ตอนที่ 789 ยินดีต้อนรับสู่โลกใต้ดิน

-A A +A

ตอนที่ 789 ยินดีต้อนรับสู่โลกใต้ดิน

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 789 ยินดีต้อนรับสู่โลกใต้ดิน

“ว่าแต่แกคิดจะขายชีวิตของตัวเองด้วยหรือเปล่า?” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยแววตาอันเย็นชา

ในเวลาเดียวกันชายร่างกำยำหลายคนก็รีบวิ่งออกมาจากหลังร้าน และเมื่อพวกเขาได้เห็นเลือดที่ชุjมโชกอยู่บนพื้นดิน พวกเขาก็รีบกระจายตัวกันออกไปล้อมรอบเซี่ยเฟยเอาไว้ในทันที

“มันเกิดอะไรขึ้นครับหัวหน้า?” ชายร่างกำยำคนหนึ่งถามขึ้นมาด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียด

“มันคิดจะมาหาเรื่องพวกเรา รีบ ๆ ฆ่ามันไปซะ” เจ้าของร้านกล่าวตอบ

“ได้ครับ”

การปรากฏตัวของชายร่างกำยำหลายคนทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกผิดปกติมากขึ้นกว่าเดิม เพราะทั่วทั้งร้านดูเหมือนจะเต็มไปด้วยผู้มีอิทธิพล มันจึงทำให้ชายหนุ่มมองไปยังชายเหล่านี้ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจมากยิ่งขึ้น

ชายหลายคนรีบพุ่งเข้าใส่เซี่ยเฟยด้วยความดุร้าย แต่ในทางกลับกันชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวคนเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย ท้ายที่สุดอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งเดียวที่พวกเขามีมันก็เป็นเพียงแค่ใบหน้าอันดุร้ายเอาไว้ขู่ลูกค้าที่ไม่มีประสบการณ์เท่านั้น

ก่อนที่การโจมตีของชายร่างใหญ่จะสัมผัสเข้ากับเซี่ยเฟย หยาดโลหิตปริมาณมหาศาลก็เบ่งบานออกมาอย่างรวดเร็ว

ตำแหน่งการโจมตีของเซี่ยเฟยแม่นยำมาก โดยเขาจงใจจู่โจมเข้าใส่หลอดเลือดบริเวณลำคอเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเสียชีวิตลงในครั้งเดียว แต่การจู่โจมเข้าใส่หลอดเลือดโดยตรงเช่นนี้นี่เอง มันจึงทำให้เลือดไหลทะลักออกมาจากบาดแผลอย่างบ้าคลั่ง

บาดแผลของเซี่ยเฟยทำให้เหล่าบรรดานักรบร่างกำยำค่อย ๆ ตายอย่างช้า ๆ ด้วยความทรมาน ซึ่งการลงมือในครั้งนี้เซี่ยเฟยไม่ได้คิดที่จะใช้บลัดบิวเทียสออกมาด้วยซ้ำ เพราะเขารู้สึกว่าพลังงานจากพวกนักเลงเป็นพลังงานที่สกปรกสำหรับเขามากจนเกินไป

“อ๊าก!!” เจ้าของร้านร้องลั่นขึ้นมาด้วยความกลัว จนทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองมายังร้านแห่งนี้ด้วยความสยดสยอง

“ฉันแนะนำให้แกรีบ ๆ ฆ่าฉันจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นฉันเนี่ยแหละที่จะเป็นคนฆ่าแกเอง” เซี่ยเฟยกล่าวกับเจ้าของร้านผู้มีใบหน้าอันซีดเผือดอย่างใจเย็น

ท้ายที่สุดเขาก็คือชายหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาในสลัมและใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ก่อนที่จะมีโอกาสได้รับพลังพิเศษ เขาจึงสามารถสัมผัสได้อย่างง่ายดายว่าร้านค้าแห่งนี้ไม่ใช่ร้านธรรมดา แต่เป็นรังของพวกอันธพาลที่ทำธุรกิจดำมืดภายในเมืองขนาดใหญ่

