รักเหนือฝัน มีฉันต้องมีเธอ 4 : ครั้งแรกที่โดนทิ้ง

รักเหนือฝัน มีฉันต้องมีเธอ (หนังสือชุดเจ้าจอมภพ/ ตย. 60%)

-A A +A

รักเหนือฝัน มีฉันต้องมีเธอ 4 : ครั้งแรกที่โดนทิ้ง

       ชวณัดฐ์ยังคงตื่นเช้าตามปกติ ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็เปลี่ยนชุดนอนเป็นชุดออกกำลังกาย ก่อนจะออกไปจ๊อกกิ้งในสวนสาธารณะด้านล่างคอนโดฯ ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวที่เจ้าของโครงการคอนโดฯ แห่งนี้ทำไว้สำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจแก่ลูกค้าผู้ซื้อโครงการของเขา

 

       วิ่งได้สักพักเขาก็ขึ้นมาที่ห้องสระว่ายน้ำของคอนโดฯ เข้าล้างตัวในห้องน้ำ ก่อนจะกลับออกมาในสภาพร่างห่มชุดคลุม สองขาแข็งแรงเดินไปยังเปลเอนริมสระแล้วถอดชุดคลุมออก เผยให้เห็นร่างเปลือยท่อนบนกับท่อนล่างที่สวมเพียงกางเกงว่ายน้ำ วันนี้ชายหนุ่มไม่รีบ เพราะทั้งวันไม่มีเวรหรือเคสพิเศษให้เข้าผ่าตัด ดังนั้นจึงเอื่อยเฉื่อยได้ตามใจ

 

       ตูม!

       ชายหนุ่มกระโดดลงสระด้วยท่วงท่างดงาม แล้วจ้วงว่ายในท่าฟรีสไตล์ที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก เขาว่ายกลับไปมาในสระว่ายน้ำที่ยาวถึงยี่สิบห้าเมตรอยู่หลายรอบ จนเริ่มมีคนในคอนโดฯ บางส่วนออกมาว่ายน้ำอย่างเขา

 

       สาว ๆ บางคนเห็นเขาบ้างก็อดมอง บ้างก็อดส่งยิ้มทอดสะพานให้ไม่ได้ ชายหนุ่มเองก็ไม่ทิ้งลายเสือ ส่งตาระยับพร้อมรอยยิ้มเหมือนจะจริงใจให้กลับไปเช่นกัน กระทั่งว่ายน้ำ โปรยเสน่ห์จนหนำใจแล้วนั่นแหละถึงได้กลับห้อง

 

       “อ้าว เมื่อคืนลืมชาร์จไว้หรือ” ชวณัดฐ์บ่นกับตนเองหลังจากอาบน้ำแต่งตัวใหม่เสร็จแล้วมาดูสมาร์ทโฟนเพื่อเช็กข้อความรายวัน บ่นจบก็เปิดลิ้นชักหยิบสายชาร์จออกมาต่อเข้าเครื่อง จากนั้นก็กดเปิดสมาร์ทโฟนที่ดับไปก่อนหน้าเพื่อเช็กข้อความ

 

       “พี่ณัฐคะ เมื่อคืนมีคนโทร.หาไลค์ ถามว่าไลค์เป็นแฟนพี่ณัฐใช่ไหม และบอกให้ไลค์แคปข้อความที่เราคุยกันหรือหลักฐานอะไรก็ได้ที่บอกว่าเราเป็นแฟนกันจริง ๆ ส่งให้ทางไลน์” ข้อความสาวน้อยหนึ่งในสต๊อกของเขาเด้งขึ้นหน้าจอทันทีเมื่อเขาเปิดไลน์อ่าน

 

หน้าขาวอมชมพูถอดสี คำเตือนของวิญญาณสาวเมื่อคืนวิ่งเข้ามาในหัว หรือว่า

 

       ข้อความจากน้องไลค์ของเขายังไม่หมด จึงเลื่อนสายตาลงอ่านอย่างถี่ถ้วน จนข้อความสุดท้ายถูกอ่านเสร็จ ใจที่เต้นรัวแรงด้วยความระทึกก็หล่นฮวบไปที่ตาตุ่มทันที

 

       เมื่อคืนที่ผ่านมาช่วงดึก ๆ มีข้อความจากหญิงสาว หากนับรวมน้องไลค์ด้วยก็เป็นหกคนที่ส่งข้อความหาศัลยแพทย์หนุ่มด้วยเรื่องที่คล้าย ๆ กัน

 

