ตอนที่ 824 การโจมตีอันน่าทึ่ง
ตอนที่ 824 การโจมตีอันน่าทึ่ง
“พวกแกจะต้องอยู่ที่นี่กับฉัน!!” เซี่ยเฟยร้องคำรามออกมาด้วยน้ำเสียงอันชั่วร้าย ขณะชี้นิ้วออกไปใส่หน้าของศัตรูที่ถูกดึงออกมาจากประตูมิติทั้ง 16 คน
ภาพเหตุการณ์นี้เป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงมาก เพราะเซี่ยเฟยสามารถที่จะหยุดทีมของราชากฎ 15 คนและจักรพรรดิกฎอีกหนึ่งคนเอาไว้ได้เพียงลำพัง
เหล่าบรรดานักรบของลัทธิต้นกำเนิดที่ถูกดึงออกมาจากประตูมิติค่อย ๆ ลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความอับอาย อย่างไรก็ตามเนื่องมาจากว่าหงส์ครามคว้าร่างพวกเขาออกมาจากประตูมิติ มันจึงทำให้ทุกคนไม่เพียงแต่จะได้รับแรงกระแทกเท่านั้น แต่บางคนก็ถึงขั้นได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงด้วย
เซี่ยบูหยุนกับเซี่ยเทียนที่อยู่ห่างออกไปแอบชื่นชมเซี่ยเฟยอย่างลับ ๆ เมื่อได้เห็นว่าชายหนุ่มยังคงทำหน้าที่ของหมาป่าเดียวดายเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
หงส์ครามยังคงฟื้นฟูใบหญ้าของมันกลับมาอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งพลังในการฟื้นฟูของมันมีความแข็งแกร่งมากจนทำให้บาดแผลในก่อนหน้านี้ถูกฟื้นฟูกลับมาจนหายดีหมดแล้ว
นอกจากนี้ขนอุยบนไหล่ของเซี่ยเฟยยังเฝ้าดูศัตรูตรงหน้าอย่างกระตือรือร้น ภายในแววตาของมันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง พร้อมที่จะเคลื่อนไหวออกไปสังหารศัตรูได้ตลอดเวลา
“ฆ่ามัน!!” โมดูตะโกนออกคำสั่งด้วยความหงุดหงิด เพราะเขาต้องการที่จะกลับไปรวมตัวกับกองกำลังหลักโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามเจ้าลัทธิต้นกำเนิดก็ไม่ได้เข้าร่วมการจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยด้วย เพราะเขาคิดว่าลูกน้องของเขาทั้ง 15 คนก็เพียงพอต่อการกำจัดมดปลวกตัวนี้ได้แล้ว มันจึงไม่จำเป็นจะต้องให้เขาออกแรงเพื่อจัดการกับศัตรูด้วยตัวเอง เขาจึงพยายามเปิดประตูมิติขึ้นมาใหม่เพื่อกลับไปรวมกลุ่มกับกองกำลังหลัก
น่าเสียดายที่เขาประมาทศัตรูมากจนเกินไป เพราะถึงแม้เซี่ยเฟยในปัจจุบันจะมีพลังอยู่ในระดับราชากฎขั้นที่ 6 แต่ในความเป็นจริงพลังของเขามันก็เทียบเท่าได้กับจักรพรรดิกฎผู้ทรงพลัง
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าพวกแกจะต้องอยู่ที่นี่กับฉัน!” เซี่ยเฟยเริ่มควบคุมหงส์ครามอีกครั้งให้มันทำการตวัดใบหญ้าพุ่งเข้าทำลายประตูมิติที่เพิ่งถูกเปิดออกอย่างรุนแรง
ระหว่างนั้นใบหญ้าขนาดใหญ่ก็เคลื่อนที่ไปคว้าจับร่างของนักรบชูขึ้นไปบนอากาศ และเมื่อใบหญ้าเริ่มออกแรงบีบรัดอย่างรุนแรง เสียงกระดูกที่ถูกบดขยี้ก็ดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณ ก่อนที่ในที่สุดร่างของนักรบคนนั้นจะระเบิดออกจากกันทำให้เศษเลือดเศษเนื้อแตกกระจายกันออกไป
