บทที่ 61 จุดจบของราชา
บทที่ 61 จุดจบของราชา
สิ้นเสียงการกลืนกินของหญิงสาวผู้ตื่นจากนิทรา ทุกสายตาพลันจับจ้องไปยังเธอ ทุกการกระทำในห้องแห่งนี้พลันหยุดนิ่งราวกับต้องมนต์สะกด
เอเรนทอดสายตามองร่างไร้วิญญาณของอาเธอร์ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ความเจ็บปวดจากการสูญเสียเพื่อนรักแล่นริ้วเข้ามาในอก แต่ทว่า... ความหวาดกลัวต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นกลับมีอำนาจเหนือกว่า
ขาทั้งสองข้างของชายหนุ่มสั่นระริกโดยไม่อาจควบคุม สัญชาตญาณการเอาตัวรอดกรีดร้องลั่นในหัวสมองว่า 'ต้องหนี' สายตาของเขาเหลือบไปมองร่างของ ลีร่า และ เซเลเน่ ที่ยังคงนอนหมดสติอยู่ห่างออกไป... หากเขาจะหนี เขาต้องทิ้งพวกเธอไว้ที่นี่
‘ช่วยไม่ได้... เราทำอะไรไม่ได้แล้ว...’ ความคิดที่เห็นแก่ตัวผุดขึ้นมาในสมองที่ขาวโพลน เอเรนกัดฟันแน่น เขาค่อย ๆ ถอยหลังก้าวหนึ่ง เตรียมที่จะหันหลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอดโดยไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น แม้กระทั่งศพของเพื่อนรักหรือหญิงสาวที่รอการช่วยเหลือ
แต่ก่อนที่เอเรนจะได้ขยับตัว คนแรกที่ทำลายความเงียบนั้นกลับเป็นราชาแมกนัส
เขาทิ้งคทาเวทมนตร์ในมือลงพื้นอย่างไม่ไยดี เขาไม่สนแม้แต่เอเรนที่กำลังจะหนี หรือร่างไร้วิญญาณของอดีตผู้กล้า สายตาของเขาจับจ้องเพียงหญิงสาวตรงหน้าด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น
“เอลิน่า... ในที่สุด... ในที่สุดเจ้าก็กลับมาหาข้า”
แมกนัสก้าวเดินเข้าไปหาอย่างเชื่องช้า ราวกับคนละเมอ หญิงสาวที่นั่งอยู่บนขอบโลงศพค่อย ๆ ยืนขึ้น รอยยิ้มที่ฉีกกว้างเมื่อครู่หุบลง เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหวานหยดย้อยที่แมกนัสคุ้นเคย... รอยยิ้มที่เขาเฝ้าฝันถึงมาตลอดหลายปี นางอ้าแขนออกกว้างเพื่อรอรับการสวมกอด
“แมกนัส...” เสียงหวานใสดังขึ้น แม้จะยังมีความแหบพร่าเจือปนอยู่บ้าง แต่สำหรับราชาวิปลาสแล้ว มันคือเสียงสวรรค์
แมกนัสโผเข้าสวมกอดร่างที่เย็นเฉียบนั้นไว้แน่น ซุกใบหน้าลงกับไหล่บางด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ เขาไม่สนใจกลิ่นอายความตายหรือกลิ่นเลือดที่คละคลุ้งออกมาจากตัวนางเลยแม้แต่น้อย
“ข้ารักเจ้า... เอลิน่า” แมกนัสกระซิบเสียงสั่นเครือ “ข้ายอมทำลายทุกอย่าง ยอมแลกทุกชีวิตเพียงเพื่อวันนี้... เพื่อให้ได้กอดเจ้าอีกครั้ง”
หญิงสาวค่อย ๆ ยกวงแขนขึ้นโอบกอดแผ่นหลังของราชา ลูบไล้เบา ๆ อย่างปลอบโยน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของเขา
“ข้าก็รักท่าน... ท่านพี่” นางตอบกลับเสียงหวาน
“รักความโง่เขลาของท่าน... ที่มอบชีวิตใหม่นี้ให้แก่ข้า!”
กร๊อบ!!!
