ตอนที่ 32 .. “ ความทรงจำสีจาง ”

พยัคฆ์ร้าย..สายลับ

-A A +A

ตอนที่ 32 .. “ ความทรงจำสีจาง ”

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ 

   เป็นเพียงความบันเทิงในการฟัง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึง เหตุการณ์ของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น

.. ด้วยความเคารพ ผู้ประพันธ์นิยาย .. พัชฌา

 

 (เพลงประกอบ นิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ)  พัชฌา

Trouble Is A Friend – Lenka

https://www.youtube.com/watch?v=5AjAiT5Dj9o

 นิยาย แนว อาชญากรรม และนักสืบ (Detective and Crime Novel) / สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action

ตอนที่ 32 .. “ ความทรงจำสีจาง ”

“อีผิง นี่กูพี่มึงนะ มึงเรียกกูดีๆหน่อย อย่างน้อยกูก็เป็น..” เพ็ญไม่พอใจที่ผิงไม่เคยเคารพเธอเลย

“เป็นอะไร มึงอย่าบอกนะว่า มึงเสร็จพ่อกูแล้วหนะ” ผิงถามแบบไม่เกรงใจกันแล้ว

“อ้าว อีนี่ ดูมันพูด เออ..ถ้ากูเสร็จพ่อมึงแล้ว มึงจะว่าไง อย่างน้อยกูก็มีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงมึงก็แล้วกัน” เพ็ญไม่พอใจ

“พี่เพ็ญพูดอะไร เบื้องไม่เข้าใจ” เบื้องงง กับสิ่งที่เพ็ญพูด แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบกลับไป เพราะผิงหาเรื่องต่อ

“กูก็ไม่ว่าอะไร แต่กูจะสมน้ำหน้ามึง เพราะพ่อกูไม่เคยชอบมึง มึงจะได้เสียใจไปตลอดชีวิต อกหักผิดหวัง กูสะใจ”

   แล้วก็แลบลิ้นใส่และเดินจากไป “อีผิง มึงจะไปไหนแน่จริงมึงกลับมา Clear กับกูให้รู้เรื่องก่อนอีเด็กเหลือขออีลูกแม่ไม่สั่งสอน”

“อ้าว เล่นถึงแม่เลยเหรอ” เกศไม่พอใจ “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย เธอไม่ใช่แม่มันซะหน่อย หลบไป ไม่ต้องมายุ่ง”

   แล้วเพ็ญก็วิ่งเข้าไปจิกผมผิงจากด้านหลัง และดึงมาตบอย่างแรง จนผิงล้มคล่ำลงไปต่อหน้า เกศวิ่งเข้าไปห้าม

“เอ๊ย นี่มันอะไรกัน ถึงกะตบกันเลยเหรอ” เกศนั่งลงไปดึงผิงขึ้นมา “เป็นไงบ้างลูก เป็นอะไรมากไหม” แล้วหันไปมองเพ็ญ

   ผิงมีเหรอที่จะยอมเจ็บฝ่ายเดียว ปากแตกออกขนาดนี้ พอลุกขึ้นได้ก็ตบเพ็ญทันที คราวนี้ทั้งสองคนล้มคลุกฝุ่นอยู่กับพื้นผลัดกันตบคนละทีสองทีหมุนกันอยู่ด้านบนไปมา จนเบื้องและเกศต้องเข้าไปแยก ดูจังหวะว่าใครอยู่ด้านบน พอเห็นผิงอยู่ด้านบนตบเพ็ญ เกศก็เข้าไปดึงผิงออกมา พอแยกได้เพ็ญลุกขึ้นมาจะวิ่งไปตบต่อเบื้องวิ่งเข้ามากันไว้

“พอแล้วพี่เพ็ญ เบื้องขอหละ พี่น้องกันแท้ๆ” ขนมเบื้องพยายามมาไกล่เกลี่ย

“ปล่อยพี่เบื้อง แล้วอีผิงมันเคยเห็นหัวพี่บ้างไหม คำก็อี สองคำก็อี แกควรจะไปบอกพี่แกนะ ไม่ใช่มาบอกฉัน มันเคยเห็นฉันเป็นพี่มันที่ไหน มองเห็นเป็นอะไรก็ไม่รู้ เหมือนคนที่จะมาพรากพ่อไปจากมันยังงั้นแหละ ไม่รู้ว่าจะหวงอะไรนักหนากะอีกแค่พ่อคนเดียวเนี่ย พ่อมันก็ไม่ได้หายจากชีวิตมันไปไหนซะหน่อย ถึงจะมีคนใหม่ ยังไง พ่อมันก็ต้องอยู่ที่นี่ ในบ้านหลังนี้”

   เพ็ญโมโหมาก เลยระบายออกมา “ใครคะเนี่ยผิง คนนี้หนะ” เกศถาม เพราะดูแล้วแรงมากไม่เบาทีเดียว

“อีเพ็ญ ลูกลุงเชี่ยว อีหน้าด้านที่อยากได้พ่อหนูเป็นผัวมัน อีหน้าด้าน”

   ผิงเริ่มยกใหม่ เพ็ญชี้หน้า แล้วผิงก็สะบัดหน้าเดินขึ้นชั้นบน

“กลับมาก่อนซิอีนี่ ไม่แน่จริงนี่หว่า อีเด็กนรก” เบื้องส่ายหัว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เรื่องนี้จะจบสักที

“ถอย ฉันจะขึ้นไปหาอาเต๋า” เบื้องเลยรีบบอก “พ่อไม่อยู่หรอกครับพี่เพ็ญ”

   เพ็ญหันไปมองหน้าเบื้อง “แล้วคุณอาไปไหน” เพ็ญเดินกลับลงมา หน้าตาบูดอารมณ์ไม่ดี

“ไม่รู้ สองสามวันนี้เบื้องเห็นพ่อ ไม่ค่อยจะกลับบ้านเลย พอกลับมาก็ออกไปอีก ผมจะถามจะคุยปรึกษาอะไร ก็ยังไงไม่เจอเลย”

“แล้วตกลงแม่นี่ใครหละเนี่ย พี่ยังไม่รู้เลย เห็นบอกว่าเป็นแม่บ้าน แม่บ้านอะไร” เพ็ญยังไม่ได้คำตอบ

“อ๋อ น้าเกศ พ่อให้น้ามาอยู่เป็นเพื่อนพวกเรา เป็นเหมือนพี่เลี้ยง แม่บ้าน จะไปไหนทำอะไรน้าเกศก็จะพาไป เพราะพ่อไม่ว่าง ไม่เคยอยู่บ้านเลย ทุกวันนี้ก็ได้น่าเกศนี่แหละที่ทำหน้าแทนพ่อ เหมือนแม่อีกคนหนึ่งเลยแหละ”

   แล้วเบื้องก็เข้าไปกอดเกศ เกศลูบหัวเบื้อง เพ็ญหมั่นไส้

“เออ เอาหละในเมื่ออาเต๋า ไม่อยู่ฉันก็ไม่ขึ้นไปหรอก ฝากบอกพ่อแกด้วยแล้วกันว่าฉันมา ให้โทรกลับหาฉันด้วย บอกไปว่ามีเรื่องด่วน โทรไปก็ไม่รับสาย ไม่เข้าใจว่าไปไหน คอยดูนะ อย่าให้เจอเชียว จะต่อว่าซะให้เข็ด อย่าลืมนะ ฉันไปหละ”

   แล้วเพ็ญ ก็เดินออกไป ขับรถกลับทันที พอเพ็ญกลับออกไปเกศก็ถามเบื้อง

“ตกลงเพ็ญคนนี้เค้าเป็นใครหนะเบื้อง ทำไมดูมีอำนาจบาดใหญ่ เหมือนเป็นคนสำคัญที่นี่”

“ก็อย่างที่พี่ผิงพูดไปแล้วนั่นหละครับ ตื้นลึกหนาบาง บางเรื่องเบื้องก็ไม่รู้ อยากรู้ความจริงอะไร ก็ต้องไปถามพ่อเอาเองนะ พอดีพี่ผิงกับพี่เพ็ญตอนนี้เขาไม่ถูกกัน พี่ผิงก็หวงพ่อเกิ้น พี่เพ็ญก็อยากได้พ่อเหมือนกัน มันอะไรกันก็ไม่รู้ ผมสับสนไปหมดแล้ว”

&&&&& ***** &&&&&

   หลังจากวันนั้น เผด็จก็ออกตามหาโบว์อีกแบบไม่พัก เขาไปตามหาทุกที่ ที่คิดว่าเมียจะอยู่ แต่ก็ไม่มีแม้แต่ข่าว ทางด้านอัธวุฒิ ก็ไม่คิดที่จะไปตามง้อเมีย มุ่งตรงและโฟกัสไปที่งานอย่างเดียว ตอนนี้ในทีม คนก็เริ่มเหลือน้อยลงไปทุกที เบียร์ก็ให้ออกไปแล้ว ม่านมุกก็นอนพักรักษาตัว เพ็ญก็ถอนตัว อ้อมก็ยังไม่แกร่งพอ เขาจะเอายังไงดี คิดไปคิดมา ก็นึกถึงเพื่อนเก่าอย่างเผด็จ

&&&&& ***** &&&&&

   พลอยใสเดินมาหาน้องสาวทั้งสองคน “เป็นอะไรทั้งสองคนเลย” ปูนนิ่งเงียบ ทับทิมก็เหม่อลอย “หมดกันน้องชั้น ไปหมดแล้ว แล้วนี่จะสอนนักเรียนได้ไหมเนี่ย” เปาเปา เดินเข้ามาถาม “พี่ค่ะ ตกลงจะเอาไงต่อ จะรับเพิ่มต่อไหมคะ เพราะคอร์สนี้เต็มแล้ว”

   พลอยใส ต้องคิดหนักเดินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน “ไหนลองดูเวลาซิว่า มีช่วงไหนที่พอจะจับยัดลงได้บ้าง แล้วก็จัดและเพิ่มรอบได้เลย เดี๋ยวทางคนสอนพี่จะจัดการให้เอง” เปาเปา ก็รีบกลับไปดำเนินการให้ตามเจ้านายสั่ง

   ทับทิมระหว่างที่รอสอน ได้แต่นั่งคิดอยู่เสมอตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่ผัวจะมารับเสียที นั่งชะเง้อเท่าไหร่ ป๋องก็ไม่มา เธอก็ได้แต่นั่งคิดถึงเรื่องราวหวานๆที่ผ่านมา มันช่างมีความสุข แต่ปัจจุบันหละมันได้กลายเป็นความทรงจำสีจางไปแล้ว ทับทิมนั่งร้องไห้น้ำตาซึมกอดเข่าอยู่คนเดียวที่โซฟา พลอยใสแอบนั่งมองดูสภาพของน้องสาวทั้งสองคน ก็ไม่รู้จะทำยังไง คงต้องทำใจไปก่อน

