ตอนที่ 834 ศัตรูในมุมมืด

-A A +A

ตอนที่ 834 ศัตรูในมุมมืด

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 834 ศัตรูในมุมมืด

“คริสตัลนี้มันก็ดูปกติดี แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันแตกต่างจากคริสตัลต้นกำเนิดอันอื่นนะ?” เซี่ยเหล่าสือหยิบคริสตัลต้นกำเนิดขั้นที่ 4 ที่เซี่ยเฟยผลิตขึ้นมาพิจารณา ก่อนที่เขาจะพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเบา ๆ

หลังจากนั้นชายชราก็หยิบชุดเครื่องมืออะไรบางอย่างออกมาจากแหวนมิติ จากนั้นเขาก็เริ่มทำการตรวจสอบคริสตัลต้นกำเนิดที่ถูกสร้างขึ้นจากเซี่ยเฟย ก่อนที่มันจะมีข้อมูลเป็นจำนวนมากปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

“พลังงานพวกนี้มันจะหนาแน่นมากจนเกินไปแล้ว!” เซี่ยเหล่าสืออุทานขึ้นมาด้วยความตกใจหลังจากที่เขาได้อ่านข้อมูลโดยละเอียด

โดยปกติเส้นกราฟของพลังงานภายในคริสตัลต้นกำเนิดจะค่อย ๆ เพิ่มจากจุดเริ่มต้นอย่างช้า ๆ ยิ่งเส้นโค้งมีความลาดชันน้อยเท่าไหร่มันก็หมายความว่าคริสตัลต้นกำเนิดชิ้นนั้นสามารถดูดซึมได้อย่างง่ายดายมากขึ้นเท่านั้น 

ในทางกลับกันกราฟเส้นพลังงานของคริสตัลต้นกำเนิดที่เซี่ยเฟยสร้างกลับเป็นเส้นทแยงมุม ซึ่งไม่สามารถหาพบได้ในตลาดทั่ว ๆ ไป

“ไม่ใช่ว่าพลังงานรูปแบบนี้มันไม่ดี แต่มันไม่ค่อยเหมาะสมสำหรับผู้ใช้ที่มีความสามารถในการควบคุมพลังงานที่อ่อนแอ ท้ายที่สุดปริมาณพลังงานภายในคริสตัลของนายมันก็มีความดุดันมากจนเกินไป เมื่อไหร่ก็ตามที่มีใครเริ่มดูดซับพลังงานในคริสตัลนี้ พลังงานมหาศาลจะเริ่มถาโถมเข้าสู่ร่างกายของผู้ใช้ในทันที มันเลยทำให้การควบคุมมันเป็นไปอย่างยากลำบาก”

“ดัชนีวัดความหนาแน่นของพลังงานภายในตลาดถูกกำหนดค่ามาตรฐานเอาไว้ที่ 100 คะแนน ตราบใดก็ตามที่ใครสามารถผลิตคริสตัลต้นกำเนิดได้จนถึง 98 คะแนน คริสตัลก้อนนั้นก็จะถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แต่คริสตัลของนายถูกประเมินด้วยคะแนนสูงถึง 103 แสดงว่าคุณภาพของมันดีกว่า คริสตัลในตลาดอยู่เล็กน้อย”

“ถึงแม้ความสามารถในการกลั่นพลังงานของนายจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่คริสตัลต้นกำเนิดของนายก็มีพลังงานที่อัดแน่นอยู่ในระดับที่สูงมาก หากใครพอจะมีความสามารถในการควบคุมพลังงานอยู่บ้าง พวกเขาย่อมโหยหาคริสตัลต้นกำเนิดที่นายเป็นคนผลิตขึ้นมาแน่ ๆ”

หลังจบหลักสูตรเรื่องการกลั่นพลังงานเซี่ยเหล่าสือก็ให้หยุดพัก 1 วัน ซึ่งการหยุดพักนี้มันก็ไม่ใช่เพราะเซี่ยเฟยรู้สึกเหนื่อยล้า แต่มันเป็นเพราะตัวของชายชราต้องการที่จะพักผ่อน หลังจากใช้พลังงานอย่างบ้าคลั่งเพื่อช่วยเหลือชายหนุ่มติด ๆ กันตลอด 2 วันมานี้

