บทที่ 6...2/3

อ่านต่อ
-A A +A

บทที่ 6...2/3

          รามินกลับมาที่บ้านลัลนาเกือบ 5 ทุ่ม ชายหนุ่มเห็นไฟห้องหนึ่งที่ปิดอยู่ได้เปิดสว่าง เขาเดาว่าลัลนาคงนอนในห้องนั้น ชายหนุ่มลงจากรถมาพร้อมกับอิซาและบอดี้การ์ดอีกคน ลัลนาลงมาชั้นล่างพอดีกับที่รามินเข้ามา ส่วนกระเป๋าเดินทางเขาวางไว้ที่บ้านของเธอตั้งแต่แรกแล้ว เธอเองนั่นแหละที่ไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่ดีใจที่ได้กลับบ้าน ตอนนี้บ้านของเธอเลยไม่ต่างจากโรงแรมให้รามินและเหล่าบอดี้การ์ดมาพัก

          ลัลนาเดินนำทางขึ้นบันไดมาเพื่อพารามินไปยังห้องที่เขาจะได้พักในคืนนี้ ซึ่งก็คือห้องของเธอเอง ส่วนเธอไปนอนห้องแม่ซึ่งพอดูดฝุ่นเปลี่ยนผ้าปูที่นอนกับผ้าห่มก็นอนได้เลยเพราะเธอเก็บรักษาทุกอย่างในห้องแม่เอาไว้คงเดิม ตอนนั้นคิดว่าเวลาที่คิดถึงจะได้ไปนอนในห้องแม่ ไม่คิดฝันว่าสุดท้ายกว่าจะได้กลับมานอนห้องแม่ก็ผ่านไปเกือบเดือน แต่ความคิดถึงไม่เคยหายไปไหนเลย หญิงสาวเปิดประตูห้องของตัวเองให้รามิน อิซาจึงขนกระเป๋าเดินทางใบเดียวเข้าไปวางด้านในห้อง แล้วลงไปข้างล่างทันที

          “คุณนอนห้องนี้ได้ไหม คืนนี้ฉันไปนอนห้องแม่เอง”

          รามินมองห้องที่แต่งด้วยสีขาวเป็นส่วนใหญ่ ดูสะอาดตาและเรียบร้อยดี มีกลิ่นหอมจางๆ น่าจะมาจากดอกไม้ในแจกัน ดอกอะไรกันนะกลีบสีขาวและมีหลายกลีบ ทั้งบานแล้วและกำลังบาน หอมชื่นใจกว่ากลิ่นห้องในโรงแรมเสียอีก มีรูปของลัลนาที่หัวเตียงจึงเดาได้ไม่ยากว่านี่เป็นห้องนอนของเธอนั่นเอง ส่วนห้องที่เปิดไฟสว่างตอนเขากลับมาคือห้องของแม่ลัลนา เธอคงคิดถึงแม่กระมัง

          “คุณแน่ใจนะว่าจะให้ผมนอนห้องของคุณ” รามินถามเพื่อความแน่ใจ จะว่าไปแล้วห้องนอนคือพื้นที่ส่วนตัวของผู้หญิงที่ไม่ค่อยให้คนอื่นเข้ามานัก

          “ตอนนี้ไม่แน่ใจก็ต้องแน่ใจแล้วล่ะค่ะ ส่วนบอดี้การ์ด...”

          “ผมรบกวนใช้ห้องรับแขกด้านล่างในบ้านคุณจะได้ไหม” รามินจงใจพูดแทรกขึ้นมาเพราะทุกคนที่มากับเขาย่อมเป็นความรับผิดชอบของเขา “ผมจะจ่าย...”

          ลัลนารีบยกมือห้าม เธอรู้ว่ารามินรวยมาก คืนนี้เขาจะเหมาทั้งชั้นของโรงแรมก็ย่อมได้ แต่ที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อให้เธอได้อยู่บ้านและลดภาระงานของบอดี้การ์ด แม้เขาจะทำเหมือนสนใจเพียงสิ่งที่ต้องทำ แต่เนื้อแท้แล้วเขามีน้ำใจ เพียงแต่ไม่พูดออกมา

“ไม่ต้องมาจ่ายเงินให้ฉันหรอกค่ะ ถ้าคุณจะพูดแบบนั้น ฉันไปอยู่ฟรีบ้านคุณตั้งเกือบเดือน คุณยังไม่คิดเงินฉันเลย”

          รามินรู้สึกเหมือนมีบางอย่างละมุนอยู่ในใจ สายตาของลัลนาที่มองเขาคืออะไร เธอซึ้งใจกับสิ่งที่เขาทำให้งั้นหรือ ไม่น่าใช่กระมัง

“ผมนึกว่าคุณจะไล่ ไม่ยอมให้อยู่ด้วยเสียอีก”

          “ฉันรู้ไงคะว่าถึงไล่ คุณก็ไม่ไปหรอก” อย่าได้เถียงเชียวว่าไม่จริง คราวก่อนก็แบบนี้ เธอไล่ เขายอมไปเสียที่ไหน