เสียงกระดูกคอหักดังลั่นก้องห้องโถง กลบเสียงหวานซึ้งเมื่อครู่จนหมดสิ้น
“อั๊ก...!”
แมกนัสเบิกตาโพลง ร่างกายกระตุกเกร็งอย่างรุนแรงเมื่อมือที่เคยลูบไล้แผ่นหลังแปรเปลี่ยนเป็นกรงเล็บเหล็กกล้า ล็อคคอของเขาและบิดหมุนไปด้านหลังจนผิดรูปถึงหนึ่งร้อยแปดสิบองศา!
แต่ด้วยพลังเวทมหาศาลและความตายยากของราชาจอมเวท แมกนัสยังไม่สิ้นใจในทันที เขายังคงมีสติแม้เลือดสด ๆ จะทะลักออกจากปาก ร่างกายของเขาห้อยต่องแต่งอยู่ในอ้อมกอดของภรรยา แต่ถึงกระนั้น... ความรักและความปรารถนาของเขาก็ยังไม่จางหาย
แมกนัสพยายามยกนิ้วที่สั่นเทาชี้ไปยังร่างของหญิงสาวทั้งสองที่นอนสลบอยู่
“อะ... เอาไปสิ... เอลิน่า...” แมกนัสเค้นเสียงเฮือกสุดท้ายออกมาอย่างยากลำบาก เลือดไหลย้อยลงมาจากมุมปาก
“กินพวกมันเข้าไปด้วย... เซเลเน่คือผู้ครอบครอง ศาสตราแห่งความว่างเปล่า... ส่วนลีร่า... นางมี ศาสตราแห่งแสง เช่นเดียวกับอาเธอร์...”
ดวงตาของแมกนัสฉายแววบ้าคลั่งแม้ในวาระสุดท้าย “ศาสตราของอาเธอร์อาจหลุดลอยไปแล้ว... แต่ถ้าเจ้ากินพวกนางเข้าไป... เจ้าจะสมบูรณ์แบบ... เจ้าจะเป็นพระเจ้า...”
นางปีศาจมองตามนิ้วของแมกนัสไปยังเหยื่อที่นอนนิ่งอยู่ ก่อนจะหันกลับมามองหน้าสามีของตนด้วยแววตาดูแคลน นางแสยะยิ้มกว้างจนปากฉีกถึงใบหู
“ช่างเป็นสามีที่แสนดีเสียจริง...” นางเอ่ยเสียงเย้ยหยัน
“แต่ข้าไม่สนของหวานพวกนั้นหรอก... สิ่งที่ข้าต้องการตอนนี้...”
หญิงสาวโน้มใบหน้าลงมาประชิด พรมจูบเบา ๆ ที่ใบหูของราชาก่อนจะเลื่อนริมฝีปากลงมายังซอกคอที่บิดเบี้ยว ราวกับคู่รักที่กำลังแสดงความรักใคร่ดูดดื่ม
“...คืออาหารจานหลักอย่างท่านต่างหาก... ที่รัก”
กร๊วม!
สิ้นคำหวาน นางก็อ้าปากกว้างและฝังเขี้ยวลงไปที่เส้นเลือดใหญ่บริเวณลำคอของแมกนัสจนจมเขี้ยว! เล็บนิ้วมือจิกลึกลงไปในแผ่นหลังเพื่อยึดร่างเหยื่อไว้แน่น ก่อนจะออกแรง กระชาก!
แคว่ก—!
ไม่ใช่เพียงแค่ชิ้นเนื้อที่หลุดออกมา แต่ดวงวิญญาณสีฟ้าครามขนาดมหึมา—วิญญาณระดับจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่—ถูกดูดกระชากออกมาจากบาดแผลที่ลำคอราวกับของเหลว ร่างของราชาแมกนัสกระตุกเฮือกเป็นครั้งสุดท้าย นัยน์ตาที่เคยเปี่ยมด้วยรักและความบ้าคลั่งค่อย ๆ ดับแสงลง ก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้น สิ้นใจตายในอ้อมกอดของหญิงอันเป็นที่รัก... ในฐานะอาหาร
หญิงสาวอ้าปากกว้างจนขากรรไกรค้าง แล้วกลืนกินดวงวิญญาณดวงโตนั้นลงคอไปในอึกเดียว
เอือก!
