บทที่ 6...1/3
ลัลนาได้มาถึงประเทศไทยอย่างที่ต้องการในตอนบ่ายมากแล้ว เพื่อนบ้านหลายคนพากันมาถามไถ่ว่าเธอหายไปไหนมาเกือบเดือน หญิงสาวบอกเพียงว่ามีงานทำที่ต่างประเทศทำให้ต้องเดินทางไปอยู่ที่อื่น ช่วงนี้ได้กลับบ้านเพราะเจ้านายกลับมาทำธุระ เธอคิดว่าไม่ได้โกหกอะไรเพราะรามินกลับมาทำธุระจริงๆ เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าเรื่องอะไร หลังจากออกจากสนามบินมาเรียบร้อยแล้ว เขาให้รถคันหนึ่งพร้อมบอดี้การ์ดมาส่งเธอ ส่วนเขากับอิซากลับไปอีกทางด้วยรถอีกคัน เธอเองก็ไม่ได้ถามว่าเขาจะทำอะไรหรือไปไหน เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาถึงจะไปถามเรื่องพวกนี้กับเขาได้
รถที่คนของรามินจัดหามาเพราะเอ็มวาย กรุ๊ปมีสาขาธุรกิจในไทยแบบหุ้นส่วนจอดอยู่หน้าสำนักงานทนายความ ธเนศเป็นทนายความประจำตัวของนภาซึ่งรู้จักกับราเมสมานานนับสิบปี ฉะนั้นรามินคิดว่าหากเขาต้องการรู้ที่มาของลัลนา ทนายความท่านนี้จะช่วยเขาได้ดีที่สุด อีกทั้งผลตรวจ DNA ที่เขาขอให้ทนายท่านนี้จัดการให้ก็เรียบร้อยทุกอย่างแล้ว เหลือเพียงแค่เขาเปิดอ่านเอกสารทั้งหมดเท่านั้น เหตุผลที่เขาไม่ทำเรื่องนี้ที่ดูไบเพราะอยากให้เป็นความลับ ฉะนั้นทนายท่านนี้คือคำตอบที่ช่วยเขาได้
“เอกสารทุกอย่างที่คุณรามินต้องการครับ หวังว่าจะช่วยคลายความสงสัยทุกอย่างได้” ทนายธเนศบอกพร้อมกับส่งเอกสารที่รามินต้องการ
รามินอ่านเอกสารทางการแพทย์และรายงานของนักสืบที่เขาต้องการความแน่ชัดในความสัมพันธ์ของพี่ชายกับแม่ของลัลนาว่าเป็นอย่างไรกันแน่ เขาเชื่อหลักฐานมากกว่าคำพูดเสมอ
“ผมรู้ว่าคุณคงฝืนใจที่ต้องทำเรื่องพวกนี้ ถ้าพี่ราเมสยังอยู่คงโกรธผมมากทีเดียว แต่มันสำคัญมากหากผมไม่รู้ในสิ่งที่ต้องการรู้ สิ่งที่ผมจะทำต่อไปจะกลายเรื่องที่ผิดพลาดทันที”
ธเนศเข้าใจในเรื่องนี้ดีถึงได้ยอมทำสิ่งที่รามินต้องการ อย่างน้อยเขาก็รู้จักนภามานาน แล้วมารู้จักกับราเมสในตอนหลัง เขารู้ว่าทั้งสองเป็นคนดีมีศีลธรรม แม้มีความผูกพันทางใจเมื่อนานมาแล้ว แต่เมื่อต่างไปมีครอบครัว สิ่งเหล่านี้จึงเหลือเพียงความเป็นเพื่อนและมิตรภาพที่ดีเท่านั้น ทว่าเรื่องพวกนี้บอกปากเปล่าย่อมเชื่อยากสำหรับใครหลายๆ คน รวมทั้งรามินและทุกคนในตระกูลของเขาด้วย
รามินนั่งอ่านเอกสารทั้งหมดอย่างตั้งใจซึ่งมีผลตรวจ DNA ถึง 3 แห่งเพื่อยืนยันความจริงให้แน่ชัด รายงานของนักสืบที่สืบย้อนไปหลายปีที่พี่ชายของเขาได้กลับมาติดต่อกับนภาอีกครั้ง การที่นภาเป็นมะเร็งระยะที่ 3 แล้วพยายามรักษามาหลายปี พี่ราเมสจึงกลับมาช่วยเหลือคนรักเก่าที่สามีได้ตายจากไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่ลัลนาเพิ่ง 2 ขวบ อาจเป็นเพราะพี่ชายของเขารู้สึกผิดต่อแม่ของลัลนากระมัง
