ตอนที่ 790 งานชุมนุมของสมาคมใต้ดิน

-A A +A

ตอนที่ 790 งานชุมนุมของสมาคมใต้ดิน

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 790 งานชุมนุมของสมาคมใต้ดิน

แม้ว่าจะมีข้อสงสัยอยู่เล็กน้อยแต่เซี่ยเฟยก็ยังเลือกที่จะเชื่อมู่เสียวเต๋าเป็นการชั่วคราว ทั้งสองจึงมุ่งหน้าลงไปยังซอยแคบ ๆ ก่อนที่พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบ ๆ

มู่เสียวเต๋ายังคงเล่นกับมีดผีเสื้อภายในมืออย่างคล่องแคล่ว ขณะที่เขาเอนตัวลงไปพิงมุมห้องและเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า

“นายไปเข้าร่วมสมาคมอาชาดำตั้งแต่เมื่อไหร่?” เซี่ยเฟยกล่าวถาม

“หลังจากที่ฉันได้เข้าไปอยู่ในตระกูลม่อ ฉันก็รู้ตัวเลยว่าตัวเองเหมาะสมที่จะเป็นนักฆ่ามากกว่า ต่อมาฉันได้เจอกับลูกพี่เฟอร์นัน ตาแก่ตัวเตี้ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉันเมื่อกี้นี้แหละ เขาเป็นหัวหน้าคนที่ 3 ของสมาคมและเป็นคนชวนให้ฉันเข้าร่วมกับสมาคมด้วย วันนี้ฉันก็ถูกส่งตัวมาทำงานแต่ฉันก็ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีโอกาสได้เจอนายอีกครั้ง”

“โชคชะตาของพวกเรามันช่างเล่นตลกจริง ๆ ถึงแม้ชีวิตของฉันจะพลิกผันไปหลายครั้งแต่ฉันก็ยังคงเป็นนักฆ่าอยู่วันยังค่ำ ในทางกลับกันจู่ ๆ นายก็กลายเป็นสมาชิกของตระกูลสกายวิงที่โด่งดัง แม้ว่าก่อนหน้านั้นฉันจะไม่เชื่อในเรื่องโชคชะตา แต่ฉันก็ต้องยอมรับว่าบางครั้งชีวิตของคนเรามันก็ถูกกำหนดเอาไว้โดยโชคชะตาอยู่จริง ๆ” มู่เสียวเต๋ากล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“หึ” เซี่ยเฟยพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา เพราะว่าเขามีความทรงจำแย่ ๆ กับสมาคมอาชาดำอยู่เต็มไปหมด

“ที่นายยังโกรธอยู่เป็นเพราะว่าสมาคมอาชาดำไล่ล่าค่าหัวนายในก่อนหน้านี้ใช่ไหมล่ะ? อันที่จริงเรื่องนี้มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับสมาคมหรอก เพราะถ้าหากว่ามันมีใครยอมจ่ายค่าหัวให้นาย นักฆ่าจากทั่วทุกที่ก็ยังคงมุ่งเป้าไปหานายอยู่ดี”

“ท้ายที่สุดโลกใต้ดินมันก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ว่าจะเป็นที่พันธมิตรหรือดินแดนกฎก็ตาม” มู่เสียวเต๋ากล่าวพร้อมกับผายมือออกทั้งสองข้างอย่างช่วยไม่ได้

“ช่วยเล่าเรื่องพวกสมาคมวิหคดำให้ฟังหน่อยสิ” เซี่ยเฟยกล่าวถาม

“แต่ละเผ่าพันธุ์ในดินแดนกฎต่างก็มีสมาคมในโลกใต้ดินเป็นของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น สมาคมอาชาดำของเผ่ามนุษย์หรือสมาคมวิหคดำของเผ่าซุนนี”

“ถึงแม้ว่ามันจะมีการแบ่งสมาคมออกไปในแต่ละเผ่าพันธุ์ แต่สมาคมพวกนี้ก็ยังมีการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นครั้งคราว ตราบใดก็ตามที่อีกฝ่ายตกลงราคากันได้” มู่เสียวเต๋ากล่าว