ในเวลาเดียวกันขนอุยก็เริ่มโจมตีโดยการพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วสูง และปลดปล่อยระเบิดพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวของมันทำให้พื้นที่ในบริเวณนั้นกลายเป็นหลุมเป็นบ่อคล้ายกับพื้นผิวของดวงจันทร์ และทำให้มีฝุ่นควันคละคลุ้งไปทั่วทั้งฟากฟ้า
ทั้งหงส์ครามและขนอุยต่างก็จู่โจมเข้าใส่ศัตรูอย่างบ้าคลั่ง การพยายามเปิดประตูมิติขึ้นมาในสถานที่ที่วุ่นวายเช่นนี้ มันก็ไม่ต่างไปจากการพยายามฆ่าตัวตาย และถ้าหากว่าใครคิดจะวิ่งหนีหงส์ครามก็พร้อมจะพุ่งตัวออกมาจากพื้นดินเพื่อบดขยี้ร่างของนักรบเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
เหล่าฝูงชนเริ่มเกิดความโกลาหลขึ้นมาอย่างฉับพลัน และมันก็เป็นโอกาสดีที่เซี่ยเฟยจะเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อสังหารศัตรู
ชายหนุ่มเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 240,000 เมตรต่อวินาทีตวัดบลัดบิวเทียสออกไปด้วยความรวดเร็ว และเมื่อไหร่ก็ตามที่ดาบเล่มนี้ตัดผ่านร่างของศัตรูไป ร่างของศัตรูเหล่านั้นก็จะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นซากศพที่แห้งเหี่ยว
ภายในชั่วพริบตาเซี่ยเฟยก็สามารถสังหารราชากฎไปได้แล้วถึงสามคน เหล่าบรรดาทหารที่อยู่ในสนามรบหลักต่างก็มองมายังภาพเหตุการณ์นี้อย่างตกตะลึง เพราะมันไม่มีใครเคยคาดคิดว่าเซี่ยเฟยจะสามารถหยุดกองกำลังของลัทธิต้นกำเนิดเอาไว้โดยลำพังได้จริง ๆ
นี่คือพลังของหมาป่าเดียวดายแห่งตระกูลสกายวิง และไม่ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรู 1 คนหรือ 10,000 คน แต่เขาก็ต้องกระโจนเข้าไปเพื่อหยุดศัตรูเอาไว้โดยไม่ลังเล
หลังจากตื่นตระหนกอยู่ชั่วครู่หนึ่งนักรบของลัทธิต้นกำเนิดก็พยายามตั้งสติและกลับไปรวมกลุ่มกันอีกครั้ง ท้ายที่สุดระยะการจู่โจมของหงส์ครามและขนอุยก็มีอยู่อย่างจำกัด ตราบใดก็ตามที่พวกเขาไม่เข้าไปในสนามรบอันวุ่นวาย เซี่ยเฟยก็ยากที่จะใช้ความวุ่นวายเพื่อสังหารพวกเขาลงไปได้
ในเวลาเดียวกันฝูงหมาป่าสกายวิงภายในสนามรบหลักก็ยังคงตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก เพราะจำนวนของศัตรูมีจำนวนมากกว่าพวกเขามากจนเกินไป หากว่ามันมีใครเข้าไปเติมเต็มกองกำลังหลักแม้แต่เพียงคนเดียว มันก็อาจจะทำให้ฝูงหมาป่าสกายวิงแตกพ่ายลงไปได้เลย
ด้วยเหตุนี้เองเซี่ยเฟยจึงไม่ต้องการให้ใครสามารถเข้าไปร่วมกับกองกำลังหลักของพันธมิตร และไม่ว่าเขาจะต้องใช้วิธีการไหนเขาก็จะต้องขัดขวางนักรบของลัทธิต้นกำเนิดเอาไว้ให้ได้
ชายหนุ่มค่อย ๆ ใช้นิ้วแตะแหวนมิติก่อนที่เขาจะนำดาบดราก้อนสเกล, วิญญาณหวนและหิมะโปรยออกมา ซึ่งอาวุธเหล่านี้เป็นอาวุธที่เขาไม่ค่อยได้ใช้งานอีกต่อไปแล้ว เขาจึงควบคุมพวกมันแยกตัวออกจากกันโบยบินอยู่ในอากาศรอบ ๆ ร่างของเขา
