บทที่ 6: พลังที่แท้จริงของอันเดด

เพียงชั่วพริบตา ไททันที่เคยต่อสู้กับหลินหยวนก่อนหน้านี้ก็ได้กลายเป็นทาสของเขาทั้งหมด

หลังจากที่เด็กหนุ่มใช้พลังอันเดด 5 ครั้งติดต่อกัน เขาก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย

เห็นได้ชัดว่าการใช้พลังพิเศษนี้จะต้องใช้พลังจิตที่มหาศาลเช่นกัน

หลินหยวนยกมือขึ้นนวดขมับเบา ๆ ก่อนจะหยิบคริสตัลฟื้นฟูพลังจิตออกมาจากช่องเก็บของในระบบโดยตรง จากนั้นเขาก็ทำการกระชับมือที่ถือคริสตัลแน่นจนมันแตก

วินาทีต่อมา พลังงานที่บริสุทธิ์และแข็งแกร่งก็ไหลเข้าไปในจุดตันเถียน* ทำให้พลังจิตของเขาฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว

*จุดตันเถียน คือ จุดศูนย์กลางของพลังงานภายในร่างกาย

คริสตัลพิเศษนี้หลินหยวนก็ได้มาจากการลงชื่อเข้าใช้ระบบ [หนทางรอด] เช่นกัน นอกจากมันจะช่วยฟื้นฟูพลังจิตได้อย่างรวดเร็วแล้ว มันยังไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ อีกด้วย

ในตอนนั้นเอง เด็กหนุ่มก็ได้ยินเสียงคำรามของเหล่าไททันอีกครั้ง

เขาจึงหันไปมองทางต้นเสียงและพบว่ามีกลุ่มไททันกลุ่มหนึ่งถูกเสียงการต่อสู้ครั้งก่อนดึงดูดให้เข้ามา

ยิ่งไปกว่านั้น ในกลุ่มไททันพวกนี้ยังมีไททันที่ตัวสูงถึง 15 เมตรอยู่ด้วย!

ไททันที่อยู่เบื้องหน้าเขานั้นมีขนาดเท่ากับตึก 5 ชั้น เขาเห็นมัดกล้ามเนื้ออยู่ทั่วร่างกายของมัน ในขณะที่มันแผ่รังสีกดดันออกมาเต็มที่

พออยู่ต่อหน้าไททันสูงใหญ่ตัวนี้ ไททันทั่วไปก็ไม่ต่างจากเด็กไม่กี่ขวบ

ส่วนมนุษย์นั้นก็ยิ่งตัวเล็กเสมือนกับมด

เมื่อเผชิญกับความแตกต่างที่มากขนาดนี้ เป็นใครก็คงต้องรู้สึกใจสั่นกันบ้าง หากจะกล่าวกันตามตรง นี่เป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของสัตว์ยามที่พบเจออันตราย

กฎแห่งป่า ฝ่ายที่แข็งแกร่งย่อมอยู่เหนือกว่าผู้อื่น นี่เป็นหนทางสู่การเอาชีวิตรอด

อย่างไรก็ตาม หลินหยวนไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน แต่เป็นมนุษย์!

เหตุผลที่มนุษย์มีวิวัฒนาการก้าวหน้าก็คือ… พฤติกรรมที่เอาชนะสัญชาตญาณ

“คนอ่อนแอมักจะรังแกคนที่อ่อนแอกว่า ส่วนคนที่แข็งแกร่งจะเลือกต่อสู้กับคนที่แข็งแกร่งกว่า!”

หลินหยวนกำราบปราบมังกรแน่น ทันใดนั้นสายฟ้าก็แล่นออกมาจากดาบ

วินาทีต่อมา เขาถือดาบที่ล้อมรอบด้วยประกายสายฟ้าพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้

ยามที่มนุษย์เผชิญหน้ากับไททัน มนุษย์นั้นไม่ต่างจากมดตัวเล็ก ๆ แต่หากสังเกตให้ดี ๆ จะเห็นว่าไททันตัวนี้กลับแสดงร่องรอยแห่งความหวาดกลัวมนุษย์ตัวจ้อยตรงหน้า ในขณะนี้ไททันอันเดดหลายตัวได้วิ่งไปที่ด้านข้าง พวกมันกอดแขนของไททันยักษ์เอาไว้แน่น ทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก

แม้ว่าไททันอันเดดพวกนี้จะไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่มันก็พอจะซื้อเวลาให้กับหลินหยวนได้ชั่วขณะ

เนื่องจากสติปัญญาของไททันยักษ์ตัวนี้ คงเป็นการยากที่มันจะเข้าใจว่าทำไมไททันตัวอื่น ๆ ถึงโจมตีมัน

และเด็กหนุ่มก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้มันทำความเข้าใจเช่นกัน

“ตายซะ!”

