บทที่ 359 สูตรน้ำยาลับที่ถูกปิดผนึก
บทที่ 359 สูตรน้ำยาลับที่ถูกปิดผนึก
ลู่หยางเดินไปตามท่าเรือมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันตก ซึ่งการแบ่งเขตของเมืองนี้ก็เป็นเหมือนกับเมืองเซนต์กอลล์ที่แบ่งออกเป็นโซนเหนือใต้ออกตก
ส่วนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเมืองซีเอ็มเพอเรอร์คือพื้นที่ทางทิศตะวันตก ซึ่งมันก็เป็นเหมือนกับย่านการค้าบริเวณทิศตะวันตกของเมืองเซนต์กอลล์ที่มีร้านค้าอยู่อย่างมากมาย
ระหว่างที่นักเวทหนุ่มกำลังเดินอยู่บนถนน เขาก็บังเอิญได้พบกับผู้เล่นชุดทองหลายร้อยคนที่ผู้เล่นรอบ ๆ พร้อมจะหลีกทางให้อย่างเกรงใจ และเมื่อลู่หยางได้เห็นว่าตรงกลางของคนกลุ่มนั้นคือโซลออฟอีเทอนิตี้ เขาจึงแอบสะกดรอยตามผู้เล่นกลุ่มนั้นไปอย่างลับ ๆ
“คุณหลิวนี่คือร้านค้าของพวกเราทั้งหมดซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดของเมืองซีเอ็มเพอเรอร์” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“ไม่เลว” คนที่ถูกเรียกว่าคุณหลิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ลู่หยางไม่เคยเห็นผู้เล่นคนนี้มาก่อน แต่หลังจากที่เขาได้ยินเสียงของคุณหลิวแล้วเขาก็สามารถจดจำได้ในทันทีว่าคนคนนี้คือลิ่วเจีย
เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ตรงหน้า มันก็ดูเหมือนว่าลิ่วเจียจะมาตรวจสอบกิลด์ดีวายโซลที่เมืองซีเอ็มเพอเรอร์ด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตามมันก็ดูเหมือนกับว่าลิ่วเจียจะยังไม่รีบร้อนทำการเจรจา ส่วนทางโซลออฟอีเทอนิตี้ก็กำลังให้เกียรติลิ่วเจียเป็นอย่างมาก
ลู่หยางคาดเดาว่าโซลออฟอีเทอนิตี้คงจะคิดว่าลิ่วเจียเป็นคุณชายที่ไม่มีความรู้ความสามารถ และอีกฝ่ายจะยอมควักเงินก้อนโตมาสนับสนุนกิลด์ของเขาหลังจากที่ได้รับคำยกยออย่างมากมาย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่โซลออฟอีเทอนิตี้ไม่รู้นั่นก็คือลิ่วเจียเป็นบัณฑิตเกียรตินิยมที่จบมาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในยุโรป แถมยังมีประสบการณ์จากการไปทำงานกับพ่อมาตั้งแต่ยังเด็ก มันจึงไม่มีทางที่ลิ่วเจียจะติดกับดักคำยกยอของโซลออฟอีเทอนิตี้ได้
“คุณลิ่ว พวกเราพาคุณดูธุรกิจของเราจนครบแล้ว หลังจากนี้พวกเรามาพูดคุยเรื่องสัญญากันดีไหม?” โซลออฟอีเทอนิตี้ถาม
“ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งรีบร้อน” ลิ่วเจียกล่าวด้วยรอยยิ้ม
โซลออฟอีเทอนิตี้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยและไม่รู้ว่าจะต้องเจรจาต่อยังไง ส่วนแกนนำดีวายโซลที่อยู่รอบ ๆ ก็ไม่เข้าใจสิ่งที่ลิ่วเจียกำลังทำอยู่ด้วยเช่นกัน ทำให้ในชั่วขณะนั้นบรรยากาศมันก็เต็มไปด้วยความอึดอัด
จู่ ๆ แบล็คบลัดก็โผล่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ก่อนที่เขาจะพูดกับลิ่วเจียด้วยท่าทางประจบประแจงว่า
“คุณชายครับ วันนี้กิลด์ของเรามีการจัดงานประมูล ไม่ทราบว่าคุณชายสนใจจะไปดูไหมครับ?”