   ไม่เฉพาะทับทิมหรอก ปูนก็เช่นกัน เธอก็มานั่งซึมอยู่ขณะที่นั่งสอนเด็กๆอยู่ในชั่วโมงสอน ตอนพักเธอก็แอบมาคิดถึงช่วงเวลาความสุขที่ได้อยู่กับเผด็จ ถึงแม้ว่าจะสั้นเพียงแค่เดือนนิดๆแต่มันก็เป็นความทรงจำที่ดี ถ้าเธอย้อนเวลากลับไปได้ เธอบอกกับตัวเองว่าจะไม่ทำตัวงี้เง้าแบบนั้นอีกเลย เธอยอมรับกับตัวเองว่า เธอรักเผด็จมาก อยากกลับไปขอโทษและจะขอยกเลิกกฏเกณฑ์ต่างๆที่เคยขอเขาไว้ทั้งหมด และยอมทุกอย่าง ถ้าเผด็จต้องการที่จะทำอะไร แม้แต่ได้ตัวเธอ เธอก็จะยอมเป็นของเผด็จทันที ด้วยความเต็มใจไม่อิดออด เมื่อคิดถึงรอยยิ้มและความน่ารักของเผด็จทีไรเธอก็ต้องร้องไห้ออกมาทันที ความทรงจำดีๆแบบนั้นมันไม่มีอีกแล้วตอนนี้มันได้กลายเป็นความทรงจำสีจางไปเสียแล้ว ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะขอเป็นเด็กดีของเผด็จอีกครั้ง จะไม่ดื้อและเกเรอีกต่อไป เมื่อคิดได้ ก็ต้องเสียใจทุกครั้ง ถ้าเด็กนักเรียนไม่มาสะกิด ปูนก็ยังคงไม่เลิกนึกถึงเผด็จ

<<<<< ---------- >>>>>

   เบียร์สืบรู้แล้วว่า รถลึกลับคันนั้นเป็นของใคร เมื่อได้เห็นอีกครั้งก็จำได้ ตอนที่เทียมฟ้าเมา แล้วพาสาวมาขึ้นสวรรค์ และขากลับขับรถมาจอดซื้อของแถวๆร้านที่เธอขายของอยู่ เพราะนั่นคือรถของเทียมฟ้านี่เอง จึงรีบโทรบอกเพ็ญและเนตร เธอเคยให้เบอร์ไว้

“มันผ่านมาแล้วแก ช่างมันเถอะฉันไม่ได้สนใจอะไร นึกว่าให้หมามันกินเถอะ ปล่อยมัน แค่นี้นะ ฉันจะนอน” เพ็ญไม่สนใจ

   แต่เนตรอยากจะสั่งสอนเทียมฟ้า ทั้งๆที่ไม่อยากจะช่วยเพ็ญ เพราะนี่ก็เป็นคนหนึ่งในเรื่องมารความรักของเธอ

“ขอบใจมากนะเบียร์ เดี๋ยวพี่จะจัดการให้ ในเมื่อรู้ว่าเป็นใคร มันก็จัดการได้ไม่ยาก”

“แล้วเราจะเอามันเข้าคุกได้ไหมพี่” เนตรพยายามอธิบายให้เบียร์เข้าใจถึงความเป็นจริง

“คงยาก เพราะหลักฐานมันไม่ชัดเจน แต่ถ้าจะเอาคืนบ้าง แบบนี้พอไหว เดี๋ยวพี่จะสั่งสอนมันเองสบายใจได้

   และหลังจากนั้นไม่กี่วัน เนตรก็มาในชุดหงส์ฟ้า มาสั่งสอนเทียมฟ้า ถึงที่ ระหว่างทางกลับบ้าน เนตรได้ทำการสั่งสอนเทียมฟ้า จนบาดเจ็บไปหลายวัน ถึงกับต้องนอนโรงพยาบาลเลยที่เดียว เบียร์พอรู้ข่าวว่า เทียมฟ้าถูกสั่งสอนก็ดีใจ ที่ได้แก้แค้น

<<<<< ---------- >>>>>

   อ้อมหลังจากที่ฟื้นและได้รับความช่วยเหลือจากปริ๊นซ์ ก็ดูเหมือนว่า หัวใจจะเริ่มเป็นสีชมพู เมื่อปริ๊นซ์เกิดชอบขึ้นมาซะแล้ว จึงส่งดอกไม้มาให้และมาตามจีบอ้อมถึงที่ทำงาน จนเพื่อนๆ ต้องแซว

“มาแล้วโว๊ย ตรงเวลาเป๊ะ ไอ้อ้อม แจกการ์ดเมื่อไหร่อย่าลืมบอกพวกพี่ด้วยนะ อิจฉาหวะ” อ้อมเขินมาก เพราะไม่เคยเจอแบบนี้

“มาทำไมพี่ หนูจะทำงานและเอามาทำไมเนี่ย เปลือง” อ้อมเคยแต่ตามจีบคนอื่น ไม่เคยมีใครมาตามจีบ เลยเขินทำอะไรไม่ถูก

“ก็อ้อมน่ารักพี่ก็เลยอยากให้คนน่ารักได้อยู่กับของสวยๆ” ปริ๊นซ์หยอดเต็มๆ

“บ้า พี่ปริ๊นซ์ พูดความจริงทำไม ชมกันแบบนี้หนูก็เขินเป็นนะ”

“เย็นนี้อย่าลงมาช้านะครับ พี่ไม่อยากรอนาน..คิดถึง” จ่าหมงตะโกนเรียกขิงกับอ้อม

“หมวดขิง หมวดอ้อม ผู้กำกับขอประชุมด่วนครับ” ขิงลุกเดินเข้าไปก่อน อ้อมเลยขอตัวและบ๊ายบายปริ๊นซ์ทันที

<<<<< ---------- >>>>>

   เกศินี เป็นห่วงสามี เพราะหายไปจากบ้านหลายวัน ติดต่อเท่าใดก็ไม่ได้ จึงโทรไปหาเพื่อนที่ฐาน เผื่อเผด็จจะกลับไปที่นั่นบ้าง

“หอม พี่เด็จอยู่ที่นั่นไหม” น้ำเสียงดูไม่ดีเอาซะเลย จนเทียนหอมเป็นห่วง

“ไม่มา ตอนนี้นายไม่ได้ติดต่อมาเลย มีอะไรเหรอ” เทียนหอม ชักเริ่มเป็นห่วงเพื่อน

“พี่เด็จหายไปจากบ้านหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าไปทำงาน หรือไปทำอย่างอื่น ฉันใจคอไม่ดีเลย”

“แกอย่างคิดมากเลยนะเกศ เจ้านายเก่งออกขนาดนั้น แกต้องเข้าใจนะ มีแฟนเป็นสายลับต้องทำใจ ยิ่งเป็นพยัคฆ์ติดปีกขนาดนั้น”

“เออ รู้แล้ว ถ้าพี่เด็จมา แกอย่าลืมโทรบอกฉันด่วนเลยนะ วันก่อนยัยเพ็ญอะไรนั่นก็มาตามผัวฉันถึงบ้าน และพูดอะไรแปลกๆ”

“แปลกยังไง” เทียนหอมสงสัย “ก็ทำนองว่า ผัวหายมาตาม มาแสดงความเป็นเจ้าของอะไรทำนองนั้นหนะ”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ เออๆ เดี๋ยวถ้านายมา ฉันจะบอกให้แล้วกัน ขอตัวทำงานก่อนนะ” แล้วก็วางสาย เกศถอนหายใจ เพราะเป็นห่วง

<<<<< ----- >>>>>

   อัธวุฒิ เรียกประชุม ทีมที่เหลือ มีอัธวิทย์ จ่ามิ่ง จ่าหมง ขิงและอ้อม

“เอาหละตอนนี้ ในทีมเราก็คงจะเหลือแค่นี้นะ ผมขอสรุปสั้นๆเลยแล้วกัน” แล้วอัธวุฒิก็โยนแฟ้มทุกคดีที่ค้างอยู่ลงบนโต๊ะ

“คดีที่ค้างๆอยู่ทั้งหมดนี้ บางคดีก็ปิดไม่ลง เพราะได้หลักฐานไม่ครบ ตั้งแต่คดีนักธุรกิจหนุ่ม เมื่อปีที่แล้ว หลักฐานทุกอย่าง ทุกคดี จนมาถึงล่าสุดคดี ดร.วีระ ไม่มีอะไรคืบหน้า โดยเฉพาะคดีสามสาวหน้ากาก ตอนนี้ผมสามารถฟันธงได้เลยว่า เบ็นซ์คือ 1 ในสามสาวหน้ากากนั้น เพราะทุกครั้งที่นางเสือดาวปรากฏกาย มณีบุษราคัมจะหายตัวไปทุกครั้ง เท่าที่ผมประติดประต่อ และตามเรื่องมา”

   อัธวิทย์ได้พูดเสริม “และผมก็มั่นใจว่า 1 ในสองคนที่เหลือ ก็ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งเป็นนางแมวป่า” ขิงพูดต่อ

“หนูกับผู้กอง ได้ลองสืบค้นประวัติของคนทั้งสามดู ก็หาประวัติอะไรไม่ได้เลย มีแต่ช่วงเด็ก ซึ่งมันแปลกมาก ช่วงอายุตั้งแต่ 7 ขวบเป็นต้นไป เราไม่พบข้อมูลอะไรของคนทั้งสามเลย” อ้อมเลยมีความคิดเสริมขึ้นมาบ้าง

“แล้วทำไมเราถึงไม่ไปค้นหาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือโรงเรียนที่พวกเธอศึกษามาหละค่ะคุณอา”

“ผมลองแล้วไม่เจอ มันเหมือนกับมีคนจงใจจะปิดบังอะไรเอาไว้”

“แล้วทำไมเราไม่ลองบุกไปจับเอาตัวมาสอบสวนซึ่งๆหน้าเลยหละครับผู้กำกับ” จ่ามิ่งเสนอ

“หลักฐานไงจ่า เราขาดหลักฐาน ทำได้แต่ประกาศจับนางเสือดาว และพวกเท่านั้น” อัธวุฒิหนักใจ

“ผมว่าถ้าพวกนั้นเป็นคนที่เราสงสัย พวกเราคงต้องใช้วิธีเฝ้าอีกครั้งซะแล้วครับ พวกเธอหลบซ่อนได้ไม่นานหรอก” จ่าหมงกล่าว

“มันก็คงจะต้องทำอย่างนั้นไปก่อน ผมขอใช้เวลาคิดก่อนว่าจะทำไงต่อไป ว่าจะเอาใครมาเป็นเหยื่อในการทำงานครั้งนี้”

xxxxx ===== xxxxx

   วิทย์กับขิงตอนนี้ก็ไม่ได้ปิดบังใครแล้ว ว่าทั้งสองกำลังคบหาและดูใจกัน หลังจากประชุมเสร็จ ทั้งสองก็ลงมาทานมื้อกลางวันกัน

“เป็นอะไรคะวิทย์ ทำไมทำหน้าแบบนั้นหละ ยังโกรธพ่ออยู่หรือเรื่องอื่น” ขิงเป็นห่วงแฟน

“มันก็หลายเรื่องนะขิงบอกตามตรง ไหนจะม่านมุก ไหนจะพ่อ ไหนจะเรื่องพวกสาวหน้ากาก มันรุมเข้ามาจนไม่รู้จะทำเรื่องไหนก่อนเลย เมื่อก่อนตอนอยู่หน่วยสวาท ยังไม่เครียดเท่านี้เลย”

“พอตำแหน่งสูงขึ้น ความรับผิดชอบที่เราได้รับมอบหมายมา มันก็ต้องมากขึ้น อย่าพึ่งคิดอะไรมากเลยนะ เชื่อขิง”