เซี่ยเฟยกลับไปพักผ่อนที่ห้องเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเดินทางกลับไปยังพันธมิตร

เมื่อชายหนุ่มเดินทางไปจนถึงคฤหาสน์ฮาฟมูนวิลล่า เขาได้พบกับเซธบริเวณทางเดิน ซึ่งในตอนนี้ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่มีงานยุ่งมาก เพราะเขาต้องรับหน้าที่ทั้งเรื่องดูแลความปลอดภัยบริษัทควอนตัมและคอยคุ้มกันแอวริล

โชคดีที่เซี่ยเฟยมอบเข็มทิศมิตินิรนามให้กับเขามา มันจึงทำให้เขาสามารถเดินทางระหว่างฮาฟมูนวิลล่ากับภูมิภาคดาวเหวทมิฬอย่างสะดวกสบาย แต่เนื่องจากไม่กี่วันก่อนสกายวิงต้องเผชิญหน้ากับสงครามใหญ่ เซธจึงถูกส่งตัวให้มาคอยคุ้มกันแอวริลที่ฮาฟมูนวิลล่าจนถึงปัจจุบัน

หลังจากทั้งคู่ทักทายกันเล็กน้อย เซี่ยเฟยก็บอกให้เซธเดินทางกลับไปยังภูมิภาคดาวเหวทมิฬได้เลย เพราะศัตรูในคราวนี้ถูกกำจัดถอนรากถอนโคนจนหมดแล้ว ชายฉกรรจ์จึงไม่จำเป็นจะต้องเฝ้าระวังแอวริลมากขนาดนั้น

โชคดีที่ก่อนหน้านี้แอวริลไม่ได้ตอบรับคำชวนให้เดินทางไปยังสวนสายลม ไม่อย่างนั้นสงครามครั้งที่ผ่านมามันก็คงจะทำให้เธอกลายเป็นเป้าหมายของศัตรู 

ท้ายที่สุดตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอมันก็ยังไม่มีใครรู้ ซึ่งการเก็บรักษาความสัมพันธ์เอาไว้มันก็จะช่วยให้หญิงสาวอยู่ในสถานะที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามเนื่องมาจากว่าดินแดนกฎเป็นสถานที่ที่อันตรายมาก เขาจึงยังไม่สามารถจะแต่งงานกับแอวริลได้ เพราะถ้าหากวันหนึ่งเขาเผลอไปเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นมา บางทีศัตรูคนนั้นอาจจะใช้หญิงสาวเป็นตัวประกัน

การที่ทั้งคู่คบหากันมาอย่างยาวนานแต่เซี่ยเฟยไม่สามารถจะแต่งงานกับหญิงสาวได้ ทำให้เขารู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เขาจึงพยายามเดินทางมาที่คฤหาสน์ฮาฟมูนวิลล่าบ่อยมากขึ้น เพื่อพยายามชดเชยในสิ่งที่เขาไม่สามารถเติมเต็มให้กับเธอได้

โชคดีที่แอวริลเข้าใจสิ่งที่เขากำลังทำอยู่เป็นอย่างดี และเธอก็ไม่เคยทำให้เขาต้องรู้สึกลำบากใจในเรื่องนี้เลย หลังจากทั้งคู่คิดพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วพวกเขาก็ตัดสินใจให้แอวริลใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายอยู่ในพันธมิตร เพราะดินแดนกฎเป็นสถานที่ที่อันตรายมาก เซี่ยเฟยจึงไม่อยากให้คนรักต้องไปเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างที่เขาเจอ

วันนี้เซี่ยเฟยพาแอวริลไปเที่ยวสวนสนุกและชายหาดที่เธอชื่นชอบ เพื่อใช้ช่วงเวลาร่วมกันให้มากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้

