ตอนที่ 833 กฎแห่งการกลั่นพลังงานระดับกลาง
ตอนที่ 833 กฎแห่งการกลั่นพลังงานระดับกลาง
เซี่ยเหล่าสือเดินออกจากห้องฝึกด้วยความเหนื่อยล้า ขณะที่เซี่ยเฟยยังคงพยายามฝึกฝนด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง
หลังจากเซี่ยเหล่าสือเดินกลับเข้ามาภายในห้องพัก เขาก็หยิบคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 ออกมาเพื่อพยายามฟื้นฟูพลังงานอันเหนื่อยล้าให้กลับคืนมาอยู่ในระดับเดิม
ขณะเดียวกันเนื่องมาจากว่าเซี่ยเหล่าสือคือเจ้าหนี้รายใหญ่ของนักรบทุกคนในตระกูล ทันทีที่ชายชราคนนี้เดินทางมาถึงสวนสายลม ทุกคนก็จงใจหลบหน้าเขาทำให้ในเวลานี้สวนสายลมเหลือเพียงแค่เซี่ยอู๋เย่, เซี่ยเหล่าสือและเซี่ยเฟยเท่านั้น
ความเหนื่อยล้าจากการฝึกฝนไม่เพียงแต่จะสร้างภาระให้กับร่างกายเท่านั้น แต่มันยังสร้างภาระให้กับจิตใจของผู้ฝึกอีกด้วย แม้ว่าคริสตัลต้นกำเนิดจะสามารถเติมเต็มพลังงานให้กับร่างกายได้ แต่มันก็ไม่สามารถที่จะฟื้นฟูสภาวะจิตใจให้กับชายชราได้อย่างแท้จริง เซี่ยเหล่าสือจึงจำเป็นจะต้องงีบพักสักครู่เพื่อฟื้นฟูความเหนื่อยล้าทางจิตใจให้กลับคืนมา
“ไอ้หนุ่มนั่นมันไปเอาพลังงานมากมายมาจากไหน?” เซี่ยเหล่าสือส่งเสียงพึมพำพูดกับตัวเอง ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวหลับไปโดยไม่แม้กระทั่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้า
—
เมื่อเซี่ยเหล่าสือตื่นมาอีกครั้งเวลาก็ได้ล่วงเลยมาจนถึงตอนเที่ยงของอีกวันหนึ่งแล้ว ทั้ง ๆ ที่ปกตินักรบระดับสูงไม่จำเป็นจะต้องพักผ่อนมากนัก การที่เซี่ยเหล่าสือนอนหลับสนิทนานขนาดนี้มันก็แสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกเหนื่อยล้าจากการช่วยเซี่ยเฟยฝึกฝนมากแค่ไหน
หลังจากยืดเส้นยืดสายเซี่ยเหล่าสือก็เดินทางกลับไปยังห้องฝึกของเซี่ยเฟย ก่อนที่เขาจะได้พบว่าเซี่ยอู๋เย่กำลังนั่งมองเซี่ยเฟยฝึกฝนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความพอใจ
“เซี่ยอู๋เย่ เซี่ยเฟยเริ่มมาฝึกนานแล้วหรือยัง?” เซี่ยเหล่าสือกล่าวถามด้วยความเคารพ ซึ่งในตระกูลมันก็มีคนเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นที่ไม่ได้เป็นลูกหนี้ของเขานั่นก็คือเซี่ยอู๋เย่กับเซี่ยเฟย
“นายน้อยเฟยยังไม่ได้ออกจากห้องฝึกตั้งแต่เมื่อวาน ฉันเดินเข้ามาในห้องฝึกเพื่อคอยดูว่าเขาไม่ได้ฝืนตัวเองมากเกินไป” เซี่ยอู๋เย่กล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
คำตอบนี้ทำให้เซี่ยเหล่าสือชะงักค้างไปในทันที เพราะการที่เซี่ยเฟยยังไม่ได้กลับไปพักผ่อน มันก็หมายความว่าชายหนุ่มฝึกฝนกฎแห่งการกลั่นพลังงานอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานมากกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว!