          “ผมคืนให้ ให้ช่างคนไทยทำให้กลับมาเหมือนเดิมทุกอย่าง”

          ลัลนาเปิดกล่องกำมะหยี่สีขาวแล้วยิ้มกว้างเพราะมันคือสร้อยข้อมือตุ้งติ้งของเธอนั่นเอง ที่รามินกลับช้านอกจากไปทำธุระเรื่องงานแล้ว เขายังไปจัดการเรื่องซ่อมสร้อยข้อมือให้เธอด้วยกระมัง ทั้งที่ปลงใจไม่คิดว่าจะได้คืนแล้ว แต่รามินก็คืนให้และยังทำให้เหมือนใหม่ อีกทั้งยังให้ช่างซ่อมแซมสลักที่ตุ้งติ้งแต่ละอันแน่นหนาด้วย

          “ขอบคุณมากนะคะ สร้อยข้อมืออันนี้แม่ให้ฉันตอนวันเกิดอายุครบ  25 ปี ฉันใส่มาตลอดไม่เคยถอดออกเลยจนกระทั่งวันนั้น”

          รามินพยักหน้ารู้ดีว่าวันนั้นที่ลัลนาเอ่ยถึงนั้นหมายถึงวันไหน ลัลนายิ้มกว้างให้รามินด้วยความรู้สึกดีๆ จากใจ การมีใครสักคนรักษาและดูแลของสำคัญที่เธอรักเป็นอย่างดี ช่างรู้สึกดีเหลือเกิน

รามินมองรอยยิ้มของหญิงสาวแล้วพลอยยิ้มตาม ไม่คิดว่าเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำให้จะทำให้เธอมีความสุขขนาดนี้

          “ฉันกลับห้องแล้วนะคะ”

ลัลนาบอกไปแล้วกลับนึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงเดินไปหยิบอัลบั้มรูปของตัวเองทั้งหมด เธอไม่ยอมให้เขาเห็นรูปเธอในวัยเด็กเด็ดขาด รามินมองความลับเล็กๆ น้อยๆ ของลัลนาแล้วได้กอดอกมองแล้วเผลอยิ้มบางออกมา แต่ลัลนาคงมองไม่ออกว่านี่เรียกว่ายิ้มสำหรับรามินแล้ว หญิงสาวกอดอัลบั้มรูปไว้แนบอก ก่อนยิ้มให้รามินอย่างเขินๆ ที่มีของต้องห้ามไม่อยากให้เขาเห็น ก่อนจะเดินไปที่ห้องนอนฝั่งตรงข้ามซึ่งประตูเยื้องกันห่างไปไม่กี่ก้าว แล้วปิดประตูอย่างรวดเร็ว ไม่อ้อยอิ่งชวนให้ติดตามอย่างที่รามินเคยพบประสบมา

ลัลนาไม่เหมือนผู้หญิงคนไหนในชีวิตที่รามินเคยพบมาก่อน เธอทำให้สบายใจได้ในเวลาหนึ่ง และอาจทำให้โมโหจนเกือบเก็บอารมณ์ไม่อยู่ในเวลาหนึ่งได้เช่นกัน

 

          รามินออกไปแต่เช้า ก่อนที่ลัลนาจะเปิดประตูห้องของแม่ออกมาด้วยซ้ำ บอดี้การ์ดหนึ่งในสองสาวบอกเธอว่ารามินมีงานที่ระยอง ซึ่งตระกูลไอมาลมีหุ้นส่วน แต่บอกว่าจะรีบไปรีบกลับ แล้วบอกให้ลัลนาเตรียมตัวให้พร้อมเพราะคืนนี้เขาจะพาเธอเดินทางกลับดูไบแล้ว ลัลนาจึงทานอาหารเช้าที่รามินสั่งให้คนของเขาซื้อมา แล้วโทรนัดแอนนากับมาริศที่ร้านประจำของเราสามคนในตอนเที่ยง ระหว่างรอไปตามนัดลัลนาก็ทำงานส่งกลับไปให้นาวินจนเสร็จเรียบร้อย นับว่าการเดินทางกลับมาประเทศไทยของเธอในคราวนี้ไม่ทำให้เสียงาน อีกทั้งยังได้นัดเจอเพื่อน ได้นอนห้องแม่ให้หายคิดถึงบ้าง แม้จะแค่คืนเดียวก็ตาม

          สองบอดี้การ์ดสาวแบ่งหน้าที่กัน คนหนึ่งขับรถ อีกคนคอยดูแลความปลอดภัย ลัลนามองไปข้างหลังตามที่บอดี้การ์ดกำลังมอง เธอไม่เห็นถึงความผิดปกติอะไร ซึ่งดีแล้ว