“ที่ก่อนหน้านี้มีนักรบหลาย ๆ คนเลือกที่จะไม่ลงมือ นั่นก็เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ในสมาคมวิหคดำงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยถาม

“ใช่ พวกเรามาที่นี่ในฐานะแขกของสมาคม เราไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในของสมาคม เว้นแต่ว่าจะมีการตกลงกันเอาไว้ก่อน โชคดีแล้วที่มันเป็นแบบนั้นเพราะไม่งั้นนายคงจะถูกรุมจากนักรบมากกว่านี้ เชื่อฉันเถอะไม่ว่านายจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่ถ้าหากนายถูกรุมจากนักรบเป็นจำนวนมาก มันก็จะสร้างปัญหาปวดหัวให้กับนายอยู่ดี” มู่เสียวเต๋ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยเฟยยังคงนิ่งเงียบโดยไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ ออกมา

“ในทุก ๆ งานแลกเปลี่ยนสินค้ามันก็ไม่ได้มีเพียงแต่พ่อค้าปกติเท่านั้นที่มุ่งหน้ามางาน พ่อค้าจากโลกใต้ดินอย่างพวกเราก็จะเดินทางมารวมตัวกันด้วยเหมือนกัน โดยในคราวนี้สมาคมวิหคดำทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ และถ้าหากว่านายไม่ใช่สมาชิกของสมาคมใต้ดิน นายก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนสินค้าของสมาคมใต้ดินได้”

“คนส่วนใหญ่จะหันหลังกลับทันทีที่ถูกพนักงานเฝ้าร้านหยุดเอาไว้ แต่นายกลับเลือกลงมือสังหารคนของสมาคมโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย” มู่เสียวเต๋ากล่าว

“งานแลกเปลี่ยนของโลกใต้ดิน มันคงจะมีของน่าสนใจมาขายเยอะเลยใช่ไหม?” เซี่ยเฟยถาม

“ฉันเพิ่งเข้าร่วมสมาคมอาชาดำเมื่อเดือนที่แล้ว เรื่องนี้ฉันคงจะให้คำตอบนายไม่ได้เหมือนกัน” มู่เสียวเต๋ากล่าวพร้อมกับส่ายหัว

เซี่ยเฟยต้องการที่จะตามหาดักแด้จักจั่นทองแดงกับเฮเลนอย่างเร่งด่วน งานแลกเปลี่ยนสินค้าของพวกสมาคมโลกใต้ดินจึงดึงดูดความสนใจเขาได้มากเลยทีเดียว

“ลูกพี่สามอยากจะคุยกับนายที่ร้านอาหารตรงนั้น นายสนใจอยากจะไปคุยกับเขาดูหน่อยไหม?” มู่เสียวเต๋ากล่าวถาม

“เขาจะมาคุยอะไรกับฉัน?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย

“บางทีเขาอาจจะมาขอโทษเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับนายเอาไว้ก็ได้ ท้ายที่สุดสมาคมอาชาดำก็ตั้งอยู่ในกลุ่มดาวม้าขาว และทุกคนที่อยู่ในกลุ่มดาวม้าขาวก็ไม่มีใครอยากจะเป็นศัตรูกับสกายวิงหรอก ฉันมีหน้าที่แค่ส่งข้อความให้กับนายเท่านั้น ส่วนนายจะไปหรือไม่ไปเรื่องนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับนายเอง” มู่เสียวเต๋ากล่าวพร้อมกับยักไหล่

เซี่ยเฟยปลอมตัวตามมู่เสียวเต๋าไปที่ร้านอาหารอยู่ห่าง ๆ ซึ่งหลังจากที่เขาได้ปล่อยให้สหายเก่าเข้าร้านไปสักพัก เขาค่อยเดินตามเข้ามาเมื่อแน่ใจว่ามันไม่มีอะไรที่น่าสงสัย

“นายนี่ยังระมัดระวังตัวอยู่เหมือนเดิมเลยนะ” มู่เสียวเต๋ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ระวังเอาไว้ก่อนก็ไม่เสียหายนี่” เซี่ยเฟยตอบอย่างใจเย็น

