บทที่ 1 (รีไรต์ครั้งที่ 2)

ความรู้สึกนี้หรือ...คือรัก

-A A +A

บทที่ 1 (รีไรต์ครั้งที่ 2)

บทที่ 1

 

วินมาถึงโรงอาหารของโรงเรียนในเวลาเจ็ดโมงเศษ เด็กหนุ่มเดินไปที่ร้านอาหารขาประจำเป็นอย่างแรก เมื่อหญิงวัยห้าสิบหันมามอง เขาจึงรีบยกมือไหว้อย่างสุภาพ

 

“สวัสดีครับป้ากบ”

 

“จ้าหนูวิน วันนี้กินอะไรดีจ๊ะ?” ป้ากบถามด้วยรอยยิ้ม เธอรู้จักเด็กหนุ่มมาตั้งแต่เขาเข้ามาเรียนมอสี่ที่นี่ใหม่ๆ ดังนั้นจึงรู้สึกรักเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง

 

“ขอเป็นคะน้าหมูกรอบไข่ดาวเหมือนเดิมแล้วกันครับป้า” วินเอ่ยบอกเมนูที่เขาชอบทานเป็นประจำออกไป

 

“ได้จ้ะ” ป้ากบรับคำ ก่อนจะเริ่มลงมือทำอาหารตามเมนูที่รับมา

 

ภายหลังจากสั่งอาหาร วินก็หันมองไปรอบๆ เผื่อว่าจะเจอคนรู้จัก แล้วเขาก็ไม่ผิดหวัง เมื่อมองเห็นกลุ่มเพื่อนสนิทโบกมือเป็นเชิงเรียกมาจากโต๊ะที่ตั้งอยู่อีกมุมหนึ่งของโรงอาหาร

 

“ไงไอ้ภูมิ ทำไมวันนี้ถึงโผล่มาแต่เช้าได้วะ? ปกติเห็นวิ่งเข้าโรงเรียนมาตอนเริ่มจะเข้าแถวแล้วตลอด” เมื่อไปถึง วินก็เอ่ยถามเพื่อนสนิทของเขาทันที

 

ภูมิเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงกำยำ ด้วยเพราะเป็นนักกีฬาของโรงเรียน ทำให้มีแต่มัดกร้าม เรียกว่าเป็นขวัญใจของสาวๆ หลายคนเลยทีเดียว

 

“วันนี้พ่อกับแม่ฉันต้องไปทำธุระที่ต่างจังหวัด ฉันเลยต้องตื่นเช้าตามไปด้วยเนี่ย อีกอย่างรู้สึกหิวข้าวด้วยแหละก็เลยมา...เฮ้ยไอ้บอม นั่นมันไก่ฉันนะเว้ย ห้ามกิน” ประโยคท้าย ภูมิหันไปเอ่ยกับเด็กหนุ่มร่างผอมสูงอีกคนที่กำลังจะแอบยื่นซ่อมมาจิ้มเอาไก่ในจานของเขาไป

 

“โธ่ อะไรวะ ชิ้นเดียวก็ไม่ได้” บอมทำท่าตัดท้อ

 

“ไม่ได้เว้ย” ภูมิว่าเพื่อนอย่างไม่จริงจังมากนัก

 

“เอาน่า นายก็อย่าไปว่าไอ้บอมมันเลย อยู่กันมาจนจะเรียนจบอยู่แล้ว ยังไม่ชินกับนิสัยมันอีกเหรอ?” วินเอ่ยขึ้นยิ้มๆ ขณะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ม้ายาว

 

“อ้าวเฮ้ย รู้สึกเหมือนโดนหลอกด่าเลยว่ะ” บอมเอ่ยขึ้นขำๆ พรางตักข้าวจานตัวเองกิน

 

“ดีนะที่ยังรู้ว่าถูกหลอกด่า” ภูมิเสริม ทำให้เด็กหนุ่มทั้งสามหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน

 

“หนูวิน ข้าวได้แล้วจ้า” เสียงป้ากบตะโกนบอก วินเลยลุกเดินไปเอาข้าวมานั่งกิน

 

คนในโรงอาหารเริ่มเยอะขึ้นตามเวลาที่เคลื่อนผ่าน กระทั่งเสียงออดดังเตือนเป็นสัญญาณเข้าแถวเคารพธงชาติ เด็กหนุ่มทั้งสามจึงหยุดคุยกัน แล้วเดินออกจากโรงอาหารเพื่อไปที่สนามกิจกรรม

 

 

 

มายด์เดินลงมาจากอาคารเรียนของเธอเพื่อรอเข้าแถวตามเวลา ข้างๆ ของเด็กสาวยังมีเพื่อนสนิทอีกคนเดินบ่นมาด้วย

 

“ฉันขี้เกียจเข้าแถวอะ ไม่รู้จะเข้าทำไมทุกวัน แดดก็ร้อนด้วย”