“ขอบคุณนะคะที่มาด้วยกัน” ลัลนาบอกสองบอดี้การ์ดสาวที่ตอนนี้เหมือนเพื่อนเธอไปแล้ว

รอยยิ้มคือความยินดีที่ได้รับคำขอบคุณ รถเคลื่อนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสีหน้าของบอดี้การ์ดเปลี่ยนไปแล้วหันมาบอกลัลนาที่กำลังสบายใจเพราะอีกไม่กี่นาทีจะเจอแอนนากับมาริศแล้ว สองคนนี้เดินทางกลับถึงประเทศไทยพอดี 

          “มีคนขับรถตามเรามาค่ะ คุณลัลนา”

“โอ๊ะ!” บอดี้การ์ดอีกคนอุทานเมื่อรู้สึกได้ว่าล้อรถหนืดแปลกๆ แต่พอมองที่กระจกข้างก็ได้คำตอบ

          “เกิดอะไรขึ้นคะ” ลัลนาถามรู้สึกว่าสิ่งนั้นกำลังจะเกิดขึ้นกับเธออีกแล้ว

...ความกลัว

          “ยางรถระเบิดค่ะ” บอดี้การ์ดตอบเสียงเรียบนิ่งพยายามประคองรถให้แล่นต่อไป สีหน้าไม่มีความหวาดกลัว

บอดี้การ์ดอีกคนโทรหาอิซาด้วยน้ำเสียงเข้ม ไม่มีความตระหนก ลัลนาถูกสั่งให้ก้มลงแนบแก้มกับเบาะรถ หญิงสาวชัดเจนแล้วว่าอันตรายพร้อมพุ่งเข้าหาเธอเสมอ รามินคือเกราะป้องกันให้ได้ แต่ตอนนี้เธอจะรอดพ้นไปได้อีกครั้งหรือเปล่า รถค่อยๆ ลดความเร็วเรื่อยๆ เพราะยางถูกบดกับถนน ลัลนาเกิดคำถามที่เพิ่งสงสัยว่าคนที่ตามมาเฝ้ารออยู่ก่อนแล้วหรือว่ามันแอบดักฟังทางโทรศัพท์ ถ้าเป็นอย่างหลังเธอคงต้องเปลี่ยนโทรศัพท์ ตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวทำให้เธอระแวงไปหมดแล้ว

แล้วราวกับรถถูกเบียดให้ไปในเส้นทางที่ค่อนข้างเปลี่ยว แต่เพราะถูกขนาบข้างทำให้บอดี้การ์ดจำต้องเลี้ยวรถไปตามเส้นทางนั้น จนกระทั่งพบว่ามันเป็นทางตัน!

ลัลนารู้สึกเหมือนติดกับเพราะไปข้างหน้าต่อก็ไม่ได้ จะถอยหลังก็มีรถปิดทางออกไว้ บอดี้การ์ดทั้งสองคนดูเชิงอีกฝ่าย จนกระทั่งพวกมันลงมาจากรถทั้งหมด 7 คน แล้วมาล้อมกรอบรถที่มี 3 ชีวิตไว้

          “คุณลัลนาห้ามลงจากรถเด็ดขาด ฉันจะยิงคุ้มกันจนกว่าคนของคุณรามินจะมาสมทบ” บอดี้การ์ดพูดเสียงนิ่งมากพลางส่องปืนพร้อมไว้อย่างไรเสียกระจกรถคันนี้ก็กันกระสุน

          “จะทันหรือคะ” รามินไประยองกับบอดี้การ์ดไม่ใช่หรือ

          บอดี้การ์ดสาวคนที่โทรหารามินประเมินสถาการณ์แล้วตอบตามความเป็นจริง

“ไม่น่าทันค่ะ แต่ก็ต้องสู้ไว้ก่อน”

บอดี้การ์ดหยิบเสื้อกันกระสุนออกจากใต้เบาะรถแล้วแจกให้ทุกคน รวมทั้งลัลนาด้วย “ใส่ไว้นะคะ ถ้าเราสองคนคุ้มกันคุณลัลนาต่อไม่ได้แล้ว จำไว้ว่าอย่าหยุดวิ่ง อย่าถูกจับได้”

ลัลนารีบใส่เสื้อกันกระสุน ความกลัวช่วยอะไรไม่ได้ เธอต้องไม่เป็นตัวถ่วงให้สองบอดี้การ์ดเด็ดขาด

ปัง...ปัง...ปังงงงงง

 

รอบนี้ของจริงแล้วยัยลัลเอ้ย รามินจะมาทันไหมก่อน นางเอกของโบว์ต้องอึด ถึง ทน รอบนี้ก็ต้องอึด สู้นะเว้ยลัล...ตบไหล่เบาๆ 555

ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ ใครอยากอ่านนิยายเรื่องอื่นๆ ของโบว์ มีใน meb นะคะ ไปอ่านระหว่างรอเรื่องนี้ได้ค่ะ

อัมราน l บรรพตี - อีบุ๊กหนังสือ นิยาย การ์ตูน  (คลิก)

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.