“ตอนนี้นายเป็นสมาชิกของตระกูลสกายวิงแล้ว เชื่อฉันเถอะว่าถึงแม้ลูกพี่ฉันจะมีความกล้ามากกว่านี้ 100 เท่า แต่ว่าเขาก็ไม่กล้าที่จะแตะต้องนายหรอก” มู่เสียวเต๋ากล่าว

เซี่ยเฟยไม่ได้สนใจคำพูดของมู่เสียวเต๋าเท่าไหร่นัก เพราะเขายังคงระมัดระวังตัวอย่างเป็นนิสัย ไม่ว่าตัวตนของเขาในปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมยังไงก็ตาม เพราะสาเหตุที่ทำให้เขารอดชีวิตมาได้นานขนาดนี้ นั่นก็เพราะว่าเขายังคงยึดมั่นในหลักการใช้ชีวิตของตัวเอง

หลังจากเข้าไปในห้องส่วนตัวบนชั้น 2 เซี่ยเฟยก็ได้พบกับเฟอร์นัน ชายชราร่างเตี้ยหน้าแดงผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าคนที่ 3 ของสมาคมอาชาดำนั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้ว

เฟอร์นันเชิญให้เซี่ยเฟยนั่งพร้อมกับรินน้ำชาให้กับชายหนุ่มอย่างสุภาพ นอกจากนี้เขายังไม่พูดถึงเรื่องความบาดหมางระหว่างเขากับสมาคมวิหคดำเลย ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายรู้สึกให้เกียรติตระกูลสกายวิงมากจริง ๆ

เซี่ยเฟยก็ไม่คิดที่จะพูดถึงเรื่องในอดีตด้วยเช่นกัน ท้ายที่สุดโลกใต้ดินก็มีหน้าที่ของมันเอง ดังนั้นถ้าหากว่าเขาต้องการจะอยู่ภายในกลุ่มดาวม้าขาวต่อไป การบาดหมางกับนักเลงท้องถิ่นก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาด้วยเช่นกัน

“ฉันได้ยินมาว่าทางสมาคมวิหคดำเชิญสมาคมโลกใต้ดินทั่วทั้งดินแดนกฎมารวมตัวกันในงานแลกเปลี่ยนสินค้าครั้งนี้งั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวถามหลังจากที่พวกเขานั่งรับประทานอาหารไปสักพัก

“ถูกต้อง ที่ฉันกับมู่เสียวเต๋ามาที่นี่ก็เพราะว่างานชุมนุมนี้ด้วยเหมือนกัน แต่กฎของพวกเราแตกต่างจากคนปกติเล็กน้อย เพราะงานแลกเปลี่ยนสินค้าจะเริ่มต้นขึ้นในตอนกลางคืน” เฟอร์นันกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

นับตั้งแต่ที่สมาคมอาชาดำได้พบว่าเซี่ยเฟยมีสายเลือดของสกายวิง พวกเขาก็รู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก และพยายามหาโอกาสที่จะแก้ไขความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับเซี่ยเฟยใหม่ เพราะท้ายที่สุดโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับตระกูลมูนวอร์ดก็ยังคงฝังแน่นในจิตใจของทุกคน ทางสมาคมอาชาดำที่ส่งนักฆ่าออกไปไล่ล่าค่าหัวเซี่ยเฟยจึงใช้ชีวิตอยู่อย่างลุกลี้ลุกลนด้วยเช่นกัน

น่าเสียดายที่สมาคมอาชาดำกับตระกูลสกายวิงไม่ใช่สิ่งที่จะโคจรมาพบกันได้ง่าย ๆ พวกเขาจึงยังไม่ได้มีโอกาสแก้ไขความสัมพันธ์อันย่ำแย่ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

การที่มู่เสียวเต๋าสามารถเชิญเซี่ยเฟยมารับประทานอาหารร่วมกันกับเฟอร์นันในครั้งนี้ได้ จึงถือว่าเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ได้บ้างแล้ว ชายชราจึงแอบให้ความสำคัญกับมู่เสียวเต๋ามากขึ้นกว่าเดิม เพราะชายคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเซี่ยเฟยจากตระกูลสกายวิง