แม้ว่าภายนอกคนพวกนี้จะดูเหมือนรักกันดี แต่ความจริงแล้วความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามันก็แทบที่จะไม่มีเยื่อใยต่อกันเลย ความสัมพันธ์ระหว่างอันธพาลเป็นเพียงความสัมพันธ์ที่ผู้แข็งแกร่งคอยปกครองผู้ที่อ่อนแอเท่านั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่มันมีผู้ที่แข็งแกร่งคนใหม่ถือกำเนิดขึ้นมา พวกเขาก็จะเปลี่ยนหัวหน้าโดยไม่มีเยื่อใยแม้แต่นิดเดียว

อย่างไรก็ตามจู่ ๆ สีหน้าของเจ้าของร้านก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน จากตอนแรกที่เขามีสีหน้าอันซีดเผือดมันกลับเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างฉับพลัน

“ฮ่า ๆ ๆ แกอยากจะฆ่าฉันงั้นเหรอ?” ชายหนุ่มเจ้าของร้านหัวเราะขึ้นมาเสียงดัง

เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยตื่นตัวในทันที เพราะปฏิกิริยาของอีกฝ่ายเป็นปฏิกิริยาที่ผิดปกติมาก หากอีกฝ่ายเป็นนักเลงข้างถนนธรรมดาปัจจุบันเจ้าของร้านควรจะคุกเข่าเพื่อร้องขอชีวิตจากเขาแล้วด้วยซ้ำ นอกจากนี้เสียงของอีกฝ่ายยังสงบและเชื่องช้าราวกับว่ามันเป็นการพูดรหัสรับอะไรบางอย่างเพื่อส่งสัญญาณไปให้ใครบางคน

เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนที่ใบหญ้าของหงส์ครามทั้งห้าใบจะพุ่งทะลวงขึ้นมาจากพื้น เตรียมตัวจู่โจมเข้าใส่อาคาร 3 ชั้นแห่งนี้เพื่อพังทลายมันลงเป็นชิ้น ๆ

เมื่อได้เห็นว่าร้านค้ากำลังจะถูกทำลาย จู่ ๆ มันก็ได้มีร่างของนักสู้หลายสิบร่างพุ่งเข้ามาอย่างฉับพลัน โดยนักรบเหล่านี้แตกต่างจากอันธพาลที่ไร้พลังก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็มีพลังอยู่ในระดับอัศวินกฎและมันก็มีราชากฎอยู่ท่ามกลางผู้มาใหม่ถึงสองคน

‘ร้านค้าเล็ก ๆ นี่ซ่อนราชากฎเอาไว้ถึง 2 คนเลยงั้นเหรอ?’ เซี่ยเฟยคิดภายในใจขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

นักรบผู้มาใหม่เข้าร่วมการต่อสู้ด้วยใบหน้าที่เย็นชา และเมื่อเซี่ยเฟยต้องเผชิญหน้ากับนักรบที่แข็งแกร่งพร้อม ๆ กันมากกว่า 10 คน มันจึงทำให้ตัวอาคารไม่สามารถทนรับแรงปะทะได้อีกต่อไป

เมื่ออาคารพังทลายลงไปมันก็เผยให้เห็นว่าด้านหลังอาคารมีทางเชื่อมไปยังอาคารขนาดใหญ่ นอกจากนี้มันยังมีนักรบอีกเป็นจำนวนมากที่รีบวิ่งออกมาเข้าร่วมการต่อสู้ และทักษะของพวกเขาก็ค่อนข้างที่จะดูดีใช้ได้เลยทีเดียว

ฟุบ!