   ขิงเอื้อมมาแตะที่มือวิทย์เบาๆ วิทย์จับมือขิงไว้ แล้วก้มหน้า “เย็นนี้เราไปดูหนังกันนะ วิทย์จะได้หายเครียด” วิทย์พยักหน้า

----- ^^^^^ -----

   ฉัตรเทพ ให้สัตยา ออกตามล่าสามสาว เจอใครก่อนก็เก็บได้ก่อนเลยยิ่งดี อย่าให้พวกมันรวมกลุ่มกันได้ จะจัดการยาก

“สัตยา และ ดรัณ พวกแกสองคน เริ่มออกล่าอีกพวกสามสาวได้เลย ตอนนี้ฉันตัดสินใจแล้ว ว่าต้องกำจัดให้มันสิ้นซากเสียที”

“ได้ครับนาย ไปดรัณ” ทั้งสองกำลังจะออกไปดำเนินการ “เดี๋ยว” ฉัตรเทพเรียกไว้ ทั้งสองหันมา

“เจอใครก่อนก็เก็บได้เลย อย่าให้พวกมันรวมตัวกันได้เด็ดขาด เพราะมันจะจัดการยาก เข้าใจไหม”

“ค่ะนาย” แล้วทั้งสองก็รีบออกไปจัดการตามที่นายสั่งทันที

<<<<< ----- >>>>>

   โบว์มาหลบเลียแผลใจ อยู่ที่เกาะอย่างสบายใจ ทำให้เธอได้มีสติและพักผ่อนร่างกายไปในตัว แต่ยังไม่รู้ว่าภัยกำลังจะมาถึงตัว เพราะฉัตรเทพได้ให้สัตยาและดรัณ เริ่มออกล่าพวกเธอแล้ว จะสงบสุขได้สักกี่วัน

“จำไว้นะทุกคน อย่าบอกผู้การว่าฉันอยู่ที่นี่ ถ้าผู้การเจอฉันที่นี่ หรือตามมาถึงนี่เมื่อไหร่พวกเธอเดือดร้อนแน่ ไม่เชื่อก็คอยดู”

“ค่ะๆๆ พวกเราทุกคนจะทำตาม” ผจก.รับปาก “จริงไหมพวกเราทุกคน” ทุกคนพยักหน้าตอบรับ “ไปแยกย้ายกันไปทำงาน”

“เรียบร้อยแล้วนะคะน้องบัว นี่ค่ะกุญแจห้อง ที่เดิมหลังเดิม ขอให้อยู่อย่างมีความสุขนะค่ะ เชิญได้เลยค่ะ”

   โบว์ได้กำชับกับทุกคนว่าอย่าบอกเผด็จว่าเธอมาอยู่ที่นี่ ถ้าเผด็จตามเธอมาถึงที่นี่เมื่อไหร่พวกพนักงานทุกคนจะเดือดร้อน จึงไม่มีใครกล้า เพราะกลัวตกงาน..โบว์ได้อภิสิทธิ์ เพียงคนเดียวที่จะมาพักที่นี่เมื่อใดก็ได้ เพราะเผด็จได้บอกกับพนักงานทุกคนในรีสอร์ท ว่า เมื่อใดถ้าบัวบูชามา ให้เอาบ้านหลังนั้นให้หรือถ้าบ้านหลังนั้นไม่ว่าง ก็เอากุญแจบ้านเขาให้ไปเลย แล้วไม่ต้องคิดค่าบริการ ถ้าเขารู้เมื่อไหร่ว่า มีการเก็บค่าบริการจากบัวบูชาแม้แต่บาทเดียว คนนั้นตกงาน จึงไม่มีใครกล้าละเมิดคำสั่งเจ้านาย

----- ^^^^^ -----

   เย็นนี้ เผด็จมาง้อขอคืนดีกับเนตร จนเนตรใจอ่อนอีกครั้ง ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เนตรถึงได้ยอมเจ็บและไม่ยอมจำสักที ว่าทำไปเพื่ออะไรก็ไม่ได้ผลดีอะไรกลับมา แต่ก็ยอมช่วยและปลอมตัวเป็นนักร้องเข้าไปสืบเรื่องค้ายาอีกครั้งที่ผับอีกแห่งของแทนไท

“เนตรฉันขอโทษจริงๆจะให้ฉันทำอะไรเพื่อไถ่โทษฉันก็ยอม” เผด็จพูดอยู่หน้าประตูห้อง เนตรยืนร้องไห้อยู่หลังประตูนั่นแหละ

“นายกลับไปเถอะ เราไม่มีอะไรที่ต้องพูดกันอีกแล้ว หนูตัดสินใจแล้ว นายอย่าให้หนูต้องเจ็บไปมากกว่านี้เลย”

“ฉันรู้ว่าฉันผิด ฉันไม่ทำตามสัญญา ฉันมันโง่เองที่ไม่รักษาสิ่งที่ล้ำค่าของฉันเอาไว้ ต่อไปนี้ฉันขอสัญญาว่า จะอยู่ในโอวาทของเธอคนเดียว และจะไม่ทำอะไรที่เธอไม่ชอบ นะ ยกโทษและให้อภัยฉันนะคนดี” เนตรเริ่มมีรอยยิ้ม ใจเริ่มอ่อน

“อย่าเลย อย่ามาปากหวานกับหนู หนูไม่หลงคารมนายอีกแล้ว นายมีสาวๆอีกตั้งหลายคน แล้วอยู่ดีๆนายจะมาอยู่ในโอวาทหนูคนเดียวได้ยังไง หนูไม่เชื่อหรอก นายโกหก อย่ามาเคาะกะลาให้หมาอย่างหนูดีใจเลย ฝันไปเถอะ”

“โธ่..คนดี ถ้าหนูไม่ลองแล้วหนูจะรู้ไหมว่าฉันพูดจริงทำจริง หรือเปล่า นะๆยกโทษให้ฉันนะ เรามีงานใหญ่ที่จะต้องให้หนูช่วยอีก ฉันทำคนเดียวไม่ได้ หนูเป็นคนสำคัญที่ฉันไว้ใจที่สุดเลยนะ คิดซะว่าไม่ต้องทำเพื่อฉัน แต่ทำเพื่อประเทศชาติได้ไหม แล้วหนูอยากได้อะไร บอกฉันมาเลย ฉันจะไม่ขัดข้อง ถ้าให้ได้ ฉันจะให้” เนตรรีบเปิดประตูออกมา แล้วชี้หน้าเผด็จ

“พูดแล้วห้ามคืนคำนะนาย ว่าอยากได้อะไรแล้วจะให้” เนตรจ้องหน้า “ครับ..แต่ตอนนี้ขอเข้าไปก่อนได้ไหม เมื่อยแล้ว”

   เนตรดึงแขนเผด็จเข้ามา พอเนตรปิดประตูล๊อกห้อง เผด็จก็ดึงแขนเนตรเข้ามาหาตัวแล้วหอมแก้มทั้งสองข้างอย่างไวทันที

“ทำอะไรหนะนาย ยังไม่ทันไร รังแกหนูอีกแล้ว” เนตรถามทั้งๆที่อยู่ในอ้อมกอดเผด็จ

   เนตรทำเป็นเช็ดแก้มทั้งสองข้างออก เนตรเช็ดหนึ่งครั้ง เผด็จก็หอมหนึ่งครั้ง จนเนตรเลิกเช็ด เผด็จจึงหยุด

“พอแล้ว เลิกแกล้งหนูได้แล้ว เอาเป็นว่าหนูหายโกรธนายแล้ว พอใจรึยัง” เผด็จเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากเนตร แล้วก็บรรจงหอมไปที่หน้าผากเนตรหลับตาพริ้ม แล้วก็กอดเผด็จเพราะความคิดถึงไม่ได้เจอคนรักมานานเกือบเดือน แล้วก็ไปนอนกอดกันต่อที่เตียง

“เลิกงอนฉันรึยัง” เนตรอมยิ้มแล้วก็ตอบ “ถ้าไม่หายแล้วจะให้นอนกอดแบบนี้เหรอ” เผด็จเอามือไปบีบจมูกน้อยๆของเนตรเล่น

“ไม่ต้องทำมาเป็นเฉไฉเลย พูดเรื่องงานมา จะให้หนูช่วยอะไรก็บอกมา ตอนนี้หนูพร้อมแล้ว” เนตรกำลังอารมณ์ดี

“แต่หนูขอบอกไว้ก่อนนะว่าจะต้องอยู่ในโอวาทหนูจริงๆไม่งั้นหนูไม่ช่วยด้วย” เนตรได้ที เอามือจิ้มไปที่ปากแฟน

“คร๊าบ ที่รัก สามีที่ดีต้องอยู่ในโอวาทภรรยา” แล้วเผด็จก็จับมือข้างนั้นของเนตรมาหอม

“บ้า นายเนี่ย พันยงพันยาอะไร หนูยังไม่ได้เป็นสักหน่อย แค่แฟนเองก็ดีถมแล้ว ถ้ายังทำตัวไม่ดีเกเรแบบนี้หนูไม่ให้หรอกตรงนั้นหนะ อย่านะอย่าพึ่งดีใจไป คดีเก่ายังอยู่นะหนูยังไม่ลืมง่ายๆ” เนตรเอามือชี้หน้าเผด็จ เผด็จดึงมือเนตรไปดมไปหอม

“นี่ถือว่าอยู่ในระหว่างควบคุมความประพฤติ เข้าใจไหมคะ คุณแฟน” เผด็จทำท่าตะเบ๊ “ครับผม รับทราบ”

   แล้วก็หันไปจูบปากเนตร ขอมีความสุขสักนิดนึงก่อน เนตรก็เคลิ้มปล่อยตัวปล่อยใจ ขอมีความสุขก่อนเช่นกัน ตั้งเดือนอดอยากปากแห้งมานานแล้ว เผด็จเอามือปลดชุดนอนที่ไม่ได้นอนของเนตรออกแล้ว แล้วก็เริ่มบรรเลงเพลงรักไม่ว่าจะถันหรือแก้ม ลำคอเผด็จได้จัดการช่วยให้เนตรมีความสุข จนเวลาผ่านล่วงเลยไปเกือบ 3 ชั่วโมง

   สองคนนอนกอดกัน จน 4 ทุ่ม เผด็จตื่นขึ้นมา อาบน้ำและบอกให้เนตรเริ่มแผนได้เลยทันที เนตรยอมเป็นหลินให้เผด็จอีกครั้งถ้าไม่รัก คงไม่ยอมทำให้ เธอไปที่ผับ/บาร์ของแทนไทอีกแห่งที่เหลืออยู่ ผู้จัดการดีใจมากที่หลินกลับมาร้องช่วยบาร์ของเขา เพราะตั้งแต่บาร์เก่าโดนถล่ม ลูกค้าหายไปเยอะ บาร์แทบจะกลายเป็นป่าช้าหรือสุสานที่เงียบสงบดีๆนี่เอง

“น้องหลินของเฮีย กลับมาแล้ว ดีใจจัง แหม ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น เฮียก็แย่ ดูซิคนแทบไม่มีเลย น้องหลินกลับมาช่วยเฮียเรียกแขกหน่อยนะ ได้ไหม เฮียให้เพิ่มจากที่เดิมอีกเป็น 4 พันเลย” เนตรพยักหน้า พอหลินกลับมาร้อง ลูกค้าก็เริ่มกลับมาคึกคักอีกเช่นเดิม