มู่เสียวเต๋าที่อยู่ทางด้านข้างทำได้เพียงแต่เผยรอยยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เพราะย้อนกลับไปในครั้งแรกที่เขากับเซี่ยเฟยได้พบเจอกัน พวกเขาก็ถือว่าเป็นศัตรูที่จ้องจะเอาชีวิตกันและกันมาโดยตลอด แต่จู่ ๆ ตอนนี้เขากลับได้รับความดีความชอบเพราะรู้จักกับเซี่ยเฟย เขาจึงไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องจัดการกับอารมณ์ในตอนนี้ยังไงดี

ในบางครั้งโชคชะตาก็เล่นตลกจากจุดเริ่มต้นที่พวกเขาต้องปะทะกันตามกฎของดาวมรดก ก็เปลี่ยนเป็นสหายที่เริ่มรู้จักกันเพราะบังเอิญมาพบกันในดินแดนกฎอีกครั้ง ยิ่งในวันนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ดูจะซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่าทั้งเซี่ยเฟยและมู่เสียวเต๋าต่างก็ไม่คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะมาลงเอยแบบนี้ด้วยเช่นกัน

“ฉันอยากจะเข้าร่วมงานด้วยจะได้ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างสบาย ๆ

“นายน้อยเฟยอย่าล้อเล่นเลย เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนคุณพึ่งไปอาละวาดใส่คนของวิหคดำตั้งขนาดนั้น แต่ตอนนี้คุณอยากจะเข้าไปร่วมงานที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพนั้นเหรอ?” เฟอร์นันกล่าวขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

“ถ้าฉันเข้าไปในงานเองได้ ฉันก็คงจะไม่มารบกวนคุณหรอก” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

คำขอของเซี่ยเฟยเริ่มทำให้เฟอร์นันรู้สึกวิตกกังวลจนเหงื่อไหลออกมาท่วมทั้งใบหน้า

“ถ้าคุณลำบากใจพวกเราก็แยกย้ายกันเท่านี้เถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวเมื่อเห็นท่าทางลำบากใจของอีกฝ่าย

“เดี๋ยวก่อน! นายน้อยเฟยกรุณานั่งลงก่อน เรื่องนี้มันค่อนข้างจะยุ่งยากอยู่เล็กน้อย แต่ฉันก็ไม่ได้บอกว่าทางพวกเราจะไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ” เฟอร์นันรีบลุกขึ้นคว้าตัวเซี่ยเฟยเอาไว้

เมื่อเซี่ยเฟยเห็นว่าอีกฝ่ายยอมตกลงแต่โดยดี เขาจึงนั่งลงอีกครั้งด้วยท่าทางสบาย ๆ

“ในเมื่อนายน้อยเฟยต้องการจะเข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนสินค้าของโลกใต้ดินในครั้งนี้ ฉันก็จะยอมเสี่ยงชีวิตร่วมเดินทางไปพร้อมกับคุณเอง”

“อย่าลืมว่าที่นี่คือกลุ่มดาวห่านป่าซึ่งเป็นถิ่นฐานของชาวซุนนีไม่ใช่มนุษย์ ดังนั้นถ้าหากว่าคุณจะทำอะไรคุณก็ควรจะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม และถ้าหากว่าคุณสนใจสินค้าชิ้นไหนก็ขอให้บอกฉันมาได้เลย เดี๋ยวฉันจะซื้อของพวกนั้นเป็นของขวัญในฐานะที่พวกเราได้มาพบกันให้กับคุณเอง” เฟอร์นันกัดฟันพูดพร้อมกับตบหน้าอกของตัวเองอย่างมั่นใจ

“ฮ่า ๆ ๆ” ทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบโอโร่ก็อดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เพราะท้ายที่สุดวัตถุดิบที่เซี่ยเฟยกำลังตามหาอยู่นั้นก็มีมูลค่ามหาศาล และถ้าหากว่าอีกฝ่ายต้องการจะซื้อดักแด้จักจั่นทองแดงให้กับเซี่ยเฟยจริง ๆ เขาเกรงว่าอีกฝ่ายอาจจะล้มละลายได้เลยทีเดียว