เนื่องมาจากเขาเป็นผู้ฝึกฝนกฎแห่งการกลั่นพลังงานด้วยตัวเอง เขาจึงรู้ดีว่าการฝึกกฎ ๆ นี้สร้างภาระให้กับจิตใจมากแค่ไหน แม้แต่ตัวเขาที่ช่วยเซี่ยเฟยฝึกฝนเมื่อวานก็ยังจำเป็นจะต้องกลับไปนอนพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูความเหนื่อยล้า แต่เซี่ยเฟยกลับสามารถฝึกฝนต่อเนื่องได้นานกว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากจนเกินไป
“นายน้อยเฟยคือผู้มีศักยภาพพัฒนาเป็นอีวิลวิงในอนาคต แม้แต่บรรพบุรุษก็ยังให้ความสำคัญกับเขาสูงมาก พวกเราต้องขอขอบคุณที่คุณยอมมาช่วยฝึกสอนให้กับเขาเป็นการส่วนตัว” เซี่ยอู๋เย่หันไปกล่าวกับเซี่ยเหล่าสือด้วยความเคารพ
คำชมประโยคนี้ทำให้เซี่ยเหล่าสือรู้สึกอับอายอยู่เล็กน้อย เพราะอันที่จริงเขาแทบจะไม่ได้ทำอะไรมากนัก ความสำเร็จที่เซี่ยเฟยมีมาจนถึงจุดนี้มันก็เป็นเพราะความอุตสาหะของตัวเองเป็นส่วนใหญ่
เซี่ยเหล่าสือหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปหาเซี่ยเฟยอย่างลังเล ขณะเดียวกันเซี่ยอู๋เย่ก็เดินออกไปทางประตูอย่างชาญฉลาด เพื่อกลับไปทำความสะอาดสวนสายลมตามวิถีชีวิตปกติ
“เซี่ยเฟย การอยู่ฝึกทั้งคืนไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอกนะ บางทีพวกเราก็จำเป็นจะต้องให้ร่างกายพักผ่อนบ้าง ไม่จำเป็นจะต้องเร่งรีบอะไรขนาดนั้นหรอก” เซี่ยเหล่าสือกล่าว
“ผู้อาวุโส ตอนนี้ผมถักทออักขระกฎใกล้สมบูรณ์แล้ว เหลือแค่การควบแน่นอักขระให้เสร็จ ผมก็จะบรรลุกฎแห่งการกลั่นพลังงานขั้นที่ 4” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
เซี่ยเหล่าสือแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เพราะถ้าหากเซี่ยเฟยเหลือแค่ขั้นตอนการควบแน่นอักขระ มันก็หมายความว่าชายหนุ่มสามารถฝึกกฎแห่งการกลั่นพลังงานขั้นที่ 4 ได้สำเร็จเพียงแค่วันเดียวเนี่ยนะ!?
“อะไรนะ?! นี่เขามาถึงขั้นตอนของการควบแน่นแล้วเหรอ” เซี่ยเหล่าสืออ้าปากค้างขึ้นมาด้วยความตกตะลึง และเขาก็รู้สึกเหมือนกับตัวเองจะเป็นลมขึ้นมาอีกครั้ง
นับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาช่วยเซี่ยเฟยฝึกฝน มันก็ทำให้เขารู้สึกตกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้ชายชรารู้สึกว่าช่วงนี้เขาเปราะบางมากกว่าปกติ
ย้อนกลับไปครั้งแรกที่เขาช่วยเซี่ยเฟยฝึกพลังพิเศษสายความเร็ว ชายหนุ่มก็สามารถพัฒนาด้วยความเร็วราวกับติดจรวด และสามารถดูดซับพลังงานเข้าไปภายในร่างได้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 กว่า 10,000 ก้อนที่เขาได้ใส่เอาไว้ภายในเครื่องสำรองพลังงานถูกดูดซับออกไปจนหมดภายในเวลาเพียงแค่ 1 เดือน
อย่างไรก็ตามความสำเร็จในครั้งนั้นมันก็ไม่สามารถเทียบได้กับการฝึกฝนกฎแห่งการกลั่นพลังงานในครั้งนี้เลย เพราะชายหนุ่มแทบที่จะสามารถถักทออักขระกฏแห่งการกลั่นพลังงานขั้นที่ 4 ขึ้นมาได้ภายในวันเดียว ซึ่งมันเป็นความเร็วในการฝึกที่แม้แต่ตัวเขาก็ยังไม่เคยจินตนาการได้มาก่อน
“ใช่ครับ ผมมาถึงขั้นตอนการควบแน่นอักขระแล้ว พูดตามตรงผมรู้สึกว่าการฝึกกฎแห่งการกลั่นพลังงานง่ายกว่าการฝึกอื่น ๆ มาก โดยเฉพาะหลังจากที่มีผู้อาวุโสเข้ามาช่วย มันก็ยิ่งทำให้ผมฝึกฝนได้ง่ายกว่าเดิม” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ง่าย?
