ตอนที่ 823 หมาป่าเดียวดายเริ่มเคลื่อนไหว
ตอนที่ 823 หมาป่าเดียวดายเริ่มเคลื่อนไหว
“ในเมื่อพวกแกกล้ามาเหยียบบ้านของสกายวิง แม้ว่าพวกแกจะต้องการกลับแต่อย่างน้อยพวกแกก็ต้องทิ้งขาของตัวเองเอาไว้” เซี่ยอู๋เย่ร้องคำรามด้วยน้ำเสียงที่บ้าคลั่ง
เซี่ยอู๋เย่ควบคุมพลังของตัวเองอย่างรวดเร็ว เพื่อพยายามปิดกั้นไม่ให้ศัตรูหลบหนีออกไปจากสวนแห่งนี้
โมดูหลบเลี่ยงการโจมตีของพ่อบ้านชราอย่างคล่องแคล่ว ท้ายที่สุดเขาก็มีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎขั้นที่ 4 การหลบการโจมตีขนาดใหญ่เช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลย แต่น่าเสียดายที่เหล่าบรรดาสาวกของลัทธิไม่ได้มีความสามารถในการหลบเลี่ยงการโจมตีได้ทุกคน
การจู่โจมของเซี่ยอู๋เย่เปรียบเสมือนพายุที่สามารถคว้าร่างราชากฎ 17 คนเอาไว้ในสวนสายลมได้ในทันที
สวนสายลมเป็นสถานที่ที่พ่อบ้านชราอาศัยอยู่มาเป็นเวลานานหลาย 10 ปีแล้ว พื้นที่ทุกตารางนิ้วในสวนแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนกับเป็นพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเซี่ยอู๋เย่โดยสมบูรณ์ ศัตรูที่หลงเข้ามาจึงเหมือนกับหลุดเข้าไปภายในกรงของสัตว์ร้าย และการพยายามหนีออกไปจากตรงนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำได้ง่าย ๆ
“คนที่เหลือรีบถอยเดี๋ยวนี้!” โมดูตะโกนออกคำสั่งอย่างไม่ค่อยเต็มใจ เพราะเขาไม่มีเวลาที่จะต้องหยิบยื่นความช่วยเหลือไปให้กับคนที่ถูกคว้าร่างเอาไว้แล้วจริง ๆ ไม่อย่างนั้นถ้าหากคนที่ฐานได้รับความพ่ายแพ้ ทางฝั่งของพวกเขาก็จะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ด้วยเหมือนกัน
ในที่สุดโมดูก็นำลูกน้องเคลื่อนที่ผ่านประตูมิติกลับไป น่าเสียดายที่ตอนขามาพวกเขามีราชากฎอยู่ 32 คน แต่ในขากลับราชากฎกลับลดจำนวนลงเหลือเพียงแค่ 15 คนเท่านั้นเอง
—
การต่อสู้อันดุเดือดยังคงดำเนินต่อไป โดยในบางครั้งฝูงหมาป่าสกายวิงก็ถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นยักษ์ แต่ในบางครั้งฝูงหมาป่าก็กระจายแยกซ้ายขวากันออกไป จนทำให้ศัตรูไม่สามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้
รูปแบบการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของสกายวิงสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตลอดเวลา และตราบใดก็ตามที่มีคนกลุ่มน้อยหลุดออกมาจากคนกลุ่มใหญ่ ฝูงหมาป่าสกายวิงก็จะถาโถมเข้าสังหารคนกลุ่มนั้นก่อนที่ใครจะทันได้ตั้งตัว
ราชากฎทั้ง 12 คนของตระกูลมูนวอร์ดที่เคลื่อนไหวเข้าหาสกายวิงโดยประมาทถูกสังหารลงด้วยความรวดเร็ว ซึ่งในช่วงเวลานี้เซี่ยเฟยก็อาศัยความชุลมุนวุ่นวายในการสังหารศัตรูลงไป 2 คนด้วยเช่นกัน