“เอาสิ” ลิ่วเจียยังคงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
โซลออฟอีเทอนิตี้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนที่เขาจะส่งสายตาชื่นชมไปให้กับแบล็คบลัดแล้วเดินนำลิ่วเจียไปยังโรงประมูลที่อยู่ไม่ไกล
ในตอนแรกเหล่าบรรดาแกนนำของดีวายโซลไม่เห็นด้วยกับการนำแบล็คบลัดเข้ามาภายในกิลด์ แต่ในครั้งนี้อีกฝ่ายช่วยพวกเขาแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างสวยงาม มันจึงทำให้ทุกคนมองแบล็คบลัดในแง่ดีมากยิ่งขึ้น
เมื่อได้เห็นทุกคนกำลังจะเข้าไปในโรงประมูล ลู่หยางจึงใช้เสื้อคลุมปลอมตัวเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์และเดินตามเข้าไปภายในโรงประมูลด้วย
“คุณเพิ่งจะมาใหม่ใช่ไหม? ถ้าคุณต้องการเข้าร่วมการประมูลคุณต้องวางเงินมัดจำเอาไว้ก่อน 1,000 เหรียญทอง” เจ้าหน้าที่บริเวณประตูเริ่มทักลู่หยางในทันทีหลังจากที่ได้เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่เขาไม่รู้จัก
ชายหนุ่มพยักหน้ารับพร้อมกับนำเงิน 1,000 เหรียญทองออกมา จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปภายในโรงประมูล
โรงประมูลแห่งนี้มีขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก โดยมันมีที่นั่ง 10 แถว ๆ ละ 30 ที่นั่ง โซลออฟอีเทอนิตี้จึงนำลิ่วเจียไปนั่งยังที่นั่งแถวแรกและให้ผู้เล่นชุดทองนั่งคุ้มกันอยู่ในบริเวณรอบ ๆ
ลู่หยางเดินไปนั่งเก้าอี้แถวที่ 3 ใกล้ ๆ กับลิ่วเจีย ซึ่งในนี้ตำแหน่งนี้มันทำให้เขาสามารถได้ยินบทสนทนาระหว่างโซลออฟอีเทอนิตี้กับลิ่วเจียได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามบทสนทนาส่วนใหญ่ก็เป็นของโซลออฟอีเทอนิตี้เพียงฝ่ายเดียว ส่วนทางลิ่วเจียก็แค่พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มโดยไม่พูดอะไรกลับมา
ในที่สุดพิธีกรก็เดินขึ้นเวที ก่อนที่เขาจะประกาศทักทายแขกผู้มีเกียรติทุก ๆ คน
“ในเมื่อทุกคนพร้อมกันแล้ว วันนี้ผม ฟอร์เชินเทลเลอร์จะทำหน้าที่เป็นพิธีกรเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะเริ่มนำสินค้าชิ้นแรกขึ้นมาบนเวทีเลยซึ่งของสิ่งนี้นั่นก็คือสูตรที่ถูกผนึก”
ทันใดนั้นแววตาของลู่หยางก็เปล่งประกายขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ก่อนที่เขาจะจับจ้องมองไปยังพิธีกรอย่างไม่วางตา
สูตรที่ถูกผนึก
รายละเอียด สูตรเพิ่มความเสียหายจากเวทมนตร์ที่ถูกผนึกเอาไว้
“ผู้เล่นที่ให้ของชิ้นนี้กับเรามาบอกว่าเขาพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับของชิ้นนี้มานาน แต่ก็น่าเสียดายที่เขายังไม่สามารถที่จะไขปริศนาของมันได้เลย ทางกิลด์ของเราก็ทุ่มเททรัพยากรอย่างมากมายเพื่อทำการถอดรหัสสูตรนี้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราก็ยังไม่สามารถที่จะไขปริศนาของมันได้”
“อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงเป็นสูตรระดับแพลตตินั่มเลเวล 30 ซึ่งถ้าหากว่าใครสามารถหาวิธีไขปริศนาของมันได้สำเร็จ มันจะต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 500 เหรียญทองอย่างแน่นอน พวกเราจะเริ่มประมูลของสิ่งนี้อยู่ที่ 50 เหรียญทอง” พิธีกรกล่าว
สูตรที่ถูกปิดผนึกเอาไว้แบบนี้มีอยู่ในเกมไม่มาก ซึ่งในงานประมูลแต่ละครั้งก็มักจะมีพวกมันนำมาวางขาย 2-3 ชิ้นอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามถึงแม้เวลาจะผ่านพ้นไปอย่างเนิ่นนาน แต่มันก็ยังไม่มีใครสามารถถอดรหัสของเหล่านี้ได้แม้แต่คนเดียว
ผู้ที่เคยเข้าร่วมงานประมูลมาหลายครั้งต่างก็รู้ว่าพวกมันเป็นของไม่มีค่า มันจึงไม่มีใครเสนอราคาเพื่อประมูลสูตรที่ถูกปิดผนึกเลยแม้แต่คนเดียว
“ไม่ทราบว่าคุณลิ่วสนใจของชิ้นนี้ไหมครับ? ถ้าคุณชอบผมจะยกมันให้กับคุณฟรี ๆ” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าวอย่างเอาใจ
“ใจเย็น ๆ ไม่ต้องรีบร้อน รอดูกันไปก่อนก็ได้” ลิ่วเจียกล่าวพร้อมกับส่ายหน้า แต่ในใจเขากลับคิดอย่างดูถูกว่า
“ของแบบนี้ในเผ่าสัตว์อสูรมีอยู่ตั้งเยอะแยะ พวกมันเป็นแค่ของขยะที่หลอกคนโง่ได้เท่านั้นแหละ”
โซลออฟอีเทอนิตี้ก็สามารถตีความแววตาของลิ่วเจียได้เหมือนกัน เขาจึงทำได้แต่เผยรอยยิ้มออกมาแหย่ ๆ ก่อนจะส่งสัญญาณให้พิธีกรรีบนำสินค้าชิ้นอื่นขึ้นประมูลต่อไป
พิธีกรสามารถเข้าใจสัญญาณจากโซลออฟอีเทอนิตี้ได้ในทันที เขาจึงรีบพูดกระชับสินค้าในชิ้นแรก
“หากไม่มีใครเสนอราคา พวกเราจะนับ 3 เพื่อเปลี่ยนไปยังสินค้าชิ้นต่อไปแล้วนะครับ”
ทันใดนั้นลู่หยางก็ยกป้ายเล็ก ๆ ภายในมือพร้อมกับพูดว่า
“ผมเอาครับ”
พิธีกรรู้ดีว่ามันไม่มีใครมาประมูลแข่งกับลู่หยางอย่างแน่นอน เขาจึงเคาะค้อน 3 ครั้งอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดว่า
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นหมายเลข 88 สูตรนี้มันได้กลายเป็นของคุณแล้ว”
ลิ่วเจียหันไปมองดูลู่หยางด้วยความอยากรู้ว่าใครที่โง่พอจะซื้อของแบบนี้ ซึ่งในเวลานั้นมันก็เป็นเวลาที่ลู่หยางกำลังมองไปทางลิ่วเจียพอดี ทั้งสองฝ่ายจึงสบตากันโดยไม่ได้ตั้งใจ
ระหว่างนั้นลู่หยางก็ได้ปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรงจนทำให้ลิ่วเจียสะดุ้งขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว
ลิ่วเจียหลบสายตาไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะเขาเคยได้สัมผัสกับจิตสังหารแบบนี้จากแค่ทหารรับจ้างที่คอยเป็นบอดี้การ์ดพ่อของเขาเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่ใช่สิ่งที่สมควรจะมาอยู่ในเกมเลย
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเพิ่งเคยมาเมืองซีเอ็มเพอเรอร์เป็นครั้งแรกและยังไม่เคยบาดหมางกับใครเลยแม้แต่คนเดียว ลิ่วเจียจึงไม่เข้าใจว่าคนคนนี้จะส่งจิตสังหารมาที่เขาทำไม แต่เมื่อเขาหันกลับไปมองอีกครั้งลู่หยางก็หายไปจากที่นั่งของตัวเองแล้ว
ในเวลาเดียวกันลู่หยางก็ได้เดินอ้อมไปยังห้องด้านหลังเวที ก่อนที่เขาจะจ่ายเงินเพื่อรับสูตรชิ้นนี้มา
