บทที่ 362 เพิ่มเลเวลอย่างรวดเร็ว

ลู่หยางได้พาทุกคนมายังซากปรักหักพังของสปิริตอะคาเดมี่ ซึ่งในตอนนี้ประตูสีดำที่เคยสง่างามถูกพังทลายจนกลายเป็นเพียงแค่เศษซาก และมันก็พอจะมีเค้าโครงเดิมให้เห็นเพียงแค่ลาง ๆ เท่านั้น

บริเวณท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำและมีนกอีแร้งกลายพันธุ์บินผ่านท้องฟ้า มันจึงทำให้พื้นที่บริเวณนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับฉากในหนังสยองขวัญ

แอ๊ด… เสียงประตูร้องคำรามจนทำให้มู่หยูตกใจซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของลู่หยาง

“พี่ชาย ที่นี่มันน่ากลัวมากเลย” มู่หยูกล่าว

ลู่หยางลูบหัวเด็กสาวเบา ๆ พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า

“พี่อยู่นี่ไม่ต้องกลัว พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ”

หลังเดินผ่านประตูพวกเขาก็มาถึงลานกว้างที่มีแมงมุมยักษ์เดินไปมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน แล้วตัวที่อยู่ห่างจากพวกเขามากที่สุดมันก็ห่างไปเพียงแค่ประมาณ 40 เมตรเท่านั้น

แมงมุมโบราณ

เลเวล 60

พลังชีวิต 10,000/10,000

แมงมุมโบราณมีความสูงเทียบเท่ากับมนุษย์ โดยมันมีอาวุธเป็นคมเขี้ยวอันแหลมคมและขาคู่หน้าที่มีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก

“อี๋ น่าขยะแขยง” ฮั่นอิ่งพูดพร้อมกับขนลุกและถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงลุย ๆ แต่ภายในใจเธอก็มีความกลัวแมงมุมอยู่บ้าง

“ทำไมแมงมุมพวกนี้มันมีพลังชีวิตน้อยจังครับ?” ฮั่นเฟยถาม

“ใช่ พวกมันเลเวลตั้ง 60 แต่มีพลังชีวิตแค่หมื่นเดียวเอง ความจริงมันควรจะมีเป็นแสนไม่ใช่เหรอครับ?” เสี่ยวเหลียงถาม

“นี่แหละคือความพิเศษของมอนสเตอร์ที่นี่ สาเหตุที่พวกมันมีพลังชีวิตน้อยเพราะพวกมันมีพลังป้องกันสูงมาก เท่าที่ฉันหาข้อมูลมาพวกมันมีพลังป้องกันกายภาพกับพลังป้องกันเวทมนตร์อยู่ที่ประมาณ 6,000 หน่วย” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“โอ้โห! ถ้าพวกมันถึกขนาดนี้แล้วพวกเราจะฆ่ามันได้ยังไง พลังโจมตีของพวกเรายังไม่เกินพลังป้องกันของพวกมันด้วยซ้ำ” ฮั่นเฟยกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาเกาหัว

“ตอนนี้พี่มีน้ำยาที่จะช่วยลดพลังป้องกันเวทมนตร์ของพวกมันลงได้ 30% ส่วนตัวพี่เองก็มีอุปกรณ์ที่ช่วยเจาะเกราะเวทได้ 45% เหมือนกัน ดังนั้นพลังป้องกันเวทของพวกมันจึงแทบจะไม่มีผลกับพี่เลย” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลังจากหักลบการเจาะเกราะเวทของลู่หยางออกไปแล้ว พลังป้องกันเวทของพวกแมงมุมก็จะเหลืออยู่เพียงแค่ประมาณ 1,600 หน่วยเท่านั้น ขณะเดียวกันตัวลู่หยางก็มีพลังโจมตีเวทมนตร์อยู่มากกว่า 2,800 หน่วย ซึ่งมันก็หมายความว่าสกิลไฟร์วอลล์ของเขาสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่า 1,700 หน่วยต่อวินาที

“แบบนี้พวกเราก็สามารถอยู่เก็บเลเวลที่นี่ได้ใช่ไหมครับ?” ฮั่นเฟยกล่าวอย่างดีใจ

“ใช่ การเก็บเลเวลที่นี่จะทำให้ทุกคนเพิ่มเลเวลกันได้อย่างรวดเร็ว เอาล่ะทุกคนตามพี่มาทางนี้ เดี๋ยวพี่จะพาพวกเธอไปซ่อนตัว หลังจากนั้นทุกคนก็นั่งรอรับค่าประสบการณ์ไปก็พอ” ลู่หยางกล่าว

