ทำไมเครื่องชงกาแฟแต่ละร้านหน้าตาถึงไม่เหมือนกัน?
เครื่องชงกาแฟเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ประจำร้านกาแฟที่ขาดไม่ได้ (แน่นอน) แต่เคยสงสัยกันไหมครับ ทำไมแต่ละร้านถึงมีเครื่องชงกาแฟที่มีหน้าตาไม่เหมือนกัน แล้วแบบนี้เครื่องชงกาแฟแต่ละแบบทำงานเหมือนกันหรือไม่วันนี้ ผู้เขียนจะพาไปหาคำตอบกันครับ
เครื่องชงกาแฟแคปซูล (CAPSULE MACHINE)
เครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นจะใช้กาแฟที่บดเป็นผงบรรจุในแคปซูลในการชง ที่หลายท่านอาจรู้จักกันในชื่อ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ซึ่งเป็นที่นิยมทั้งในครัวเรือน และภายในสำนักงานหรือออฟฟิศเล็กๆ ที่ไม่ต้องการทำกาแฟจำนวนมากๆ อีกทั้งมีโหมดการทำงานที่หลากหลาย สะดวก ใช้งานง่าย รวดเร็ว มีความสม่ำเสมอ สะดวกในการทำความสะอาดตัวเครื่อง และมีราคาไม่สูง สามารถทำเมนูเครื่องดื่มได้สารพัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายแบบไม่ต้องการปรับแต่งอะไรมาก ในทางกลับกันราคาของแคปซูลนั้นจะค่อนข้างสูง และเครื่องแต่ละยี่ห้อก็จะต้องใช้แคปซูลของยี่ห้อนั้นเท่านั้น จะไม่สามารถนำแคปซูลยี่ห้ออื่นใส่แทนได้
เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ (ESPRESSO MACHINE)
เครื่องชงกาแฟที่ท่านสามารถพบเห็นได้ตามร้านกาแฟหรือคาเฟ่ ถือเป็นระบบเครื่องทำกาแฟที่มีราคาหลากหลาย เริ่มต้นตั้งแต่หลักพันบาทไปถึงหลักหมื่น รวมไปถึงดีไซน์ความสวยงาม ความเสถียรของการชงกาแฟ และฟังก์ชันการใช้งาน ตัวเครื่องอาจมีตั้งแต่ 1 หัวชงไปจนถึง 3 หัวชงเลยทีเดียว เหตุผลที่เครื่องประเภทนี้เป็นที่นิยมในคาเฟ่ต่างๆ ก็เพราะว่าผู้ใช้สามารถกำหนดรสชาติทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปริมาณกาแฟ ปริมาณน้ำที่ใช้ ระดับการไหลของกาแฟ ระดับความละเอียดของการบดเมล็ดกาแฟ น้ำหนักในการอัดกาแฟ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยที่มีผลต่อรสชาติกาแฟทั้งสิ้น เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการลงลึกไปในรสชาติของกาแฟ ต้องการการปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของผู้ทำมากที่สุด
คาเฟ่และร้านกาแฟจะใช้เครื่องเอสเพรสโซ่กันเกือบทั้งหมด เพียงเพราะต้องการรสชาติของเอสเพรสโซ่ที่ดีที่สุด แต่ก็ต้องใช้เวลานานในการทำที่มากกว่า รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ค่อนข้างเยอะ รวมถึงต้องบดกาแฟด้วยตัวเอง เหมาะกับบาริสต้าที่มีประสบการณ์มากมายกว่าการใช้ภายในครัวเรือนหรือในสำนักงาน
เครื่องแบบอัตโนมัติ
