บทที่ 86: เขากำลังต่อสู้เพื่อปกป้องป้อมปราการแห่งนี้
ในชั่วพริบตา เปลวเพลิงสีแดงทองก็ปะทุขึ้น
จังหวะที่เปลวเพลิงลุกโชน ไททันจอมมารทมิฬก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนในดวงตา
“อ๊ากกกกก!”
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ไททันมหันตภัยต้องยกมือขึ้นปิดตาตัวเอง
เนื่องจากดวงตาเป็น 1 ในส่วนที่เปราะบางที่สุดในร่างกายมนุษย์ ซึ่งไททันเองก็เช่นกัน
ไททันจอมมารทมิฬไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าหลินหยวนจะโจมตีเขาด้วยวิธีแบบนี้ มันจึงทำให้เขาตื่นตะลึง
ทันทีที่เขาปล่อยมือ หลี่ต้าหมานก็ร่วงลงสู่พื้น
“ต้าหมาน!”
โจวอวี้หลงที่เห็นดังนั้นก็รีบพุ่งไปรับตัวเพื่อนร่วมทีมได้ทันท่วงที
บัดนี้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มผมดำที่กำลังต่อสู้กับไททันมหันตภัย
ถึงอย่างไรชายคนนี้ก็เป็นเพียงคนเดียวท่ามกลางบรรดาผู้พิทักษ์ที่ยังคงไม่แพ้ในการต่อสู้กับไททันตัวนี้
ทางด้านหลินชิงทำตาพริ้มในขณะที่เธออดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเองว่า “เด็กนั่นแข็งแกร่งมาก…”
ในเวลาเดียวกัน สายตาของเว่ยโยว ฟางเหยียน และเย่โจวเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
เพราะพวกเขาได้สัมผัสถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวของไททันมหันตภัยมากับตัว
หลังจากที่พวกเขาเห็นว่าเด็กหนุ่มผมดำคนนี้สามารถรับมือกับศัตรูได้ถึงขนาดนี้ เขาถึงขั้นช่วยหลี่ต้าหมานออกมาจากเงื้อมมือของศัตรูได้ด้วย เพียงเท่านี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาได้แล้ว
ถึงกระนั้น แม้ทุกคนจะตกตะลึงกับพลังของหลินหยวน แต่สีหน้าของเจ้าตัวกลับเรียบเฉยไร้อารมณ์ เพราะเขารู้ดีว่าสถานการณ์ในขณะนี้ยากลำบากมากแค่ไหน
จนถึงปัจจุบันเขาต่อสู้กับไททันจอมมารทมิฬได้ไม่ถึงครึ่งนาที แต่เขาก็ต้องหยิบไพ่ตายทั้งหมดออกมาใช้ในคราวเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SS คนอื่น ๆ กลับสู้กับไททันมหันตภัยตรงหน้าไม่ได้เลยสักนิด
หลังจากการต่อสู้กินเวลาไม่ถึง 10 นาที สถานการณ์ในสนามรบก็ได้มาถึงจุดดุเดือดเสียแล้ว
ตอนนี้ฟางเหยียนกับหลี่ต้าหมานได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาไม่เหลือกำลังในการต่อสู้อีก
ส่วนเย่โจว, เว่ยโยว, หลินชิงและโจวอวี้หลงต่างก็ได้รับบาดเจ็บในระดับที่แตกต่างกันไป
ต้องบอกว่าสถานการณ์ในปัจจุบันนั้นเลวร้ายมากถึงมากที่สุด
แต่สำหรับหลินหยวน นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่สิ้นหวังที่สุด
อย่างน้อยเขาก็ยังเหลือทางออกให้ตัวเอง
พอคิดได้แบบนี้เด็กหนุ่มก็หันกลับไปมองโจวอวี้หลง เพียงแค่เขาสบตากับอีกฝ่าย เจ้าตัวก็เข้าใจได้ในทันที
พวกเขาตกลงกันว่า ถ้าประเมินสถานการณ์แล้วว่าไม่สามารถเอาชนะไททันจอมมารทมิฬได้จริง ๆ พวกเขาจะต้องล่อศัตรูให้ไปยังโกดังที่เก็บศพไททันเอาไว้
ถึงแม้โจวอวี้หลงจะไม่รู้แน่ชัดว่าหลินหยวนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขารู้เพียงว่าเด็กคนนี้จะไม่ทำให้ความพยายามของพวกเขาที่ผ่านมาสูญเปล่า
ในความมุ่งมั่นอันแรงกล้าที่จะนำไททันจอมมารทมิฬไปที่นั่น เพียงเท่านี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า… นี่เป็นวิธีเดียวที่จะเอาชนะศัตรู!
