บทที่ 5...2/2

จันทร์ซ่อนใจ

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 5...2/2

งานเปิดโรงแรมตามมาด้วยงานเลี้ยงที่มาพร้อมการแสดง พันธินกับผู้จัดการต้องรับมือกับแขกต่างๆ ที่ดาหน้าเข้ามาคุยเรื่องธุรกิจทั้งที่ดิน โครงการต่อไป บางคนมาขอเป็นหุ้นส่วนยังมี อรอินทุ์ฟังแล้วปวดหัวแทน แต่ที่น่าปวดหัวกว่าสำหรับพันธินคงเป็นแม่ม่ายทรงเครื่องที่พร้อมจะเข้ามาชวนคุยเมื่อแขกรายอื่นๆ เริ่มกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง

เธอเห็นแล้วก็ขำ ไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะเลยเดินเลี่ยงออกมานั่งเล่นที่ศาลากลางสระน้ำที่ต่อไปคงเป็นแลนด์มาร์คของโรงแรมวิธาราแห่งนี้ อีกเดี๋ยวเธอจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะได้กลับบ้านเสียที ป่านนี้พ่อคงรอแล้ว

“ฉันควรจะโกรธเธอหรือเปล่า”

อรอินทุ์เงยหน้าก็เห็นพันธินทำหน้าตึงยืนค้ำหัวอยู่ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ แล้วถอนใจยาว หญิงสาวหัวเราะคิก พอจะรู้สาเหตุที่ทำให้นักธุรกิจหน้าเข้มดุกลายเป็นหน้างอง้ำได้

“โกรธเรื่องอะไรล่ะคะ หรือหนีคุณแม่ม่ายมา แหม ชิ่งได้เร็วกว่าที่คิดนะคะเนี่ย”

ก็ถ้าชิ่งไม่ได้เขาคงไม่เดินตามอรอินทุ์ออกมาหรอก ผู้หญิงอะไรมีวาจาหวานๆ เป็นอาวุธจริงๆ แล้วแต่ละอย่างที่เธอคิดก็ทำเขาอยากจะบ้า

“ตอนนี้คงไปติดหนึบคุณภาวิตแทน”

“คุณธินไปสนิทสนมกับคุณภาวิตได้ยังไงคะ ตอนมีเรื่องคราวนั้น คุณบอกพ่อว่าสงสัยคุณภาวิตเท่าๆ กับสงสัยคุณจิณณ์ แล้วทำไมถึงไปขอให้เขาช่วย” เธออยากถามตั้งแต่ในงาน แต่คนมากเดี๋ยวผิดประเด็น เขาจะเสียชื่อเสียงเปล่าๆ

“ฉันจำไม่ได้เหมือนกัน เธอคิดว่าทำไมฉันถึงทำแบบนั้น”

“ไม่รู้สิคะ” อรอินทุ์ส่ายหน้า ถ้ามีเพื่อนเป็นโดเรม่อนปัญหานี้คงขจัดได้อย่างง่ายดาย คิดบ้าอะไรอีกแล้วเธอนี่ “เดี๋ยวฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว จะได้กลับบ้านเสียทีนะคะ”

พันธินปั้นหน้าเฉยทั้งที่อยากหัวเราะแทบแย่ ก็ถ้ามีเครื่องย้อนเวลาได้เขาคงไม่อยากรู้แค่เรื่องของภาวิตหรอก คงเปลี่ยนแปลงไม่ให้มีใครตายมากกว่า

“เธอเดินไปก่อนแล้วกัน ฉันอยากนั่งคิดอะไรสักพัก”

หญิงสาวลุกขึ้นมองพันธินอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าเป็นเธอคงโมโหตัวเองที่จำอะไรไม่ได้ จะนึกก็คงนึกไม่ออกแบบทันใจ เอาเป็นว่าเธอจะเป็นกำลังใจให้เขาอย่างเงียบๆ ก็แล้วกัน

