บทที่ 18 ภารกิจฆ่าสัตว์อสูรระดับ 2

บทที่ 18 ภารกิจฆ่าสัตว์อสูรระดับ 2

[ติ๊ง! มีการออกภารกิจแห่งความสำเร็จแล้ว โฮสต์โปรดทำการสังหารสัตว์อสูรระดับ 2 ครั้งแรกให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด]

เจียงเฉิงซวนพูดไม่ออก

ขณะที่เขากำลังจะปฏิเสธคำเชิญของเฉินหรู่หยาน ระบบก็มอบภารกิจดังกล่าวให้เขาเสียอย่างนั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ระบบต้องการให้เขาดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด

เมื่อพูดถึงเรื่องนั้น โดยเร็วที่สุดหมายความว่าอย่างไร?

ราวกับว่ามันได้ยินความคิดของเจียงเฉิงซวน ระบบตอบกลับเขาโดยตรง

[โฮสต์ โปรดทำภารกิจนี้ให้เสร็จสิ้นภายในสามวัน ไม่เช่นนั้นจะถือว่าล้มเหลว]

สามวันงั้นเหรอ?

เจียงเฉิงซวนพูดไม่ออกเล็กน้อย

โดยพื้นฐานแล้วระบบต้องการให้เขาทำภารกิจนั้นให้สำเร็จร่วมกับเฉินหรู่หยาน

ท้ายที่สุดแล้ว ในช่วงเวลาสั้นๆเช่นนี้เขาจะหาสัตว์อสูรระดับ 2 มาให้เขาฆ่าได้ที่ไหน?

แม้ว่าจะมีเขาก็ไม่กล้าออกไปฆ่ามันโดยไม่รู้สถานการณ์อะไรเลยอย่างแน่นอน

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เจียงเฉิงซวนก็มองไปที่เฉินหรู่หยานและพูดว่า

"ผู้อาวุโสหรู่หยาน ท่านทราบไหมว่าทำไมสัตว์อสูรเหล่านั้นจึงปรากฏตัวนอกเมืองหุบเขาลึก"

“ข้ายังไม่รู้เลย”

เฉินหรู่หยานส่ายหัวของเธอ

“การค้นหาสาเหตุอาจเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของเราในครั้งนี้ด้วย ตราบใดที่เราค้นพบสาเหตุได้ แม้ว่าเราจะกำจัดสัตว์อสูรเหล่านั้นไม่ได้ เราก็ควรจะได้รับคะแนนการช่วยเหลือตระกูลจำนวนมากมาย”

คะแนนการช่วยเหลือตระกูลเป็นกลไกภายในที่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูลเฉิน

ทุกคนจากตระกูลเฉิน สามารถใช้คะแนนการช่วยเหลือตระกูลเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นทรัพยากรต่างๆได้

สิ่งที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ก็ทั่วไป เช่นเทคนิคการบ่มเพาะไปจนถึงยาประเภทต่างๆ สิ่งประดิษฐ์ไปจนถึงวัตถุดิลล้ำค่ามากมาย ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่ตระกูลเฉินมี พวกมันก็สามารถแลกเปลี่ยนกับคะแนนการมีส่วนร่วมของตระกูลได้

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทรัพยากรการฝึกฝนที่อยู่ในมือของตระกูลที่มีผู้แข็งแกร่งขอบเขตปราการม่วงเช่นตระกูลเฉินนี้ผู้ฝึกตนอิสระบางคนในโลกภายนอกไม่แม้แต่จะคาดฝันถึงด้วยซ้ำ

และแม้ว่าเจ้าจะมีหินวิญญาณเพียงพอ เจ้าก็อาจจะไม่สามารถซื้อหามันได้

นี่เป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดผู้ฝึกตนในตระกูลและผู้ฝึกตนในนิกายมีเหนือผู้ฝึกตนอิสระเหล่านั้น