คำ ๆ นี้ฟังดูเป็นคำที่รุนแรงมากสำหรับเซี่ยเหล่าสือ และถ้าหากว่าคำพูดของเซี่ยเฟยหลุดออกไปยังโลกภายนอก มันก็คงจะทำให้ผู้คนเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนเอาหัวโขกกำแพงจนตาย
มันเป็นที่รู้กันดีว่าการฝึกฝนกฎแห่งการกลั่นพลังงานเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากแค่ไหน จนทำให้ทั่วทั้งจักรวาลมันก็มีผู้สำเร็จกฎ ๆ นี้อยู่เพียงแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น แต่เซี่ยเฟยกลับบอกว่ากฎแห่งการกลั่นพลังงานเป็นกฎที่ฝึกได้ง่าย ๆ มันจึงทำให้แม้แต่เซี่ยเหล่าสือก็อยากจะกัดลิ้นตายอยู่ตรงนั้น
แม้ว่าชายชราจะรู้สึกอิจฉาชายหนุ่มมากแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดเขาก็ทำได้เพียงถอนหายใจก่อนที่จะนั่งลงข้าง ๆ เซี่ยเฟย
“ผู้อาวุโส พูดตามตรงว่าถึงแม้ผมจะฝึกมาจนถึงขั้นตอนการควบแน่นแล้ว แต่การพยายามควบแน่นอักขระมันก็ยังยากเกินไปอยู่ดี ผมเลยพยายามคิดหาวิธีให้คุณประหยัดพลังงานมาช่วยผมในการกรุยทางก้าวข้ามผ่านระดับ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“จะให้ฉันทำยังไง?” เซี่ยเหล่าสือถาม
“การที่คุณช่วยนำทางผมในช่วงแรกมันทำให้การถักทออักขระกฎดำเนินไปอย่างรวดเร็วก็จริง แต่มันก็ทำให้คุณสูญเสียพลังงานไปเยอะมากด้วยเหมือนกัน ผมเลยคิดว่าในขั้นตอนการถักทออักขระกฎผมจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว คุณแค่รอช่วยผมในขั้นตอนการควบแน่นอักขระแค่นั้นก็พอ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบ
คำตอบนี้ทำให้เซี่ยเหล่าสือชะงักค้างไปเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาย่อมเข้าใจสิ่งที่เซี่ยเฟยต้องการเป็นอย่างดี ท้ายที่สุดสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังทำก็คือการพยายามขับรถขึ้นภูเขา ซึ่งในระหว่างเส้นทางนั้นการพยายามใช้เครื่องยนต์คู่ย่อมทำให้รถยนต์ขับขี่ไปได้รวดเร็วอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เซี่ยเฟยต้องการคือการใช้เครื่องยนต์เดี่ยวขับขี่ไปตามเส้นทางเพียงลำพัง และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้ไปเจอเส้นทางที่สูงชัน เมื่อนั้นพวกเขาจึงค่อยเปิดใช้งานเครื่องยนต์คู่เพื่อก้าวข้ามผ่านภูเขาลูกนั้นไป
ความช่วยเหลือของเซี่ยเหล่าสือคือสิ่งที่เซี่ยเฟยต้องการอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะเก็บความช่วยเหลือของชายชราเอาไว้เพื่อใช้ในช่วงเวลาที่เขาต้องการมากที่สุด
“การเข้าไปช่วยเหลือกลางทางแบบนั้นอาจจะมีปัญหาเรื่องการปรับตัวเข้าหากันเล็กน้อย แต่ก็เอาเถอะพวกเรามาลองดูกันสักทีก็ไม่เสียหาย” เซี่ยเหล่าสือกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
การปรากฏตัวของชายชราทำให้ชายหนุ่มรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง ในความเป็นจริงสาเหตุที่เขาบอกว่าการฝึกกฎแห่งการกลั่นพลังงานเป็นเรื่องง่าย นั่นก็เพราะเขาเจอการฝึกกฎแห่งความโกลาหลที่เป็นเรื่องยากมากยิ่งกว่า
ตอนนี้เขารู้ดีว่าเขากำลังจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคครั้งสำคัญไปได้แล้ว และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้มีเซี่ยเหล่าสือคอยช่วยเหลือ เขาย่อมสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน
พลังงานสำรองในสมองของเซี่ยเฟยกับแหวนมังกรหยกขาวก็เป็นตัวแปรสำคัญในความก้าวหน้าครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ถ้าหากว่ามันปราศจากความอุตสาหะ, พลังงานสำรองหรือแหวนมังกรหยกขาวอย่างใดไปแม้แต่เพียงอย่างเดียว เขาย่อมไม่สามารถฝึกฝนด้วยความเร็วในระดับนี้ได้อย่างแน่นอน
กระแสพลังจิตภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของชายหนุ่มเริ่มถักทอขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานอักขระของกฎแห่งการกลั่นพลังงานขั้นที่ 4 ก็เดินทางมาจนถึงขั้นตอนสุดท้าย เซี่ยเหล่าสือจึงเริ่มส่งพลังเพื่อช่วยให้ชายหนุ่มสามารถควบแน่นอักขระกฎให้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามเนื่องมาจากทั้งคู่ไม่ได้เริ่มเคลื่อนไหวมาพร้อมกันตั้งแต่แรก ความเร็วในการส่งกระแสจิตของทั้งสองฝ่ายจึงไม่ค่อยสอดคล้องกัน และผู้ที่เคลื่อนไหวได้เชื่องช้ากว่ามันก็กลับเป็นเซี่ยเหล่าสือแทนที่จะเป็นเซี่ยเฟย
‘หา!’ เซี่ยเหล่าสืออุทานภายในใจอย่างตกตะลึง เมื่อได้เห็นว่าพลังงานที่เขาส่งออกไปเคลื่อนไหวได้อย่างเชื่องช้ากว่าลูกศิษย์ของตัวเอง
สถานการณ์นี้ค่อนข้างที่จะอันตรายมาก เพราะมันเหมือนกับเครื่องยนต์กำลังขัดข้องในระหว่างที่พวกเขากำลังปีนขึ้นเนินเขาอันสูงชัน
ยิ่งไปกว่านั้นการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ยังเกิดขึ้นภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเซี่ยเฟย หากมันมีความเสียหายใด ๆ ปะทุขึ้นมา ผลลัพธ์มันก็อาจจะก่อให้เกิดความพิการในสมองของชายหนุ่ม
ในระหว่างที่เซี่ยเหล่าสือกำลังคิดที่จะถอนพลังของตัวเองกลับไป เซี่ยเฟยก็ปรับเปลี่ยนความเร็วของพลังให้ขับเคลื่อนสอดคล้องกับพลังของเซี่ยเหล่าสือแทน
แม้ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะดูเป็นการเคลื่อนไหวเพียงแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ในการควบคุมพลังงานอันน่ากลัวในระดับที่แม้แต่เซี่ยเหล่าสือก็ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับเซี่ยเฟยได้
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเหล่าสือรู้สึกเสียหน้าอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ได้มีเวลาให้คิดมากจนเกินไป เพราะเขาจำเป็นจะต้องส่งพลังเพื่อช่วยให้ชายหนุ่มควบแน่นกฎให้สำเร็จ
เมื่อเครื่องยนต์ทั้งสองเริ่มปะทุพลังงานออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน อักขระกฎภายในสมองของชายหนุ่มก็เริ่มถูกควบแน่นอย่างรวดเร็ว
น่าเสียดายที่การเดินทางในครั้งนี้มันก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมันยังคงขาดพลังงานไปอีกเล็กน้อย
“นายทำแบบนั้นได้ยังไง?” เซี่ยเหล่าสือกล่าวถามด้วยความตกใจ ขณะปล่อยมือออกจากศีรษะของชายหนุ่ม
“ผมเห็นว่าความเร็วของผู้อาวุโสช้าไปนิดหน่อย ผมเลยชะลอความเร็วลงให้สอดคล้องกับคุณ เรื่องแบบนี้มันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอครับ?” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างเฉยเมย
เรื่องปกติ!?