ขณะเดียวกันแม้ว่าคนอื่นจะรู้สึกเกรงใจสำหรับของขวัญมูลค่ามหาศาล แต่สำหรับคนขี้งกอย่างเซี่ยเฟยแล้วเขาก็พร้อมจะใช้คำพูดของอีกฝ่ายมาเป็นพันธนาการในการปล้นเงินอย่างเลือดเย็น

ปัจจุบันเซี่ยเฟยได้ปลอมตัวเป็นผู้ติดตามเฟอร์นันเดินไปตามท้องถนน ก่อนที่พวกเขาจะมุ่งหน้าตรงไปยังร้านของพวกวิหคดำอีกครั้ง

เมื่อเซี่ยเฟยได้เข้ามาใกล้เขาก็ได้พบว่าร้านของพวกวิหคดำถูกสร้างขึ้นมาใหม่เรียบร้อยแล้ว ราวกับว่ามันไม่เคยมีความวุ่นวายเกิดขึ้นมาก่อนเลย แต่เนื่องมาจากการก่อสร้างอันเร่งรีบมันจึงทำให้ร้านดูมีความปราณีตน้อยกว่าเมื่อก่อน

นอกจากนี้เนื่องมาจากความวุ่นวายที่ชายหนุ่มได้สร้างขึ้นมา การรักษาความปลอดภัยของร้านจึงเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด มันจึงมีนักรบมากความสามารถคอยเดินตรวจตราอยู่รอบ ๆ ร้านเพื่อระวังความปลอดภัย

เฟอร์นันเป็นแขกของสมาคมวิหคดำที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว พวกเขาจึงเปิดม่านให้พวกเซี่ยเฟยเดินทางผ่านเข้าไปยังหลังร้านด้วยความเคารพ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่คิดว่าเซี่ยเฟยจะปลอมตัวอยู่กับคนในกลุ่มนี้ เพราะตามสามัญสำนึกของคนโดยทั่วไป มันย่อมไม่มีใครกล้ากลับมาหลังจากสร้างปัญหาให้กับพวกเขาอย่างเด็ดขาด

ด้านหลังร้านมีซอยแคบ ๆ ทอดยาวออกไป ก่อนที่พื้นที่โดยรอบจะค่อย ๆ กว้างขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นร้านขนาดใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในเมืองอันพลุกพล่าน

ผู้คนภายในงานมีจำนวนมากกว่า 1,000 คน ซึ่งบางคนก็พยักหน้าให้กับเฟอร์นันเพื่อเป็นการทักทายคล้ายกับว่าชายคนนี้พอจะมีชื่อเสียงอยู่มากพอสมควร

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเดินไปตรงไหนมู่เสียวเต๋าก็ไม่เคยอยู่ห่างจากเซี่ยเฟยเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเขาถูกกำชับมาจากเฟอร์นันว่าห้ามไม่ให้เซี่ยเฟยสร้างปัญหาขึ้นมา ไม่อย่างนั้นปัญหาหลังจากนี้ก็อาจจะเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไป

หลังจากได้พบกับมุมอันเงียบสงบเซี่ยเฟยกับมู่เสียวเต๋าก็ยืนพิงกำแพง เพราะในขณะนี้งานแลกเปลี่ยนสินค้ายังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ แขกที่เข้ามาภายในงานจึงกำลังนั่งพูดคุยกันเพื่อรองานเปิดเท่านั้น

เมื่อเวลาล่วงเลยไปจนถึงตอนเย็นจำนวนคนที่เข้ามาในลานกว้างก็เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นมากกว่า 3,000 คน มันจึงทำให้ที่ว่างภายในร้านแทบจะไม่เหลือ และในทันใดนั้นมันก็มีกลุ่มคนเดินเข้ามานำโดยชายชราที่มีจมูกรูปทรงคล้ายกับตะขอ และหญิงสาวที่เซี่ยเฟยคุ้นเคยก็เดินมาพร้อมกับคนกลุ่มนี้ด้วย

“อะไรกัน นี่พวกเขาก็เป็นคนจากโลกใต้ดินด้วยงั้นเหรอเนี่ย?” เซี่ยเฟยพึมพำขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

***************

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.