< What do you say - Teresa Teng > https://www.youtube.com/watch?v=x3r4r9MxK2w

<<<<< ----- >>>>>

   โบว์แอบไปหลบเลียแผลใจที่เกาะของเผด็จ โดยที่เผด็จไม่รู้ โบว์ได้แต่นั่งคิดถึงแต่เรื่องในอดีตที่ผ่านมา ตอนนี้มันกลายเป็นความทรงจำสีจางไปแล้ว โดยให้พี่สาวทั้งสองคนหลบอยู่ที่เมืองกาญจน์แล้วเธอแอบหนีลงไปใต้ เพื่อหลบกับตำรวจและคนของฉัตรเทพ อย่างน้อยก็แยกกันอยู่จะปลอดภัยกว่า

***** ฿฿฿฿฿ *****

   หลังจากที่โบว์ไปได้ไม่กี่วัน แป๋วก็หายตัวไปอีกคน โดยทิ้งจดหมายไว้ เนื้อความบอกว่า “เป็นห่วงร้าน จะขอกลับได้ดูร้านไม่ต้องห่วง แล้วจะกลับมา” เมื่อไม่มีใครอยู่ เบ็นซ์จะอยู่ทำไม จึงบอกเจ๊ดาว

“ถ้าโบว์กลับมาให้รออยู่ที่นี่ก่อนนะเจ๊ หนูจะกลับ กทม.ก่อน เป็นห่วงงาน ขอกลับไป Clear ถ้าเสร็จแล้วจะกลับมา”

----- ^^^^^ -----

  หลายวันต่อมา ผจก.จึงบอกแทนไทว่า ตอนนี้บาร์เรารอดแล้วเพราะมีนักร้องอย่างหลินมาช่วย แทนไทจึงอยากเจอตัว เลยต้องมาดูให้เห็นกับตาว่าสวยจริงและร้องเพราะสมคำร่ำลือไหม เมื่อแนะนำให้รู้จักแล้ว แทนไทเลยชอบขึ้นมาจึงอยากได้มาเป็นนกน้อยในกรงทอง อยากเอาไปเลี้ยงเป็นเมียเก็บเป็นอีหนู จึงบอกผู้จัดการว่าอยากได้ 

< I and you - Teresa Teng > https://www.youtube.com/watch?v=AVANQBYW4EI

“หลินเป็นนักร้องเสียงทอง เสียงดีที่กำลังดังและสำคัญมาก เป็นตัวทำเงินให้กับบาร์ของเราเลยทีเดียว” แทนไทชอบ อยากได้ 

“อั๊วขอ ได้ไหม ไอ้หลง เด็กคนนี้ ชอบหวะ สวยน่ารัก” ผู้จัดการไม่อยากให้เพราะก็ชอบเหมือนกัน

“แหมนายตาถึงนะเนี่ย แต่คนนี้ผมขอได้ไหม กำลังทำเงินเลย เดี๋ยวถ้าไปอยู่กับนายแล้ว อีเกิดบอบช้ำขึ้นมาบาร์เราจะยุ่งนะนาย”

   แทนไทไม่พอใจ ลุกขึ้นทันที เพราะไอ้หลงขัดใจ “เอาน่า ก็ได้ๆเอาเป็นว่า ผมไม่รับปากนะนาย ผมจะบอกเธอให้ ถ้าเด็กมันยอมผมก็จะตัดใจ ยกให้นายไปก็แล้วกัน แต่ถ้าเด็กมันไม่ยอม ก็จะมาว่าผมไม่ได้นะ”

“เออ” แล้วไอ้หลงผู้จัดการก็ไปบอกบ๋อยว่าถ้าหลินร้องเพลงเสร็จให้ลงมาหาเขาตรงนี้ด้วย พอเพลงจบหลินก็เดินลงมา ยกมือสวัสดี

“มาแล้วๆ ทางนี้เลยคร๊าบน้องหลิน” เนตรแปลกใจ ทุกวันไม่เคยต้องเรียกมานั่งตรงนี้

“มีอะไรกับหลินเหรอคะผู้จัดการ” เนตรหันไปที่แทนไท ตกใจนิดหน่อย

“ผมขอแนะนำให้รู้จักกับเสี่ยแทนไท เจ้าของที่นี่ เจ้านายเราโดยตรงเลย” เนตรยกมือไหว้ แทนไทเอื้อมมือไปจับมือที่ไหว้อยู่

“หนูหลินน่ารักถูกใจฉันมาก” จึงมีการยื่นข้อเสนอให้ไป “ขอบอกตรงๆเลยนะว่าฉันชอบหนูมาก มาเป็นนกน้อยในกรงทองของฉันได้ไหม หนูหลินอยากได้อะไร อยากทำอะไร ฉันให้ได้หมดเลย ขอแค่หนูหลินมาเป็นของฉันได้ไหม ฉันคงมีความสุขมากที่ได้หนูมานอนกอดทุกคืน” เอาหละซิ มันไม่ได้อยู่ในแผนซะด้วย จะทำไงดีหละที่นี้

“เออ เสี่ยขา หนูคงจะต้องขอปฏิเสธข้อเสนอนี้หละค่ะ ขอบคุณมากที่มีความรู้สึกดีๆกับหนู คือหนูชอบร้องเพลง ไม่ชอบอยู่เฉยๆหรือเป็นเมียน้อยใคร” แทนไทรีบสวนออกไปทันที “เมียน้งเมียน้อยที่ไหน ฉันโสดเมียฉันตายไปตั้งนานแล้ว” เอาไงต่อหละเนตร

“ถ้าเธอตกลงนะ ฉันให้เธออีกเท่าเลยกับค่าตัวต่อคืนเนี่ย เท่าไหร่วะตอนนี้ไอ้หลง หนูหลินหนะ

“4 พันครับนาย” แทนไทใจปล้ำมากกับเนตร “ฉันให้แสนนึงเลย ว่าไง” เนตรรีบสวนกลับเช่นกัน

“ล้านนึงหนูก็ไม่เอา” ลุกหนีทันที แทนไทเจอคนจริงเข้าให้แล้ว เนตรเดินไปได้ไม่ไกล แทนไทตะโกนออกไป

“บ้านพร้อมที่ดินหนึ่งหลัง รถสปอตหนึ่งคัน พร้อมเงินให้ใช้ไป Shopping เล่นๆอีกเดือนละ 2 แสน” แทนไทยื่นข้อเสนอสุดๆ

   ผู้จัดการเลยยุส่ง “น้องหลินรับไปเถอะครับ สบายไปทั้งชาติ เสี่ยไม่เคยให้ใครเยอะถึงขนาดนี้มาก่อนเลยนะ” เนตรชักใจไม่ดีเพราะไม่ได้เตรียมตัวมาสำหรับงานแบบนี้ จึงขอผลัดผ่อนไปก่อนสัก 2-3 วันและรีบกลับไปขอความช่วยเหลือจากคนรัก

   เนตรเล่าให้เผด็จฟังว่า “แทนไทมันอยากเอาหนูไปเลี้ยงเป็นเมียเก็บ เป็นอีหนูของมัน นายจะเอาไง มันไม่ได้อยู่ในแผนของเรานะ หนูกลัว หนูรักนายคนเดียวนะ อีกอย่างหนูไม่อยากได้ผัวแก่คราวพ่อแบบแทนไทด้วย” เนตร นอนกอดเผด็จอยู่

   เผด็จมีหรือจะยอมให้คนรักของตัวเองไปเสร็จแทนไท เช้าขึ้นจึงไปขอความช่วยเหลือจากป๋องอีกคน หลังจากที่แผนทำงานเป็นกลุ่มไม่ได้ผล เผด็จจึงเริ่มใช้แผนเดิม คือแยกเดี่ยว โดยปลอมตัวเข้าไปสืบตามผับของแทนไทและฉัตรเทพที่ทั้งสองคนเข้าหุ้นกันแล้ว โดยให้อัธวุฒิปลอมตัวเป็นนักดนตรี ร้องเพลงตามผับในเวลากลางคืนที่บาร์เดียวกับหลิน และให้อัธวุฒิสืบจากภายใน

“มีอะไรเฮีย นัดผมมาซะไกลเลย” ป๋องเดินมาถามเพื่อนรัก เผด็จเดินออกมาจากหลังต้นไม้ แล้วก็เอามือจับไหล่น้องชาย

“ตอนนี้ไม่มีทางเลือกหวะไอ้ป๋อง แผนที่ให้เราสองคนไม่ถูกกัน มันไม่ Work หวะยังไม่ไปถึงไหน แทนไทกับฉัตรเทพมันยังเงียบอยู่เลยหา หลักฐานจั๋งๆไม่ได้ ฉันเลยคิดว่ามันถึงเวลาแล้วตอนนี้คงต้องใช้แผนเดิมที่เราเคยทำกันมา”

“อะไรเหรอเฮีย อย่าบอกนะว่า..โอ๊ย ผมไม่เอาแล้วนะ ไอ้ที่ขาเป๋มาก็เพราะแผนร้องเพลงนี่แหละ ผมไม่อยากเดี๊ยงสองข้าง”

“เฮ๊ย คราวที่แล้วฉันต้องขอโทษจริงๆ ที่มันผิดพลาด ใครจะไปนึกว่าพวกมันจะมากแล้วซ้อนแผนพวกเราตลบหลังขนาดนั้น แต่คราวนี้ฉันมีตัวช่วย ฉันได้ส่งหลิน เข้าไปเป็นนางนกต่อเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ฉันมีตัวช่วยให้แก ปลอดภัยไม่เสี่ยงเหมือนครั้งที่แล้ว”

“ใครคือหลิน” ป๋องงง “อย่ารู้เลยว่าคือใคร เอาเป็นว่า เป็นคนที่คอยระวังให้เอ็ง รู้เท่านั้นก็พอ เข้าใจไหม” ป๋องทำหน้าเหมือนเข้าใจ

“หลินเริ่มงานได้สักพักแล้วที่บาร์ของมัน ตอนนี้ปลาแก่อย่างแทนไทกำลังฮุบเหยื่ออย่างแรง ขอแค่แกอดทนอีกนิดนึง เข้าไปช่วยฉันเอาหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะเอาผิดมันทั้งสองคนออกมาให้หน่อย ก็เท่านั้นเอง นะถือว่าช่วยฉันหน่อย ไม่มีใครทำงานเข้าขากับฉันได้ดีเท่าแกเลยไอ้น้องรัก” ป๋องคิดหนัก เพราะมันเสี่ยงมาก “ก็ได้เฮีย แต่ต้องรีบหน่อยนะ”

“ขอบใจมากไอ้น้องรัก รับรองฉันจะปิด Job งานนี้ให้เร็วที่สุดและแกก็เหนื่อยน้อยที่สุด”

“แล้วคราวนี้ เฮียจะให้ผมปลอมเป็นอะไร” เผด็จยิ้มแล้วก็ดีดมือดังเป๊าะ

“นักร้องสตริงวัยรุ่นอันดับหนึ่งของเมืองไทย แกกลับไปเตรียมวงได้เลย อีก 2 วันเจอกันที่ผับแทนไท”