พวกฮั่นอิ่งพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามลู่หยางเข้าไปในซากสถาบันเวทมนตร์

สปิริตอะคาเดมี่มีพื้นที่กว้างขวางมากและภายในพื้นที่แห่งนี้ก็ไม่ได้มีเพียงแค่ห้องทดลอง แต่ยังมีตึกขนาดใหญ่อยู่อีกมากกว่า 20 ตึกและมันก็ยังมีสนามประลองของสัตว์ขนาดใหญ่อีก 3 แห่งด้วย

สนามประลองเหล่านี้ใช้สำหรับการทดสอบความแข็งแกร่งของพวกสัตว์ประหลาดโดยเฉพาะ แล้วตามเนื้อเรื่องของเกมสนามประลองเหล่านี้ก็เคยเป็นแหล่งรายได้สำคัญของสปิริตอะคาเดมี่ เพราะทุกครั้งที่มีการทดสอบพวกเขามักจะเชิญขุนนางและบุคคลสำคัญจากอาณาจักรต่าง ๆ เข้ามารับชมการประลองของพวกสัตว์ประหลาดด้วย

ทางขวาสุดเป็นสนามประลองที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด โดยมันเป็นสนามที่มีพื้นที่กว้างกว่า 20,000 ตารางเมตร มีความสูงขึ้นไปมากกว่า 50 เมตรทำให้สามารถรองรับผู้ชมได้พร้อมกันถึง 90,000 คน

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันพวกมันก็เป็นเพียงแค่ซากปรักหักพังเท่านั้น มีเพียงแค่เค้าโครงดั้งเดิมที่หลงเหลืออยู่บ้างที่แสดงถึงความงดงามที่เคยมีอยู่เมื่อยามอดีต

ลู่หยางทำการสังหารพวกแมงมุมไประหว่างทางจนกระทั่งได้พาทุกคนมาใต้สนามประลองอย่างคุ้นเคย

หลังจากที่เขาได้มองช่องโหว่ป้ายเพดานสนามประลองที่สูงขึ้นไป 20 เมตร มันก็ทำให้เขาอดที่จะนึกถึงความทรงจำเมื่อชาติก่อนขึ้นมาไม่ได้

ในเวลานั้นเขาได้กลายเป็นจอมเวทย์เลเวล 100 และมักจะพาลูกน้องมาที่นี่เพื่อเก็บเลเวลอยู่เป็นประจำ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นมันก็ทำให้เขาอดที่จะเผยรอยยิ้มขึ้นมาไม่ได้

“ทุกคนกระโดดขึ้นไปอยู่บนนั้น พวกแมงมุมมันก็น่าจะโจมตีทุกคนไม่ได้แล้ว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งมีดเอสเคพเดจเจอร์ไปให้กับฮั่นอิ่ง

“ได้ค่ะ” ฮั่นอิ่งพยักหน้าก่อนที่เธอจะเทเลพอร์ตขึ้นไปอยู่ในช่องของซากปรักหักพังทางด้านบน จากนั้นเธอก็โยนมีดลงมาให้มู่หยูใช้งานต่อไป

หลังจากทุกคนขึ้นไปทางด้านบนแล้วลู่หยางก็เก็บมีดเอสเคพเดจเจอร์กลับมา จากนั้นเขาก็วิ่งกลับไปยังบริเวณลานกว้างพร้อมกับท่องคาถาปล่อยเมเทโออิมแพค 6 ลูกออกไป 6 ทิศทางรอบตัว

-700,...

ฮี้!