 

“ต่อให้เธอบ่นแบบนี้ทุกวัน ยังไงก็ได้เข้าเหมือนเดิมอยู่ดีแหละ จะบ่นทำไมก็ไม่รู้” เด็กสาวเอ่ยอย่างระอา

 

“ก็มันอดไม่ได้นี่” เด็กสาวร่างระหงเอ่ยด้วยท่าทางเซ็งๆ

 

“นี่แอม เพราะเธอชอบบ่นแบบนี้หรือเปล่า ถึงไม่มีใครมาจีบสักที? ทั้งที่เธอก็ออกจะสวยขนาดนี้” มายด์ถามพรางมองหาใครบางคนไปรอบๆ

 

แอมตีแขนมายด์เบาๆ “โธ่ ว่าแต่ฉัน แล้วเธอล่ะ ตัวเล็กๆ บอบบางน่าทะนุถนอม มีแต่คนมาจีบ แต่ทำไมไม่ยอมคบใครสักคน หรือว่ากำลังมองใครอยู่เอ่ย?” แอมทำท่าล้อเลียน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอกำลังมองใครอยู่ แต่เพราะมายด์เป็นสาวขี้อายมากๆ เลยไม่ยอมเข้าไปคุยกับคนที่ตัวเองสนใจสักที ครั้นเธอจะช่วยก็ถูกห้ามไว้ เธอละกลัวสาวคนอื่นเข้าไปจีบแทนเพื่อนเธอจริงๆ ยังดีหน่อยที่เธอไม่เคยได้ยินข่าวว่าฝั่งผู้ชายคนนั้นกำลังคบกับใครอยู่

 

“ห้ามล้อสิ” มายด์เอ่ย แก้มของเด็กสาวเริ่มขึ้นสีระเรื่อจางๆ

 

“จ้าๆ ไม่ล้อจ้า” แอมพูดพรางเดินเข้าไปในเขตสนามหญ้า เพื่อไปรวมกลุ่มกับเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ

 

 

 

วิชาแรกของมอหกห้องสองคือวิชาประวัติศาสตร์สากล บริเวรโต๊ะเรียนที่เยื้องไปด้านหลังห้องเล็กน้อย วินนั่งฟังคุณครูบรรยายไปเรื่อยๆ พรางจดเล็กเชอร์ในบางหัวข้อที่เห็นว่าสำคัญเอาไว้ ไม่รู้ทำไม แต่วันนี้เขารู้สึกว่าใจของเขาไม่ค่อยจดจ่อในการบรรยายของครูประจำวิชาสักเท่าไหร่ เวลาเผลอตัว สมองของเขาก็มักจะนึกถึงดวงหน้าหวานของใครบางคนอยู่ตลอด ตอนเข้าแถวช่วงเช้าวินก็แอบมองหาเธอจนเพื่อนสงสัยก็หลายคราว

 

“วิน...วิน...ไอ้วิน!” เสียงเรียกของบอม ประกอบกับสัมผัสที่หัวไหล่ทำให้เด็กหนุ่มเกือบสะดุ้งตัวลอย

 

“อะ...อะไร!?” วินหลุดคำถามออกไป ทั้งที่ยังมีสติไม่ครบท่วน

 

“ทำไมวันนี้นายดูเหม่อๆ วะ เมื่อคืนนอนดึกเหรอ?” บอมเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะปกติเพื่อนของเขาไม่เคยเหม่อขนาดนี้ หรือว่าการบ้านเยอะ เลยนั่งทำตอนกลางคืน ทำให้นอนไม่พอ

 

“เอ่อ ก็ประมาณนั้นแหละ พอดีเมื่อคืนนอนดึกไปหน่อยจริงๆ” วินรีบกลบเกลื่อน ถ้าเพื่อนรู้ว่าเขาเหม่อเรื่องอะไร ต้องถูกล้อไปอีกนานแน่

 

“อย่าหักโหมมากนะเว้ย ค่อยๆ ทำ ป่วยมามันจะไม่คุ้ม ไม่ใช่อะไรหรอก ถ้านายป่วยการบ้านก็จะไม่เสร็จ พอนายทำไม่เสร็จ ฉันก็จะไม่มีใครให้ลอก” บอมเอ่ยกวนๆ

 

“เป็นความคิดที่ดีมากพวก” วินเอ่ยประชดอย่างไม่จริงจัง เขารู้อยู่แล้ว ว่าถึงบอมมันจะปากแบบนี้ แต่ใจจริงๆ มันก็คงห่วงเขานั่นแหละ

 

“เฮ้ยๆ พวกนายสองคน ครูมองพวกนายมาพักใหญ่แล้วว่ะ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชานอย่างฉันก็คือ หยุดคุยก่อนจะถูกทำโทษซะ” เมื่อเห็นท่าไม่ดี ภูมิที่นั่งอยู่ไม่ไกลจึงรีบเตือนเพื่อน

