บทที่ 4 สตรีชุดขาว

นักบู๊หฤโหด

-A A +A

บทที่ 4 สตรีชุดขาว

บทที่ 4 สตรีชุดขาว

 

เซี่ยเคอยื่นมือตะปบร่างดรุณีชุดเหลืองขึ้น ล้วงยาเม็ดหนึ่งจากอกเสื้อยัดเข้าปากนาง ประกบนิ้วจี้ขวับๆดรุณีน้อยสะท้านลืมตาฟื้นสติ ความพรั่นพรึงท่วมท้น สองแขนสะบัดตามสภาวะ ชายหนุ่มเนื่องจากระยะประชิดใกล้ยิ่ง อากัปกิริยาเขารวดเร็วเพียงใด ชิงปาดมือวูบ สยบจุดที่ข้อสอกอีกฝ่าย จึงคลายมือปลดปล่อยนางเป็นอิสระ

 

ดรุณีเสื้อเหลืองเพิ่งกรีดร้องจากปาก ก็ระทดระทวยล้มลงเกลือกกลิ้ง น้ำตาทะลักจากเบ้าเปล่งเสียงร่ำไห้ฟูมฟายฟุบหน้าลงแทบสิ้นสติ เซี่ยเคอแม้เยือกเย็นทารุณยังจิตใจสั่นสะท้านเล็กน้อยย่นคิ้วกล่าวเสียงราบเรียบ

 

"กูเหนียงดื้อดึงขัดขืน ข้าพเจ้าชมเชยนิสัยอันเด็ดเดี่ยวนี้ เราไม่คิดเคี่ยวกรำเจ้าทว่า..."

 

หยุดกราดตาสำรวจรอบบริเวณกล่าวสืบต่อ

 

"จะให้ท่านรับทราบความเจ็บปวด ทดแทนพิษชั่วร้ายแผนการลึกซึ้ง ปลอบประโลมวิญญาณเหล่าผู้กล้าฝ่ายธรรมะที่สูญเสีย"

 

ดรุณีน้อยชะงักเสียงร่ำไห้ ขยับดิ้นรนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกระชากเสียงกล่าวสอดคำ

 

"ท่านคิดย่ำยีผู้คน ไยไม่ฟาดข้าพเจ้าตายในฝ่ามือเดียวเล่า"

 

"น้อมเรียนวาจาจริงใจสักหลายประโยค เมื่อครู่ก่อนกูเหนียงจะฟื้นนั้น เราป้อนยาเม็ดหมื่นมดกร่อนวิญญาณแก่ท่านเม็ดหนึ่ง หากมิเชื่อถือหลังจากปลดปล่อย สามารถทดลองเกร็งกำลังโคจรดู"

 

ดรุณีเสื้อเหลืองสีหน้าซีดขาว ควรทราบวิธีบังคับกินยาพิษ นอกจากยาขจัดเฉพาะแล้ว หามีหนทางรักษาอื่น ความคับแค้นทรมาน ยังรุนแรงกว่าตายหลายเท่า ริมฝีปากสั่นสะท้านขยับดิ้นรนโพล่งสุดเสียงทันที

 

"เรา...เราบอกสถานที่ในวลีทั้งสี่ประโยคแก่ท่าน วิงวอนหลังจากแพร่งพรายความลับ คุณชายปลิดชีพเราด่วนด้วย"

 

เซี่ยเคอหัวร่อแค่นๆ ดวงตาสาดประกายอาฆาตวาววับ

 

"เปล่าประโยชน์ ตอนนี้เราไม่อยากรับทราบความหมายจะคลายจุดปล่อยท่าน จำไว้หากใช้พลังฝีมือ ลอบประทุษร้ายข้าพเจ้า เพียงผนึกลมปราณจากท้องน้อยกูเหนียงจะรวดร้าวทั่วสรรพางค์กาย"

 

ยื่นมือขณะจะ...มิคาดเงาสีเหลืองสามจุดพลันถาโถมเข้ามา ร่างไม่ทันถึงวัตถุเย็นยะเยียบมากมายสุดคณานับแหวกฝ่าอากาศเสียงแหลมเล็ก เข็มเล็กละเอียดสีขาวราวเกล็ดหิมะ จู่โจมซัดจากร้อยทิศพันทาง ซุ่มเสียงดรุณีเสื้อเหลืองร่ำร้องอย่างยินดี

 

"กงจู่...รีบช่วยเหลือข้าพเจ้า"

 