   หลังจากบอกแผนไปหมดทุกอย่างกับป๋อง เผด็จก็กลับมานอนกะเมียเช่นเดิม เพื่อช่วยเนตรทางอ้อม เผื่อแทนไทจะมาทำอะไรเธอ เผด็จบอกทุกอย่างกับป๋องจนหมดว่าใครเป็นใคร แล้วเขาก็จะปลอมตัวเข้าไปเช่นกัน แล้วเจอกันในผับในคราบนักร้อง

   เผด็จเลยบอกแผนกับเนตรไปว่า ขอเอาวงเพื่อนเข้าเล่นเพื่อสับเปลี่ยนบรรยากาศ ถ้าได้ ข้อเสนอนั้นจะรับไว้พิจารณา พอเนตรเอาข้อต่อรองไปให้ แทนไทคิดอยู่วันสองวันจึงยอม อัธวุฒิจึงได้เข้าไปร้องเพลงที่บาร์นั้นในอีก 3 วันต่อมา

< คึกคักบ่อยเลย – Nuvo > https://www.youtube.com/watch?v=uMxJWiyxy2U

   เกินคาดบาร์ของแทนไทคนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พวกค้ายาเลยสามารถมาขายยาที่นี่ได้อีกเยอะ รวมถึงโบวี่ อีสาวดินระเบิด จ้าวเดิม “ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากสนุกๆมาเป็น ช้าๆซึ้งๆจังหวะเบาๆ กันหน่อยนะครับ”

< เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เกิดเลย – Nuvo > https://www.youtube.com/watch?v=h0dIEJ-wGMQ&feature=youtu.be

   ระหว่างที่อัธวุฒิร้องเพลง เผด็จก็ปลอมตัวเข้ามาดูลาดราวและดูคนรักไปในตัว เลยถือโอกาสพาเนตรออกมาเต้นรำ เนตรเอามือประสานคล้องคอแฟนหนุ่ม “นึกว่าจะไม่มาดูดำดูดีเมียซะแล้ว หายหน้าไปเลยนะผัวขา” เนตรต่อว่าแฟนทันทีเมื่อเห็นหน้า

“ไหนบอกว่าไม่ใช่ไง ทำไมวันนี้มายอมรับเอาดื้อๆง่ายๆหละ” เผด็จสงสัยเพราะถามทุกครั้ง ก็ปฏิเสธมาโดยตลอด

“หนูก็ปากแข็งไปแบบนั้นแหละ ดูดเอาดูดเอาขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่ก็บ้าแล้ว ยังจะมาทำเป็นพูดดี ตอบมา ว่าหายไปไหนมา เร็วๆ”

“ก็อยู่แถวนี้แหละเมียจ๋า ไม่ได้แอบไปหาสาวๆที่ไหน เมียยิ่งคุมเข้มอยู่แบบนี้ พี่นอกลู่นอกทางไม่ได้หรอกคร๊าบ”

“ดีมาก” แล้วเนตรก็เอานิ้วปาดจมูกสามี และหอมแก้มให้รางวัลที่ทำตัวดี “แอบขึ้นไปสืบหาหลักฐานมานะซิ” เผด็จรายงานเมีย

“แล้วได้อะไรมาบ้าง” เนตรกระซิบที่หู ขณะที่มือคล้องอยู่ที่คอ “เยอะเลย” เผด็จกระซิบบ้าง

“มีการซื้อขายยาเสพติดกัน ทั้งด้านบนและด้านล่าง ส่วนใหญ่จะอยู่แถวๆหน้าห้องน้ำ”

“แล้วนาย จะเอายังไง” เผด็จเหลือบสายตาดูรอบๆไปด้วยเพื่อระวังตัว

“ขอปรึกษากับไอ้ป๋องมันก่อน หนูอย่าพึ่งวู่วามทำอะไรลงไปรู้ไหม ฉันเป็นห่วง”

“ค่า ผัวขา เมียเข้าใจค่ะ จะไม่ทำอะไรนอกเหนือจากคำสั่งที่ผัวสั่งค่า” เนตรประชดผัว แล้วเนตรก็กอดและซบเผด็จต่อ

   แทนไทแอบเห็นเผด็จและเนตรยืนกอดกันอยู่ที่ฟอร์ไม่ค่อยพอใจ พอเพลงจบ แทนไทเลยเดินเข้าไปดึงเนตรออกมาและต่อยเผด็จในคราบนักท่องเที่ยวหนุ่มหล่อ ลงไปนั่งอยู่กับพื้น อัธวุฒิในคราบนักร้องวัยรุ่นวิ่งลงมาดู มาประคองเผด็จขึ้นมา

“แกเป็นใครวะถือดียังไงมา ยุ่มย่ามกับเด็กของฉัน เอ๊ยพวกเรา เอามันไปฝัง” ป๋องดูเพื่อน เนตรเจ็บปวดมากที่แฟนโดนซ้อมต่อหน้า

“ผมขอเถอะครับเสี่ย นี่เพื่อนผมเอง มันคงจะไม่ได้เจตนา มันคงเห็นว่าน้องคนนี้สวยน่ารัก และไม่รู้ว่าเป็นคนของเสี่ย มันก็เลยขอมาเต้นด้วย นะครับเสี่ย ถือซะว่าผมขอก็แล้วกัน” แทนไทมองหน้าป๋องและก็ปล่อยเผด็จ ก่อนไปจึงหันหน้ามาบอก

“เออ ถ้าเป็นเพื่อนแก ก็แล้วไป นี่ฉันเห็นว่าแกทำเงินให้ฉันหรอกนะ แล้วดูแลมันด้วย อย่าให้มันมาลุ่มล่ามกับเด็กของฉันอีกไป”

   แล้วป๋องก็ลากเผด็จออกไปจากตรงนั้น ไปปรึกษากันข้างหลัง “เป็นไงเฮีย หมดท่าเลย พยัคฆ์ร้าย เป็นหมาไปเลย”

“หมา หมา ไอ้บ้า มาแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนั้น ใครจะไปตั้งตัวทันวะ” เผด็จเอามือตีไปที่ป๋อง 2 ที

“แล้วจะเอาไงต่อ” ป๋องอยากรู้แผน ลำดับต่อไป “ขอเวลาวางแผนใหม่ก่อน ฉันไปหละ แล้วฝากดูเนตรด้วยนะ”

“เดี๋ยว เนตรไหนเฮีย ไม่มีเนตร” เผด็จยกมือขึ้นแล้วชี้ไปบนฟ้า “หลินหนะหลิน” ป๋องเอามือเกาหัวยิกๆ “อะไรของเฮียเค้าวะ”

<<<<< ---------- >>>>>

   หลายวันผ่านไปเผด็จติดต่อโบว์ไม่ได้ เขาจึงไปตามหาโบว์ที่คอนโดของเบ็นซ์ โบว์หายไปจากคอนโด เพราะเผด็จรู้แล้วว่า โบว์กับเบ็นซ์เป็นสาวหน้ากาก รวมทั้งแป๋วด้วย แต่เขายังนิ่งเฉยก่อน ไม่ทำอะไร “คุณอา” แป๋วเปิดประตูเมื่อเผด็จเคาะรัวยังกะตีกลอง

“โบว์อยู่ไหม ไม่ซิ ต้องถามว่า โบว์กลับมารึยัง” แป๋วไม่รู้จะตอบยังไง เผด็จไม่สนใจ ผลักประตูเข้าไปเลย

“ไปตามโบว์มาหาผมด่วน เรามีเรื่องที่ต้องคุยกัน” เบ็นซ์ออกมาจากห้องพอดีกำลังจะเดินลงบันได “ใครมาหนะแป๋ว..คุณอา”

   เบ็นซ์รีบวิ่งลงมา “คุณอามาได้ยังไง แล้วคุณอาหายไปไหนมาหนูเป็นห่วงคุณอามากรู้ไหม” เผด็จไม่สนใจคำถามของเบ็นซ์

“โบว์อยู่ไหน เรียกเค้าออกมาคุยกับผมด่วน” เบ็นซ์พยายามจะให้เผด็จสงบสติอารมณ์ เบ็นซ์บอกแป๋วให้มาพาคุณอาไปนั่งก่อน

“ถ้าเป็นเรื่องที่โบว์เบี้ยวการสอนอันนี้หนูอธิบายได้ เดี๋ยวหนูไปสอนแทนให้เหมือนเดิม คุณอานั่งก่อน คุณอา” เบ็นซ์ตบหน้าเผด็จ

   เผด็จถึงหยุดบ้าได้ชั่วขณะ “มองหน้าหนู มอง” เบ็นซ์โมโหที่แฟนตัวเองกำลังบ้า เธอนั่งลงบนขาทั้งสอง แล้วเอามือจับแก้มหัน

“หนูเป็นแฟนอา ไม่ใช่มัน มีอะไรก็บอกหนูมา เดี๋ยวหนูไปจัดการให้ นั่นมันน้องแฟน” เบ็นซ์โมโหมาก “หายบ้าได้รึยัง”

   เบียร์เดินออกมาจากห้องกำลังจะไปอาบน้ำ เห็นเข้าพอดี “อุ๊ย” แป๋วหันไปบอก

“ไม่ใช่เรื่องของเด็กไป” แล้วเบียร์ก็เดินเข้าห้องน้ำ เบ็นซ์ยังคงนั่งจ้องหน้าแฟนตัวเองอยู่บนขานั่นแหละ สักพักพอเผด็จมีสติ ก็เห็นว่าเบ็นซ์กำลังจ้องหน้าเขาอยู่และมือของเธอทั้งสองจับอยู่ที่แก้ม

“เบ็นซ์ อามาอยู่นี่ได้ยังไง” เผด็จเหมือนไม่รู้สึกตัว ทำอะไรลงไปไม่รู้ “หายบ้าแล้วเหรอ กลิ่นละมุดฟุ้งเลย”

   เมื่อเห็นว่าแฟนตัวเอง พูดจารู้เรื่องแล้ว เบ็นซ์ก็ค่อยๆลงมาจากขา แล้วเอามือจับแก้มที่ตบไปเมื่อกี้ “เจ็บไหม หนูขอโทษ”

“เจ็บ แต่ไม่เป็นไร อาต้องขอโทษ เธอทั้งสองคนด้วยนะที่ไม่มีสติเมื่อกี้” เบ็นซ์ เอาผ้าขนหนูที่ติดตัวมาเช็ดหน้าให้เผด็จ

“แล้วทำไมอาต้องเมามาด้วยแต่เช้า เมื่อคืนไปทำอะไรมา ไปมีเรื่องกับใครมาใช่ไหม เห็นที่ปากมีรอยแผลเหมือนโดนชก”

“นิดหน่อย เรื่องงาน” เผด็จรวบมือโบว์มากำไว้ แล้วก็หอมไปที่มือ “ทีหลังไม่เอาอย่าใจร้อน ใจเย็นๆหนูขอโทษที่ช่วงหลังๆหนูไม่มีเวลาให้อาเลย หนูมีถ่ายแบบตลอด หนูขอโทษนะคนดี แล้วตกลงอามาตามหานังโบว์มันทำไม ถ้าเรื่องสอนพิเศษ เดี๋ยวหนูไปสอนแทนให้ โอเครไหม” แล้วก็หันไปหอมแก้มขวา “เอ้า หนูให้หนึ่งจุ๊บโทษฐานที่ทำให้อาคิดถึงและหายไปนาน พอใจไหม”

   เผด็จพยักหน้า แล้วก็ลุกขึ้น “พวกหนูสองคน ช่วงนี้ระวังตัวเอาไว้บ้างนะ ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกไปไหน อาเป็นห่วง” แล้วเผด็จก็เดินกลับออกไป พอเบ็นซ์ปิดประตู แป๋ววิ่งเข้าไปถาม “เอ๊ย คุณอาเค้าหมายถึงอะไร พูดเหมือนเค้ารู้ว่าเราเป็น..”

