยการที่เขากล้าบอกความลับออกมาแบบนี้ มันก็หมายความว่าเขาจะต้องมีไพ่ลับใบที่ 3 หรือใบที่ 4 เก็บซ่อนเอาไว้อยู่อย่างแน่นอน

“เอาล่ะนี่คือเหตุผลที่ผมบอกว่าพวกเราย่อมไม่เป็นศัตรูต่อกัน แต่เนื่องมาจากว่าถ้าคุณกลับมามีอิสระอีกครั้ง คุณก็คงไม่สามารถกลับมาหาผมในเผ่าเทพได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมมีปัญหาเมื่อนั้นผมจะกลับไปขอความช่วยเหลือกับคุณที่เผ่ามารเอง ถ้าคุณเข้าใจทุกอย่างแล้วก็เตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อม ผมจะเริ่มลงมือจัดการกับคุณแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างจริงจัง

เมื่อเซี่ยเฟยพูดความจริงออกมา มันก็ทำให้โอโร่รู้สึกผิดอยู่เล็กน้อยที่เขาแอบเข้าใจเจตนาของชายหนุ่มผิดไป จากนั้นเขาก็แอบตัดสินใจอย่างลับ ๆ ว่าเขาจะยังคงปกป้องเซี่ยเฟยต่อไป ไม่ว่ายังไงพวกเขาทั้งคู่ก็เป็นสหายที่ดีต่อกันมาเป็นเวลานาน

หลังจากนั้นโอโร่กับเซี่ยเฟยก็ตกลงรหัสลับเพื่อให้โอโร่สามารถเรียกคืนแหวนราชันย์สิงโตได้ในอนาคต เพราะหลังจากการเกิดใหม่รูปลักษณ์ของเขาก็จะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม มันจึงจำเป็นจะต้องมีรหัสลับมายืนยันว่าคนที่มาขอแหวนคืนนั้นคือเขาจริง ๆ

“คุณพร้อมแล้วหรือยัง?” เซี่ยเฟยถามขณะนำโลงศพน้ำแข็งของโอโร่ออกมาวางไว้บนพื้น

โอโร่พยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร ซึ่งในตอนนี้หัวใจของเขากำลังเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น

“ลาก่อนสหาย” ทันทีที่พูดจบเซี่ยเฟยก็ใช้กฎแห่งความโกลาหลจู่โจมเข้าใส่โอโร่อย่างแรง

ตูม!

กฎแห่งแสงที่กักขังโอโร่อยู่นั้นถูกพังทลายลงอย่างฉับพลัน และทำให้ร่างของโอโร่ที่ถูกกักขังไว้ด้านในแลกสลายลงเป็นชิ้น ๆ

ในที่สุดจอมมารเกราะดำแห่งเผ่ามารก็ได้มีโอกาสกลับไปเกิดใหม่สมใจเจ้าตัวแล้ว!

ไม่กี่นาทีต่อมาเซี่ยเฟยก็ทิ้งตัวลงบนพื้นหญ้า ก่อนที่จะหยิบของที่โอโร่ทิ้งไว้ขึ้นมาเล่นบนมือ

“มีของดี ๆ อยู่เยอะเหมือนกันนี่” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะเก็บของทุกชิ้นเข้าไปในแหวนมิติ

“ตัวคุณเองไม่ได้ฝึกฝนกฎแห่งชีวิตด้วยซ้ำ แต่คุณกลับบอกฉันว่ามันเป็นสิ่งที่ดี คุณคิดว่าคุณกำลังหลอกใครอยู่” เซี่ยเฟยหยิบกฎแห่งชีวิตขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงปัญหาร้ายแรงที่เขาเผลอมองข้ามไป

กฎแห่งความโกลาหลเป็นกฏที่สามารถพลิกสีขาวให้กลายเป็นสีดำได้ การที่เขาใช้กฎแห่งความโกลาหลเพื่อสังหารโอโร่ มันจะส่งผลกระทบกับการเกิดใหม่ของจอมมารไลอ้อนฮาร์ทผู้นี้หรือเปล่า?