พันธินหันไปมองก็เห็นร่างเพรียวเดินไปแล้ว แต่เพียงไม่กี่ก้าวก็หยุดแล้วกระชากขาตัวเอง พอมองพื้นที่เดินเลยเข้าใจ ส้นรองเท้าติดร่องล่ะสิ เขาลุกขึ้นเดินไปเพื่อช่วย แต่คนใจร้อนคงโมโหจนลืมไปว่าการเสียหลักคืออะไร

“อร! ระวัง”

อรอินทุ์โดนทั้งแรงเฉื่อยและแรงโน้มถ่วงของโลกเลยหล่นตุ้บลงไปที่สระน้ำซึ่งลึกไม่น้อย พันธินยื่นมือมาให้จับแต่ไม่ถึง เขาถอดรองเท้าแล้วกระโดดลงไปลอยคอเป็นเพื่อนกัน เขาหัวเราะ แต่เธอกลับหน้าซีดราวกับกำลังกลัวอะไรแล้วเป็นลมไปทั้งที่เขายังไม่ทันพาเธอขึ้นมาจากน้ำด้วยซ้ำ

 

พันธินอุ้มอรอินทุ์ไปทางลิฟต์หลัง พนักงานพากันมองแต่ไม่กล้าถาม แต่ในสมองคิดอะไรไปมากมาย เขาไปถึงห้องรับรองก็โทรตามแม่บ้าน ตามหมอ รอไม่ถึงสิบนาทีทั้งหมอและแม่บ้านก็พร้อม เขาออกไปรอห้องข้างๆ ซึ่งประตูเชื่อมถึงกัน พอกลับมาคนนอนนิ่งได้เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วและหมอกำลังตรวจ ครู่เดียวก็เก็บอุปกรณ์ พอเขามองหมอจึงให้คำตอบ

“เป็นลมครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สบายใจได้ครับคุณพันธิน”

“ขอบคุณมากครับหมอ”

ชายหนุ่มถอนใจโล่งอก เล่นเสียเขาตกใจ ตอนนี้เธอยังไม่ฟื้นเขาเลยไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง กระเป๋าเดินทางใบเล็กถูกขนมาที่ห้องแล้วไม่ต้องตามใครให้ยุ่งยาก พอเสร็จธุระของตัวเองเขารีบโทรหาลุงอิชย์และเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวบ้าง คนฟังไม่ตกใจ แต่ถามอาการอยู่หลายคำเพราะเป็นห่วงก่อนจะสรุปให้เขาเข้าใจว่า

“ยัยอรกลัวน่ะครับ ผมไม่เคยเล่าเพราะคุณคงไม่สบายใจ แต่อรกลัวการจมน้ำก็เพราะคุณทั้งสองคน”

“เราสองคนหรือครับ”

“ลองนึกดูสิครับ มันนานมากแล้ว...ที่ปราณบุรี วันที่คุณทั้งสองคนโดนคุณเธียรตีจนจับไข้ ผมมารู้หลังจากนั้นเป็นปี จนถึงตอนนี้อรก็เลยยังว่ายน้ำไม่เป็นเพราะยังกลัวจมน้ำอยู่” อิชย์เล่าไม่ถือโกรธอะไรเพราะเรื่องมันนานมากแล้ว

พันธินเริ่มนึกออก นานมาแล้วที่ครอบครัวของเขายังมีพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่และลูก แต่ลุงอิชย์เป็นม่ายไปแล้ว เด็กๆ ออกไปว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนาน อรอินทุ์คงอยากเล่นน้ำบ้างเลยเดินมาลงน้ำ

‘อยากเล่นก็ตามมาสิ’

‘รออรด้วยสิคะคุณธิน คุณแสง’เสียงใสๆ พ้อพลางเดินแกมวิ่งตามมา

เราสองคนไม่ทันมองว่าอรอินทุ์ตามมาไกลแค่ไหน เพราะคิดว่าอีกเดี๋ยวลุงอิชย์คงมาอุ้มลูกสาวกลับไป หรือไม่เด็กตัวน้อยคงเล่นอยู่แค่ตรงตื้นๆ พร้อมห่วงยางที่ใส่ไว้ตรงเอว ทว่าพวกเขาคิดผิด พอหันมาอีกทีห่วงยางกลับลอยไปไกล ส่วนอรอินทุ์กำลังตะเกียกตะกายชูมือขอความช่วยเหลือ