เซี่ยเฟยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพร้อมกับตวัดบลัดบิวเทียสตัดหน้าอกของนักรบคนหนึ่งให้ฉีกขาดออกจากกันได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับพลังงานปริมาณมหาศาลที่ถูกดูดซับเข้ามาอย่างฉับพลัน และทำให้นักรบคนนั้นเหี่ยวแห้งกลายเป็นซากศพที่ราวกับมัมมี่

นักรบทั้งหมดมองดูซากศพของสหายด้วยความตกตะลึง เพราะไม่เพียงแต่ชายคนนี้จะสามารถสังหารสหายของพวกเขาด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่การจู่โจมของเซี่ยเฟยยังทำให้ซากศพแห้งเหี่ยวโดยที่พวกเขาไม่เคยเห็นวิธีการอันโหดเหี้ยมเช่นนี้มาก่อน

นักรบหลายคนกัดฟันตัวสั่นโดยไม่กล้าเข้ามาใกล้ พวกเขาจึงทำได้เพียงแต่ปิดล้อมเซี่ยเฟยอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น

การต่อสู้กับพวกอันธพาลทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ และความรู้สึกของการดูดซับพลังงานมันก็ทำให้เขารู้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก เพราะพลังงานที่ถูกแย่งชิงมาจากนักรบคนอื่นมันก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากพลังงานภายในคริสตัลต้นกำเนิดอย่างสิ้นเชิง

การปะทะกันในครั้งนี้คือการสังหารจากฝ่ายเดียวอย่างชัดเจน และถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะยังมีระดับพลังไม่ถึงจักรพรรดิกฎ แต่พลังการต่อสู้ของเขาก็ไม่แพ้จักรพรรดิกฎขั้นต้นเลยแม้แต่น้อย

เล่ห์กายา!

ถนนเส้นแคบ ๆ ซึ่งเป็นสนามรบในปัจจุบันไม่เหมาะสำหรับการต่อสู้เป็นกลุ่มใหญ่มากเท่าไหร่นัก แต่มันกลับเป็นพื้นที่ชั้นยอดที่จะทำให้เซี่ยเฟยสามารถจัดการกับกลุ่มอันธพาลโดยการใช้การเคลื่อนไหวอันคล่องแคล่ว

ราชากฎชาวซุนนียกมือขึ้นสูงพร้อมกับรวบรวมพลังของกฎแห่งสสารเพื่อจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟย แต่ก่อนที่พลังของเขาจะถูกปลดปล่อยออกไป บลัดบิวเทียสกลับเสือกแทงเข้ามาภายในหน้าอกของเขาเสียก่อน จนทำให้ร่างกายของเขาแห้งเหี่ยวลงไปอย่างรวดเร็ว และสลายกลายเป็นเศษฝุ่นในเวลาเพียงแค่ไม่นาน

เร็วมาก!

ในการเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้เซี่ยเฟยได้ใช้ความเร็วออกมาเพียงแค่ 100,000 เมตรต่อวินาทีเท่านั้น เพราะอีกฝ่ายไม่ได้สร้างแรงกดดันให้เขามากนัก มันจึงทำให้เขาไม่จำเป็นจะต้องใช้ความเร็วสูงสุดออกไปเลย

ภายในชั่วพริบตาอัศวินกฎระดับสูง 9 คนและราชากฎ 1 คนก็ถูกสังหารภายใต้คมดาบของเซี่ยเฟย ผู้ชมบนท้องถนนต่างก็มองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว เพราะในเวลาเพียงแค่ไม่นานชายหนุ่มคนนี้กลับสามารถสังหารนักรบฝ่ายตรงข้ามได้แล้วถึง 10 คน

ฟุบ ๆ ๆ ๆ

นักรบหลายร้อยคนพุ่งตัวออกมาล้อมรอบเซี่ยเฟยเอาไว้อย่างฉับพลัน ซึ่งนอกเหนือจากชาวซุนนีซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ท้องถิ่นแล้ว มันยังมีนักรบเผ่าพันธุ์อื่น ๆ รวมกลุ่มอยู่ในนักรบเหล่านั้นอีกหลายคนด้วย 

ที่สำคัญที่สุดคือในบรรดานักรบที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นมา มันก็มีใบหน้าของนักรบเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เซี่ยเฟยมีความคุ้นเคย และชายคนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกเสียจากมู่เสียวเต๋า ผู้ซึ่งยังคงเล่นกับมีดผีเสื้อภายในมืออย่างคล่องแคล่ว