       เขาพลาดเองที่เมื่อคืนไม่ได้อยู่ดูข้อความดี ๆ เสียก่อน เพราะไม่สบายใจในเรื่องที่ได้ทราบจากใครคนนั้น คนที่อุตส่าห์มาเตือนเขาแล้ว ตอนนี้เธอคนนั้นหายไปไหนเสียล่ะ เหลียวมองหารอบตัวก็ไม่พบ ดังนั้นจึงหันมาให้ความสนใจกับสถานการณ์ตรงหน้าต่อ เพียงไล่สายตาอ่านครั้งเดียวเขาก็จำข้อความทั้งหมดที่พวกสาว ๆ ส่งมาได้ขึ้นใจ

 

       “เธอบอกว่าเธอเป็นแฟนคุณ”

 

       “ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเพื่อนเธอเป็นแฟนพี่ณัดฐ์ค่ะ”

 

       “ผู้หญิงชื่อ เบสท์ นี่ใครคะพี่หมอ”

 

       “หมายความว่ายังไงคะคุณณัดฐ์”

 

       “คุณหลอกฉันหรือณัดฐ์”

 

       “บอกมินนี่สิคะว่าไม่จริงใช่ไหม”

 

       ชายหนุ่มถึงกับกุมขมับอย่างคิดไม่ตกกับหลายข้อความที่ซักไซ้ถามเอาคำตอบ ก่อนจะเพิ่งนึกได้ว่ามีผู้หญิงอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้ส่งข้อความหาเขา เธอที่หญิงสาวในโลกที่สามมาเตือนว่ารู้เรื่องพวกสาวลับ ๆ ของเขาทุกคนแล้ว และเขาเองคิดว่าคนที่โทร.หาสาว ๆ พวกนี้ไม่อาจเป็นใครได้

 

       ขยับนิ้วเขี่ยหน้าจอดูยังห้องสนทนาระหว่างเขากับเธอคนนั้นทันที ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊กหรือไลน์ก็ไร้ตัวอักษรใด ๆ จากอีกฝ่ายส่งมาแม้แต่คำเดียว ยังไม่พอ! ตัวหนังสือเหนือช่องพิมพ์ข้อความเด่นหราเป็นที่ประจักษ์ ‘คุณไม่สามารถส่งข้อความถึง Achariya ariyaworakarn’ ได้...เธอบล็อกทั้งสองช่องทางติดต่อบนโลกโซเชียลไปแล้ว... เหลือทางเดียวคือโทรศัพท์ ศัลยแพทย์หนุ่มได้แต่หวังว่าหญิงสาวคงจะยังไม่บล็อกเบอร์เขาทิ้งไปเสียก่อน

 

       [ฮัลโหล] เสียงอู้อี้ของคนปลายสายดังมาให้ได้ยิน เขาไม่รู้ว่าเพราะเธอเพิ่งตื่น หรือเพิ่งหยุดร้องไห้กันแน่

 

       “เบสท์ครับ ผมอธิบายได้นะ” เขาเริ่มเรื่องเสียงอ่อย

 

       [พวกแฟน ๆ ของคุณคงบอกทุกอย่างแล้วสินะ] น้ำเสียงคนปลายสายเรียบนิ่ง

 

       “ครับ” ตอนนี้ทำได้เพียงยอมรับ

 

       “แต่ผมจะบอกคุณว่าไม่มีใครที่ผมจริงจังเท่าคุณนะครับเบสท์”

 

       [หึ!] เธอหัวเราะหยันขื่นมาตามสาย

 

       [คุณก็พูดอย่างนี้กับผู้หญิงทุกคนของคุณใช่ไหม คุณเลิกหลอกฉันเถอะ แค่นี้ยังทำร้ายจิตใจกันไม่พอหรือคะ ฉันไม่อยากฟังคำโกหกอะไรจากคุณอีกแล้ว เราเลิกกันค่ะณัดฐ์ ฉันไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณอีก จบกันแค่นี้นะคะ]

 

       และไม่ทันที่ชวณัดฐ์จะได้อธิบายอะไรต่อ สายก็ถูกตัดไปอย่างไร้เยื่อใย

 

       “โธ่โว้ย!” เขาสบถอย่างหัวเสีย พลางพยายามต่อสายหาเธออีกครั้ง แต่อีกฝ่ายไม่รับ แถมไม่นานสายเขาก็หลุดเอาดื้อ ๆ เธอคงบล็อกเบอร์เขาทิ้งแล้ว

 

       เขานั่งครุ่นคิดหาทางติดต่อง้อหญิงสาวอยู่สักครู่ สมองที่ชาญฉลาดทำให้คิดได้ในไม่ช้า

 

       ชวณัดฐ์ขับรถมาบ้านอัจฉริยา อดีตแฟนสาวที่ไม่ต้องการให้เป็นอดีต หญิงสาวที่หมายใจจะสร้างครอบครัวด้วย ใช่! ที่แรก ๆ คบกันเขายังว่อกแว่กอยู่มาก และยังไม่แน่ใจว่าจะใช่คนนี้หรือเปล่าที่ควรหยุดใจไว้ แต่หลังจากคบกันเกือบสองปี ไม่มีวันไหนที่ไม่มีความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเธอเลย

 

       จนปัจจุบันทั้งคู่ร่วมสร้างธุรกิจเล็ก ๆ ด้วยกัน ความมั่นคงในใจเพิ่มพูนขึ้น เขายอมรับส่วนหนึ่งเพราะสันดานที่เคยชินกับการควงสาวมากหน้าเป็นสีสันชีวิต ทำให้ยังไม่ได้จัดการความสัมพันธ์กับพวกเธออย่างเด็ดขาด แม้เป็นอย่างนั้นใช่ว่าจะไม่คิดทำทุกอย่างให้ถูกต้อง เพียงขอเวลาอีกนิด เมื่อใดที่พร้อมจะขอหมั้นเธอ เขาจะถอดเขี้ยวเล็บทั้งหมดทิ้ง แต่มันเป็นการตัดสินใจที่ช้าไปหรือเปล่า

 

       เขาหยุดรถอยู่หน้ารั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ ตระกูลของหญิงสาวค่อนข้างมีหน้ามีตาในสังคม เพราะเป็นตระกูลผู้สร้างประโยชน์ทางการแพทย์แก่จังหวัดนี้มานับชั่วคน ขณะรอประตูรั้วเปิดรับอย่างเคย คราวนี้แทนที่จะเห็นประตูเหล็กลายวิจิตรเคลื่อนเปิด กลับเป็นชายในชุด รปภ. ซึ่งชายหนุ่มคุ้นหน้าดีเดินตรงมาที่รถ เขาเลื่อนกระจกลงเมื่อ รปภ.คนนั้นเดินมาหยุดอยู่ข้างประตูฝั่งคนขับ

 

       “เบสท์อยู่ไหมครับ” ชวณัดฐ์ถามออกไปก่อน

 

       “เอ่อ…ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณณัดฐ์ คุณหนูไม่อยากพบคุณครับ สั่งให้พวกผมห้ามให้คุณเข้าไปไม่ว่าจะกรณีใด ถ้าไม่ฟังเธอสั่งให้ผมโทร.แจ้งตำรวจได้เลยครับ”

 

       ศัลยแพทย์หนุ่มหน้าเครียดทันที แต่พยายามข่มใจไว้

 

       “คุณปภาวรินทร์อยู่ไหมครับ” ชวณัดฐ์ถามอย่างสุภาพ

 

       “ครับ”

 

       ได้ยินอย่างนั้นชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาแม่ของอัจฉริยาทันที

 

       [สวัสดีจ้ะพ่อณัดฐ์] เสียงการุญดังมาตามสาย

 

       “คุณปภาวรินทร์ครับ ผมขออนุญาตเข้าไปในบ้านหน่อยได้หรือเปล่าครับ”

 

       [กลับไปก่อนเถอะนะพ่อณัดฐ์ ตอนนี้ยัยหนูไม่พร้อมเจอพ่อณัดฐ์จริง ๆ รอให้ยัยหนูใจเย็นกว่านี้ก่อนนะ แม่จะให้โทร.หานะจ้ะ]

 

       ลองมารดาของหญิงสาวพูดแบบนี้แสดงว่าทั้งคู่คุยกันแล้ว และเธอคงไม่ยอมจริง ๆ เขารู้จักอดีตแฟนสาวดี บทจะดีเธอก็น่ารักสุดใจ บทจะดื้อก็ไม่มีใครเอาอยู่ อย่างนั้นก็คงมีทางเดียวคือกลับไปตั้งหลักก่อน

 

       “ครับ” เขาทำใจรับคำอย่างเสียไม่ได้

 

       “ฝากบอกเธอด้วยว่าผมรักเธอ ผมขอโทษ”

 

คำว่า รัก หากเป็นช่วงเวลาปกติชวณัดฐ์สามารถพูดได้โดยไม่กะพริบตา เพราะมันเป็นเพียงคำบอกรักเพื่อล่อให้เหยื่อสาว ๆ ติดกับเท่านั้น ทว่าเวลานี้มันต่างกัน มันกลั่นมาจากหัวใจ หัวใจที่รู้สึกจริง ๆ และคำพูดแบบนั้นเขาไม่พูดมากนัก เพราะคำที่เขาพูดออกมาง่ายมักจะเป็นคำลวง ดังนั้นจึงชอบที่จะแสดงออกให้ประจักษ์เลยมากกว่า

 

       ชายหนุ่มกลับมาที่คอนโดฯ นั่งจมความเศร้าคนเดียวในห้อง ไม่มีน้ำตาออกมาสักหยด แต่ในใจทราบดีมันรวดร้าวหนักหนาเพียงใด เขาอยากให้ตนเองร้องไห้ออกมาบ้าง มันคงจะรู้สึกดีกว่านี้ ทว่าเกือบตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาเจ็บจนเกินจะร้องไห้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ร้องจนไม่มีน้ำตากลั่นออกมาให้เห็นอีก