ที่จริงแล้วพี่ราเมสกับนภาคบหากันหลายปีตอนเรียนที่ต่างประเทศ แต่เพราะพี่ราเมสต้องแต่งงานกับไนลาเพื่อความมั่นคงของตระกูลไอมาลตามคำสั่งของพ่อ ทำให้ทั้งสองคนต้องเลิกกันทั้งที่ยังรักกัน การที่นภาป่วยเป็นมะเร็งทำให้พี่ราเมสอยากช่วยเพื่อชดเชยความรู้สึกผิดซึ่งอยู่ในใจมาหลายปี พี่ราเมสเคยบอกเขาอย่างนั้น รามินรับฟังแม้จะคลางแคลงใจ แต่ตอนนี้เขาหมดสิ้นความสงสัยแล้ว พี่ชายของเขาไม่ได้นอกใจภรรยา นภาไม่ได้เป็นมือที่สามที่ทำให้ครอบครัวหนึ่งแตกแยก
แล้วมันเป็นเพราะอะไรที่ทำให้พี่ราเมสหมางเมินต่อไนลาถึงขนาดแยกบ้าน หลงเหลือเพียงความเป็นพ่อแม่ของไซรัสเท่านั้น สิ่งนี้ยังคงเป็นปริศนาที่เขาต้องไปหาคำตอบเพราะพี่ราเมสไม่เคยบอกเหตุผลว่าทำแบบนั้นเพราะอะไร แต่เขาก็สืบหาคำตอบจนกระทั่งไปพบข้อมูลของบอดี้การ์ดที่ตายไปแล้วคนหนึ่ง ซึ่งเขากำลังเชื่อมโยงว่ามันเกี่ยวกับพี่ชายและไนลาอย่างไร
“หนูลัลควรได้รู้นะครับ อย่างไรเสียก็เป็นเรื่องของตัวเอง” ธเนศพูดขึ้นเมื่อเห็นว่ารามินอ่านเอกสารครบทุกหน้าแล้ว
รามินชั่งใจ การที่เขาเข้าไปยุ่มย่ามในชีวิตของลัลนาอยู่ในตอนนี้ก็นับว่ามากเกินพอแล้ว หากเธอรู้ว่าเขาทำอะไรลงไปบ้างคงกลับมาต่อต้านเขาอีก
“อย่างดีกว่า ผมไม่อยากมีเรื่องยุ่งยากที่ต้องมานั่งอธิบาย แค่ต่อไปจากนี้ผมจะได้ทำสิ่งที่พี่ชายสั่งเสียไว้ได้อย่างสบายใจเท่านั้น”
ธเนศพอจะรู้อยู่บ้างว่าลัลนาได้รับมรดกเป็นหุ้นของเอ็มวาย กรุ๊ปของตระกูลไอมาล และซึ่งหุ้นนั่นจะขายได้ก็ต่อเมื่อลัลนาแต่งงานเท่านั้น รามินจึงมีหน้าที่เหมือนผู้ปกครองหาคนที่เหมาะสมเพื่อลัลนาจะได้แต่งงาน
“แล้วมันเป็นสิ่งที่หนูลัลต้องการหรือเปล่าครับ ผมไม่ได้ถามในฐานะทนาย แต่เพราะรู้จักหนูลัลมานาน การมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินย่อมเป็นเรื่องดี แต่การไปอยู่ท่ามกลางคนที่ไม่ได้อยากต้อนรับ หนูลัลจะมีความสุขหรือครับ”
ใช่ว่ารามินจะไม่คิดเรื่องนี้ ลัลนาได้ก้าวเข้ามาในตระกูลของเขาแล้วในฐานะหุ้นส่วนคนหนึ่งของเอ็มวาย กรุ๊ป การมีชีวิตที่เรียบง่ายดังเดิมคงไม่ง่ายอีกต่อไปแล้ว ฉะนั้นเขาจึงปล่อยเธอไปไม่ได้ สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเธอได้แต่งงานกับคนที่ปกป้องเธอได้
“ไม่ว่าอยู่ที่ไหนในโลกก็หลีกหนีคนที่เกลียดเราไม่ได้หรอกครับ ลัลนาต้องเข้มแข็งด้วยตัวเอง”
“ผมหวังว่าการทำให้คุณรามินกระจ่างในเรื่องที่สงสัยจะไม่เสียเปล่า หนูลัลควรมีใครสักคนที่ปกป้อง ผมหวังว่าคุณรามินจะทำแบบนั้น” แม้ไม่พูดออกมาตรงๆ แต่ธเนศก็มองออกว่ารามินกำลังปกป้องลัลนาอยู่ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่พาลัลนาเดินทางกลับมาประเทศไทยด้วย