เซี่ยเคอระงับสติเยือกเย็น ขบวนการสตรีลึกลับประดานี้ เชี่ยวชาญยาพิษดำเนินอุบาย อาวุธลับเกลื่อนฟ้ารอบบริเวณจึงต้องฉาบพิษชั่วร้าย มิหนำซ้ำอันตรายปราศจากหนทางรอด พุ่งร่างเกลือกกลิ้ง

เรียดดิน ฝ่ามือสะบัดกราดฟาดขุมพลังหนักหน่วงสองสาย ห่าเข็มพิษระลอกแรกห่างสามเชียะก็กระดอนดีดสะท้อนกลับ พร้อมกันนั้นร่างสูงโปร่งเคลื่อนขวางวาเศษ สองเท้าทิ้งแตะพื้นยืมกำลังโผขึ้นอากาศสองวา สะบัดไหล่พลิ้วเฉียงๆหมุนคว้างรอบหนึ่ง ท่ามกลางมรสุมม้วนทะลักกระจัดกระจาย เหลียวหน้ามองอดสะท้านยืนตะลึงลาน

 

ดรุณีน้อยที่ถูกตนชิงสยบไว้พลันสาบสูญ ผู้มาเมื่อครู่นอกจากดรุณีเสื้อเหลืองสามคนก่อนหน้า ยังมีสตรีชุดขาวอีกผู้หนึ่ง ลงมืออย่างรวดเร็วรัดกุม คำนวณจังหวะเวลามั่นเหมาะ ความสูงส่งนี้นับว่าน่าพรั่นพรึงจริงๆ

 

ชายหนุ่มเป่าลมยาวๆจากปาก พลิ้วกายมุ่งตรงสู่ทิศทางขวามือ เร่งรุดชั่วขณะ บรรลุริมดงสนใกล้ท่าข้าม ลมฤดูใบไม้ผลิหอบพัดกลิ่นควันไฟครอบครัวชาวนาอบอวน เพิ่งเผชิญเหตุสั่นขวัญสะท้านวิญญาณ รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียท้องลั่นโครกคราก

 

ครั้นเร่งฝีเท้าเข้าเมือง เหลาฟาไฉอันเลื่องลือปรากฏแขกเหรื่อคลาคล่ำ ที่น่าแปลกคือห้องพักตึกเขตหลังมีผู้เหมาไว้จนเต็ม ทั้งยังสั่งห้ามเด็ดขาด มิให้ผู้ใดย่างกรายรบกวน เซี่ยเคอสอบถามผู้รับใช้ พลางสำรวจบรรดาผู้ดื่มกิน ส่วนใหญ่หากมิใช่พ่อค้าวาณิช ก็เป็นชนชาวยุทธจักรมิจฉาชีพรุ่มรวย

 

ผู้รับใช้นำทางถึงโต๊ะที่นั่ง ก่อนจากไปยังกล่าวว่า

 

"ขออภัยกงจื่อ แขกผู้นั้นกำชับผู้ต่ำต้อยห้ามมิให้แพร่งพราย"

 

ชายหนุ่มร้องอ้อหาสนใจแยแสสงบรอคอยจนผู้คนยกถาดรายการอาหารเสิร์ฟเรียบร้อย จึงใช้ตะเกียบคีบกับรับประทานอย่างหิวโหย

 

......

 

เขตตึกหลังประกอบด้วยห้องพักเรียงรายสิบกว่าห้อง หน้าประตูจัดสตรีเยาว์วัยอาภรณ์เงินแปดนางผลัดเปลี่ยนตรวจตราเข้มงวด ทุกนางล้วนรูปโฉมสะคราญหยาดเยิ้ม ประกายตาแฝงอำนาจสะเทือนจิตใจผู้จ้องมองกระสันรัญจวน ยามนั้นผู้รับใช้ร่างผ่ายผอมหลังงองุ้มสาวเท้าถึงริมกำแพง สตรีชุดเงินสองนางรีบดาหน้าเข้าหา คนทางซ้ายเผยอยิ้มราวกลีบเบญจมาศแรกแย้มเอ่ยถามว่า

 

"เจ้าพบบุรุษหนุ่มชุดขาวนั้นแล้ว"

 

ผู้รับใช้หัวร่อฮาๆยิ้มประจบเหลือบตาหยีเล็กเหม่อมอง คล้ายเคลิบเคลิ้มงมงายแทบน้ำลายหยดหยาด สตรีเยาว์วัยทางขวาแค่นเสียงเย็นชาตะคอกสำทับ

 

"เฮอะ!เจ้ามิได้ยินวาจาถามไถ่หรือไร เรื่องที่กงจู่พวกเราฝากฝังกระทำสำเร็จหรือไม่"

 

"แน่นอนแน่นอน ผู้ต่ำต้อยไหนเลยดูคนผิดพลาด"

 

ลนลานตอบแล้วสยิวกายคราหนึ่ง สตรีชุดเงินทางซ้ายยื่นส่งทองคำแท่งหนักสิบตำลึงแก่มันโบกมือขับไล่สั่งล่าถอยกลับไป

 

......