หลินหยวนกระโดดขึ้นสูงพร้อมกับเงื้อดาบปราบมังกรที่ล้อมรอบไปด้วยสายฟ้า จากนั้นก็ใช้ดาบทะลวงเข้าไปในหัวใจของไททันยักษ์

สวบ!

เขาอาศัยการโจมตีเพียงครั้งเดียวก็สามารถกำจัดไททันยักษ์ตัวนี้ได้แล้ว

บัดนี้ใบหน้าของเด็กหนุ่มไปด้วยเลือดเหม็นคาวที่กระเซ็นออกมาจากตัวฝ่ายตรงข้าม

ภายใต้เงาสะท้อนของแสงจันทร์ ภาพนั้นหลินหยวนดูไม่ต่างจากปีศาจเลยสักนิด

ตัวเขานั้นไม่เคยแคร์เรื่องนี้เลย ถ้าเขาเปลี่ยนเป็นปีศาจแต่ว่าสามารถขับไล่ไททันทั้งหมดออกไปได้ มันก็ไม่มีอะไรเสียหายสำหรับเขา

หลังจากเด็กหนุ่มจัดการกับไททันยักษ์ตัวนั้นสำเร็จแล้ว ไททันตัวอื่น ๆ ก็วิ่งมาหาเขาทีละตัว

ด้วยสติปัญญาที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินของไททัน พวกมันจึงไม่ได้มีความคิดที่จะแก้แค้นแทนเพื่อนฝูง

สิ่งเดียวที่ดึงดูดให้พวกมันพุ่งเข้าโจมตีจริง ๆ แล้วก็คือเลือดและเนื้ออันโอชะของหลินหยวน

ในยามที่เด็กหนุ่มเผชิญหน้ากับไททันเหล่านี้ เขาไม่ต่างจากมัจจุราชที่เนื้อตัวเปื้อนเลือดคอยเก็บเกี่ยวชีวิตพวกมันแบบไม่เลือกหน้า

ตาย ตาย ตายไปให้หมด!!

ในขณะนี้อากาศโดยรอบเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่น่าขยะแขยง

แต่กลิ่นพวกนี้ไม่ได้ทำให้หลินหยวนลังเลเลย เขาเปิดฉากการสังหารไททันที่บ้าคลั่งด้วยสีหน้าเรียบนิ่งที่สุด

เพราะในใจของเขารู้ดีว่าไม่มีเวลาเหลือให้ตนเองได้เตรียมรับมือแล้ว

สงครามในแนวหน้าคงจะโหดร้ายยิ่งกว่าการต่อสู้ในปัจจุบันของเขาเป็นพันเท่า

ในเมื่อไม่มีทางให้ถอยแล้ว เขาจึงทำได้เพียงแค่สู้ต่อไปเท่านั้น!

ต้องสู้ ต้องสู้ถึงจะชนะ!!

…

5 ชั่วโมงต่อมา

หลินหยวนที่เนื้อตัวเปื้อนเลือดเดินเข้าไปในดงไททันโดยยังคงกำดาบปราบมังกรแน่น

ระหว่างนั้นเด็กหนุ่มยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู

[ภารกิจนักล่าไททัน ความคืบหน้าภารกิจ: 125/1000]

หากคนของสมาคมนักล่าเห็นตัวเลขบนนาฬิกาของหลินหยวน พวกเขาคงจะประหลาดใจจนพูดไม่ออก

นักล่าหนุ่มคนนี้กำจัดไททันได้ถึง 125 ตัวภายในเวลาเพียง 5 ชั่วโมง! กล่าวคือ หลินหยวนฆ่าไททันโดยเฉลี่ย 25 ตัวต่อ 1 ชั่วโมง และนี่ยังรวมถึงเวลาในการค้นหาไททันอีกด้วย

สถิติที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ทำให้นักล่าบางคนต้องตกตะลึงพรึงเพริดไปแน่

แต่นี่ไม่ใช่ความดีความชอบของหลินหยวนเพียงคนเดียว เขาค่อย ๆ หันไปมองข้างหลัง

ที่ด้านหลังของเขานั้นมีกองทัพอันเดดอยู่!