ด้วยความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้นี่เอง มันจึงทำให้กองกำลังพันธมิตรเหลือรอดราชากฎอยู่เพียง 36 คนกับจักรพรรดิกฎอีก 5 คนที่ต้องเผชิญหน้ากับราชากฎ 40 คนและจักรพรรดิกฎอีกสองคนของสกายวิง
เหล่าบรรดาราชากฎไม่ถือว่าเป็นภัยคุกคามสำหรับสกายวิงมากนัก แต่สำหรับ 5 จักรพรรดิกฎยังคงสามารถสร้างแรงกดดันให้กับสกายวิงได้เป็นอย่างมาก
ไม่ว่ายังไงความแข็งแกร่งระหว่างราชากฎกับจักรพรรดิกฎก็เป็นสิ่งที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นถึงแม้พวกเขาจะใช้กลยุทธ์ฝูงหมาป่าในการสังหารราชากฎลงไปเรื่อย ๆ แต่กลยุทธ์เหล่านั้นมันก็ไม่ใช่กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพเมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักรบระดับจักรพรรดิกฎ
“ท่านพี่ สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ค่อยจะดีนัก พวกเราจักรพรรดิทั้งห้าควรจะเริ่มเคลื่อนไหวได้แล้ว ไม่อย่างนั้นพวกฝูงหมาป่าสกายวิงคงจะค่อย ๆ กัดแทะราชากฎของพวกเราไปเรื่อย ๆ” เซียงอู๋เฉิงรีบกล่าวแนะนำเซียงจินเฉิงอย่างรวดเร็ว
เหตุการณ์นี้ทำให้เซียงจินเฉิงรู้สึกลังเลอยู่เล็กน้อย เพราะแผนการเดิมของเขาคือการร่วมสามกองกำลังบุกจู่โจมเข้าใส่สกายวิงในทีเดียว เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่สามกองกำลังสามารถรวมตัวกันได้สำเร็จ เมื่อนั้นพวกเขาก็จะมีราชากฎ 107 คนและมีจักรพรรดิกฎอีกหกคน
ด้วยกำลังพลที่แข็งแกร่งขนาดนี้ พวกเขาก็จะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอนแม้ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับฝูงหมาป่าสกายวิงก็ตาม
อย่างไรก็ตามโมดูก็ยังคงยืนกรานเคลื่อนไหวตามใจของตัวเอง เขาจึงนำกองกำลังของลัทธิต้นกำเนิดมุ่งหน้าไปยังกลุ่มดาวม้าขาวโดยหวังจะทำลายสวนสายลม
โดยการเคลื่อนไหวนี้มันก็ทำให้กองกำลังพันธมิตรลดความแข็งแกร่งลงจากเดิมเป็นอย่างมาก และถ้าหากว่าพวกเขาเผชิญหน้ากับสกายวิงในตอนนี้จริง ๆ เซียงจินเฉิงก็เกรงว่าผลลัพธ์ที่ตามมามันจะเป็นการทำลายล้างซึ่งกันและกัน
สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือหวังว่าโมดูจะนำกองกำลังกลับมายังฐานที่มั่นโดยเร็วที่สุด เมื่อนั้นพวกเขาก็จะสามารถเปิดการโจมตีเข้าใส่สกายวิงโดยไม่จำเป็นจะต้องกังวลอะไร
“เราต้องห้ามเคลื่อนไหวทำอะไรทั้งนั้น แผนการของพวกเราในตอนนี้คือการรอให้โมดูกลับมา แล้วพวกเราค่อยเริ่มจู่โจมโต้กลับ” เซียงจินเฉิงตะโกนออกคำสั่งเสียงดัง
ทันทีที่ชายชราพูดจบเขาก็ได้เห็นประตูมิติถูกเปิดออกในระยะไกล ก่อนที่โมดูจะนำคนของเขากลับมายังหุบเขาโฟลทติงสตาร์
เฮ้!