“ไม่รู้ดิ ถ้ารู้เขาคงพูดออกมาแล้วหละ เอาเป็นว่า พวกเราเองก็คงต้องทำตามที่คุณอาเค้าบอกจริงๆแล้วหละ”

----- ^^^^^ -----

   สัตยา ตามรอยทั้งสองสาว มาอย่างติดๆ โดยให้ดรัณไปดักแป๋วที่ร้าน เพราะยังไงๆ แป๋วต้องมาโผล่ที่ร้านสักวันแน่ เพราะเธอรักร้านนี้มาก ส่วนเบ็นซ์ สัตยาไปดักเอง เพราะเบ็นซ์รักงานถ่ายแบบมาก และก็เจอจริงๆทั้งสองคน ดรัณได้ปะมือกับแป๋วขณะที่กลับคอนโด “อาจารย์ มาได้ยังไง แล้วรู้ได้ยังไงว่าฉันกลับมาอยู่นี่” แป๋วตกใจมาก กำลังจะเดินเข้าคอนโดอยู่แล้ว ขนคนมาเพียบ

“มันไม่เกินความสามารถของฉันหรอก ถ้าจะหาพวกแก ต้องขอโทษด้วยนะลูกศิษย์ที่รัก ที่ฉันต้องฆ่าพวกแกทิ้ง ตามคำสั่งนาย”

“มันก็คงไม่ง่ายหรอกมั้งอาจารย์” แป๋วใจดีสู้เสือ เพราะรู้ว่าตอนนี้ยังบาดเจ็บอยู่ เธอวิ่งหนีไปอีกทาง เพื่อให้พ้นอาจารย์

   ส่วนสัตยา กับพวกอีกส่วนนึงได้ตามเบ็นซ์ “พวกไหนหนะ ตามเรามาตั้งแต่สตูฯแล้ว” สักพักมอเตอร์ไซด์คันหนึ่ง ก็แกล้ง ขับรถเบียดขับแซงขึ้นไปและปาขวดเบียร์ขวดเล็กไปใส่รถเก๋งเธอ เบ็นซ์โกรธมากที่มาทำรถเธอ ติดกับจนได้ พวกนั้นล่อเธอออกไปยังที่เปลี่ยวเพื่อจัดการได้สะดวกขึ้น พอมาไกลพอสมควรสักพักรถมอเตอร์ไซด์คันนั้นก็จอด เบ็นซ์ก็จอด และก้มลงหยิบปืนในเก๊ะหน้ารถเพื่อมาป้องกันตัว เธอยังไม่ลงจากรถ มองไปรอบๆ มันมีแต่ความเงียบ

   สักพักก็มีก้อนหินจากไหนไม่รู้ปาเข้าไปที่รถเธอเต็มไปหมด เบ็นซ์รีบวิ่งออกมา รถพังยับทั้งคันเพราะก้อนหินปาไปหลายก้อน

“ออกมานะ พวกแกเป็นใคร เก่งจริงก็ออกมาให้เห็นกันซึ่งๆหน้าซิ อย่าหลบ เป็นเต่าในกระดอง”

   สัตยาและพวกเดินออกมานับสิบ เบ็นซ์ยิ้มแบบใจดีสู้เสือ “ออกมากันได้แล้วนะ ไอ้พวกเต่า” สัตยาไม่ชอบประโยคนี้

“อีเบ็นซ์ แกจะมากไปแล้วนะ มาว่าข้าเป็นเต่า” เบ็นซ์ยิ้มและยั่วโมโห สัตยาต่อ

“แล้วจริงไหมหละอาจารย์ ไม่ซิ ไอ้เต่า” สัตยา ไม่รอช้า “จัดการมัน อย่าให้มันมีชีวิตรอดไปได้”

   แล้วพวกนั้นก็รุมกินโต๊ะเบ็นซ์ทันที เบ็นซ์ยิงใส่ไม่นับ ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง แล้วก็ต่อสู้แบบประชิดตัว เธอวิ่งจะไปเอาอาวุธที่อยู่หลังรถ แต่ก็ไม่ทันเพราะสัตยาซัดด้วยระเบิดพังต่อหน้า <บึ้ม> “รถฉัน ไอ้สัตว์” พวกนั้นวิ่งมารุมต่อ บางคนดึงผมดึงเสื้อ ตวัดซ้ายตวัดขวา คนหนึ่งกระโดดถีบเธอกระเด็นหน้าทิ่มดิน ล้มลงไปเต็มๆอีกคนเอาไม้จะมาฟาด เบ็นซ์พลิกตัวเองกลับมา ยันโครมเข้าให้ จังหวะเผลอ อีกคนเอาไม้เบสบอลฟาดไปกลางหลังอย่างแรง จนเธอล้มลงกระอักเลือดออกปากทันที ล้มลงเพราะร่างกายยังไม่แข็งแรง ไม่ไหวแล้ว ร่างกายหมดเรี่ยวแรง อีกคนวิ่งมากระทืบเต็มๆที่หน้าท้อง อีกคนดึงคอเสื้อเธอขึ้นมา เอาฝ่ามือกระทุ้งไปที่คอหอย 2 ที แล้วก็ตบหน้าจนกระเด็นลงไปนอนอีกครั้ง ในใจเธอคิดว่า วันนี้เธอคงตายแน่

   อีกคนวิ่งมาซ้ำ จับเบ็นซ์ขึ้นมา ตบหน้าซ้ายขวา ซ้ายขวา หยิบมีดขึ้นมา เบ็นซ์รวบรวมเรี่ยวแรงที่คิดว่ามีครั้งสุดท้าย ผลักคนนั้นออกไป โดนฟันไปที่แขนขวา แผลไม่ลึกมากยืนจะล้มไม่ล้มแหล่ อีกคนมาจากไหนไม่รู้ กระโดดถีบเธอเข้าไปที่หน้าอก

   เบ็นซ์กระเด็นลอยไปไกลพอประมาณ เลือดท่วมร่างทั้งตัวทั้งปาก ก่อนจะหมดลม ในใจเธอคิดถึงอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นก็คือเผด็จ อีกคนวิ่งมากระทืบซ้ำกลางหน้าท้อง และเตะสีข้างแบบไม่นับ

“คุณอาขาหนูขอลาก่อน ถ้าชาติหน้ามีจริง หนูขอเกิดมารักคุณอาอีกนะคะ หนูรักอา” แล้วเบ็นซ์ก็หมดลมแน่นิ่ง มือและขาแบออก

   เผด็จกำลังนั่งทำงาน วางแผนที่จัดการกับแทนไท อยู่ดีๆรูปของเบ็นซ์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานเขาในห้องนอน ก็ตกลงสู่พื้นแตกกระจาย เขาก้มลงไปเก็บ ขณะเก็บเหมือนเย็นวาบไปทั้งตัว พักนึงเขาก็หงายรูปมาดู “เบ็นซ์ เกิดอะไรขึ้นกับเธอทำไมใจคอไม่ดีเลย”

   ท่ามกลางความเงียบสงบ เสียงมอเตอร์ไซด์และเสียงกระสุนลึกลับรัวมาจากไหนไม่รู้ พวกนั้นไม่ทันตั้งตัวล้มตายทันทีเกือบหมดเหลือไม่ถึง 3 คน มอเตอร์ไซด์กระโดดลอยข้ามเบ็นซ์ไปและทิ้งล้อลงพื้นกลับรถแล้วจอด ชายร่างสูงใหญ่ในชุดดำ ใช่เผด็จไหม

   ต้นกล้านั่นเอง มุ่งตรงไปยังชาย 3 คนที่เหลือ จากนั้นก็ต่อสู้แบบประชิดตัว สัตยางงมาก ว่าใครวะมาช่วย จึงยิงปืนไปช่วย ต้นกล้าใช้คนหนึ่งเป็นโล่ห์กันและหาที่กำบัง เขาโยนระเบิดไปเพื่อกันตัวเอง จะเข้าไปเอาร่างเบ็นซ์ สัตยาหลบแทบไม่ทัน พอได้จังหวะ เขารีบวิ่งไปอุ้มเบ็นซ์ จังหวะนั้นสัตยายิงออกไป โดนขาบนซ้ายเต็มๆ เขาล้มลง เอาตัวบังเบ็นซ์ไว้ แล้วยิงปืนสู้มั่วๆไปก่อน กระสุนหมด “เสร็จกูหละมึง ไอ้อ่อนเอ๊ย มึง 2 คน เข้าไปบี้แม่งเลย” สองคนที่เหลือเดินเข้าไปใกล้ๆนึกว่าต้นกล้าตาย เพราะเห็นนิ่ง ต้นกล้ารีบ ดึงขาคนนึงอย่างไว้ พอล้มลงอีกคนจะยิง ต้นกล้าปามีดสั้นไปปักคอหอย คนที่ล้มลงหยิบมีดจากเอวตัวเองขึ้นมาฟันโดนไหล่ขวาต้นกล้า เขาหงายตัวหลบ จึงโดนไม่ลึกมาก แต่ก็เจ็บ กลิ้งตัวหลบ คนที่ล้มลงลุกขึ้นได้จังหวะจะไปฟันต่อ ต้นกล้ากลิ้งหลบไปอีกทางเพื่อให้ตัวห่างเบ็นซ์ เจ้านั่นวิ่งตามฟันซ้ายฟันขวา ต้นกล้าหยิบก้อนหินแถวนั้นได้ปาไปโดนหัว เซไปเลย ต้นกล้าลุกขึ้นมา เตะซ้ายเตะขวา สุดท้ายปิด Job สะบัดปลายรองเท้าขวา มีดเล็กเด้งขึ้นมา แล้วก็เตะไปที่คอ มีดโดนคอหอยคนร้ายตายสนิท

   สัตยาวิ่งตามมายิง ต้นกล้าจะวิ่งไปที่มอเตอร์ไซด์ สัตยาตัดกำลัง เล็งไปที่ถังน้ำมัน ยิง <บึ้ม> เขากระโดดหลบแทบไม่ทัน ตัวลอยลงไปกับพื้นจุกเล็กน้อย สัตยา วิ่งเข้าไปเตะซ้ำ ต้นกล้ากระเด็นไปอีกทาง แต่ด้วยฝึกมาอย่างดี จึงมีความอึด เขารวบรวมแรงที่พอมี จับขาสัตยาและเตะตัดขา สัตยาล้มลง เขากระโดดเข้าไปต่อยหน้าสัตยาไม่ยั้งเท่าที่แรงเหลืออยู่จนสัตยานิ่ง เพราะต้นกล้าหมัดหนัก เมื่อดูว่าสัตยาจะไม่ลุกขึ้นมากวนใจเขาอีก จากนั้นเขาจึงรีบไปดูเบ็นซ์หญิงสาวที่เขารัก เป็นเช่นไรบ้าง จับชีพจร ฟังหัวใจ ยังเต้นอยู่จึงรีบอุ้มเบ็นซ์ขึ้นมา มองซ้ายมองขวา รถตัวเองก็พังไปแล้ว รถจิ๊บพวกมันนี่แหละ จึงอุ้มเบ็นซ์ไปวางที่เบาะแล้วขับรถออกไปเลย