แมงมุมกว่า 3,000 ตัวต่างก็จับจ้องมองไปยังลู่หยางพร้อม ๆ กัน จากนั้นพวกมันก็ใช้ขาที่มีความหนามากกว่าแขนมนุษย์ในการวิ่งเข้าใส่นักเวทหนุ่มอย่างรวดเร็ว

แมงมุมโบราณมีพลังโจมตีอยู่มากกว่า 5,000 หน่วยทำให้การพลาดโดนโจมตีแม้แต่ครั้งเดียวก็อาจจะทำให้เขาเสียชีวิตลงไปได้เลย ลู่หยางจึงทำการเปิดใช้งานสกิลสคอร์ชิ่งสปีดเพื่อออกวิ่งตรงไปยังสนามประลอง จากนั้นเขาก็ทำการโยนมีดเอสเคพเดจเจอร์ขึ้นไปยังช่องที่พวกฮั่นอิ่งนั่งรอกันอยู่ก่อนแล้ว

ต่อมาชายหนุ่มก็ร่ายคาถาสร้างไฟร์วอลล์ขึ้นมา ซึ่งกว่าที่พวกแมงมุมจะวิ่งมาถึงพื้นที่ในรัศมีก็ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นทะเลเพลิง

ไม่นานแมงมุมตัวแรกก็วิ่งมาถึง

-1

แม้จะมีเอฟเฟกต์เจาะเกราะเวท 45% แต่พลังป้องกันเวทของแมงมุมพวกนี้ก็ยังคงเกินกว่าพลังโจมตีของเขาในปัจจุบันอยู่ดี ดังนั้นความเสียหายของลู่หยางจึงแสดงขึ้นมาเพียงแค่ครั้งละ 1 หน่วยเท่านั้น

อย่างไรก็ตามลู่หยางก็ยังคงนั่งรออยู่เฉย ๆ อย่างไม่รีบร้อน จนกระทั่งในพื้นที่รัศมี 30 เมตรเต็มไปด้วยแมงมุมโบราณ เขาจึงหยิบน้ำยาเอคโคออฟเมจิกเพื่อขว้างลงไป

เพล้ง!

เสียงขวดแตกกระจายพร้อมกับทำให้แมงมุมทั้งหมดในรัศมี 30 เมตรถูกย้อมด้วยน้ำยาจนกลายเป็นสีม่วงเข้ม

-1,700

-1,700

…

ความเสียหายเป็นจำนวนมากเริ่มปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของพวกแมงมุมทำให้ในเวลาไม่ถึง 7 วินาทีแมงมุมในรัศมี 30 เมตรต่างก็ถูกแผดเผาจนเสียชีวิตไปทั้งหมด

ระบบ: คุณได้รับค่าประสบการณ์ 3,266 หน่วย (รวมโบนัสค่าประสบการณ์จากการล่ามอนสเตอร์เลเวลสูงกว่า 2,600 หน่วย)

…

ลู่หยางทำการเรียกหน้าต่างค่าสถานะของตัวเองขึ้นมาดูก่อนจะได้พบว่าเขาได้สังหารแมงมุมโบราณไปแล้วมากกว่า 100 ตัวและได้ค่าประสบการณ์กลับมามากกว่า 320,000 หน่วย

“พวกมันให้ค่าประสบการณ์เยอะมาก” มู่หยูกล่าวอย่างดีใจ

การจะเพิ่มเลเวลจาก 30 ไป 31 จำเป็นจะต้องใช้ค่าประสบการณ์มากกว่า 20 ล้านหน่วย แต่ด้วยความเร็วในการเก็บเลเวลแบบนี้อีกเพียงแค่ไม่นานทุกคนก็คงจะเพิ่มเลเวลแล้ว

“ถ้าอยู่ที่นี่สักอาทิตย์หนึ่งผมว่าพวกเราน่าจะเลเวลถึง 40 ได้เลยนะ” เสี่ยวเหลียงกล่าว

“ฮ่า ๆ ๆ ถ้าพวกที่พยายามแข่งกันขึ้นกระดานจัดอันดับได้เห็นเลเวลของพวกเรา พวกมันคงจะตกใจกันยกใหญ่แน่ ๆ” ฮั่นเฟยกล่าว

“เออ ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย ทุกคนปิดชื่อในกระดานจัดอันดับซะ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับตบไหล่ฮั่นเฟยเบา ๆ

“ได้ครับ/ค่ะ” ทุกคนต่างก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะถ้าหากจู่ ๆ พวกเขามีเลเวลเพิ่มขึ้นจนถึง 40 อย่างรวดเร็ว ในเวลานั้นมันคงจะสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นขึ้นมาอย่างมากมาย