อย่างไรก็ตาม การล่อไททันมหันตภัยไปยังสถานที่ที่กำหนดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ในระหว่างที่โจวอวี้หลงกำลังครุ่นคิด จู่ ๆ หลินหยวนก็พูดขึ้นทั้งที่ยังคงจ้องตากับไททันจอมมารทมิฬ “แกไม่อยากรู้เหรอว่าใครเป็นคนฆ่ามัจจุราชหน้าหยก ปีศาจนรก แล้วก็ภูตพยัคฆ์?”
พอเด็กหนุ่มพูดจบ จอมมารทมิฬก็จ้องเขาเขม็ง “แกเป็นคนฆ่าพวกเขาสินะ?!”
“ใช่” หลินหยวนยอมรับไปตามตรง “แต่ฉันจำชื่อพวกมันได้ทุกคน ต่างจากแก ต่อให้แกทำลายป้อมปราการแห่งนี้ลงได้แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร? ถึงยังไงฉันก็ฆ่าเพื่อนแกไปหมดแล้ว แม้ว่าแกจะคว้าชัยชนะไปได้ แต่แกก็เหลือตัวคนเดียว สำหรับคนที่ทรยศเผ่าพันธุ์ตัวเอง นี่คือชะตากรรมของแก!”
หลังจากที่เด็กหนุ่มเอ่ยถ้อยคำเหล่านี้ แววตาของคนที่ได้ฟังก็วาวโรจน์ แต่ไม่นานสีหน้าของเขาก็สงบลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดเสียงเย็นว่า “นี่แกจงใจยั่วโมโหฉันเหรอ?”
หลินหยวนเหยียดยิ้มเยาะพลางยักไหล่พูดว่า “แล้วไง?”
“การที่เพื่อนของแกตายด้วยน้ำมือของฉันมันยังยั่วโมโหแกไม่ได้อีกเหรอ?”
คราวนี้บนหน้าผากของจอมมารทมิฬมีเส้นเลือดปูดขึ้น “ก็ได้… ดีมาก”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะทำให้แกสมปรารถนา! แล้วแกจะได้รู้ว่ามันจะเป็นยังไงถ้าทำให้ฉันโกรธ!” เสียงของไททันมหันตภัยประกาศก้องไปทั่วท้องฟ้า บ่งบอกว่าขณะนี้ในหัวของเขาได้คิดวิธีการที่โหดร้ายที่สุดในการจะฆ่าคนที่ยั่วโมโหตนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
จากนั้นเขาก็ไม่ชายตามองใครอีก สายตาเขาจับจ้องไปเพียงหลินหยวนคนเดียว
ไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องฆ่ามนุษย์คนนี้เพื่อล้างแค้นให้สหายให้ได้!