   ทางแป๋ว เมื่อวิ่งหลบออกมายังสวนสาธารณะ ยังไม่ทันตั้งตัวคนหนึ่งก็กระโดดถีบมาจากข้างหลัง แป๋วกระเด็นหน้าทิ่ม อีกคนตามถืออีดาบฟันลงไปที่แขน แป๋วหลบทันในครั้งแรก หมุนตัวกลิ้งหลบ ได้สัก 5 รอบ รอบสุดท้ายพลาด โดนฟันที่แขนขวาถากๆแต่ก็ได้แผล แป๋วเตะสวนขึ้นไปที่สีข้างกระเด็นออกไป แล้วลุกขึ้นมา อีกคนมาทางด้านหลัง เอาไม้หน้า 3 ฟาดไปที่ไหล่ซ้ายกระเด็นไปอีก ชายคนหนึ่งรับไว้โน้มคอตีเข่าเธอ แป๋วเอามือบังไว้ แต่ด้วยร่างกายยังไม่แข็งแรง ทนได้ไม่นาน ชายคนนั้นตบป้องหูแป๋วทันที แล้วถีบเธอออกไป กระเด็นไปโดนต้นไม้อย่างแรง แป๋วทรุดตัวลงคุกเข่าทันที อีกคนวิ่งมาเตะซ้ำที่ปลายคาง แป๋วเอามือกันหน้าตัวเองไว้ทัน แต่ก็ทนได้ไม่นาน อีกคนมาจากไหนไม่รู้เตะเข้าอย่างแรงที่ไหล่ซ้าย ซ้ำแผลเก่า กระเด็นไปทางขวา ลงไปนอนคว่ำหน้ากับพื้น แผลเก่าที่ขาเริ่มปริ เลือดไหลออกมา ชายอีกคน เอาเท้ามาเหยียบแผลที่เลือดไหลซึม แป๋วร้องออกมาเพราะเจ็บ “โอ๊ย” เธอร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยเจอมา น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

   แป๋วดึงเข็มขัดที่ติดอยู่กับตัวเธอ ที่พอจะเป็นอาวุธได้สิ่งเดียวในตอนนี้ที่เหลืออยู่ในตัว ตวัดไปที่คอของคนร้ายดึงลงมาแล้วต่อยไปที่หน้า เท่าที่แรงมีอยู่ แล้วก็ค่อยๆดึงตัวขึ้นมา อีกคนมาจากไหนไม่รู้เตะสวนไปที่หน้าอก แป๋วหงายลงกับพื้น ขาก็เจ็บ อีกคนวิ่งเข้ามาเอาอีดาบฟันลงไปอย่างไว แป๋วหมุนตัวหลบแทบไม่ทัน เตะตัดขาให้มันล้มลง แล้วใช้มีดมันนั่นแหละฆ่าตัวมันเอง ตอนนี้ก็ได้อาวุธมา 1 อัน แต่คนล้อมเป็นสิบ เธอค่อยๆลุก วิ่งไปอีกหน่อย มือซ้ายถืออีดาบ มือขวาถือเข็มขัด วิ่งกระเพกๆหนี

   ดรัณใช้แส้ของเธอตวัดไปที่คอของแป๋ว จึงทำให้แป๋วต้องปล่อยอาวุธทั้งสองลง เพื่อมาจับแส้ที่รัดคอเธอ ไม่งั้นหายใจไม่ออก..ตาย ดรัณลากแป๋วมาตามทางลานหญ้าและบางครั้งก็เป็นทางปูน ไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้น < เปรี้ยง > โดนแส้ขาด แป๋วปลอดภัยในเบื้องต้น ชายชุดดำเอาผ้าปิดหน้าปรากฏกายขึ้น แล้วก็ต่อสู้กับเหล่าร้าย ด้วยมือเปล่า มีดบ้างและเครื่องทุ่นแรงเท่าที่จะหาได้

   ไม่นานพวกนั้นก็ล้มตายไปทีละคน จนเหลือดรัณ คนเดียว ชายชุดดำค่อยๆเดินมาดูแป๋ว แป๋วบอบช้ำมาก ทั้งแผลเก่าและแผลใหม่ “แกเป็นใครวะ แน่จริงอย่าปิดหน้าซิ เผยตัวจริงออกมา” ดรัณถ่วงเวลา เพื่อให้ลูกน้องอีกชุดมาสมทบ

“แกอย่ารู้เลย เอาเป็นว่า ตอนนี้ฉันไม่ว่าง ขอตัวไปก่อนก็แล้วกัน มีธุระ จะรีบไปขึ้นเครื่อง” ชายชุดดำไม่หลงกล

“คิดว่าจะรอดเหรอ” ดรัณยิงปืนไปที่ชายชุดดำ เขาใช้มีดเล็กปาไปโดนมือดรัณปืนหล่น แล้วรีบอุ้มแป๋วออกไปจากตรงนั้นทันที

   ทั้งสองสาว หนีแทบไม่รอดเพราะยังบาดเจ็บกันอยู่ แผลยังไม่หายดี ทางแป๋ว สนก็ได้มาช่วยไว้ทัน เพราะเขาได้แอบมาหาแป๋วที่ร้านเจอแต่ลูกจ้างจึงบอกเอาไว้ว่า ถ้าแป๋วมาให้โทรบอกเขาด้วย ที่ทำเช่นนั้นเพราะสนเป็นห่วงเมีย เขาจึงสามารถมาช่วยได้ทันเวลา

<<<<< ----- >>>>>

   เมื่อต้นกล้าเสี่ยงตายมาช่วยเบ็นซ์ให้รอดตายจากการตามฆ่าของสัตยา จึงทำให้ตัวเขาบาดเจ็บไปด้วย และเกือบจะตาย ต้นกล้าพาเบ็นซ์มาหลบที่บ้านเก่าแห่งหนึ่งนอกเมืองแถวๆราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านของเขาเองที่ห่างไกลพอสมควร เบ็นซ์หมดสติไปนานมาก เพราะร่างกายบอบช้ำค่อนข้างมาก ตัวเขาก็เช่นกัน ไม่ได้ต่างจากเบ็นซ์สักเท่าใด นอกจากจะดูแลเบ็นซ์แล้ว ต้องดูแลตัวเองด้วย

   ต้นกล้ามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนชุดของเธอออก เพื่อทำแผลเบื้องต้นและทำความสะอาดร่างกายให้แผลสะอาด ตัดสินใจเปลี่ยนชุดโดยไม่ได้รับอนุญาตเจ้าตัวก่อนทันที เมื่อร่างกายเบ็นซ์เปลือยเขาก็ได้เอาผ้าห่มมาปิดตัวไว้ให้ แล้วค่อยๆเอาผ้าขนหนูทำความสะอาดร่างกายที่ละส่วนตั้งแต่หน้า ลำตัว แขนและขา แผลตรงไหนที่พอจะหายาใส่ให้ได้ก็ทำไปก่อน ฉีดยาแก้อักเสบและยาบำรุงให้ พอคิดว่าเบื้องต้นสะอาดพอ เขาก็กางมุ้งให้ จากนั้นเขาก็ไปอาบน้ำ ทั้งๆที่เขาก็แย่ เพราะยามีแค่ชุดเดียว เขาฉีดให้เบ็นซ์ไปแล้วหลังจากอาบน้ำเสร็จเขาก็เอาผ้าก๊อดพันแผลที่ขาเขาไว้ก่อน แล้วกินยาแก้ปวดแทน แล้วก็นอนกอดเบ็นซ์หลับไปทันที

///// +++++ /////

   ทางแป๋ว สนพามาที่บ้านเก่าของเขาสมัยที่ยังเป็นตำรวจ แถวๆพระประแดง แป๋วยังพอมีสติ รู้ว่าคนที่มาช่วยเธอคือใคร ถึงจะปิดหน้าก็ตาม “พี่สนๆ” แป๋วละเมอถึงชื่อแฟนตลอดเวลา เหมือนไข้จะขึ้นสูง สนรีบเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตัวให้ เช่นกัน ต้องเปลี่ยนชุดออกทันทีไม่งั้นทำความสะอาดแผลไม่ได้ สนจึงต้องถอดชุดเดิมของแป๋วออกเองโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อแป๋วเปลือย เขาจึงรีบทำความสะอาดตัวเธอให้เร็วที่สุด แล้วหาผ้าห่มมาคลุมตัวไว้คล้ายกับเบ็นซ์ สนเอามือปาดผมที่มาบดบังใบหน้าแป๋ว แล้วถอนหายใจ จากนั้นก็ไปอาบน้ำ สักพักเขาก็ออกมานั่งสูบบุหรี่ นึกถึงชีวิตตัวเองที่เป็นสายลับ มองไปที่แป๋วชีวิตที่เป็นนางสิงห์ดำ

“มันจะเป็นแบบนี้อีกนานไหมกับชีวิตที่ต้องหลบๆซ่อนๆ” เมื่อคิดไม่ตกเขาดับบุหรี่และไปนอนกอดเมียเพื่อให้ความอบอุ่นเธอ

+++++ ****** +++++

   ที่บาร์ของแทนไท วันนี้แขกก็ยังคงเยอะไม่ต่างจากทุกๆวันเพราะลูกค้าของหลินที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย เผด็จปลอมตัวมาเป็นนักเที่ยวอีก เปลี่ยนหน้ามาตลอด คราวนี้เขาแอบขึ้นไปข้างบนเพื่อจะเอาที่ดักฟังไปแอบติด จึงนัดกับป๋องว่าร้องเพลงเสร็จให้ขึ้นไป

“เรียบร้อยไหมป๋อง” เผด็จเอาไปติดไว้ได้สองห้องคือ ห้องทำงานของแทนไท และห้องของผู้จัดการ

“เรียบร้อย เฮีย ของผมขึ้นไปชั้นสาม แอบขึ้นไปถ่ายเอกสารบางอย่างมาได้บ้างไม่มาก และติดที่ดักฟังไว้ที่เพดานห้องที่คิดว่าน่าจะใช้ซื้อขายกัน เพราะดูแล้ว มีไม่กี่ห้อง” แล้วตัวเองก็รีบลงไปข้างล่าง บอกให้ป๋อง ติดเพิ่มและรีบกลับลงไป เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย จะให้หลินดึงความสนใจแทนไทไว้สักพักก่อน ป๋องพยักหน้า เผด็จตบไหล่น้องชาย แล้วลงไปทันที

   พอเผด็จลงมาก็ไปนั่งปรากฏกายให้เมียเห็นว่า มาแล้วนะ เริ่มแผนได้เลยและส่งสัญญานให้ถ่วงเวลาแทนไททันที เนตรพอเห็นจึงร้องเพลงเหมือนจีบแขกเพื่อแหย่ให้แทนไทไม่พอใจ จะได้ไม่สนใจป๋อง