พูดตามตรงว่าเซี่ยเฟยชื่นชอบชีวิตที่เรียบง่ายและอบอุ่นแบบนี้มาก แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่หลังประตูจักรวาลก็ดึงดูดให้เขาต้องพยายามออกไปค้นหามันอย่างบ้าคลั่งด้วยเช่นกัน ชายหนุ่มจึงไม่สามารถจะหยุดอยู่เฉย ๆ ตรงนี้ได้ ไม่อย่างนั้นมันก็คงจะทำให้เขารู้สึกอึดอัดที่ยังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่

ณ ดินแดนลับของหุ่นยนต์

“ดูนี่สิ ยานไททันลำแรกใกล้ที่จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้มันยังเหลือขั้นตอนการประกอบอีกเพียงแค่เล็กน้อย ก่อนที่เราจะเอามันไปทดสอบได้สักที”

“ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะต้องใช้เวลาในการสร้างนานขนาดนี้ หวังว่าความแข็งแกร่งของมันจะทำให้พวกเรารู้สึกพึงพอใจ” มอร์โรว์กล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังยานรบขนาดยักษ์ที่มีความใหญ่โตราวกับดาวเคราะห์

“การก่อสร้างผ่านไปเร็วกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มาก เรื่องนี้ต้องยกเครดิตให้กับความพยายามของพวกนาย” เซี่ยเฟยกล่าว

“พวกเราเป็นหุ่นยนต์ การทำงานทั้งวันทั้งคืนไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรสำหรับพวกเราอยู่แล้ว ฉันได้เพิ่มจำนวนอู่ต่อยานตามคำขอของคุณแล้วนะ แต่คุณมั่นใจจริง ๆ เหรอว่าคุณต้องการที่จะสร้างกองยานไททันขึ้นมา?” มอร์โรว์กล่าวถาม

“ยิ่งฉันสำรวจจักรวาลลึกลงไปเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งค้นพบเรื่องอันตรายมากขึ้นเท่านั้น การเตรียมการรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ก่อนย่อมเป็นเรื่องดีเสมอ ฉันเชื่อว่าวันหนึ่งกองยานไททันจะกลายมาเป็นกำลังสำคัญสำหรับพวกเรา” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น

ครั้งหนึ่งพวกยู่หลานเคยเป็นราชาแห่งเทคโนโลยี ตามบันทึกที่พวกเขาทิ้งเอาไว้ยานลำนี้มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะต้านทานพลังกฎได้ แต่ยานลำนี้เป็นเพียงสิ่งที่คัดลอกมาจากเทคโนโลยีของพวกยู่หลานเท่านั้น พวกเขาจึงไม่สามารถยืนยันความทรงพลังของมันได้เว้นแต่ว่าพวกเขาจะต้องทดสอบกับสถานการณ์จริง 

การออกแบบที่แปลกที่สุดที่ทำให้มอร์โรว์สงสัยมาจนถึงทุกวันนี้ นั่นก็คือระบบป้องกันชั้น 2 ที่โดยปกติยานรบจะมีเกราะพลังงานคอยคุ้มกันเพียงชั้นเดียว เซี่ยเฟยกับมอร์โรว์จึงคาดเดาว่าอุปกรณ์ป้องกันชุดที่ 2 น่าจะเป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ป้องกันพลังกฎโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าหากว่าการคาดเดาของพวกเขาถูกต้อง ยานไททันก็จะสามารถต้านทานได้ทั้งการโจมตีทางกายภาพและการโจมตีด้วยพลังกฎในเวลาเดียวกัน

ส่วนระบบอาวุธที่ติดตั้งอยู่บนยานไททันก็เป็นสิ่งที่บ้ามาก จากสิ่งที่พวกเขาได้ประมาณการเอาไว้อาวุธชิ้นนี้มันก็สามารถที่จะทำลายล้างดาวทั้งดวงลงไปได้เลย

น่าเสียดายที่โครงสร้างเกราะป้องกันชั้นที่ 2 มีความซับซ้อนมากจนเกินไป และมันยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยภายในห้องทดลอง เซี่ยเฟยจึงไม่รู้ว่าตอนนี้ไททันมีพลังมากพอที่จะต่อต้านพลังกฎหรือไม่ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ก็คงจะถูกเฉลยในวันที่มันพร้อมที่จะถูกทดสอบแล้วจริง ๆ