การปรับเปลี่ยนระดับพลังให้สอดคล้องกับคนอื่นเป็นการกระทำที่ละเอียดอ่อนมาก ซึ่งช่วงเวลาเมื่อสักครู่นี้แม้แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนระดับพลังให้สอดคล้องกับเซี่ยเฟยได้
อย่างไรก็ตามชายหนุ่มกลับสามารถปรับเปลี่ยนระดับพลังให้สอดคล้องกับเขาได้อย่างง่ายดาย และเซี่ยเฟยยังบอกว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องปกติ ราวกับว่าอีกฝ่ายไม่จำเป็นจะต้องใช้ความพยายามในการปรับเปลี่ยนพลังให้สอดคล้องกับเขาเลย
คำตอบนี้เพียงคำตอบเดียวมันก็ทำให้เซี่ยเหล่าสือตระหนักได้ในทันทีว่า ความสามารถในการควบคุมพลังงานของเซี่ยเฟยไม่ได้อยู่ในระดับที่น่าหวาดกลัวอย่างที่เขาคิดเอาไว้ในตอนแรก แต่มันสมควรจะอยู่ในระดับที่เหนือเกินกว่าจินตนาการของเขาไปเลยต่างหาก
ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้เซี่ยเฟยยังเพิ่งเริ่มต้นเดินทางในเส้นทางนักหลอมพลังงานเพียงแค่ไม่นานเท่านั้น ใครจะไปรู้ว่าอนาคตของชายหนุ่มคนนี้จะไปหยุดลงตรงที่ใด
“พวกเรามาลองกันอีกครั้งเถอะครับ ผมว่าอีกไม่นานผมน่าจะควบแน่นอักขระกฎตัวนี้ได้แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างฮึกเหิม
—
6 ชั่วโมงต่อมาชายหนุ่มก็สามารถควบแน่นอักขระกฎแห่งการกลั่นพลังงานขั้นที่ 4 ได้สำเร็จ ซึ่งมันก็หมายความว่าเขาได้ใช้เวลาในการฝึกฝนเพียงแค่ 30 ชั่วโมงเท่านั้น
ในที่สุดนักกลั่นพลังงานระดับกลางจากตระกูลสกายวิงก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่แล้ว!!