ณ ตอนนี้

เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานมาถึงโถงภารกิจแล้ว

เมื่อสาวกบางคนของตระกูลเฉินเห็นทั้งสองคน พวกเขาก็โค้งคำนับด้วยความเคารพ

มีหลายคำเรียกหาสำหรับเฉินหรู่หยาน

บางคนเรียกเธอว่าป้าคนที่หนึ่ง บางคนเรียกเธอว่าป้าคนที่สอง และบางคนเรียกเธอว่าผู้อาวุโสหรู่หยาน

อย่างไรก็ตาม มีคำเรียกหาเดียวที่จะพูดกับเจียงเฉิงซวน

นั่นคือผู้อาวุโสเจียง

เห็นได้ชัดว่าภายในสามปีนี้ สาวกหลายคนของตระกูลเฉินรู้ว่ามีผู้อาวุโสที่มีนามสกุลเจียงอยู่ในตระกูลของพวกเขา

จากนั้นเขาทักทายผู้ฝึกตนรุ่นน้องเหล่านี้

เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานมาถึงสถานที่รับภารกิจอย่างรวดเร็ว

เฉินหรู่หยานหยิบแผ่นหยกมาตรวจสอบ จากนั้นเธอก็หันไปหาเจียงเฉิงซวนและพูดว่า “ข้าดูมันแล้ว มันคือภารกิจนี้ ผู้อาวุโสเจียงท่านสามารถดูก่อนได้”

ขณะที่เธอพูด เธอยื่นแผ่นหยกภารกิจให้เจียงเฉิงซวน

เจียงเฉิงซวนรับมันมาด้วยรอยยิ้มและแตะมันบนหน้าผากของเขา

ในไม่ช้า เขาก็อ่านข้อมูลภารกิจในแผ่นหยกนี้

มันไม่แตกต่างไปจากสิ่งที่เฉินหรู่หยานบอกเขาก่อนหน้านี้มากนัก

สิ่งเดียวที่ควรกล่าวถึงคือรางวัลสำหรับภารกิจนี้

ตราบใดที่เขาทำสำเร็จ เขาจะได้รับคะแนนการช่วยเหลือตระกูลหนึ่งพันคะแนน

แม้ว่าพวกเขาจะสามารถทำได้เพียงค้นพบสาเหตุเท่านั้น พวกเขาก็ยังสามารถรับคะแนนการช่วยเหลือตระกูลได้ 400 คะแนน

รวมเป็น 1,400 คะแนนคะแนนการช่วยเหลือตระกูล

1,400 คะแนนคะแนนการช่วยเหลือตระกูลมันมีค่าแค่ไหนงั้นหรือ?

หากใช้เพื่อแลกกับหินวิญญาณล้วนๆ ก็จะเป็นหินวิญญาณทั้งหมด 1,400 ก้อน

อย่างไรก็ตาม คะแนนการช่วยเหลือตระกูลมีค่ามากกว่าหินวิญญาณมาก

ไม่มีใครโง่พอที่จะใช้คะแนนการช่วยเหลือตระกูลเพื่อแลกเป็นหินวิญญาณ

ถ้าตัวอย่างนี้ยังอธิบายไม่ชัดเจนพอ ก็ให้เอาสิ่งประดิษฐ์ ยา และทรัพยากรมาเป็นตัวอย่าง

โดยปกติแล้ว สิ่งประดิษฐ์ระดับ 2 ขั้นต่ำมีมูลค่าประมาณ 600 ถึง 800 หินวิญญาณ

อย่างไรก็ตาม หากเจ้าใช้คะแนนการช่วยเหลือตระกูลเพื่อแลกเปลี่ยน เจ้าจะไม่จำเป็นต้องใช้มากขนาดนั้น

อะไรก็ตามที่แลกด้วยคะแนนการช่วยเหลือตระกูลจะมีราคาถูกกว่าข้างนอกถึง 20 ถึง 30%

กล่าวอีกนัยหนึ่ง สิ่งประดิษฐ์ธรรมะระดับ 2 ขั้นต่ำมีมูลค่าประมาณ 400 ถึง 600 คะแนนการช่วยเหลือตระกูล