ระหว่างนี้ลู่หยางก็ทำการปิดเครื่องสื่อสารพร้อมกับทำการโยนน้ำยาเอคโคออฟเมจิกลงไปอย่างต่อเนื่อง โดยสกิลไฟร์วอลล์เลเวล 5 มีระยะเวลาการแสดงผลอยู่ถึง 10 นาที ดังนั้นถึงแม้แมงมุมชุดแรกจะถูกสังหารลงไปจนหมดแล้ว แต่ทะเลเพลิงด้านล่างก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่ไปไหน

—

ขณะที่ลู่หยางกำลังพาพวกฮั่นอิ่งเก็บเลเวลอยู่นั้น ในอีกด้านหนึ่งลิ่วเจียก็ได้ใช้เงิน 400 ล้านเครดิตซื้อหุ้น 60% จากดีวายโซลได้สำเร็จ

ในเวลาเดียวกันหวังเถิงผู้ซึ่งเป็นผู้ช่วยของลิ่วเจียและเคยพยายามฆ่าลู่หยางก็ได้เจรจากับบลัดไทแรนท์ได้ด้วยดีเช่นกัน โดยเขาได้ใช้เงิน 500 ล้านซื้อหุ้นบลัดเติสตี้มา 51%

นอกเหนือจากทั้ง 2 แห่งนี้แล้วพวกเขายังได้ใช้เงิน 100 ล้านเครดิตเพื่อซื้อหุ้น 51% ของกิลด์บลูคริสตัลในเมืองแฮนนิบัลพร้อมป้อมปราการ 1 แห่ง

ใช้เงิน 150 ล้านเครดิตซื้อหุ้น 51% ของกิลด์สกายโดเมนในเมืองนอร์ทวินด์พร้อมป้อมปราการ 1 แห่ง

ใช้เงิน 50 ล้านเครดิตซื้อหุ้น 90% ของกิลด์พรอฟฟีซี และใช้ 67 ล้านซื้อหุ้น 92% ของกิลด์ซันเซ็ตในเมืองนอร์ทวินด์

เช้าวันที่ 1 ตุลาคม เวลา 10:00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ออนไลน์ 

หวังเถิงนำบลัดไทแรนท์, โซลออฟอีเทอนิตี้และหัวหน้ากิลด์ใหญ่ต่าง ๆ จัดแถลงข่าวที่เมืองเซนต์กอลล์เพื่อประกาศเรื่องการลงทุนของพวกเขาในกิลด์เหล่านี้

บลัดเติสตี้มีป้อมปราการสกายมิสท์ในเมืองเซนต์กอลล์, ป้อมปราการโคลด์วินด์ในเมืองนอร์ทวินด์และป้อมปราการกอลในเมืองแฮนนิบัล เมื่อรวมสมาชิกในกิลด์หลักและกิลด์รองอีก 2 กิลด์ พวกเขาก็มีสมาชิกอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 350,000 คน

ดีวายโซลได้ครอบครองป้อมปราการ 3 แห่งด้วยเช่นกันและสมาชิกภายในกิลด์ของพวกเขาก็มีอยู่ประมาณ 340,000 คน

กิลด์บลูคริสตัลมีสมาชิก 180,000 คน 

กิลด์สกายโดเมนมีสมาชิก 170,000 คน 

กิลด์พรอฟฟีซีมีสมาชิก 40,000 คน 

และกิลด์ซันเซ็ตมีสมาชิก 60,000 คน

รวมแล้ว 6 กิลด์นี้มีสมาชิกอยู่ทั้งหมด 1,140,000 คนและในนั้นมันก็มีผู้เล่นชั้นยอดที่สวมใส่อุปกรณ์ระดับทองอยู่ถึง 100,000 คน

การลงทุนของลิ่วเจียทำให้เกิดกิลด์ยักษ์ใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดธโซลเป็น 10 เท่าและทำให้กิลด์ทั้งหมดในฝั่งมนุษย์ต่างก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนก

วันนี้ลู่หยางตั้งใจจะพาเสินเมิ่งเหยา, สามพี่น้องตระกูลฮั่น, พี่น้องตระกูลมู่และเด็กกำพร้าที่ฮั่นจงรับมาดูแลอีก 12 คนไปเที่ยวสวนสนุก แต่ในระหว่างที่เขากำลังจะออกเดินทาง ถูเฟิงก็ได้ติดต่อเข้ามาหาเขาเสียก่อน