ภาพเบื้องหลังของเด็กหนุ่มนั้นมีไททันอันเดดหลายสิบตัวยืนเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ ไททันทั้งหมดนี้ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาหลังจากที่ถูกเขาสังหาร

แต่เนื่องจากการสูญเสียไททันบางส่วนไประหว่างการต่อสู้ จำนวนอันเดดจึงมีไม่ถึง 100 ตัว

ถึงกระนั้น เพียงแค่มีอันเดดพวกนี้ ตราบใดที่จำนวนไททันที่หลินหยวนต้องต่อสู้ด้วยมีน้อยกว่า 10 ตัว เขาก็จะเอาชนะพวกมันได้ในอึดใจเดียว

ด้วยเหตุนี้เอง ประสิทธิภาพในการตามล่าสังหารไททันของเขาจึงมีสูงมาก

แต่ว่าจะยกความดีความชอบนี้ให้กับหลินหยวนเพียงคนเดียวก็ไม่ได้ เพราะทั้งหมดนี้มันเป็นผลพวงมาจากระบบ [หนทางรอด]

หากไม่มีระบบ [หนทางรอด] เขาก็จะไม่มีวันได้รับพลังอันเดด นี่ยังไม่นับรวมถึงคริสตัลฟื้นฟูพลังจิตที่มีให้ใช้อย่างไม่จำกัด

ถ้าความคืบหน้ายังอยู่ในระดับนี้ เด็กหนุ่มจะสามารถทำภารกิจล่าสังหารไททันให้สำเร็จได้ภายใน 1 สัปดาห์

เหตุผลที่เขาเลือกรับภารกิจนี้ไม่ใช่เพราะอยากได้รางวัลของภารกิจ แต่เป็นเพราะเขาอยากอัปเกรดแรงก์นักล่าให้เร็วที่สุด

หากเขารับภารกิจที่มีความยากระดับธรรมดา เขาอาจจะต้องทำภารกิจระดับ E อีกหลายภารกิจให้เสร็จถึงจะได้เลื่อนขั้น

แต่ตอนนี้ขอเพียงเขาทำภารกิจนี้สำเร็จ แรงก์นักล่าของเขาก็จะอัปเกรดจากแรงก์ E เป็นแรงก์ D ทันที

เพียงเท่านี้เขาก็จะสามารถรับภารกิจที่ยากขึ้นได้เร็วขึ้นด้วย

ขณะที่หลินหยวนกำลังครุ่นคิด เขาก็ได้ยินเสียงแผ่นดินไหวดังขึ้นซึ่งปลุกเขาจากภวังค์

…

“บ้าเอ๊ย! ไอ้บ้าเอ๊ย!!”

ชายวัยกลางคนที่เนื้อตัวเปื้อนฝุ่นกำลังแบกชายหนุ่มที่ร่างกายโชกเลือดวิ่งหนีอย่างสิ้นหวัง

ข้างกายเขามีหญิงสาวร่างสูงคนหนึ่งที่สวมถุงน่องสีดำช่วยเน้นเรือนร่างของเธอให้ดูชวนมอง ในขณะที่เศษฝุ่นและโคลนบนใบหน้าแทบจะปกปิดหน้าตาที่งดงามเอาไว้ไม่ได้

ขณะนี้เธอเองก็หันไปมองด้านหลังพร้อมกับที่สีหน้าเริ่มซีดลงจนแทบไร้สีเลือด

“ทำไม…”

หญิงสาวกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง “ทำไมถึงมีไททันปราการเหล็กระดับ 4 อยู่ที่นี่!”

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงวัตถุบางอย่างแหวกอากาศมาทางพวกเขา ไม่นานพวกเขาก็เห็นก้อนหินขนาดใหญ่กำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า

“หลิงหาน ระวัง!!”