‘ช่วยด้วย! อรไม่ไหวแล้ว’

เขาทั้งสองโผกระโจนกลับ แต่คนที่มาช่วยอรอินทุ์ไว้กลับเป็นลุงอิชย์ เด็กน้อยสำลักน้ำและไม่สบายอีกหลายวัน เราสองคนรู้สึกผิด แม้จะถูกพ่อทำโทษด้วยการตีไปหลายที ทว่ากรรมคงตามทันเพราะเราต่างเป็นไข้เหมือนกันในคืนนั้น

ไม่เคยคิดเลยว่าเหตุการณ์นั้นจะทำให้อรอินทุ์ยังกลัวอยู่ ที่ผ่านมาเธอไม่เคยโทษเขาสักคำ

“แต่ลุงอิชย์ไปช่วยอรทันนี่ครับ ทำไมถึงยังกลัวอยู่”

“มันฝังใจไปแล้วไงครับ ปรึกษาหมอแล้ว แต่อรก็ยังกลัวอยู่ดี ผมฝากดูแลอรด้วยนะครับ” อิชย์เคยพาลูกสาวไปเที่ยวทะเลแล้วชวนเล่นน้ำ แกล้งเป็นตะคริว ปรากฏว่าอรอินทุ์ยืนตัวแข็งก่อนจะลงน้ำมาช่วย แต่กลับกลัวจนเป็นลมไปเสียก่อน คราวนี้เลยยิ่งแย่ลงไปอีก

“ครับลุงอิชย์ ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง ผมจะทำให้อรหายกลัวแล้วว่ายน้ำเป็นให้ได้”

“ถ้าทำได้ก็ดีน่ะสิครับ”

พันธินวางสาย แล้วเดินกลับมาที่เตียงก่อนจะนั่งลงข้างคนเป็นลม ดวงตาเข้มดุอ่อนโยนลง โยนความแค้นใจในชีวิตตัวเองลงชั่วคราว มือหนายื่นไปจับมือบางแล้วบีบเบาๆ

“ฉันขอโทษ ทำไมไม่บอกฉันเลยล่ะอร”

อรอินทุ์ยังคงหลับตานิ่ง ชายหนุ่มถอนใจอีกครั้งเมื่อคิดว่าควรทำยังไงดี ผ่านมานานขนาดนี้ แค่ขอโทษคงไม่พอ คนที่กลัวการจมน้ำจนไม่กล้าว่ายน้ำ ทำยังไงถึงจะหายกลัวแล้วกลับมาหัดว่ายน้ำได้ เขาโทรหาหมอให้มาพบอีกครั้ง บางทีเรื่องนี้หมอคงให้คำตอบกับเขาได้

 

พันธินรอจนแน่ใจว่าอรอินทุ์ไม่ผวาตื่นหรือมีไข้อย่างที่หมอกำชับถึงได้ลงไปตรวจงานและคุยกับผู้จัดการอยู่นาน มีข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไขอย่างการประสานงานที่ค่อนข้างสับสนอยู่บ้างเพราะพนักงานยังใหม่ ส่วนสิ่งที่ควรได้รับคำชมก็มีอยู่อย่างการต้อนรับและการบริการซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจโรงแรม

เกือบห้าทุ่ม พันธินกลับมาที่ห้องตัวเองก่อนจะเปิดประตูเชื่อมระหว่างห้องไปดูอาการของอรอินทุ์ เขาลากเก้าอี้ตัวเล็กมาข้างเตียงและนั่งมองเธออยู่ครู่ใหญ่ เธอดูสบายดีแล้ว ตอนนี้คงหลับแทนเป็นลมแล้วกระมัง พันธินเริ่มหาว เห็นทีเขาน่าจะไปนอนเหมือนกัน

เขาลุกขึ้นมาแล้วดึงผ้าห่มมาห่มให้อรอินทุ์ ทุกอย่างจะราบรื่นอยู่แล้วถ้าคนที่หลับอยู่ดีๆ จะไม่ลืมตาขึ้นมาแล้วมองเขาเขม็ง สมองคิดก่อนตาจะมองไปรอบตัวๆ พันธินอยากจะร้องว่า ‘ไม่ใช่’ แต่...มันไม่ทันแล้ว

“คุณ! ในห้อง บนที่นอน” อรอินทุ์อ้าปาก “กรี๊ด!!!!”