“ฉือมู่ฝากให้ฉันมาแจ้งนายว่าเขา, ฉงป้า, เหลยหลงและเฉียนเฉียนกำลังประชุมกันอยู่ในพื้นที่พิเศษและพวกเขาก็อยากจะให้นายเข้าร่วมการประชุมด้วย”

“บอกพวกเขาไปว่าฉันไม่ว่าง” ลู่หยางตอบอย่างไร้เยื่อใย

เสินเมิ่งเหยาได้ยินบทสนทนาทางโทรศัพท์อย่างชัดเจน เธอจึงเดินเข้าไปกอดแขนลู่หยางและพูดว่า

“วันนี้พวกเรายังไม่ต้องไปเที่ยวกันก็ได้ พี่ไปประชุมกับพวกเขาเถอะเรื่องกิลด์ย่อมสำคัญกว่า”

ลู่หยางส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า

“ฉันไม่จำเป็นจะต้องไปประชุมกับพวกเขาหรอก พวกเขาคงจะคุยเรื่องพันธมิตรกันเหมือนเดิม เรื่องพวกนี้ต่อให้ไปคุยอีกครั้งมันก็วนไปวนมาอยู่ที่เดิม พวกเราไปเที่ยวกันให้สบายใจก่อนกลับไปเครียดในเกมกันดีกว่า”

หลังจากพูดกับเสินเมิ่งเหยาเสร็จ ลู่หยางก็หันไปพูดกับถูเฟิงต่อ

“บอกพวกเขาว่าตอนนี้ฉันยังไม่ว่างจริง ๆ ปล่อยให้พวกเขารอฉันสักวัน หลังจากนั้นฉันจะได้เจรจาง่ายขึ้น”

ในบรรดาป้อมปราการรอบเมืองเซนต์กอลล์ทั้งหมด ป้อมที่อยู่ใกล้กับป้อมของบลัดไทแรนท์มากที่สุดคือป้อมของฉงป้า ซึ่งในตอนนี้โอเวอร์ลอร์ดก็ได้เรียกรวมสมาชิกกิลด์ทุกคนให้กลับไปป้องกันป้อมปราการแล้ว อย่างไรก็ตามหากบลัดไทแรนท์อยากจะโจมตีฉงป้าก็คงจะต้านทานได้ไม่เกิน 3 วันหากไม่ได้กำลังจากเขาและฉือมู่ไปช่วย

อย่างไรก็ตามป้อมปราการของฉือมู่ก็อยู่ใกล้กับป้อมปราการของกิลด์บลูคริสตัลและสกายโดเมนจากเมืองนอร์ทวินด์และเมืองแฮนนิบัลเช่นกัน หากทั้ง 2 กิลด์นี้คิดจะโจมตีป้อมปราการฟลาวเวอร์ของฉือมู่พร้อม ๆ กับที่บลัดไทแรนท์โจมตีป้อมปราการแบล็คร็อคของฉงป้า และให้ดีวายโซลมาดึงความสนใจของลู่หยางในเวลานั้นทั้งฉงป้าและฉือมู่ก็คงจะพ่ายแพ้ไปในที่สุด

อย่างไรก็ตามสถานการณ์นี้มันก็แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะทางฝั่งของมนุษย์กำลังจะเข้าสู่ช่วงโดมิโน่เอฟเฟกต์ ดังนั้นการเคลื่อนไหวเพียงแค่ครั้งเดียวอาจจะส่งผลไปทั้งกระดาน เหลยหลง, เฉียนเฉียน, โจวเทียนหมิงและหัวหน้ากิลด์ขนาดใหญ่อื่น ๆ ย่อมไม่ยอมนั่งดูเหตุการณ์ในครั้งนี้เฉย ๆ อย่างแน่นอน

ด้วยเหตุนี้ลู่หยางจึงไม่กังวลเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นภายในเกมตอนนี้เลย เขาจึงพาเสินเมิ่งเหยาและพวกฮั่นอิ่งไปเที่ยวสวนสนุกได้อย่างสบายใจ

ตอนแรกเสินเมิ่งเหยากับพวกฮั่นอิ่งก็ยังคงกังวลเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่หลังจากที่ลู่หยางได้อธิบายสถานการณ์ให้ฟังโดยละเอียด ทุกคนก็เริ่มวางความเครียดลงไปได้ก่อนที่พวกเธอจะไปเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน

 

 

---