“อย่าบอกนะว่าเขาจะเกิดใหม่กลายเป็นไลอ้อนฮาร์ทขนดำ?” เซี่ยเฟยพยายามจินตนาการว่าโอโร่ที่เกิดใหม่จะมีรูปลักษณ์เป็นยังไง

“คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง ไม่ว่ากฎแห่งความโกลาหลจะแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ แต่มันก็คงจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อร่างที่พึ่งเกิดขึ้นมาใหม่หรอก” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่เขาจะลุกยืนขึ้นเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังเผ่าเทพ

เมื่อถึงเวลานัดหมายเซี่ยเฟยก็เดินทางไปยังจุดหมายที่พวกเขานัดพบกัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะมาถึงซากยานรบที่ถูกทิ้งร้างในสถานที่อันห่างไกลที่เกือบจะอยู่สุดขีดจำกัดของเข็มทิศมิติ ชายหนุ่มจึงขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเซี่ยกวงไห่ถึงนัดพบเขาในสถานที่อันลึกลับแห่งนี้

ฟุบ!

ประตูมิติถูกเปิดออกพร้อมกับเซี่ยกวงไห่ที่ปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าเซี่ยเฟย จากนั้นทั้งคู่ก็เดินเคียงข้างกันไปยังดาดฟ้าของยานรบ

“นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงให้นายมาที่นี่?” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังซากยานรบที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา

เซี่ยเฟยส่ายหัวอย่างสับสน เพราะเขาไม่สามารถทำความเข้าใจเรื่องนี้ได้เหมือนกัน

“ยานลำนี้ชื่อว่าลิเบอตี้ เป็นยานที่บรรพบุรุษของพวกเราใช้เดินทางมายังดินแดนกฎ ก่อนที่จะทำให้พวกเรากลายเป็นสกายวิงอย่างในปัจจุบัน” เซี่ยกวงไห่กล่าว

เซี่ยเฟยสะดุ้งขึ้นมาในทันที เมื่อได้รู้ว่าซากยานลำนี้คือซากยานของบรรพบุรุษสกายวิงนั่นเอง

วันนี้เซี่ยกวงไห่เปลี่ยนจากคนขี้เล่นกลายเป็นคนที่พูดจาอย่างจริงจัง และการที่อีกฝ่ายพาเขามายังยานรบของบรรพบุรุษ มันก็ดูเหมือนกับว่าชายคนนี้จะมีจุดมุ่งหมายพิเศษ

สถานการณ์มันดูผิดปกติมากเกินไป!

“นายคือผู้มีศักยภาพจะกลายเป็นอีวิลวิงที่หาได้ยากของตระกูล ดังนั้นเส้นทางของนายจึงถูกกำหนดให้แตกต่างจากสมาชิกในตระกูลคนอื่น ๆ อย่างที่นายรู้อยู่แล้วว่ายิ่งพวกเรามีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ ความรับผิดชอบที่พวกเราต้องแบกรับเอาไว้มันก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากไปเท่านั้น”

“บรรพบุรุษได้ตกลงกับราชวังราชันย์เทพเป็นการส่วนตัว ว่าเขาต้องการจะดึงตัวนายขึ้นไปในเผ่าเทพแลกกับการที่นายจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใครเลยเป็นเวลา 3 เดือน”

“แม้ว่าพลังของนายจะพึ่งมาถึงระดับจักรพรรดิได้เพียงไม่นาน แต่นายก็ได้ถือครองอสูรศักดิ์สิทธิ์และอาวุธมายา ทำให้ดินแดนกฎไม่ใช่สถานที่ที่ท้าทายสำหรับนายอีกต่อไป” 

“ถึงแม้นายจะพอเจอคู่ต่อสู้อยู่บ้างแต่คู่ต่อสู้ในดินแดนกฎก็คงจะไม่สร้างแรงกดดันให้กับนายมากนัก มันจึงไม่ใช่สถานที่ที่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของนายอีกต่อไปแล้ว” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับหันหน้าไปมองเซี่ยเฟย

“ใช่ครับ ถึงแม้ว่าจะพอมีคู่ต่อสู้แต่พวกเขาก็ไม่ได้สร้างแรงกดดันให้กับผมมากขนาดนั้น” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“นายเป็นคนฉลาด สิ่งที่ฉันทำได้มีเพียงแค่แนะนำเส้นทางให้กับนายเท่านั้น ส่วนนายจะเลือกเดินไปในเส้นทางไหนเรื่องนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับตัวของนายเอง” เซี่ยกวงไห่กล่าว