ทันทีที่มู่เสียวเต๋าเห็นเซี่ยเฟย อีกฝ่ายก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ก่อนที่เขาจะยักไหล่อย่างช่วยอะไรไม่ได้

โชคชะตามักจะกำหนดให้พวกเขาต้องมาเป็นศัตรูกันทุกครั้งไป ทั้ง ๆ ที่ในความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้อยากจะมาเป็นศัตรูกันเลยสักครั้ง

กลุ่มนักรบผู้มาใหม่ยังคงถูกเซี่ยเฟยสังหารอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามนักรบที่พุ่งเข้าจู่โจมเซี่ยเฟยก็มีเพียงแต่นักรบเผ่าซุนนีเท่านั้น ขณะที่นักรบจากเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ทำเพียงแค่ยืนกอดอกและมองดูภาพตรงหน้าอย่างสนใจ

เมื่อเจ้าของร้านกำลังมองเห็นความพ่ายแพ้ เขาก็พยายามร้องขอความช่วยเหลือจากนักรบเผ่าพันธุ์อื่น ๆ แต่น่าเสียดายที่นอกเหนือจากลูกน้องของเขาแล้ว มันก็ดูเหมือนจะไม่มีใครเต็มใจจะเข้าไปยั่วยุเซี่ยเฟยเลย

คนพวกนี้ดูคล้ายกับจะเป็นพวกเดียวกัน แต่พวกเขากลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับความสูญเสียของพวกพ้องมากมายนัก เซี่ยเฟยจึงมองไปยังเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสับสน เพราะเขาไม่เข้าใจว่าเขากำลังเจอคนประเภทไหนในจักรวาลอยู่กันแน่

ทันใดนั่นเองมู่เสียวเต๋าก็รีบเข้าไปกระซิบข้างหูชายชราร่างเตี้ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา ซึ่งชายชราคนนั้นก็พยักหน้าอย่างเข้าใจเล็กน้อยพร้อมกับมองไปทางเซี่ยเฟยด้วยความตกใจ

เมื่อทั้งสองพูดคุยกันจบแล้ว มู่เสียวเต๋าก็ชี้นิ้วไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งราวกับว่าเขาต้องการที่จะไปพูดคุยกับเซี่ยเฟยบนต้นไม้ต้นใหญ่นั้น

“นั่นเขากำลังพยายามจะทำอะไร?” เซี่ยเฟยคิดกับตัวเองด้วยความสับสน

บนถนนอันห่างไกลจากร้านค้าของกลุ่มอันธพาล

เซี่ยเฟยตรวจดูแหวนมิติภายในมือ ซึ่งแหวนเหล่านี้เป็นสิ่งที่เขาได้รับมาจากการสังหารกลุ่มอันธพาลจากร้านค้าลึกลับ แต่ถึงแม้ว่าสินสงครามที่เขาได้รับกลับมาจะค่อนข้างดี แต่มันก็ยังคงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถเข้าไปยังหลังร้านของร้านค้าลึกลับแห่งนั้นได้

ครู่ต่อมามู่เสียวเต๋าก็ปรากฏตัวขึ้นบนต้นไม้ใหญ่ที่เขาตกลงกับเซี่ยเฟยเอาไว้ ชายหนุ่มจึงมองดูอีกฝ่ายอย่างพิจารณาจากระยะไกล และเมื่อเขาแน่ใจว่ามู่เสียวเต๋าไม่มีใครตามมา เขาก็พุ่งตัวเข้าหาต้นไม้ใหญ่ด้วยความรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ไม่คิดที่จะไว้วางใจใครง่าย ๆ และถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นมนุษย์ที่เขาเคยพบปะมาแล้วหลายครั้ง แต่เขาก็ยังนำบลัดบิวเทียสมาวางพาดคอมู่เสียวเต๋าเพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อน