 

กล่าวถึงเซี่ยเคอคว้าป้านน้ำชายกดื่มติดต่อกันหลายอึก อารมณ์ปลอดโปร่งโล่งสบายกว่าเดิม ทันใดบันไดเหลาพลันปรากฏเสียงเหยียบย่ำกระทบโสต เขาหันหลังแก่ทุกผู้คน ดังนั้นเหลียวหน้าลอบชำเลืองแวบ แขกเหรื่อบนชั้นสองต่างนึกนิยมชมเชยต่อรูปโฉมคนทั้งสี่ ความเย็นวะวาบแผ่ซ่านตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สตรีชุดขาวเดินนำดรุณีน้อยถักเปียสองเส้นอีกสามนางจับจองโต๊ะเก้าอี้ ดวงตาใสกระจ่างลึกล้ำทอแววกระด้างเย็นชาดั่งหล่มน้ำแข็ง คล้ายจงใจกราดผ่านโต๊ะที่เขานั่งโดยเฉพาะ

 

ชายหนุ่มสยิวกายขนลุกเกรียว ล้วงเข้าอกเสื้อคลี่ภาพแพรกางออก แสร้งก้มหน้าพิเคราะห์จดจ่อเปลือกนอกดั่งราวมิแยแสต่อสตรีทั้งสี่ ใจกลับลอบเขม็งตึงเครียดคำนึง

 

'เขตตึกหลังย่อมเป็นผลงานพวกนาง แผ่นดินกว้างใหญ่หนทางไฉนคับแคบปานนี้ สักครู่น่ากลัวเรายากเล็ดลอดสังเกตุ'

 

เค้นสมองตระเตรียมรับเหตุเปลี่ยนแปร เนิ่นนานคล้ายลืมเลือนว่าในมือตนถือวัตถุเบาบาง ผ้าแพรพอปราศจากแรงยึดเกาะ ก็ร่วงพลิ้วลงข้างเก้าอี้ในบัดดล ลมเอื่อยจากริมหน้าต่าง พอดีหนุนยอม้วนภาพนั้นหล่นใกล้โต๊ะสตรีชุดขาว ดรุณีเสื้อเหลืองหนึ่งในสามขมวดคิ้วอุทานเอ๊ะพลางกวักมือวูบ แพรผืนนั้นพลันเผชิญพลังดูดรั้งค่อยๆลอยช้าๆถึงเบื้องหน้า ดรุณีน้อยรับพลางคลี่ออก เบิกตากลมโตแค่นเสียงเอ่ยชมเชย

 

"ทิวทัศน์งดงามนัก ลายเส้นสีสันน้ำหนักพู่กันปราศจากช่องโหว่ บุคคลผู้วาดมีความสำเร็จเยี่ยงนี้ ต้องมีชื่อเสียงจึงถูก"

 

ก่อนยื่นถึงตรงหน้าสตรีชุดขาวผงกศีรษะเอ่ยสืบต่อ

 

"กงจู่ท่านดู"

 

สตรีชุดขาวหลุบคิ้วต่ำพลันลืมตาจ้องเขม็งฉวยรับไป ปากยังพึมพำแผ่วเบา

 

"ภาพวาดในวังประกาศิตบนเกาะ เรามิใช่ชมดูจนเบื่อหน่ายแล้วหรือ"

 

ต่อเมื่อกวาดตาพิจารณาละเอียดถี่ถ้วน คิ้วเรียวงามพลันขมวดมุ่นเหลียวหน้าไปทางโต๊ะเซี่ยเคอ พยักหน้าแก่ดรุณีทั้งสามกล่าวอีกว่า

 

"ผู้แซ่เซี่ยนั้นจริงๆ พวกเจ้าสงบเยือกเย็นไว้ อย่าเคลื่อนไหววุ่นวาย"

 