 

เมื่อวินและบอมหันไปมองตามคำของภูมิก็พบเข้ากับสายตาพิฆาตของครูผู้สอน ทั้งคู่จึงทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ พลางก้มหัวเป็นเชิงขออภัย ยังดีที่ครูไม่ได้ลงโทษ วินและบอมเลยรอดตัวไป

 

 

 

เมื่อคุณครูที่สอนคาบสุดท้ายของวันนี้เดินออกจากห้องไป จากห้องที่มีแต่ความเงียบก็อึกทึกครึกครื้นขึ้นมาทันที เด็กหนุ่มเด็กสาวต่างจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างออกรส เพราะเมื่อหมดคาบเรียนของวันนี้แล้ว ก็ได้เวลากลับบ้าน หรือไปเที่ยวยังที่ต่างๆ สักที

 

“เฮ้ยวิน เลิกเรียนนี้มีธุระไหนเปล่า? พอดีว่าจะชวนไปเดินห้างสักหน่อย” ภูมิถามพรางยกกระเป๋านักเรียนขึ้นสะพายไหล่

 

“นายไปเถอะ วันนี้ฉันติดเวรทำความสะอาดห้องว่ะ” วินตอบพร้อมกับยกก้าวอี้ขึ้นวางพาดไว้บนโต๊ะ

 

“แล้วนายล่ะบอม?” ภูมิหันไปถามเพื่อนสนิทอีกคน

 

“ฉันว่าง แต่ต้องกลับก่อนทุ่มหนึ่งนะเว้ย ไม่งั้นเดี๋ยวโดนแม่เฉ่ง” บอมตอบ ก่อนจะเอ่ยกับวิน “เออวิน เดี๋ยวสมุดที่ฉันยืมไป พรุ่งนี้เอามาคืนนะ คิดว่าวันนี้ก็คงลอกเสร็จ”

 

“ไม่มีปัญหา” วินพูดยิ้มๆ

 

หลังจากบอมและภูมิขอตัวแยกไปแล้ว วินก็เริ่มทำเวรห้องตามหน้าที่ เด็กหนุ่มไล่กวาดไปตามใต้โต๊ะ ขณะที่เพื่อนร่วมเวรอีกสี่คนก็ช่วยกันทำหน้าที่อื่นๆ ตามที่ตกลงกันไว้

 

“วิน” แพม เด็กสาวซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องของวินเอ่ยเรียก วินเลยหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพื่อรอฟังประโยคถัดไป

 

“แพมรบกวนวินช่วยปิดพวกประตูหน้าต่างแทนแพมสักวันได้มั้ย? คือแพมมีนัดกับเพื่อนห้องอื่นเอาไว้ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าแพมจะมาทำเวรแทนวินเอง” แพมเอ่ยขอร้องด้วยท่าทางเกรงใจ

 

วินพยักหน้า “ได้สิ ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องทำเวรแทนไม่เป็นไรหรอก ถือว่าช่วยๆ กัน อีกอย่างบ้านเราอยู่ใกล้ แค่รอปิดประตูหน้าต่าง สบายมาก”

 

“ขอบคุณนะ” แพมยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าที่โต๊ะ “แล้วเจอกันพรุ่งนี้จ้าทุกคน” เด็กสาวเอ่ยลาเพื่อนร่วมเวรแล้วออกจากห้องไป

 

เมื่อทำเวรเสร็จ วินก็ทยอยไล่ปิดหน้าต่างห้องไปทีละบาน เขากวาดตาตรวจดูความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะปิดล็อคประตูห้องเรียน

 

อันที่จริงมีเพื่อนหลายคนขออยู่เป็นเพื่อนเขา แต่เขาเห็นว่าเพื่อนเหล่านี้บ้านค่อนข้างไกล หรือบางคนก็ต้องนั่งรถตู้เพื่อกลับบ้าน เขาเลยปฏิเสธความหวังดีเหล่านั้นไป

 

วินเดินลงไปตามบันไดอาคาร พรางยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อดูเวลา ครั้นพอเห็นว่าเพิ่งจะสิบหกนาลิกาสี่สิบนาทีเขาเลยยัดโทรศัพท์เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม

 

วินกำลังจะเดินออกสู่ถนนที่มุ่งหน้าไปทางประตูโรงเรียนอยู่แล้ว หากไม่บังเอิญได้ยินเสียงของใครบางคนเข้าซะก่อน เด็กหนุ่มไม่เสียเวลาตัดสินใจเลยแม้เซี่ยวนาที เขาออกเดินลัดเลาะไปตามทางเดินเล็กๆ เพื่อที่จะไปบริเวณสวนหย่อมด้านข้างอาคารที่เขาเคยมานั่งประจำ

 

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ Racss

สนุกค่ะ รออ่านต่อนะคะ

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.