เครื่องแบบอัตโนมัตินี้เปรียบเหมือนการนำข้อดีของเครื่องแบบเอสเพรสโซ่และแคปซูลมารวมกัน คือ สะดวก ได้รสชาติกาแฟสดตามที่เราต้องการ และมีความเสถียรในรสชาติอีกด้วย เป็นเครื่องชงกาแฟสำนักงานที่ได้รับความนิยมใน องค์กร หรือออฟฟิศต่างๆ โดยการใช้งานเครื่องนี้ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพียงแค่เติมน้ำ ใส่เมล็ดกาแฟเข้าไป และกดปุ่มเมนูที่ต้องการ ก็จะได้กาแฟสดแล้ว ไม่ต้องมีทักษะหรือความรู้ระดับบาริสต้าก็ใช้งานได้ แถมยังเหมาะกับผู้ที่รักกาแฟรสแต่ไม่ชอบขั้นตอนที่ยุ่งยาก
เครื่องแบบหยดหรือแบบดริป (DRIP COFFEE MAKER)
เครื่องชงกาแฟสดแบบดริป ได้รับความนิยมแพร่หลายโดยเฉพาะผู้ใช้งานในบ้าน เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าเครื่องแบบอัตโนมัติ พกพาสะดวก ชงได้ทั้งกาแฟคั่วเข้มคั่วอ่อนกำหนดรสชาติกาแฟได้ตามใจต้องการ แต่ด้วยกระบวนการหยดน้ำผ่านกาแฟหรือดริป (Drip) ทำให้รสชาติของกาแฟที่ออกมานั้นไม่เข้มข้นเท่าที่ควร คอกาแฟที่ชอบรสเข้มอาจจะไม่ถูกใจเครื่องนี้เท่าไหร่ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการชงกาแฟแล้ว เครื่องแบบดริปนี้เหมาะมากเลยทีเดียว
เครื่องชงกาแฟแบบเฟรนซ์เพรส (French Press)
อุปกรณ์การชงกาแฟชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส ใช้งานโดยการเติมเมล็ดกาแฟบดลงในกระบอกแก้ว จากนั้นให้รินน้ำร้อนให้ท่วมส่วนนี้ รอสักพักหนึ่ง จากนั้นให้กดที่ลูกสูบก็จะได้น้ำกาแฟที่ต้องการออกมา ไม่ได้มีระบบที่หรูหรา แต่เครื่องชงกาแฟแบบเฟรนซ์เพรสก็ถือเป็นอุปกรณ์การชงกาแฟแบบคลาสสิก ที่ท่านต้องลองสักครั้ง
เครื่องชงกาแฟแบบสูญญากาศ (Syphon Coffee)
เครื่องชงกาแฟที่มีลักษณะเหมือนกับอุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ ที่ในประเทศไทยคงมีให้เห็นกันไม่มากนัก ถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยจะใช้แรงดันน้ำเป็นตัวทำให้ได้น้ำกาแฟที่มีความเข้มข้น กาต้มจะใช้ตะเกียงแอลกอฮอล์ที่ติดตั้งเอาไว้ด้านนอกส่วนล่างสุด เมื่อน้ำเดือดได้ที่แล้ว ไอน้ำจะส่งตัวพุ่งขึ้นด้านบนไปกระทบกับกากกาแฟและขังอยู่ภายใน เมื่อต้องการดื่มให้ดับตะเกียงและเทผ่านตัวกรองอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งจะให้รสชาติกาแฟที่เข้มข้นและกลมกล่อม แต่ปริมาณน้ำกาแฟที่ได้ในแต่ละครั้งจะน้อยและใช้เวลาในการชงมากกว่าเครื่องแบบอื่นๆ
เครื่องชงแบบมอคคาพอต (MOKA POT)
เครื่องชงกาแฟแบบมอคคาพอตนี้จะให้รสชาติกาแฟเข้มข้นคล้ายกับเครื่องเอสเพรสโซ่ มีการทำงานโดยแยกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนบนที่ใส่ผงกาแฟบด และส่วนล่างที่ใส่น้ำ ตัวเครื่องจะต้มให้น้ำเดือดเพื่อให้ไอน้ำลอยตัวขึ้นไปรวมกับส่วนของกากกาแฟ ผลิตกาแฟรสชาติเข้มข้นออกมานั่นเอง
- 👁️ ยอดวิว 682
แสดงความคิดเห็น