ขวัญกำลังใจของกองกำลังพันธมิตรเพิ่มขึ้นจากเดิมในทันที เพราะถ้าหากกองกำลังนี้มาเข้าร่วมกับกองกำลังหลัก กองกำลังของพวกเขาก็จะมีราชากฎ 88 คนและจักรพรรดิกฎอีกหกคน ซึ่งมันเป็นจำนวนมากกว่าจำนวนกองกำลังของสกายวิงถึง 2 เท่า
“ฮ่า ๆ ๆ โมดูกลับมาแล้ว! หลังจากนี้พวกเราไม่จำเป็นจะต้องกลัวพวกสกายวิงอีกต่อไป” โนวา จักรพรรดิกฎจากลัทธิเทพโบราณตะโกนพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
แต่ในทันใดนั้นพวกเขาก็ได้เห็นเงาดำพุ่งเข้าหาพวกโมดูโดยไม่มีความลังเลเลยแม้แต่วินาทีเดียว ซึ่งถ้าหากว่ามันมีใครสังเกตเงาดำเงานี้ดี ๆ พวกเขาก็จะได้พบว่าเงาดำเงานี้นั่นก็คือร่างของเซี่ยเฟย
หมาป่าเดียวดายจากฝูงหมาป่าสกายวิงเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว!
โมดูกับคนของเขาอีก 10 กว่าคนยังคงอยู่ห่างจากกองกำลังพันธมิตรหลาย 10 กิโลเมตร เซี่ยเฟยจึงต้องการที่จะตัดกองกำลังพวกนี้ไม่ให้ไปเข้าร่วมกับกองกำลังหลักได้ ไม่อย่างนั้นมันก็จะก่อให้เกิดแรงกดดันอันมหาศาลต่อฝูงหมาป่าสกายวิง
สิ่งที่น่าประหลาดใจคือความมุ่งมั่นที่เซี่ยเฟยแสดงออกมา เพราะอย่าลืมว่าคู่ต่อสู้ของเขาในคราวนี้คือราชากฎ 15 คนที่ถูกนำทีมโดยจักรพรรดิกฎขั้นที่ 4 ที่แข็งแกร่ง และถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะเป็นนักรบที่ทรงพลังมาก แต่มันก็ยากที่เขาจะสามารถจัดการกับกองกำลังระดับนี้ด้วยตัวคนเดียวได้
“นั่นมันเซี่ยเฟย!” เซียงอู๋เฉิงตะโกนขึ้นมาด้วยแววตาแห่งความแค้น ขณะที่นักรบของตระกูลมูนวอร์ดก็กำลังจะจ้องมองไปยังชายหนุ่มคนนี้ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต
ครั้งหนึ่งเซียงอู๋เฉิงเคยตกหลุมพรางของเซี่ยเฟย จนทำให้เขาเสียสติไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ยังดีที่บรรพบุรุษของพวกเขาบนแดนเทพได้ว่าจ้างนักปรุงยาชั้นนำจากเบื้องบนให้หยิบยื่นความช่วยเหลือลงมา มันจึงทำให้เขากลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง
น่าเสียดายที่ถึงแม้เขาจะกลับมามีสติสัมปชัญญะ แต่การฝึกพลังแบบกลับตาลปัตรมันก็ทำให้ร่างกายของเขาสามารถสำแดงพลังออกมาได้เพียงแค่ 60% เท่านั้น เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาปลดปล่อยพลังออกมามากเกินไป ทั่วทั้งร่างกายของเขาก็จะรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกโกรธแค้นเซี่ยเฟยมาจนถึงทุกวันนี้
“ปล่อยมันไป มันคงไม่รู้ว่าโมดูทรงพลังแค่ไหน ถ้ามันอยากตายก็ปล่อยให้มันออกไปตายคนเดียว” เซียงจินเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย
“น่าเสียดายที่ผมไม่สามารถฆ่ามันด้วยมือของตัวเองได้” เซียงอู๋เฉิงกล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างขมขื่น
ในอีกด้านหนึ่งพฤติกรรมอันบ้าคลั่งของเซี่ยเฟยก็ทำให้นักรบทุกคนของสกายวิงรู้สึกตกตะลึง
“ท่านผู้นำ! เซี่ยเฟยกำลังออกไปหยุดกองกำลังของลัทธิต้นกำเนิดเอาไว้ด้วยตัวคนเดียว” เซี่ยเทียนกล่าวด้วยความตื่นตระหนก
“ปล่อยเขาไป” เซี่ยบูหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ซึ่งมันก็ทำให้เซี่ยเทียนชะงักค้างไปอย่างฉับพลัน เพราะเขาไม่คิดว่าผู้นำตระกูลจะตัดสินใจแบบนี้
“เขาคือหมาป่าเดียวดายของพวกเรา การสกัดกั้นศัตรูเพื่อเปิดเส้นทางให้กองกำลังหลักคือหน้าที่ที่เขาจะต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขาคือผู้ที่จะกลายเป็นอีวิลวิงในอนาคต ถ้าหากเรื่องแค่นี้เขายังทำไม่ได้เขาก็ไม่ควรจะได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรติของตระกูล” เซี่ยบูหยุนกล่าวอย่างหนักแน่น
—
ฟุบ!
เซี่ยเฟยพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าเพื่อพยายามหยุดกองกำลังของพวกโมดูเอาไว้
“นายจะบ้าไปแล้วงั้นเหรอ?! ศัตรูมีจำนวนอยู่ตั้ง 16 คนเชียวนะ” โอโร่อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“นี่คือความรับผิดชอบของผม” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างมุ่งมั่นโดยไม่มีทีท่าว่าจะถอยแม้แต่น้อย
เมื่อฝูงหมาป่าทำการโจมตี หน้าที่ของเขาคือการทำทุกอย่างเพื่อเปิดเส้นทางให้ฝูงหมาป่าจู่โจมได้อย่างสะดวกมากที่สุด
หากศัตรูมีการป้องกันที่แข็งแกร่งเขาก็จะต้องหาทางทำลายการป้องกันของศัตรูลงไปให้ได้ หากฝูงหมาป่าต้องการที่จะล่าถอยเขาก็จำเป็นจะต้องเปิดเส้นทางล่าถอยให้กับพวกพ้อง หากเขาพบเห็นศัตรูหลงทางออกมาเพียงลำพัง เมื่อนั้นเขาจะต้องลงมือสังหารไม่ให้ใครหลุดรอดออกไปจากเงื้อมมือของฝูงหมาป่าได้ และนี่ก็คือหน้าที่ของหมาป่าเดียวดายที่เขาได้รับมอบหมายมาจากตระกูล
หมาป่าแต่ละตัวภายในฝูงต่างก็ล้วนแล้วแต่มีหน้าที่เป็นของตัวเอง ทุกคนจึงรู้ดีว่าหน้าที่ภายในสนามรบของพวกเขาคืออะไร และถ้าหากว่าใครเกิดละทิ้งหน้าที่ของตัวเองไปแม้แต่นิดเดียว มันก็อาจจะทำให้ฝูงหมาป่าแข็งแกร่งไม่สามารถที่จะคงไว้ซึ่งความกล้าหาญของมันได้
ด้วยตำแหน่งของเซี่ยเฟยมันย่อมเป็นตำแหน่งที่อันตรายที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ตำแหน่งนี้มีหน้าที่ที่ต้องแบกความรับผิดชอบเอาไว้อย่างมากมาย แล้วมันก็มีเพียงแค่นักรบที่ฉลาดที่สุดและบ้าคลั่งที่สุดของตระกูลเท่านั้น ที่จะสามารถแบกความรับผิดชอบของตำแหน่งนี้เอาไว้ได้