จังหวะที่ก้อนหินกำลังจะกระแทกลงกับพื้น ชายวัยกลางคนก็ตัดสินใจทิ้งชายหนุ่มบนหลังลง ก่อนจะกระโดดพุ่งตัวไปผลัก ‘หลิวหลิงหาน’ ออกไป

ตูม!

“อ๊ากกกก!!!”

เสี้ยววินาทีนั้น ชายวัยกลางคนส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน

เนื่องจากก้อนหินตกลงมากระแทกใส่เขาด้วยความเร็วสูง จึงทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่บนพื้นขณะที่มันทับขาของเขาจนแหลกเป็นชิ้น ๆ!

ความเจ็บปวดแสนสาหัสแล่นริ้วมาจากท่อนล่างที่ชุ่มไปด้วยเลือดจนทำให้เขาแทบเป็นลมหมดสติไป

“หลิงหาน ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน เธอพาเฉิงเผิงหนีไปก่อนเร็ว!!”

“ไม่ ไม่…”

บัดนี้น้ำตาได้ไหลพรากลงมาอาบแก้มของหลิวหลิงหานราวกับเขื่อนแตก

เธอไม่เคยคิดเลยว่าทุกอย่างจะกลายเป็นแบบนี้

พวกเธอทั้ง 3 คนล้วนเป็นสมาชิกของสมาคมนักล่า และพวกเธอก็ได้จัดตั้งทีมเพื่อออกล่าร่วมกัน

แม้ว่าทีมของพวกเธอจะมีคนไม่มาก แต่ทั้ง 3 ก็ล้วนเป็นผู้มีพลังพิเศษแรงก์ D ประกอบกับทุกคนเข้ากันได้ดีมาก ในการล่าไททันที่อยู่บริเวณชานเมือง พวกเธอจึงทำได้ดีทีเดียว

ในวันนี้ก็เป็นเหมือนวันอื่น ๆ ตอนแรกพวกเขาคิดว่าจะล่าไททันตามปกติ จากนั้นค่อยกลับไปที่สมาคมนักล่าเพื่อส่งมอบภารกิจแลกรับรางวัล

แต่ใครจะไปคาดคิดว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้าย! ในระหว่างที่ทั้ง 3 คนล่าไททัน พวกเขาดันไปทำตัวเตะตาไททันปราการเหล็กเข้าอย่างจัง

ทุกคนรู้ดีว่าไททันระดับ 4 เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวมากขนาดไหน คงมีเพียงผู้มีพลังพิเศษแรงก์ B ขึ้นไปเท่านั้นจึงจะสู้กับพวกมันได้

พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมไททันระดับนี้ถึงมาอยู่ใกล้กำแพงเมือง

สำหรับพวกเขาทั้ง 3 แล้ว ขอเพียงพวกเขาสามารถหนีกลับเข้าไปในกำแพงเมืองหนานเจียงได้สำเร็จ พวกเขาก็จะมีชีวิตรอดอย่างแน่นอน

ต่อให้ไททันระดับ 4 จะกล้าบุกเข้ามาใกล้กำแพงเมือง มันก็จะถูกทหารรักษาเมืองสังหาร

ถึงกระนั้น ระยะทางสั้น ๆ หลายพันเมตรนี้กลับไกลยิ่งนัก มันเหมือนกับหนทางที่ไร้จุดสิ้นสุด

คนในทีมของหญิงสาว ‘เฉิงเผิง’ จึงได้ต้านทานการโจมตีของไททันปราการเหล็กจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอไม่รู้ว่ากระดูกทั่วร่างกายของเขาหักไปแล้วกี่ท่อน ตอนนี้เขาอยู่ในอาการหมดสติ

แล้วขณะนี้หัวหน้าทีมของพวกเธอก็ถูกไททันปราการเหล็กขว้างก้อนหินใส่จนสูญเสียขาไป เขาจึงทำได้เพียงแค่นั่งรอความตายอยู่ตรงนั้น

 

*******************************************

SkySaffron: ประโยคท้ายตอนถ้าใครอ่านเป็นทำนองเพลงนี่รู้เลยนะว่า… 555555