เข็มทิศมิติเป็นอุปกรณ์เดินทางที่สะดวกมาก เพราะในวันพัก 1 วันของชายหนุ่มเขาสามารถเดินทางไปทั่วทั้งกาแล็กซีได้อย่างสบาย ๆ เพราะไม่เพียงแต่เขาจะไปเที่ยวกับแอวริลได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถเดินทางมาตรวจสอบการทำงานของพวกหุ่นยนต์ และเดินทางไปตรวจสอบสถานการณ์ในภูมิภาคดาวเหวทมิฬได้อีกด้วย

แม้แต่แอวริลก็ชอบการเดินทางด้วยเข็มทิศมิติแบบนี้ เพราะมันทำให้เธอสามารถไปที่ที่เธอต้องการได้ในทันที เรียกได้ว่ามันคือเทคโนโลยีในฝันของหลาย ๆ คน

หลังจากเซี่ยเฟยกลับมายังสวนสายลม เขาก็กลับเข้ามาภายในห้องฝึกเพียงลำพัง ซึ่งหลังจากที่เขาได้พบว่าเซี่ยเหล่าสือยังไม่มา เขาจึงใช้เวลาว่างในช่วงนี้เพื่อเรียบเรียงเหตุการณ์ช่วงหนึ่งที่ผ่านมา

ปัจจุบันสถานการณ์ในพันธมิตรเข้าสู่สถานะที่มีเสถียรภาพเรียบร้อยแล้ว สถานการณ์ของทางฝั่งหุ่นยนต์และบริษัทควอนตัมก็มีสถานะที่เสถียรภาพมากเช่นกัน สิ่งเดียวที่เขายังคงรู้สึกกังวลคือความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแอวริล เพราะเขาคงจะยังไม่สามารถแต่งงานกับเธอในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ได้

มันคงจะไม่มีใครคาดคิดว่าเซี่ยเฟยได้ซ่อนไพ่ใบสำคัญที่สุดของเขาไว้ในบริเวณเขตแดนของพันธมิตร ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เขาต้องการจะสร้างคือกองยานไททันอันทรงพลัง ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ชายหนุ่มคอยทำอยู่เป็นประจำคือการวางแผนการอะไรสักอย่างที่ไม่มีใครเคยคาดคิดอยู่เสมอ

“ช่วงนี้นายต้องยุ่งกับการฝึกหลาย ๆ เรื่อง ฉันว่านายควรจะหยุดสืบหาเรื่องกฎแห่งเวลาไปก่อนดีกว่า” โอโร่กล่าว

“ผมจะหยุดได้ยังไง นั่นคือกฎที่แข็งแกร่งที่สุดของฝั่งเทพเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมสับสนมาก พวกมูนวอร์ดต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้รับลาวาละลายลักษณ์กับเพลิงผลาญมา แต่ในสงครามมันกลับไม่มีใครใช้อาวุธมายาทั้งสองชิ้นนี้มาเผชิญหน้ากับพวกเราเลย” 

“ในแหวนมิติของพวกมันก็ไม่มีอาวุธทั้งสองชิ้นนี้อยู่เหมือนกัน ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าพวกมันเอาอาวุธมายาไปซ่อนไว้ที่ไหนกันแน่?” เซี่ยเฟยกล่าว

“นายคือผู้ครอบครองอาวุธมายาธาตุพืชนะ อาวุธมายาธาตุไฟทั้งสองชิ้นนั้นมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรสำหรับนายหรอก อีกอย่างนายก็ไม่ได้เก็บแหวนมิติมาทุกวง บางทีอาวุธมายาทั้งสองชิ้นนั้นอาจจะถูกนำไปเก็บไว้ในคลังของตระกูลแล้วก็ได้ใครจะรู้” 

“พูดตามตรงนะว่าวิธีการของสกายวิงครั้งนี้โหดเหี้ยมมาก ฉันคงจะไม่รู้สึกแปลกใจเลยถ้าหากวันหนึ่งมันจะมีอาวุธวิเศษหรือของอะไรแปลก ๆ ออกมาจากคลังตระกูลของนาย” โอโร่กล่าว