มือหนาตะปบปิดปากเจ้าของเสียงแปดหลอดเอาไว้ ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้พนักงานทั้งโรงแรมคงมีประเด็นใหม่นอกจากที่เขากับเธอเปียกปอนมาด้วยกัน แถมเธอยังเป็นลมซบอกเขาจนต้องอุ้มประคองกันมาอีก

อรอินทุ์ทึ้งมือของพันธินแถมยังดิ้นปัดๆ จนเขาเสียหลักเกือบเอาหน้าไปจ๊ะเอ๋เธอใกล้ๆ แบบ Face to face อยู่แล้ว ผู้หญิงอะไรแรงเยอะชะมัด แถมพอเขาไม่ปล่อยเธอยังงอเข่าใส่กระแทกท้องจนจุก

“มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด” เขาบอก แต่ฟันคมๆ ได้กัดฝ่ามือและข้อนิ้วของเขาจนจมเขี้ยว “โอ๊ย! เจ็บนะ”

ในทันทีที่พันธินปล่อยมือ อรอินทุ์ก็กระโจนไปจากเตียงแล้ววิ่งไปที่ประตู ร่างสูงรีบวิ่งไปคว้ากอดเอวไว้ไม่อย่างนั้นชื่อเสียงของเขาหมดแน่ๆ เวลาโมโหอรอินทุ์สามารถกลายร่างเป็น อินน้อย ศิษย์บางระจัน ได้ภายในพริบตา

“คุณมัน อ๊าย เสื้อผ้าฉัน คุณใช่ไหม ฉันไม่น่าหลงเชื่อคุณเลย ทำไมคุณเป็นคนแบบนี้เนี่ย”

พันธินชักหวิวๆ เมื่อได้ยินเสียงความคิดของอรอินทุ์ ขืนปล่อยให้เธอคิดและแหกปาก เขาป่นปี้แน่ๆ ไอ้เรื่องที่จะเอาปากไปปิดปากน่ะเลิกคิดไปได้เลย ขืนทำแบบนั้นถ้าปากของเขาไม่พังมีหวังเลยเถิดแน่ๆ เขาลากเธอมาที่เตียงแล้วผลักจนเธอล้มเพื่อจัดการห่มผ้าห่มกับร่างเพรียวแล้วกลิ้งจนเธอขยับไม่ได้กลายเป็นหนอนผ้าห่มอวบๆ ที่มีมือห้อยออกมาข้างหนึ่ง ภายในพริบตา

อรอินทุ์โมโห แต่ขยับตัวไม่ได้ แถมเหนื่อยด้วย ครั้นพอจะส่งเสียงแปดหลอด เขาก็หงายฝ่ามือที่มีเลือดซิบตรงข้อนิ้วชี้ให้ดู นี่เธอกัดเขาแรงขนาดเลือดออกเชียวเหรอ ยัยเฉาก๊วยต้องอิจฉาเธอแน่ๆ

“เลิกโวยวายแล้วฟัง ฉันจะไปทำอะไรได้ฮึ ตื่นมาก็คิดลามก ถ้าเธอถูกฉันลักหลับป่านนี้ไม่มีแรงมาโวยวายหรอก จำไม่ได้หรือไงว่าเธอตกน้ำแล้วเป็นลมไปน่ะ” เขาคำรามใส่

อรอินทุ์หน้าง้ำ มือก็คว้าโคมไฟไว้ให้ตัวเองอุ่นใจ แต่พอมานึกๆ ดูแล้วสภาพตัวเองในตอนนี้ให้วิ่งร้อยเมตรสิบรอบรวดก็ยังไหว ถ้าถูกทำมิดีมิร้าย แรงก็ต้องหายไปบ้างสิ แล้วก่อนที่จะเป็นลมไป เขาไม่ใช่หรือที่กระโดดลงน้ำมาช่วยเธอ

“ก็น่าจะใช่นะคะ”