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรู เซี่ยเฟยก็ทำการปลดปล่อยจิตอสูรออกมาอย่างเต็มกำลัง หุบเขาอันทอดยาวไร้ที่สิ้นสุดจึงถูกปกคลุมไปด้วยจิตสังหารอันบ้าคลั่งภายในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที
บรรยากาศเยือกเย็นลงอย่างฉับพลัน เมฆบนท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มอย่างไม่ทราบสาเหตุ และนี่ก็คือพลังของจิตอสูรอันบ้าคลั่งที่สุดที่เคยมีในประวัติศาสตร์ของสกายวิง
เหล่าบรรดานักรบของลัทธิต้นกำเนิดต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ฝึกฝนกฎมิติ พวกเขาจึงต้องการจะเคลื่อนย้ายร่างเพื่อไปรวมกลุ่มกับกองกำลังหลัก แต่น่าเสียดายที่พวกเขายังคงเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้ามากจนเกินไป เซี่ยเฟยจึงได้มาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเขาซะก่อน
“หงส์ครามฉีกกระชากพวกมันซะ!”
ใบหญ้าทั้งห้าใบของหงส์ครามพุ่งทะลุพื้นดินออกมาอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดเศษหินน้อยใหญ่พุ่งกระจายออกไปจนทั่ว
ดอกไม้คริสตัลบนใบหญ้าสีฟ้าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งพวกมันก็ไม่เพียงแต่จะเป็นดอกไม้ที่สวยงามเท่านั้น แต่พวกมันยังแผ่กลิ่นอายแห่งความตายออกมาด้วย
ตูม ๆ ๆ ๆ
การใช้ประตูมิติของกฎมิติจำเป็นจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 วินาทีในการเปิดใช้งาน และถึงแม้ว่าช่วงเวลานี้จะไม่เป็นปัญหาสำหรับการเผชิญหน้ากับนักรบธรรมดา แต่สำหรับนักรบความเร็วสูงอย่างเซี่ยเฟย เวลาเล็กน้อยเพียงเท่านี้มันก็มากพอที่จะทำให้เขาสามารถกำจัดศัตรูลงไปได้แล้ว
ใบหญ้าของหงส์ครามกวาดไปทั่วทุกพื้นที่ราวกับหนวดปลาหมึกขนาดใหญ่ ทำให้นักรบที่กำลังจะเข้าไปภายในประตูมิติถูกดึงออกมาจนไม่สามารถกลับไปเข้าร่วมกับกองกำลังหลักได้
การเคลื่อนไหวนี้เป็นการกระทำที่บ้าคลั่งมาก เพราะการพยายามโจมตีผ่านประตูมิติจะทำให้ถูกมิติตัดขาดด้วยเช่นกัน การเคลื่อนไหวของหงส์ครามจึงทำให้ใบหญ้าของมันถูกตัดขาดออกจากกันว่อนไปทั่วทั้งท้องฟ้าเป็นชิ้น ๆ
อย่างไรก็ตามหงส์ครามก็เป็นอาวุธมายาที่ดื้อรั้นที่สุดในจักรวาล ใบหญ้าที่ถูกตัดขาดออกไปจึงงอกขึ้นมาใหม่อย่างไม่ยอมแพ้เพื่อพยายามเหนี่ยวรั้งศัตรูทั้ง 16 คนในที่นี้เอาไว้
“พวกแกจะต้องอยู่ที่นี่กับฉัน!!” เซี่ยเฟยร้องคำรามออกมาด้วยน้ำเสียงอันชั่วร้าย ขณะชี้นิ้วออกไปใส่หน้าของศัตรูที่ถูกดึงออกมาจากประตูมิติทั้ง 16 คน
***************
กระชากออกมาเลยเหรอ!! หะหะโหดไป๊


แสดงความคิดเห็น