คะแนนการช่วยเหลือตระกูล 1,400 คะแนนนี้เพียงพอสำหรับเจ้าที่จะซื้อสิ่งประดิษฐ์ระดับ 2 ขั้นต่ำสองถึงสามชิ้น

และนี่ไม่นับรวมผลกำไรที่ได้รับจากการฆ่าสัตว์อสูร

แม้ด้วยนิสัยที่ระมัดระวังของเจียงเฉิงซวน เขาก็อดไม่ได้ที่จะถูกล่อลวงด้วยรางวัลอันเอื้อเฟื้อเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะรู้ว่ารางวัลนี้จะต้องแบ่งออกเป็นสองส่วนก็ตาม

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะแลกกับสิ่งประดิษฐ์ระดับ 2 ขั้นต่ำจากตระกูลเฉิน

“เป็นยังไงบ้าง? ผู้อาวุโสเจียง ท่านอยากทำภารกิจนี้ร่วมกับข้าหรือไม่?”

ในขณะนั้นเฉินหรู่หยานก็หันมาหาเจียงเฉิงซวนและถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม

เจียงเฉิงซวนครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้า

“แน่นอน แต่เราควรแบ่งรางวัลกันอย่างไร?”

เจียงเฉิงซวนรู้สึกว่าเขาต้องทำให้สิ่งต่าง ๆ ชัดเจนก่อนล่วงหน้า

เขาไม่อยากให้พวกเขาผิดใจกันเพราะเหตุนี้

เขาอยู่ในโลกแห่งการบ่มเพาะมานานกว่าร้อยปีและได้เห็นสิ่งที่คล้ายกันนี้มากเกินไป

ดังนั้นแม้ว่าเขาจะรู้ว่าการพูดแบบนี้อาจทำให้เขาโดนดูถูกเล็กน้อย แต่เขาก็ต้องพูดมันออกมาให้ชัดเจน

เห็นได้ชัดว่าเฉินหรู่หยานคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเจียงเฉิงซวน เธอก็ยิ้มทันทีพร้อมตอบว่า “มีแค่เราสองคน แล้วเราจะแบ่งกันคนละครึ่งเป็นอย่างไร?”

หากเป็นเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการช่วยเจียงเฉิงซวน

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ตามความเป็นจริงระดับการฝึกฝนของเฉินหรู่หยานอยู่ที่ขั้นสี่ของขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน ในขณะที่เจียงเฉิงซวนอยู่ที่ขั้นหนึ่งของขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน

คนหนึ่งอยู่ในระยะกลาง และอีกคนอยู่ในระยะต้น

โดยไม่ต้องใช้ความคิดอะไร ก็จะเห็นได้ชัดว่าเจียงเฉิงซวนเป็นผู้ได้รับประโยชน์หากรางวัลถูกแบ่งออกมาเท่าๆ กัน

เจียงเฉิงซวนไม่ได้ปฏิเสธความเมตตาของเธอ เมื่อได้ยินอย่างนั้นเขาก็พยักหน้าทันที

“เยี่ยม ขอบคุณท่านมา แล้วเราจะออกเดินทางเมื่อไหร่?”

เห็นได้ชัดว่าเขายังคงคิดถึงเวลาของภารกิจที่ระบบมอบให้เขา

คงจะดีที่สุดถ้าพวกเขาสามารถออกเดินทางโดยเร็วที่สุด

"พรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน เจอกันที่นี่พรุ่งนี้เช้า ท่านคิดอย่างไร?"

เฉินหรู่หยานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

อย่างไรก็ตาม เจียงเฉิงซวนส่ายหัว

“ข้าคิดว่าเราควรออกเดินทางตอนนี้เลย

ยิ่งเราจัดการได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น

ด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงแต่ผู้คนในเมืองหุบเขาลึกจะสบายใจเท่านั้น แต่เรายังสามารถหลีกเลี่ยงตัวแปรที่อาจเกิดขึ้นที่เมื่อปล่อยเวลาให้นานไปก็เป็นได้

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เราทั้งสองคนไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับค่ายกลในเมืองหุบเขาลึก”