ความสำเร็จของชายหนุ่มทำให้เซี่ยเหล่าสือทั้งตื่นเต้นและหมดหวังในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่าสาเหตุที่ทำให้เขาตื่นเต้นคือการพัฒนาอันรวดเร็วของเซี่ยเฟย ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขารู้สึกหมดหวังนั่นก็เพราะเซี่ยเฟยสามารถพัฒนาพลังของกฎแห่งการกลั่นพลังงาน ขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกันกับเขาในเวลาเพียงแค่ 30 ชั่วโมง
เซี่ยเหล่าสือไม่รู้จะต้องใช้คำพูดไหนกับความเร็วในการพัฒนาอันน่าทึ่งของชายหนุ่ม แล้วเขาก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจและบ่นถึงความไม่ยุติธรรมหลังจากได้เห็นพรสวรรค์เรื่องการควบคุมพลังงานของชายหนุ่ม
“สำเร็จแล้ว!” เซี่ยเฟยชูแขนขึ้นไปบนฟ้าอย่างยินดี หลังจากที่เขาสามารถควบแน่นอักขระกฎตัวใหม่ได้สำเร็จ
ทุกสิ่งในดินแดนกฎต่างก็ล้วนแล้วแต่มีรากฐานคือพลังงาน การที่เขาสามารถฝึกฝนกฎแห่งการกลั่นพลังงานขั้นที่ 4 ได้สำเร็จ มันก็หมายความว่าหลังจากนี้เขาจะไม่ขาดแคลนคริสตัลต้นกำเนิดขั้นที่ 4 อีกต่อไป
เซี่ยเหล่าสือถอนหายใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหยิบหัวใจจักรวาลออกมาจากแหวนมิติและหยิบคริสตัลเปล่าออกมาวางข้าง ๆ กัน
“เอาล่ะขั้นตอนต่อไปคือการประยุกต์ใช้พลังเพื่อสร้างคริสตัลต้นกำเนิด ถึงแม้ว่านายจะฝึกฝนได้เร็วมากแต่ก็อย่าพึ่งลำพองใจมากจนเกินไป เพราะการสร้างคริสตัลต้นกำเนิดมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ ด้วยเหมือนกัน”
เซี่ยเฟยพยักหน้าก่อนที่เขาจะหยิบหัวใจจักรวาลสีเหลืองและคริสตัลใสขึ้นมาภายในมือ
พลังงานภายในหัวใจจักรวาลมีความรุนแรงมาก เขาจำเป็นจะต้องกลั่นพลังงานพวกนั้นให้มีความละเอียดอ่อน จากนั้นเขาจึงจะบรรจุพลังงานที่ถูกกลั่นลงไปภายในคริสตัลอันว่างเปล่า
หลังจากที่เซี่ยเหล่าสือเริ่มสาธิตวิธีการให้ดู เซี่ยเฟยก็เริ่มทำตามชายชราอย่างง่ายดาย ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานคริสตัลสีใสอันว่างเปล่าก็ถูกเติมเต็มด้วยพลังงานสีเหลืองอันบริสุทธิ์
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเหล่าสือรู้สึกตกตะลึงอีกครั้ง เพราะโดยปกตินักกลั่นพลังงานจำเป็นจะต้องใช้หัวใจจักรวาล 3 ก้อนเพื่อสร้างคริสตัลต้นกำเนิดขึ้นมา 1 ชิ้น แต่เซี่ยเฟยกลับใช้หัวใจจักรวาลไปเพียงแค่ 2 ก้อนครึ่งเท่านั้น หรือมันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าเซี่ยเฟยสามารถกลั่นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่านักกลั่นพลังงานทั่วไปถึง 20%
แม้ว่าตัวเลข 20% จะดูเป็นตัวเลขที่ไม่ค่อยน่าตื่นตาตื่นใจมากนัก แต่ถ้าหากว่าชายหนุ่มเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตคริสตัลต้นกำเนิดเต็มตัว ในเวลานั้นผลกำไรที่เซี่ยเฟยจะได้รับมันก็จะเหนือเกินกว่านักกลั่นพลังงานโดยทั่วไปเป็นเงินจำนวนมหาศาล
“คริสตัลนี้มันก็ดูปกติดี แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันแตกต่างจากคริสตัลต้นกำเนิดอันอื่นนะ?” เซี่ยเหล่าสือหยิบคริสตัลต้นกำเนิดขั้นที่ 4 ที่เซี่ยเฟยผลิตขึ้นมาพิจารณา ก่อนที่เขาจะพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเบา ๆ
***************
ความพิเศษของพี่เฟยยังมีให้เซี่ยเหล่าสือตกตะลึงอยู่เรื่อย ๆ 5555


แสดงความคิดเห็น