“ผมได้ยินมาว่าสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์ใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว หลังจากเวลาได้ผ่านพ้นไป 3 เดือนสถานการณ์ในตอนนั้นมันจะเป็นยังไงบ้างครับ?” เซี่ยเฟยถามหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“บรรพบุรุษบอกว่าสถานการณ์ในตอนนี้แปลกมาก ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่ายน่าจะคงอยู่ไปอีกสักพักหนึ่ง” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“นอกจากเผ่าเทพแล้วผมเดินทางไปที่อื่นได้ไหมครับ?” เซี่ยเฟยถามอีกครั้ง

เซี่ยกวงไห่ใช้เข็มทิศมิติส่งแผนที่ดวงดาวไปให้กับเซี่ยเฟย ซึ่งในแผนที่นั้นมีตำแหน่งถูกระบุไว้อย่างมากมาย แต่ตำแหน่งแรกในแผนที่กลับเป็นพื้นที่ของเผ่ามาร

“นี่คือสถานที่ทั้งหมดที่นายเลือกไปได้ แต่นายควรอยู่ในเผ่าเทพให้มากที่สุด เพราะสถานที่อื่นมีอันตรายมากกว่าเผ่าเทพ” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับยักไหล่

“ออกเดินทางด้วยตัวเองก็ดีเหมือนกัน เอาเป็นว่าผมตกลงรับข้อเสนอ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ฉันรู้อยู่แล้วว่านายจะตอบตกลง บรรพบุรุษยังฝากฉันมาบอกกับนายอีกว่าหากนายกล้าออกปากว่าจะออกจากสกายวิงอีกแม้แต่ครั้งเดียว เขาจะเดินทางออกมาจัดการกับนายด้วยตัวเอง” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับตบไหล่เซี่ยเฟยเบา ๆ

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็หน้าซีดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ขณะที่เขาพยักหน้ารับซ้ำ ๆ อย่างเร่งรีบ

สถานการณ์ภายในจักรวาลมักจะเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ จู่ ๆ เซี่ยเฟยก็กลายเป็นสมาชิกธรรมดาของเผ่าเทพ และจะต้องช่วยเหลือตัวเองภายในระยะเวลา 3 เดือนโดยจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใคร

มีเส้นทางหลายสายที่จะนำไปสู่เผ่าเทพ แต่ในตอนนี้เขาไม่มีสิทธิ์ใช้ชื่อเสียงของสกายวิง เขาจึงสามารถเข้าสู่เผ่าเทพได้ตามเส้นทางปกติเท่านั้น

หลังจากเดินมาตามคำแนะนำของเซี่ยกวงไห่ เซี่ยเฟยก็ได้พบกับประตูมิติโบราณที่ซ่อนตัวอยู่หลังภูเขา ซึ่งเป็นประตูมิติบานเฉพาะที่สามารถนำทางไปสู่พื้นที่ของเผ่าเทพได้

ประตูมิตินี้ถูกซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีและมันก็ถูกปกป้องเอาไว้ด้วยนักรบเผ่าเอมิสจำนวน 2 คน

เซี่ยเฟยนำบัตรผ่านที่เซี่ยกวงไห่มอบให้เขาออกมา ทำให้เขาเดินผ่านทหารยามไปได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตามบัตรผ่านที่เขาได้รับในคราวนี้เป็นบัตรผ่านระดับต่ำสุด ไม่ใช่คำสั่งดึงตัวอย่างอลังการของราชวังราชันย์เทพอีกต่อไป

เมื่อเซี่ยเฟยเดินทางออกจากประตูมิติ เขาก็ได้พบว่าจุดหมายปลายทางที่อยู่บนภูเขาบริเวณด้านหน้ามีเมืองขนาดใหญ่อยู่ไกลออกไป และถึงแม้ว่าพื้นที่นี้จะไม่ใช่พื้นที่หลักของเผ่าเทพ แต่มันกลับมีความเจริญรุ่งเรืองไม่น้อยไปกว่ากลุ่มดาวม้าขาว

“นี่น่ะเหรอเผ่าเทพ?” เซี่ยเฟยเริ่มสำรวจสภาพแวดล้อมอย่างตื่นตาตื่นใจ แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังอย่างเย่อหยิ่ง

“ไอ้เด็กใหม่ แกเข้าใจกฎของที่นี่หรือเปล่า?”

***************

มาแล้วไอ้พวกตัวประกอบ รอบนี้จะมีชื่อไหม?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.