 

       นั่งนิ่งนานอยู่อย่างนั้นไม่ขยับไปไหน ดวงตาหม่นโศกฉายแววทุกข์ตรมชัดเจน หึ ๆ ครั้งแรกที่เป็นฝ่ายถูกบอกเลิก ครั้งแรกที่ไม่ใช่คนตัดความสัมพันธ์ใครก่อน ครั้งแรกที่เขาเป็นผู้แพ้ แพ้อย่างหมดท่า

 

       เที่ยงวันเฉียดมาใกล้ เขาฝืนใจโทร.สั่งอาหารมาส่งที่คอนโดฯ ไม่หิว ไม่อยากแค่ไหนก็ต้องกิน คนเรากินเพื่ออยู่ ถึงตอนนี้ในสมองจะคิดว่า กินเพื่ออยู่ อยู่เพื่อใครกัน ก็ตาม เขาไม่มีใครให้อยู่เพื่อ เพราะทั้งชีวิตไม่เห็นว่าจะมีใครรักและต้องการเขาจริงสักคน แต่ครั้งนี้เขาผิดเอง มีรักดี ๆ อยู่ในมือ สุดท้ายก็รักษาไว้ไม่ได้

 

       ชวณัดฐ์เดินไปที่ผนังห้อง ดวงตากลมโตที่แอบมองอยู่นานคอยมองตามเขาไม่วางตา ก่อนจะเห็นชายหนุ่มง้างมือชกเข้าผนังปูนอย่างจัง แล้วตามมาอีกหลายหมัดไม่ยั้ง

 

       “หยุดนะคุณณัดฐ์!” วิญญาณสาวปรากฏตัวขวางหน้าเขาไว้ พลางมือก็รั้งแขนแข็งแรงไม่ให้ต่อยผนัง

 

       “คุณจะบ้าหรือไง ถึงทำร้ายตัวเองแบบนี้!” เธอตวาดใส่ด้วยความเป็นห่วง

 

       “ปล่อยผม คุณไม่เกี่ยว” ชายหนุ่มพูดเสียงนิ่ง

 

       “คุณต้องรักตัวเองสิ” วิญญาณสาวพยายามเรียกสติเขา

 

       “ทำไมผมต้องรักตัวเอง ในเมื่อตอนนี้ไม่เหลือใครที่รักผม” เขาตอบกลับมาเสียงขื่น

 

       “พ่อแม่คุณไงคะ พวกท่านรักคุณมากนะ คุณไม่รักพวกท่านหรือ”

 

       ปัง!

       หมัดหนักชกทะลุร่างโปร่งของหญิงสาวไปกระแทกกับผนังทันทีที่เธอพูดจบ คราวนี้เธอห้ามไม่อยู่อีกแล้ว เขายิ่งต่อยหนักขึ้นกว่าเดิมหลังจากนั้น

 

       เกิดอะไรขึ้น วิญญาณสาวถามตัวเองด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนเธอจะสังเกตคลื่นความรู้สึกที่แผ่ออกมาจากตัวชายหนุ่ม มันมืดมน เจ็บปวด ร้าวราน โกรธแค้น สัมผัสแค่นั้นก็พอเดาอะไรออก แล้วพยายามรีบห้ามคนที่กำลังสติแตกอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่มีพลังพอจะหยุดศัลยแพทย์หนุ่มได้ ทำยังไง ทำยังไงดี ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปคงแย่แน่

 

       พรึ่บ!

       ทันใดทุกอย่างก็หยุดชะงัก ร่างกำยำหยุดชกผนัง ก่อนจะพาตนเองเข้าไปล้างมือในห้องน้ำด้วยอาการสงบนิ่ง แล้วออกมาเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ห่อมือ จากนั้นก็พยายามเดินค้นหาอะไรบางอย่างไปทั่วห้อง

 

       “บอกฉันมาเถอะค่ะว่ากล่องพยาบาลของคุณอยู่ที่ไหน” ส่งกระแสจิตคุยกับชวณัดฐ์ในใจ ตอนนี้วิญญาณของเธอเข้าสิงในร่างเขาชั่วคราว

 

       ฝ่ายชวณัดฐ์โดนทำถึงขนาดนี้ก็ยังมิวายดื้อไม่ยอมบอกที่เก็บกล่องพยาบาล จนหญิงสาวต้องถอนหายใจหนัก ๆ ออกมา แล้วตัดสินใจพาร่างเขานั่งแท็กซี่ออกจากคอนโดฯ ไปให้แพทย์ที่โรงพยาบาลรักษาแทน

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.