หลินหยวนเองก็คาดเดาปฏิกิริยาของไททันจอมมารทมิฬเอาไว้ตั้งแต่แรก เขารู้ว่าถึงอีกฝ่ายจะมองแผนการของตนออก แต่แล้วยังไงล่ะ… สุดท้ายมันก็โกรธแค้นอยู่ดี
นอกจากนี้เด็กหนุ่มก็มองเห็นว่าแม้ไททันจอมมารทมิฬจะทรยศเผ่าพันธุ์ของตัวเอง แต่เขาก็ยังรักพวกพ้องของตนเองอยู่
เพราะสิ่งที่ปรากฏชัดในจดหมายที่เขาส่งถึงมัจจุราชหน้าหยกก็คือ ถึงแผนการสุดท้ายใกล้จะสำเร็จ แต่จอมมารทมิฬก็ยังเลือกที่จะรอให้เพื่อนของตัวเองมารวมตัวกันอีกครั้ง
เขาอยากจะแบ่งปันความสุขนี้กับสหาย แบ่งปันความรุ่งโรจน์ร่วมกัน
นี่คือความเป็นมนุษย์เพียงสิ่งเดียวที่จอมมารทมิฬยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งมันก็กลายเป็นจุดอ่อนของเจ้าตัวด้วย
ดังนั้นเขาจึงถูกหลินหยวนยั่วโมโหได้ง่าย ๆ
เพราะเป็นเด็กหนุ่มที่ทำลายสิ่งที่เขารักมากที่สุด รวมถึงเพื่อนของเขาทั้งหมด
เลือดต้องล้างด้วยเลือด!
“ฉันจะฆ่าแก!” ไททันจอมมารทมิฬกัดฟันพูดในขณะที่ไอปีศาจค่อย ๆ ปกคลุมหมัดขวาของเขา แล้วเขาก็ปล่อยหมัดนั้นใส่คู่ต่อสู้
โชคดีที่หลินหยวนมองเห็นวิถีการโจมตีของหมัด เขาจึงถอยหนีหลบการโจมตีของไททันมหันตภัยได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้นเขาก็ไม่ลังเลที่จะหันหลังวิ่งหนีไป
“คิดจะหนีงั้นเรอะ?” ดวงตาของไททันจอมมารทมิฬสว่างวาบ “แสดงให้ฉันดูหน่อยว่าแกจะหนีไปได้ไกลแค่ไหน”
“กระสุนสังหารเทพ 12 นัด!” ไททันมหันตภัยกางแขนออกพร้อมกับตะโกนเสียงดังก้อง
จากนั้นกระสุนเวทมนตร์ 12 นัดที่หมุนวนอยู่รอบตัวเขาก็พุ่งเข้าใส่หลินหยวนจนได้ยินเสียงหวีดหวิว
ทันใดนั้นโจวอวี้หลงกับหลินชิงก็เคลื่อนไหว
หลินชิงปลดปล่อยพลังพิเศษออกมาจนถึงขีดสุด “กำแพงต้นไม้!”
วินาทีต่อมา ต้นไม้ยักษ์นับไม่ถ้วนก็ผุดขึ้นจากดินขวางกั้นกระสุนเวทมนตร์เอาไว้ได้ 6 นัด
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
เสียงระเบิดดังกึกก้อง และกระสุนเวทมนตร์ที่ทรงพลังก็พุ่งโจมตีต้นไม้สูงใหญ่เบื้องหน้าโดยที่มันไม่สามารถแตะตัวหลินหยวนได้แม้แต่น้อย
อีกด้านหนึ่ง โจวอวี้หลงก็พุ่งทะยานออกไปไม่ต่างจากลูกธนู โดยที่ทุกการโจมตีของเขาทำให้กระสุนเวทมนตร์แตกละเอียด
ดูเหมือนว่าดาบโลหะในมือของเขานั้นจะทำจากวัสดุพิเศษบางอย่าง ต่อให้มันจะปะทะกับพลังทำลายล้างของกระสุนเวทมนตร์ แต่มันก็ยังไม่มีรอยแตกบิ่นแม้แต่น้อย
แม้ว่าผู้พิทักษ์ทั้ง 2 จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไททันจอมมารทมิฬ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังพอมีความสามารถในการหยุดยั้งการโจมตีของอีกฝ่ายให้หลินหยวนได้
ทันใดนั้นโจวอวี้หลงก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังทิศทางของเด็กหนุ่มและตะโกนออกไปว่า “วิ่งต่อไป! อย่าหันหลังกลับ!”
ทว่าทันทีที่เขาพูดจบ ฝ่ามือมหึมาของไททันก็ทอดเงาคลุมท้องฟ้ากระแทกเข้าใส่ตัวเขา
ปัง!