รามินพยักหน้าเพราะธเนศคงไม่รู้กระมังว่าลัลนาดื้อขนาดไหน เขายังไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่เธอจะพบคนที่ชอบพอจนแต่งงาน บางทีเธออาจปฏิเสธผู้ชายที่เขาเห็นว่าเหมาะสม จนกระทั่งไม่เหลือผู้ชายที่เหมาะสมให้เลือกแล้วก็ได้
“มันเป็นเรื่องในอนาคต ผมกลับก่อนล่ะ ขอบคุณที่ช่วยครับ”
“ผมเต็มใจช่วยเพื่อหนูลัลครับ”
ธเนศเดินมาส่งรามินถึงที่รถ รามินมองผู้ชายที่อายุใกล้เคียงกับพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วของเขา อย่างน้อยลัลนาก็มีคนที่ห่วงใยอย่างจริงใจ เขาก้มศีรษะให้ชายผู้นี้ด้วยความขอบคุณ ก่อนจะขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อไปยังบริษัทที่ตระกูลไอมาลมีหุ้นส่วน ซึ่งมีอยู่ 5 แห่ง ในเมื่อเดินทางมาประเทศไทยแล้ว นอกจากเรื่องของลัลนาที่เขาต้องการความกระจ่างก็ยังมีงานที่ต้องไปจัดการให้เรียบร้อยเช่นกัน
ลัลนาสามารถทำงานที่นาวินสั่งได้โดยที่ไม่ต้องนั่งที่ออฟฟิศ เธอให้เหตุผลที่ไปออฟฟิศไม่ได้เพราะต้องกลับไทยกะทันหัน ซึ่งเขาไม่ถามอะไรเธอสักคำ แค่บอกว่างานที่สั่งไว้ไม่รีบร้อนอะไร เธอรู้ว่าเขาหรือใครหลายคนในแผนกออกแบบคงรู้อะไรมาบ้างแล้ว การที่เธอพักในบ้านซึ่งอยู่ในอาณาบริเวณของรามินคงเป็นเรื่องเมาท์ในที่ทำงานไม่น้อย แต่ไม่มีใครกล้ามาถามเธอตรงๆ สักคนว่าระหว่างเธอกับรามินเป็นความสัมพันธ์กันแบบไหน
เกือบ 5 โมงเย็นแล้ว ลัลนาจึงเข้าครัวทำอาหารเย็นให้ตัวเองและมีกับข้าวจากเพื่อนบ้าน ที่พอรู้ว่าเธอกลับมาแล้วก็เลยนำอาหารมัดใส่ถุงมาให้ ช่างเป็นบรรยากาศที่เธอคุ้นเคยและคิดถึง การได้อยู่บ้านของตัวเองและแวดล้อมด้วยคนที่เธอรู้จักมาตั้งแต่เด็ก จะมีสักอย่างที่แปลกใจก็คงเพราะมีบอดี้การ์ดหญิงสองคนอยู่ข้างนอกตัวบ้าน แต่ยังอยู่ในรั้วบ้านของเธอนี่ล่ะ ซึ่งอยู่กันได้เงียบและไม่ได้รบกวนอะไรเธอเลย แต่ทั้งสองคนนั้นจะอยู่กับเธอไปจนถึงกี่โมง หญิงสาวเดินออกไปหาบอดี้การ์ดพร้อมกับข้าวผัดทะเลสองจานและซุปเยื่อไผ่ใส่น่องไก่จากเพื่อนบ้าน คิดเสียว่าแบ่งกันตามประสาคนไทยที่มีอะไรก็ชอบแบ่งกัน
สองสาวบอดี้การ์ดเห็นอาหารเย็นที่ลัลนายกมาให้แล้วมองอย่างเกรงใจ ลัลนานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วเลื่อนจานข้าวและซุปให้ทั้งสองคนอย่างเป็นมิตร แม้ว่าจะเพิ่งเจอเมื่อเช้าตอนขึ้นเครื่องบินส่วนตัวแล้วเดินทางมาด้วยกัน นับว่ารามินรอบคอบหาบอดี้การ์ดผู้หญิงไว้รอเธอเลยเชียว
“ขอบคุณที่ดูแลความปลอดภัยให้นะคะ ถ้าทานข้าวแล้ว หากพวกคุณอยากกลับไปพักก็กลับไปก่อนได้นะ”
ลัลนาไม่ได้ไล่ แต่เกรงใจสองสาวบอดี้การ์ดเท่านั้นเอง การต้องมานั่งเฝ้าใครสักคนน่าคงจะเหนื่อยอยู่เหมือนกัน
“คุณรามินสั่งไว้ให้พวกฉันดูแลความปลอดภัยให้คุณตลอดเวลา ถ้าคุณไปไหนก็ให้ตามไปอย่าได้คลาดสายตาเด็ดขาดค่ะ” หนึ่งในสองบอดี้การ์ดตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษ
“ฉันกำลังจะถูกฆ่าหรือคะ” ลัลนาถามติดตลก แต่แอบคิดจริงเหมือนกัน
“ไม่หรอกค่ะ แต่ระวังตัวไว้ดีที่สุด” บอดี้การ์ดสาวอีกคนบอก “ขอบคุณสำหรับอาหารเย็นนะคะ ตอนนี้เชิญคุณลัลนาเข้าบ้านไปก่อนดีกว่าเพื่อความปลอดภัย ฉันสองคนจะเฝ้าด้านนอกไม่ลุกล้ำเข้าไปข้างใน”
“ห้องครัวอยู่ตรงนั้นนะคะ” ลัลนาบอกพลางชี้ไปทางครัว “อยากทานอะไรก็หยิบจากตู้เย็นได้เลยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ลัลนายิ้มให้สองบอดี้การ์ดสาวที่มีอยู่ใกล้ตัวก็อุ่นใจดีเหมือนกัน ทั้งคุ้มครองและเป็นเพื่อนคุยในบางเวลา นับว่ารามินรอบคอบเหลือเกิน หากเป็นบอดี้การ์ดผู้ชายตัวโตๆ เธออาจจะทำตัวลำบากและอึดอัดอยู่บ้าง
หญิงสาวนั่งทานอาหารเย็นเงียบๆ คนเดียวที่สวนเล็กๆ หลังบ้านซึ่งมีกำแพงสูงไม่มีคนนอกมองเห็นเธอ สรุปๆ ง่ายคือปลอดภัย เงียบสงบและสบายตาด้วย จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ของลัลนาดังขึ้น เธอกดรับสายเมื่อเห็นจากหน้าจอโทรศัพท์ว่า ‘ผู้ปกครอง’ โทรมา
“อยู่ได้ใช่ไหม”
ลัลนายิ้มพลางหัวเราะ ก่อนจะตอบรามินว่า “ได้ค่ะ นี่บ้านของฉันเองนะ คุณโทรมามีอะไรหรือเปล่าคะ”
“วันนี้ผมคงกลับดึก ถ้าคุณจะไปหาเพื่อนหรือไปไหน เอาบอดี้การ์ดไปด้วย ถึงที่นี่จะเป็นประเทศไทย แต่ไม่ว่าที่ไหนคุณก็เหมือนอยู่ในอันตราย ถ้าไม่มีคนของผมอยู่ด้วย”
ลัลนาฟังแล้วชักเอะใจ “คุณ...คุณจะมาพาพักที่บ้านฉันหรือคะ”
“ใช่น่ะสิ หรือคุณจะมาพักที่โรงแรมก็ได้ คุณเลือกเอา” รามินนึกแล้วว่าลัลนาจะถามแบบนี้ มาด้วยกันก็ต้องอยู่ด้วยกัน ทำไมเขาต้องอยู่โรงแรม แล้วลัลนาอยู่ที่บ้าน ทีมบอดี้การ์ดทำงานยากเปล่าๆ
“ฉันเลือกอยู่บ้านตัวเองค่ะ แต่คุณจะนอนบ้านของฉันได้เหรอ มันไม่ได้หรูหราอย่างบ้านคุณนะ”
“อย่าคิดแทนผม ถ้าผมทนไม่ได้ก็คงไปนอนโรงแรมแล้ว เท่านี้นะ”
ลัลนาอ้างปากค้างเหวอๆ เมื่อรามินวางสายไปเฉยๆ ไม่ถามสักคำว่าเธออนุญาตหรือเปล่า หญิงสาวได้แต่ค้อนใส่โทรศัพท์ เธอมองกุ้งเป็นหน้าของรามินแล้วเคี้ยวแก้ความหมั่นไส้ระคนโมโห พูดมาได้...เท่านี้นะ สั่งเก่งจังเลย บอกว่าห่วงกันก็ได้ ไม่รู้หรือไงว่าเธอไม่เข้มแข็งอย่างที่ใครๆ เห็น แต่พยายามเข้มแข็งอยู่ต่างหาก
เป็นไงล่ะยัยลัล รามินเค้าให้เลือกนะ แต่เธอเลือกอยู่บ้านไง รามินก็เลยต้องมาอยู่บ้านเธอ ตามใจเธอขาไหมล่ะ 555 ตามใจจนยัยลัลมองกุ้งเป็นรามินแถมเคี้ยวด้วย
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ ใครอยากอ่านนิยายเรื่องอื่นๆ ของโบว์ มีใน meb นะคะ ไปอ่านระหว่างรอเรื่องนี้ได้ค่ะ
อัมราน l บรรพตี - อีบุ๊กหนังสือ นิยาย การ์ตูน (คลิก)
บรรพตี (อัมราน)
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 128
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น