อิริยานุ่มนวลเยื้องกรายถึงข้างกายชายหนุ่มโดยไร้สำเนียงผิดปรกติ สามดรุณีมองตามหลังนิ่งเงียบงันลอบส่งสัญญาณนัดแนะ

 

เซี่ยเคอพอรู้สึกใจกลางฝ่ามือเบาหวิว พลันสะท้านดุจสายฟ้าฟาดกะทันหันเหลียวซ้ายแลขวางุนงงนิ่งตะลึงลานชั่วขณะ ทันใดไหล่ซ้ายถูกสะกิดเรียกแผ่วเบา เพิ่งหันขวับทั่วร่างราวต้องมนตร์สะกด รีบตะกุกตะกักลนลานประสานมือกล่าวว่า

 

"อ้อ...กูเหนียง...กูเหนียง"

 

ซึ่งความจริงคิดถามไถ่ ที่แท้พบเห็นรูปภาพม้วนแพรของตนหรือไม่ ครั้นตั้งสติข่มเลือดลมปั่นป่วนแล้ว ทั้งอับอายทั้งว้าวุ่น หน้าแดงฉานเหงื่อซึมชุ่มฝ่ามือ

 

สตรีชุดขาวยืนห่างสามเชียะ สังเกตุกิริยาอาการอีกฝ่าย คล้ายขบขันคล้ายระอา มือขาวละเอียดยื่นส่งแพรผืนนั้นถึงเบื้องหน้าชายหนุ่ม สะบัดก่อกวนสายตาเล็กน้อยหัวร่อคิกคักเอื้อนเอ่ยเสียงสดใสไพเราะตำหนิว่า

 

"ท่านผู้นี้ขลาดเขลายิ่ง เพียงปะหน้าผู้อื่นดั่งกระทำเรื่องราวที่ไม่อาจพบชนชาวโลกก็มิปาน"

 

เซี่ยเคอหัวร่อฮาๆ กะทันหันนึกหาวาจาแก้ขวย รับแพรจากสตรีชุดขาวประสานมือทรงกายผุดลุกขอบคุณ กล่าวอย่างสำนึกตื้นตันว่า

 

"ขอบพระคุณกูเหนียงกระตุ้นเตือน นิสัยเหม่อลอยของข้าพเจ้านี้สมควรแก้ไขปรับปรุงจริงๆ"

 

"เรื่องเล็กน้อยคุณชายไยต้องเกรงใจ ไว้ข้าพเจ้าจะส่งบ่าวใช้เชื้อเชิญท่านร่วมวิจารภาพวาดลายพู่กันเป็นไร"

 

เซี่ยเคออ้ำอึ้งลังเลเนิ่นนาน สตรีชุดขาวเผยอยิ้มเฉิดฉาย นางหาบังเกิดโทสะขุ่นเคือง ขมวดคิ้วทอดถอนใจ ตัดพ้อถามไถ่อีกว่า

 

"หรือท่านนึกเหยียดหยามดูแคลน ฝีมือจิตรกรผู้อื่นคงสู้ท่านมิได้"

 

ชายหนุ่มส่ายศีรษะช้าๆ พานตัดใจพริ้มเปลือกตาลงรีบปฏิเสธ

 

"มิกล้า กูเหนียงอุตส่าห์ลดศักดิ์ศรีให้เกียรติ ข้าพเจ้าเคารพมิสู้ทำตามคำสั่ง"

 

สตรีชุดขาวแค่นเสียงเย็นชา ผงกศีรษะคราหนึ่งรับคำประเศริฐ จากนั้นผละกลับโต๊ะที่นั่ง ชายหนุ่มยามนั้นจิตใจคล้ายโบยบินสุดแสนไกล เหม่อมองอิริยาบทแช่มช้อยเซื่องซึม พยายามปลุกปลอบกำลังขวัญ ชำระค่าอาหารสั่งผู้รับใช้นำพาถึงห้องพักเขตตึกชั้นกลางทิศใต้หลังหนึ่ง ปิดประตูขัดดาลแน่นหนา เปลื้องชุดและรองเท้าทิ้งบนเก้าอี้ปลายเตียง กระโดดปราดล้มตัวนอนหลับไหล

 

เสียงเคาะเกราะบอกโมงยามแว่วกระทบโสต ชายหนุ่มสะท้านลืมตาช้าๆ นอกหน้าต่างวิกาลดึกสงัด ดวงจันทร์ลอยเด่นแสงดาวพราวเกลื่อนนภา นับเป็นราตรีชวนรื่นรมย์ เขาลงจากเตียงไม้พลางวักน้ำในอ่างมุมห้องล้างหน้า สลัดศีรษะคลายอาการง่วงงุน