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” มู่เสียวเต๋ากล่าวด้วยรอยยิ้ม โดยไม่มีท่าทางต่อต้านเซี่ยเฟยเลยแม้แต่น้อย

“ใช่ ไม่ได้เจอกันนานเลย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“นายนี่เป็นพวกแม่เหล็กดึงดูดปัญหาจริง ๆ นายรู้ไหมว่าสิ่งที่นายเพิ่งทำลายลงไปมันคืออะไรกันแน่?” มู่เสียวเต๋ากล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

“มันก็แค่ร้านค้าธรรมดาไม่ใช่เหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวตอบ

“สิ่งที่นายทำลงไปมันไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ แบบนั้นน่ะสิ นายไม่สังเกตเลยเหรอว่าถึงแม้มันจะมีความวุ่นวายขึ้นมา แต่มันก็ไม่มีพวกผู้คุมกฎปรากฏตัวขึ้นมาเลย”

เมื่อมู่เสียวเต๋าเตือนสติเซี่ยเฟยก็ได้พบว่าหลังจากที่เขาได้สังหารอันธพาลไปมากกว่า 10 คน มันก็ไม่มีใครออกมาระงับความวุ่นวายเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งสถานการณ์นี้ถือได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติมาก

“ที่มันไม่มีใครเข้ามายุ่ง นั่นก็เพราะว่าร้านที่นายพังลงไปเป็นร้านของสมาคมวิหคดำ ซึ่งเป็นสมาคมใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดของเผ่าซุนนี แม้ว่ามันจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นภายในเขตของพวกมัน แต่พวกผู้คุมกฎก็จะไม่ปรากฏตัว ถึงจะมีพยานพบเห็นการต่อสู้แต่เชื่อฉันเถอะว่ามันก็ไม่มีใครกล้าที่จะพูดเรื่องไร้สาระอะไรออกมาหรอก”

เซี่ยเฟยไม่เคยคิดเลยว่าร้านค้าอันธพาลที่เขาเพิ่งทำลายลงไปจะเป็นกลุ่มใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดของเผ่าซุนนีแบบนี้ แล้วมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเด็กเฝ้าร้านที่ไม่มีพลังอะไรถึงกล้าพูดจาท้าทายลูกค้าอย่างหยิ่งผยอง

“โลกใต้ดินย่อมมีวิธีการจัดการกับปัญหาของตัวเอง ตอนนี้พวกเขากำลังตามล่าตัวนายอยู่ ฉันว่านายควรรีบหนีออกไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า” มู่เสียวเต๋ากล่าว

“แล้วนายมาอยู่กับพวกมันได้ยังไง?” เซี่ยเฟยถาม

“เพราะว่าฉันเป็นตัวแทนของสมาคมอาชาดำจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ยังไงล่ะ” มู่เสียวเต๋ากล่าวตอบอย่างใจเย็น

เซี่ยเฟยชะงักค้างไปเล็กน้อย เพราะแก๊งอาชาดำคือกลุ่มโลกใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดของเผ่ามนุษย์และครั้งหนึ่งเขาก็เคยถูกตั้งค่าหัวจากกลุ่มคนพวกนี้ ก่อนที่เรื่องค่าหัวจะหายไปหลังจากที่เขาได้เข้าร่วมกับตระกูลสกายวิง

“ที่ใดมีแสงที่นั่นย่อมมีเงาอยู่เสมอ ซึ่งเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นกฎเกณฑ์ตามปกติของสังคม แม้แต่ภายในดินแดนกฎอันสูงส่งก็ไม่มีข้อยกเว้นด้วยเช่นกัน”

“ยินดีต้อนรับสู่โลกใต้ดิน” มู่เสียวเต๋ากล่าวกับเซี่ยเฟยด้วยรอยยิ้ม

***************

จะเป็นเพื่อนกันได้ไหมคู่นี้? เจอกันหลายรอบ ปะทะก็หลายรอบ แต่ก็ไม่มีใครฆ่ากันได้สักที

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.