นางเงยหน้าขึ้นส่งเสียงครางด้วยความสุขสม พลังเวทมหาศาลจากวิญญาณของแมกนัสทำให้ออร่ารอบตัวนางพุ่งทะยานสูงขึ้นจนอากาศรอบข้างบิดเบี้ยว นางค่อย ๆ หันกลับมามองเอเรน ลิ้นยาวเหยียดเลียริมฝีปากที่เปื้อนเลือด
เอเรนที่เห็นภาพสยดสยองนั้น สติสัมปชัญญะขาดผึงทันที
“ไม่... ไม่เอาแล้ว...”
ชายหนุ่มหันหลังกลับทันที เขาไม่อาจทนดูต่อไปได้อีกแล้ว ไม่สนใจลีร่า ไม่สนใจเซเลเน่ สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวคือต้องออกไปจากนรกแห่งนี้!
“ยัง... หิวอยู่เลย...”
พริบตาเดียว! ร่างของนางก็หายวับไปจากสายตา และมาปรากฏตัวขวางหน้าเอเรนที่กำลังจะวิ่งหนี
เอเรนเบิกตากว้าง ขาที่กำลังก้าววิ่งหยุดชะงัก ร่างกายแข็งทื่อด้วยความสิ้นหวัง ‘จบกัน...’
ทว่านางกลับไม่ได้ลงมือสังหารในทันที ร่างระหงที่โชกไปด้วยเลือดค่อย ๆ ก้าวเข้ามาหาเอเรนอย่างเชื่องช้า นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเด็กหนุ่ม นางยกมือที่เปื้อนเลือดของแมกนัสขึ้นมาลูบไล้แก้มของเอเรนอย่างแผ่วเบา ราวกับสัมผัสคนรักเก่า
“จะรีบไปไหนกันเล่า...” น้ำเสียงของนางหวานหยดย้อย แต่แฝงไปด้วยความเย็นยะเยือกที่บาดลึกถึงกระดูก
“ในตัวเจ้าน่ะ... มีกลิ่นของข้าอยู่ไม่ใช่หรือ?”
นางขยับใบหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกชนกัน กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งจนเอเรนแทบอาเจียน แต่เขากลับขยับตัวไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้ว เหมือนกับว่าวิญญาณส่วนหนึ่งในตัวเขากำลังตอบรับการเรียกหาของนาง
“อีกครึ่งหนึ่งของข้าอยู่ในตัวเจ้า...” นางกระซิบที่ข้างหู ริมฝีปากเปียกชื้นแตะลงที่ลำคอของเอเรนเบา ๆ จนขนลุกชัน
“กลับมารวมกันเถอะ... มาเป็นหนึ่งเดียวกันกับข้า...”
มือของนางค่อย ๆ เลื่อนจากแก้มลงมาที่แผงอก ตำแหน่งหัวใจที่เต้นรัวเร็ว
“ข้าจะดูแลเจ้าเอง...เด็กน้อยของข้า… จงมาอยู่ในในท้องของข้า”
นางแสยะยิ้มกว้างจนเห็นฟันแหลมคมอีกครั้ง ก่อนจะอ้าปากกว้างเตรียมจะฝังเขี้ยวลงที่คอหอยของเอเรน เพื่อกลืนกินทั้งร่างกายและวิญญาณให้กลับไปเป็นหนึ่งเดียว!
ตู้ม!!!
เปลวเพลิงสีแดงฉานระเบิดออกอย่างรุนแรงกระแทกร่างของนางปีศาจให้กระเด็นถอยหลังไป คลื่นความร้อนมหาศาลแผดเผาไอเย็นยะเยือกในห้องโถงจนมลายสิ้น พร้อมกับปรากฏร่างของบุรุษผู้หนึ่งยืนขวางหน้าเอเรนเอาไว้ ในมือของเขาถือดาบขนาดใหญ่ที่ลุกโชนไปด้วยไฟบรรลัยกัลป์
“ใครจะยอมให้แกกินเด็กนี่กัน!”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 9
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น