เพียงแค่ฝ่ามือเดียวก็กระแทกโจวอวี้หลงแนบลงกับพื้น
แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาพยายามซื้อเวลาให้หลินหยวนต่อไป
ทางด้านหลินชิงเองก็กัดฟันใช้สกิลเถาวัลย์พันธะชั่วนิรันดร์
ถัดมาเถาวัลย์ก็ค่อย ๆ งอกออกมารัดร่างไททันจอมมารทมิฬคอยรั้งอีกฝ่ายไว้อย่างรวดเร็ว
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ เธอถึงกับยอมรีดเค้นพลังพิเศษของตัวเองออกมาใช้จนหมดสิ้น
ในระหว่างที่เธอส่งพลังให้กับเถาวัลย์ เธอก็กระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้แม้ใบหน้าสวยจะซีดเผือดจนทำให้เลือดที่ไหลออกมาจากปากดูโดดเด่น แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้
ท่ามกลางสนามรบที่วุ่นวายนี้ ทุกคนกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้หลินหยวนทำตามแผนการของเขาให้สำเร็จ
“ไปให้พ้น!” จอมมารทมิฬรู้สึกโมโหมาก ในขณะเดียวกันลวดลายอักขระบนร่างของเขาก็เปล่งแสงสีดำ
ในสายตาของไททันตัวนี้ มนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าเป็นเพียงมดตัวเล็ก ๆ ที่จะบดขยี้อย่างไรก็ได้ แต่แท้จริงแล้วมดพวกนี้คิดอยากจะฉุดรั้งเขาไว้ให้นานที่สุดต่างหาก!!
ถ้าไม่ใช่เพราะมนุษย์หน้าโง่พวกนี้ เขาคงฆ่าเจ้าเด็กนั่นได้นานแล้ว หรือแม้แต่จะทำลายป้อมปราการแห่งนี้จนสิ้นซาก
พอคิดถึงเรื่องดังกล่าวจอมมารทมิฬก็ถึงขั้นหมดความอดทน
หลังจากจัดการมนุษย์ที่เข้ามาขวางทางให้กระเด็นออกไป เขาก็พุ่งทะยานไล่ตามหลินหยวนที่กำลังหลบหนีไปยังทิศทางหนึ่งอย่างบ้าคลั่ง
ด้วยความใหญ่โตมโหฬารของจอมมารทมิฬ เพียงก้าวเดียวเขาก็สามารถไปได้หลายร้อยเมตร
…
ขณะนี้เว่ยโยวดึงโจวอวี้หลงขึ้นมาจากหลุมลึก
หลังจากที่ชายสวมชุดเกราะหายตกใจ สิ่งแรกที่เขาทำก็คือถามว่า “เด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน? เขายังไม่ถูกไททันมหันตภัยจับตัวไปใช่ไหม?”
เว่ยโยวที่ได้ยินคำถามนั้นก็ตอบกลับด้วยเสียงที่เบาลงว่า “เขาน่าจะไปถึงโกดังได้อย่างปลอดภัยแล้ว”
หลังจากได้ยินข่าวนี้โจวอวี้หลงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเขาก็ถามเพื่อนร่วมทีมอีกครั้งว่า “แล้วพลเมืองล่ะ พวกเขาอยู่ระหว่างอพยพกันหมดแล้วใช่ไหม?”
เว่ยโยวพยักหน้าตอบว่า “พวกเราเริ่มแผนการอพยพทันทีที่ไททันมหันตภัยโผล่มา ตอนนี้พวกเขาน่าจะอพยพออกไปจนเกือบหมดแล้ว”
“ดี ดีมาก อย่างน้อย… เราก็ยังลดจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายลงได้มาก” โจวอวี้หลงยิ้มอย่างอ่อนแรงขณะพูดว่า “ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าไททันมหันตภัยจะน่ากลัวได้ถึงขนาดนี้ ถึงแม้ว่าพวกเราจะตามหลังมันแค่ระดับเดียว แต่พลังกลับต่างกันลิบลับ ตอนนี้… เราคงต้องพึ่งเจ้าเด็กคนนั้นแล้ว”


แสดงความคิดเห็น