“วางโคมไฟลง ถ้าหัวแตก พรุ่งนี้ไอ้ที่ฉันไม่ได้ทำ ใครต่อใครคงเข้าใจว่าฉันทำเพราะแผลที่หัวแน่ๆ” พันธินสั่ง นี่เธอเป็นผู้หญิงอ่อนแอน่าทะนุถนอม หรือจริงๆ แล้วชอบบู้ล้างผลาญกันแน่

“คุณธินไม่ได้ทำอะไรฉันจริงๆ นะ”

พันธินทำหน้าบึ้งใส่ เธอยอมปล่อยมือจากโคมไฟ แต่พอนึกบางอย่างได้ก็คว้าไว้อีกรอบ พันธินถอนใจพรืด รู้ว่าจะได้ฟังอะไรก่อนที่เธอจะพูดออกมาเสียอีก

“แล้วทำไมคุณธินมาอยู่บนที่นอน”

“ก็มาห่มผ้าให้ แล้วก็จะไปนอน ถ้าหายเมาขี้ตาแล้วก็มอง ห้องของฉันอยู่ทางนั้น ส่วนคนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอก็แม่บ้าน ไม่ใช่ฉัน” พันธินชักเหนื่อยเลยนั่งลงกับพื้นเอาหลังพิงที่นอน แต่เดี๋ยวเดียวก็เขยิบหนีขืนยัยอรคว้าโคมไฟมาฟาดก็ลงหัวเขาพอดีน่ะสิ

อรอินทุ์ฟังแล้วคิดตามก็คล้อยตามอย่างที่พันธินอธิบาย คนอย่างเขาจะทำแบบนี้ทำไมเมื่อมีคู่หมั้นโปรไฟล์หรูเวอร์ๆ อย่างดรุณีอยู่ทั้งคน แล้วที่สำคัญพันธินที่เธอรู้จักถือตัวจะตาย ไม่เคยเสียชื่อเรื่องผู้หญิง ถ้าเธอสวยๆ เลิศๆ ขอโทษเถอะจะหลงตัวเองให้ดู

“ขอโทษนะคะ” เธออยากยกมือไหว้เขาอยู่หรอกนะ แต่สภาพหนอนผ้าห่มแบบนี้คงลำบาก

“ช่างมันเถอะ ฉันทำผิดต่อเธอเอาไว้มากกว่านี้อีก แต่ทีหลังช่วยฟังก่อนจะอาละวาด ฟันคมอะไรอย่างนี้”

“เดี๋ยวฉันทำแผลให้ค่ะ ขอโทษจริงๆ นะคะ ก็ถ้าคุณธินเป็นผู้หญิงแล้วตื่นมาเห็นผู้ชายบนเตียงคงคิดแบบฉันเหมือนกันแหละน่า” อรอินทุ์ให้เหตุผล ไม่ได้แก้ตัวเลยจริงจริ๊ง

“ไปหยิบกล่องนั่นมา แล้วทำแผลให้ฉันเดี๋ยวนี้เลย” เขาสั่งหน้าง้ำใส่บ้าง

อรอินทุ์ยิ้มประจบ เธอก็อยากทำแผลให้เขาอยู่หรอกนะ แต่สภาพในตอนนี้จะให้กระดึ๊บๆ ไปหยิบกล่องยามาหรือไง พันธินหันขวับมามองแล้วจัดการกลิ้งคนทำให้ไม่ได้หลับไม่ได้นอน แถมยังได้แผล แรงเหวี่ยงคงมากไปหน่อยหนอนผ้าห่มของเขาเลยตกเตียงดังตุ้บ เธอเงยหน้ามายิ้มร่าแล้วรีบไปหยิบกล่องยา พันธินหัวเราะ ถ้าใครเข้ามาในห้องตอนนี้จะคิดยังไง สภาพเขาเหมือนถูกฟัด ในขณะที่อรอินทุ์ก็ผมยุ่งเหงื่อชุ่ม พอๆ เขาคิดอะไรออกมา

 

งานนี้มีได้เลือด แล้วใครล่ะต้องทำแผล

จะมา up เรื่อยๆ นะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านค่ะ

อัมราน_บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.