< หลงรักเธอ - พรพิมล > https://www.youtube.com/watch?v=EaiwU4JybXg

   ได้ผล แทนไท ทำท่าไม่พอใจที่หลินส่งสายตาให้คนอื่นที่ไม่ใช่เขา จากนั้นไม่กี่นาที ป๋องก็ลงมา ส่งสัญญาณว่า Ok เผด็จก็เปิดเครื่องรับสัญญานในโทรศัพท์ ภาพชัดแจ๋ว ก็ส่งสัญญานกลับว่า Ok เช่นกัน แล้วเผด็จก็ออกไปเต้นหน้าฟอร์ หยอกล้อเมีย เรียกหลินมารับตังที่อยู่ในพวงมาลัย ร้องเพลงเพราะจังหวะที่ก้มหัวลงมารับ ก็หอมแก้มเมีย เนตรอมยิ้มแล้วก็ลุกขึ้นไปรับจากคนอื่นอีก

----- ^^^^^ -----

   วันใหม่ ประมาณ 10 โมง แป๋วค่อยๆรู้สึกตัว รู้สึกว่าตัวเองมันโหว่งๆยังไงไม่รู้จึงเปิดผ้าห่มดู ต้องตกใจที่เห็นว่า ตัวเองเปลือยอยู่ จึงมองไปรอบๆว่าตัวเองอยู่ที่ไหน สักพักพอสายตาเริ่มเป็นปกติ ก็เห็นภาพของสนห้อยอยู่ที่ฝาผนัง จึงค่อยๆลุกขึ้นมาเอาผ้าห่มห่อตัวแล้วเดินเขยิบมาช้าๆจากห้องนอน มองออกไปเห็นสนหันกำลังจัดโต๊ะอาหาร “พี่สน” สนหันมา “อ้าวตื่นแล้วเหรอ”

   สนเดินไปหา พอถึงตัวก็อุ้มแป๋วขึ้นไปไว้ที่เตียงทันที แป๋วก็นิ่งไม่ว่าอะไร “เดินลงมาทำไม ขายังเจ็บอยู่เลย ดื้อนักนะเมียพี่เนี่ย”แล้วสนก็เอามือขยี้จมูกแป๋วเล่น “บอกหนูมาก่อนใครเป็นคนถอดชุดหนูออก” สนไม่ตอบ ยิ้มให้อย่างเดียว แป๋วหน้าแดงขึ้นทันที

“นี่อย่าบอกนะว่าเป็น..” สนยิ้มอีก แล้วไม่พูด แป๋วเอามือทุบไหล่สามี “ใครอนุญาตให้ถอดของหนูโดยพละการไม่ทราบ”

   แป๋วแกล้งทำงอนใส่สามี “อ้าวก็หนูเจ็บออกขนาดนั้น ถ้าพี่ไม่ถอดชุดแล้วรีบทำความสะอาดล้างแผลให้ มันจะแย่นา”

“ก็เห็นของหนูหมดแล้วซิ อีตาบ้า หนูก็อายเป็นนะ ถึงจะเป็นเมียก็เถอะ” แป๋วเอามือทุบไหล่สนอีก สนจับมือเมียที่กำลังทุบ

“ถ้าพี่ไม่เปลี่ยนไม่ถอดชุดหนูออก แล้วหนูจะมีแรงมาทุบพี่แบบนี้เหรอ เมียจ๋า” แป๋วเขินหน้าแดงเลย “บ้า แล้วชุดหนูหละ”

“นั่นไงกองอยู่นั่นไง ขาดไม่มีชิ้นดี เปื้อนเลือดขนาดนั้นถ้าพี่ไม่ตัดสินใจเอาออก หนูเป็นปอดบวมตายกันพอดี” สนหอมมือเมีย

   แล้วก็เปิดทีวีดูข่าว มีข่าวของเบ็นซ์ ออกด้วยมาว่า “พบรถสปอตคันหนึ่ง เกิดอุบัติเหตุคล้ายหลับในชนกับเสาไฟฟ้าไฟลุกท่วมไม่มีชิ้นดี ข้างในรถพบศพดำเป็นตอตะโก 1 ศพคาพวงมาลัย ในป่าแถวสามพราน ผลการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น รถสปอตดังกล่าวเป็นของนางแบบชื่อคนดังคนหนึ่งที่ชื่อ น.ส.มณีบุษราคัม เพชรรัตน์”

   แล้วมีภาพของเบ็นซ์ขึ้น “เหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษ สาเหตุเบื้องต้นของอุบัติเหตุในครั้งนี้อาจสืบเนื่องมาจากขับรถเร็วและหลับในรายละเอียดของข่าวจะแจ้งให้ทราบภายหลัง” แป๋วเมื่อได้ยินข่าว เต็มสองหูถึงกับตะลึง

“ไอ้เบ็นซ์ ไม่จริงๆ ต้องไม่ใช่ ไอ้เบ็นซ์ พี่สน บอกหนูซิว่าไม่ใช่มัน” แป๋วช๊อกกับข่าวที่ได้เห็น เอามือชี้ไปที่ทีวี สนจึงปิดทีวี

“ใจเย็นๆแป๋ว ใจเย็นๆ เดี๋ยวพี่จะลองสืบให้นะ ใจเย็นๆ ตอนนี้หนูต้องพักรักษาตัวนะอย่าพึ่งคิดมากนะเชื่อพี่”

   แล้วแป๋วก็กอดสน ร้องไห้ออกมาไม่หยุด หลายคนเมื่อเห็นข่าวนี้ก็ถึงกับช๊อกวงการนางแบบกันไปเลย ไม่ว่าทีมอัธวุฒิ เผด็จ เพ็ญทีมแตงโม และเกศ โบว์ ถึงกับนั่งซึม ข่าวจะจริงหรือเท็จไม่รู้ แต่เธอก็ออกไปสืบข่าวไม่ได้ จึงต้องคิดว่าพี่สาวตายไปแล้วจริงๆ

----- ^^^^^ -----

  หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป หลังจากที่ตื่นมาขึ้นในสภาพที่ร่างกายบอบช้ำมาก เห็นต้นกล้านอนหมดสติอยู่ข้างๆ ตัวเองก็เปลือยเมื่อเปิดผ้าห่มขึ้นมา เธอค่อยๆลุกขึ้นโดยใช้ผ้าห่มผืนนั้นห่อตัวเองไว้ แล้วมาดูต้นกล้า ตัวเขาร้อนมากจึงหาผ้าขนหนูมาเช็ดให้และดูแลเขาเท่าที่จะทำได้ เธอมองไปรอบๆต้นกล้าเตรียมการณ์ไว้อย่างดีรอบคอบมาก มีอาหารการกินอย่างสมบูรณ์ ไม่อดตายแน่

   อีกสองอาทิตย์ต่อมา เมื่อเบ็นซ์เริ่มหายดี เบ็นซ์ละอายใจอีกเป็นครั้งที่สอง ที่ทำผิดกับต้นกล้าครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งๆที่เธอก็รักเขา เพราะว่าเธอคือนักฆ่า เธอจึงต้องทำแบบนั้น เนื่องจากตลอดเวลาสามอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาไม่มียาที่จะรักษาและใส่แผลเลย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเขาเอาไปรักษาเบ็นซ์คนเดียว ยามีพอสำหรับคนคนเดียว เหมือนแผลของเขาจะติดเชื้อเพราะเสียเลือดไปเยอะมาก ยารักษาก็ไม่มี อาการของต้นกล้าไม่ดีขึ้นเลย เบ็นซ์ร้องไห้กำมือต้นกล้าไว้แน่น ท่าทางไม่รอดแน่ เพราะเขาปากแห้งหายใจติดขัด

  ก่อนที่ต้นกล้าจะหมดลม เบ็นซ์นึกว่า ต้นกล้าตาย จึงได้สารภาพความในใจให้ต้นกล้าฟังจนหมดกับความรู้สึกจากในก้นบึ้งลึกๆ

“พี่ต้นหนูขอโทษนะที่เมื่อหลายปีก่อนหนูทำร้ายจิตใจพี่ หนูไม่ได้เจตนา หนูแค่ไม่อยากให้พี่มารับรู้ว่าหนูเป็นใคร หนูเป็นนางโจร เป็นคนไม่ดี หนูรักพี่มากนะพี่ต้น หนูไม่อยากที่จะจากพี่ไปเลย แต่หนูก็ต้องทำ เพราะสถานการณ์มันบังคับ พี่ยกโทษให้หนูนะ”

   เบ็นซ์ร้องร่ำไห้ไม่หยุด “หนูทำทุกอย่างเพื่อให้พี่เกลียดหนู แต่แล้วหนูก็ต้องมาเจ็บเสียเอง พี่ต้น หนูรักพี่นะมากด้วย หนูอยู่กับพี่หนูมีความสุขมากจริงๆ ถ้าย้อนเวลากลับมาได้ หนูจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว หนูจะยอมรับกับความเป็นจริงพี่ต้น หนูขอโทษ”

   สักพัก ต้นกล้าค่อยๆขยับมือมาจับแก้มแบ็นซ์ “จริงนะ” ต้นกล้าพูดเบาๆ เบ็นซ์ดีใจมากที่ได้คนรักกลับคืนมา “พี่ต้น” เบ็นซ์ลุกขึ้นมากอดต้นกล้าไว้แน่นอีกครั้ง หอมแก้มซ้ายขวา เท่าที่จะทำได้ ต้นกล้าค่อยๆเอื้อมมือมาปาดน้ำตาที่หน้าให้

“อย่าร้องไห้ซิ คนดีของพี่” แล้วมือของต้นกล้าก็เหมือนไม่มีแรง หล่นลงมาต่อหน้าเบ็นซ์อีกครั้ง

“พี่ต้น” คราวนี้นิ่งไปเลย เธอเขย่าตัวต้นกล้า เขย่ายังไงก็ไม่ตื่น คราวนี้เธอคิดว่าต้นกล้าตายจริงๆเลยนอนกอดร่างของเขาอยู่ตรงนั้นตอนนี้มันก็เลยกลายเป็นความทรงจำสีจางไปแล้วสำหรับเบ็นซ์กับต้นกล้า

///// +++++ /////

   ช่วง 10 โมง เผด็จโทรสั่งให้กันตภณรีบหาตำแหน่งพิกัดของโบว์และแป๋วให้ได้ เพราะกำลังอยู่ในอันตราย เขาเสียเบ็นซ์ไปคนนึงแล้ว ไม่อยากให้โบว์กับแป๋วเป็นอะไรอีก “ไอ้ภณแกทำยังไงก็ได้หาโบว์กับแป๋วให้เจอ เข้าใจไหม เราต้องหาให้เจอก่อนพวกป๋อง”

“แล้วนายจะให้ผมทำยังไง หายังไง เครื่องรับส่งอะไรก็ไม่มี สัญญานโทรศัพท์ อะไรก็ไม่มี”

“ไม่รู้หละ มันเป็นหน้าที่ของแก ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก ฉันให้เวลาแกอาทิตย์เดียว”

>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 33 .. “ ไม่มีคำตอบจากหัวใจ ”

ตอนที่ 32 .. “ ความทรงจำสีจาง ”

นิยาย แนว อาชญากรรม และนักสืบ (Detective and Crime Novel) / สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.