 

เพิ่งนั่งขัดสมาธิไม่ทันปรับลมหายใจผนึกกำลังตามกิจวัตร พลันได้ยินเสียงฝีเท้าเบากริบเคลื่อนไหวถึงหน้าประตู ชายหนุ่มเงี่ยหูเพ่งสมาธิสดับ พลิ้วถึงมุมโต๊ะเตี้ยหยิบฉวยชุดยาวสวมใส่ซุ่มเสียงคนปริศนาลังเลชั่วน้ำเดือด จึงยกมือเคาะร้องเรียกแผ่วเบา

 

"เซี่ยกงจื่อ ท่านอยู่ในห้องหรือไม่"

 

"มีเรื่องใดหรือ"

 

ตอบพลางสาวเท้าถึงหน้าห้องแทรกสายตาลอดช่องหลังประตู บุคคลราตรีหัวร่อคิกกล่าวว่า

 

"ไฉนลืมง่ายดายปานนี้ ตอนเย็นกงจู่พวกเรามิใช่เคยบอกว่าใคร่รบกวนท่านชี้แนะภาพวาด"

 

"อ้อ!กงจู่พวกท่านอยู่ที่ใด"

 

เซี่ยเคอเปิดประตูแง้มออก กงจู่ที่ว่าคงต้องหมายถึงสตรีชุดขาวนั้น ดรุณีแรกรุ่นอาภรณ์เงิน ร่างแน่งน้อยเกล้าผมสองมวยเสียบปิ่นหยกประดับมุกเม็ดหนึ่งยืนห้อยมือสำรวม หันกายก้าวนำเหลียวหน้ากวักมือแย้มยิ้มกล่าว

 

"เซี่ยกงจื่อขอเชิญ"

 

ชายหนุ่มยักไหล่รับคำอืม ชั่วพริบตาลดเลี้ยวอ้อมสู่เขตตึกหลัง ปากทางเฝ้าเวรด้วยสตรีเยาว์วัยเจ็ดนาง ต่างประสานมือโค้งคำนับกล่าวเชิญ สร้างความประหม่าลนลานแก่เซี่ยเคอรีบเร่งความเร็วติดตามดรุณีชุดเงินกระชั้นชิด วกเป็นรูปครึ่งวงโค้ง มาถึงสวนดอกไม้กึ่งกลางสร้างภูเขาจำลองสูงแปดเก้าวาบนทางโรยกรวดลักษณะประหลาดระเกะระกะสลับแผ่นอิฐเขียว หลังภูเขาจำลอง ผิดแผกอีกรูปแบบหนึ่ง ตรงกลางจัดตั้งโต๊ะแปดเหลี่ยมขนาดย่อม

 

เก้าอี้ตัวแรกสตรีชุดขาวนั่งเด่นเป็นสง่า รอบบริเวณพื้นที่กว้างสองวากั้นเขตรูปวงกลมปลูกบุปผาหลากชนิดส่งกลิ่นจรุงจิต ทัศนียภาพกลมกลืนร่มรื่น บันดาลให้ผู้คนรู้สึกแช่มชื่นคลายการระมัดระวังภัยสิ้นเชิง จิตสำนึกล่องลอยราวไร้ตัวตน สตรีชุดขาวทอดตาเพ่งพิศยังคนทั้งสอง ท่าทีเย็นชาปานน้ำแข็ง ใบหน้าคล้ายเคลือบคลุมอำนาจพิสดารยากต้านทาน แม้เผยอยิ้มอย่างอ่อนหวานชายหนุ่มกลับมิกล้าจ้องมอง ตลอดกายหนาวเหน็บราวตกพลัดในหล่มยะเยียบก็ปาน

 

ดรุณีน้อยหยุดยั้งลงโค้งคำนับรายงานว่า

 

"เรียนกงจู่ เซี่ยกงจื่อมาถึงแล้ว"

 

สตรีชุดขาวพยักหน้าสั่งเสียงราบเรียบ

 

"ฮุ่ยชิวเจ้าล่าถอยไป"

 

ดรุณีนำทางนามฮุ่ยชิวขานรับพลางถอยปราด เซี่ยเคอข่มสติระงับอาการ กวาดตาหลายตลบ สตรีชุดขาวผายมือยังเก้าอี้กลมฝั่งตรงข้ามกล่าวว่า

 

"กงจื่อเชิญนั่ง"...

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.