เซี่ยเฟยยังคงนิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไร เพราะการเก็บไพ่ใบสำคัญเอาไว้ช่วงเวลาสำคัญก็เป็นสิ่งที่ตระกูลสกายวิงชอบใช้คล้าย ๆ กับวิธีการของเขา 

ย้อนกลับไปก่อนทำสงครามกับมูนวอร์ด ใครจะไปคิดว่าพ่อบ้านชราของตระกูลคือจักรพรรดิกฎ และก่อนที่เขาจะได้เรียนรู้กฎแห่งความเร็ว ใครจะไปรู้ว่าภายในสวนสายลมเต็มไปด้วยเส้นทางลับและห้องฝึกอย่างมากมาย

โดยสรุปก็คือไม่ว่าจะเป็นเซี่ยเฟยหรือตระกูลสกายวิงต่างก็เก็บงำความลับเอาไว้เยอะมาก ซึ่งนิสัยในเรื่องนี้มันก็ยิ่งทำให้ตระกูลสกายวิงมีความน่ากลัวมากยิ่งขึ้น

ระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น เซี่ยเหล่าสือก็เปิดประตูห้องฝึกและเดินเข้ามา หลังจากที่ชายชราได้มีโอกาสพักผ่อนทั้งวันอย่างเต็มที่ มันก็ทำให้สีหน้าของเขาดีขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด

“เอาล่ะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราจะเริ่มเรียนกฎแห่งการประดิษฐ์” เซี่ยเหล่าสือกล่าวด้วยสีหน้าอันจริงจัง

ท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ยานรบขนาดกลางกำลังเคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างช้า ๆ

หากใครได้มาเห็นยานลำนี้พวกเขาก็จะได้พบว่ามันคือยานรุ่นเก่าที่เลิกผลิตไปตั้งนานแล้ว บนตัวยานไม่มีตราสัญลักษณ์ของตระกูลหรือกองกำลังใด ๆ คล้ายกับว่ามันเป็นยานของสามัญชนคนธรรมดา

ภายในตัวยานมีห้องฝึกขนาดใหญ่ และปัจจุบันห้องฝึกนั้นก็กำลังลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ

หากเซี่ยเฟยได้มาอยู่ในห้องฝึกแห่งนี้ เขาก็จะสามารถระบุได้ในทันทีว่าเปลวไฟพวกนั้นเกิดขึ้นมาจากลาวาละลายลักษณ์ที่ตระกูลมูนวอร์ดประมูลได้ไปจากงานประมูลของบริษัทการค้าแคนเดิลไลท์

เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์นักรบผู้นี้สามารถพิชิตลาวาละลายลักษณ์ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ในปัจจุบันคือการพยายามใช้ลาวาละลายลักษณ์เพื่อหลอมรวมกับเพลิงผลาญ

ดูเหมือนว่าตอนนี้วิธีการหลอมรวมอาวุธมายาจะไม่ใช่สิ่งที่เซี่ยเฟยสามารถทำได้คนเดียวอีกต่อไป ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคืออาวุธของเซี่ยเฟยคืออาวุธมายาธาตุพืช ขณะที่อาวุธมายาของชายคนนี้คืออาวุธมายาธาตุไฟ

ในที่สุดอาวุธมายาทั้งสองก็สามารถหลอมรวมเข้าด้วยกัน ทำให้ทั่วทั้งห้องถูกย้อมไปด้วยนรกแห่งเปลวเพลิง ขณะเดียวกันภายในแววตาของนักรบคนนั้นมันก็เต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความแค้น คล้ายกับว่าอีกไม่นานเขาจะใช้อาวุธมายาที่พึ่งหลอมรวมกันเสร็จออกไปจัดการกับศัตรู

***************

นี่ไงล่ะ ผู้ครอบครองอาวุธมายาธาตุไฟที่พี่เฟยกำลังสงสัย มันยังไม่จบ!!

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.