“หือ?” โมดูอุทานขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะเขาไม่รู้ว่าเซี่ยเฟยกำลังพยายามจะทำอะไรกันแน่
นอกเหนือจากความเร็วแล้วเซี่ยเฟยยังสามารถใช้พลังจิตได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามถึงแม้เขาจะสามารถควบคุมอาวุธเพื่อใช้ในการจู่โจมได้ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะควบคุมอาวุธเป็นจำนวนมากได้ในคราวเดียว
ดังนั้นถึงแม้เขาจะควบคุมอาวุธเหล่านี้ให้มาลอยอยู่บริเวณรอบ ๆ ตัวของเขาได้ แต่เขาย่อมไม่สามารถจะควบคุมอาวุธเหล่านี้ให้จู่โจมเข้าใส่ศัตรูได้อย่างแน่นอน
หรือว่าเซี่ยเฟยจะเอาอาวุธทั้งหมดออกมาโชว์ว่าเขามีอาวุธชั้นยอดอยู่ภายใต้การครอบครองเป็นจำนวนมากแค่ไหน?
ไม่มีทาง! คนบ้าที่ไหนมันจะเอาอาวุธออกมาโชว์ในเวลาแบบนี้
ตูม!
จู่ ๆ เม็ดพลังงานภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของชายหนุ่มก็เริ่มระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง คล้ายกับว่าชายหนุ่มกำลังต้องการจะระเบิดพลังงานทั้งหมดออกมาในคราวเดียว
โอโร่ที่อยู่ภายในแหวนมิติถอนหายใจพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดตาไว้ เพราะด้วยความบ้าคลั่งของเซี่ยเฟย เขาจึงเริ่มคาดเดาได้แล้วว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังคิดจะทำอะไรกันแน่
ตูม!
ในที่สุดพลังทั้งหมดภายในสมองก็ถูกระเบิดออกไปผ่านทางร่างกาย ก่อให้เกิดการระเบิดอันรุนแรงราวกับระเบิดนิวเคลียร์
คลื่นกระแทกอันทรงพลังพุ่งไปยังทั่วทุกพื้นที่อย่างบ้าคลั่ง ที่น่ากลัวมากกว่านั้นคืออาวุธของเซี่ยเฟยถูกกระแทกให้บินออกไปพร้อมกับแรงระเบิดที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขาด้วย
กลวิธีในการทำระเบิดคือการใช้โลหะแข็งล้อมรอบตัวระเบิดเอาไว้ และเมื่อไหร่ก็ตามที่ระเบิดถูกจุดชนวน โลหะแข็งเหล่านี้ก็จะถูกดีดออกไปในระยะไกลเพื่อเพิ่มความเสียหายให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สิ่งที่เซี่ยเฟยทำคือกลวิธีเดียวกันกับการทำระเบิด เพียงแต่ว่าเขาใช้ร่างกายของตัวเองเป็นตัวจุดชนวน และใช้อาวุธที่เขาเคยใช้งานในอดีตเป็นโลหะแข็งที่ล้อมรอบระเบิดเอาไว้
วิธีการนี้เป็นวิธีการของคนบ้าชัด ๆ และถ้าหากว่าเขาไม่ใช่คนบ้าในหมู่คนบ้า เขาคงจะไม่มีทางคิดเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ขึ้นมาได้
ยิ่งไปกว่านั้นพลังที่ถูกจุดชนวนขึ้นมามันยังเป็นพลังชีวิตของราชากฎที่เซี่ยเฟยพึ่งดูดกลืนเข้าไป แรงระเบิดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จึงมีความรุนแรงเทียบเท่ากับการที่ราชากฎ 3 คนระเบิดพลังงานทั้งหมดภายในร่างของตัวเองออกมา เพื่อเตรียมพร้อมจะสละชีวิตของตัวเองให้ศัตรูตกตายกันไป
เปลวไฟพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างกะทันหัน ก่อให้เกิดหลุมลึกขนาดใหญ่ที่ยุบลงไปไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร
การระเบิดพลังในคราวนี้ทำให้ราชากฎทุกคนของลัทธิต้นกำเนิดได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้แต่โมดูก็ถูกหิมะโปรยเสียบเข้าที่ท้องจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักด้วยเช่นกัน
เจ้าลัทธิต้นกำเนิดถ่มเลือดออกมาจากปากพร้อมกับจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต และเขาอยากจะแยกสมองของชายหนุ่มออกมาดูจริง ๆ ว่าในสมองของคนบ้าแบบนั้นมันมีอะไรซุกซ่อนเอาไว้กันแน่
จู่ ๆ ก็ระเบิดพลังออกมาเนี่ยนะ!?
เขากำลังคิดจะฆ่าตัวตายเพื่อลากศัตรูให้ตายตามกันไปด้วยหรือยังไง?
แน่นอนว่าความคิดของเซี่ยเฟยในตอนนี้เป็นสิ่งที่เรียบง่ายมาก เพราะเขาพร้อมที่จะหยุดศัตรูไว้โดยไม่สนใจชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำ สิ่งที่เขาจำเป็นจะต้องทำมีเพียงแค่การทำตามหน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมายมาจากตระกูล
สนามรบหลักในระยะไกลก็หยุดนิ่งเป็นการชั่วคราวด้วยเหมือนกัน เพราะแรงระเบิดที่เซี่ยเฟยปลดปล่อยออกมาเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเซี่ยเฟยได้สั่งสอนบทเรียนให้ทุกคนได้รู้ว่า เพื่อความสำเร็จของตระกูลพวกเขาจำเป็นจะต้องมีความกล้าหาญ แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่คนทั่วไปไม่คิดว่าจะทำสำเร็จได้ก็ตาม
อ๊าก!!
ฝูงหมาป่าสกายวิงเริ่มส่งเสียงร้องขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาของพวกเขาถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสีแดงก่ำมากขึ้นกว่าเดิม และแต่ละคนต่างก็ทวีความดุร้ายมากยิ่งขึ้น
พวกเขาทุกคนต่างก็คิดว่าเซี่ยเฟยเลือกระเบิดตัวเองเพื่อสกัดกั้นกองกำลังเสริมของศัตรูเอาไว้ เปลวไฟแห่งความโกรธแค้นภายในใจของพวกเขาจึงไม่สามารถรับเอาไว้ได้อีกต่อไป จิตอสูรภายในใจของทุกคนต่างก็ถูกปลดปล่อยออกมาในระดับที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
“ฆ่ามัน!”
นักรบสกายวิงเริ่มจู่โจมออกไปอย่างบ้าคลั่ง ผลที่ตามมาคือการโจมตีที่รุนแรงและโหดร้ายมากยิ่งขึ้น
สกายวิงบ้าไปแล้ว!
ในเวลาเดียวกันชายหนุ่มคนหนึ่งก็ค่อย ๆ ขยับเท้าก้าวออกมาจากกองเถ้าถ่านอย่างช้า ๆ คล้ายกับว่าเขาเป็นนกฟินิกซ์ที่กำลังถือกำเนิดขึ้นมาใหม่จากกองขี้เถ้า
***************
ฉากการต่อสู้ของพวกสกายวิงเป็นตอนที่ใช้คำว่าบ้าคลั่งบ่อยมากจริง ๆ แต่ก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาได้นอกจากว่าบ้า! บ้ากันสุด ๆ!!


แสดงความคิดเห็น