เมื่อมองดูลวดลายสีทองที่อยู่บนสุด มันก็ทำให้ลู่หยางตื่นเต้นมาก เพราะถ้าหากเขาจำไม่ผิดสูตร ๆ นี้ก็สมควรจะเป็นสูตรเอคโคออฟเมจิกที่มีชื่อเสียงอันโด่งดังในชาติก่อน แล้วมันก็สามารถทำลายความต้านทานทางเวทมนตร์ของเป้าหมายได้เป็นจำนวนมาก
ลู่หยางกำลังต้องการไอเท็มที่ลดค่าความต้านทานทางเวทมนตร์ของเป้าหมายอยู่พอดี และเขาก็ไม่คิดเลยว่าการเดินทางมายังเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ในครั้งนี้ เขาจะโชคดีได้รับสูตรเอคโคออฟเมจิกกลับไป
ชายหนุ่มเดินย้อนกลับไปทางประตูพร้อมกับรับเงินค้ำประกันคืนมา จากนั้นเขาก็เดินไปยังท่าเรือแล้วเข้าไปในอาคารหลังที่ 3 จากหัวมุมถนน
ที่แห่งนี้คือบาร์ที่ชาวเมืองซีเอ็มเพอเรอร์กำลังนั่งฉลองอยู่ด้านใน ซึ่งหลังจากที่เขาได้เดินไปยังโต๊ะ ๆ หนึ่ง เขาก็ได้พบกับพ่อค้าที่สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
“คุณรู้วิธีถอดรหัสมันไหม?” ลู่หยางถามขณะนำสูตรที่ถูกปิดผนึกมาวางไว้บนโต๊ะ
“รู้แล้วยังไง? ไม่รู้แล้วยังไง?” พ่อค้าเงยหน้าขึ้นมามองลู่หยางอย่างไม่มีอารมณ์
ลู่หยางกำมือแน่นด้วยความตื่นเต้น เพราะคำพูดประโยคนี้มันเป็นคำยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าสูตรสูตรนี้คือเอคโคออฟเมจิกจริง ๆ
“คุณมีอะไรให้ผมช่วยไหม? ถ้าคุณมีปัญหาผมก็ยินดีช่วยเหลือ” ลู่หยางนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับเริ่มพูดคุยกับพ่อค้า
“นายเลเวลต่ำเกินไป นายทำเรื่องนี้ไม่ได้หรอก” พ่อค้ากล่าวหลังจากพิจารณาลู่หยางอย่างละเอียด
“คุณก็ลองบอกเรื่องของคุณมาก่อนสิ ถ้าหากว่าผมทำได้คุณจะไม่มาเสียใจทีหลังเหรอ” ลู่หยางกล่าว
ในชาติก่อนผู้เล่นเข้ามาทำภารกิจนี้เป็นครั้งแรกในตอนที่พวกเขาเลเวล 40 ลู่หยางที่มีเลเวลเพียงแค่ 30 จึงไม่ค่อยได้รับความไว้วางใจจาก NPC
“ถ้านายอยากตายฉันก็ไม่คิดจะห้ามหรอกนะ สูตรในมือของนายฉันมีวิธีการถอดรหัสมันอยู่จริง ๆ แต่ฉันไม่คิดที่จะให้วิธีกับนายฟรี ๆ หากนายสามารถฆ่าปีศาจทะเลบันนัมได้สำเร็จ ตอนนั้นพวกเราค่อยมาคุยกัน”
ระบบ: ภรรยาและลูกสาวของพ่อค้าถูกปีศาจทะเลบันนัมสังหารอย่างเลือดเย็น เขาจึงหวังจะให้คุณไปแก้แค้นปีศาจแทนตัวเอง ไม่ทราบว่าคุณต้องการจะยอมรับภารกิจนี้หรือไม่?
ลู่หยางเลือกตกลง ก่อนจะพูดออกไปอย่างตื่นเต้น
“รอฟังข่าวดีจากผมได้เลย”
ปีศาจทะเลบันนัมไม่ใช่มอนสเตอร์ที่จัดการได้ยากมากนัก โดยมันเป็นบอสเลเวล 40 ที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งห่างจากท่าเรือไปเพียงแค่ไม่ไกล
ลู่หยางเดินไปยังท่าเรือก่อนที่จะกระโดดลงน้ำไปในทันที ผู้เล่นรอบ ๆ ที่เห็นพฤติกรรมของชายหนุ่มต่างก็หัวเราะขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
“ไอ้บ้านั่นมันคิดจะไปตีมอนสเตอร์ในทะเลงั้นเหรอ? มันไม่รู้หรือยังไงว่าแถว ๆ นี้มันไม่มีมอนสเตอร์อยู่”
“ใช่ ๆ ๆ มันนี่ไม่รู้อะไรเลย”
…
ชายหนุ่มยังคงว่ายน้ำต่อไปโดยไม่สนใจเสียงนกเสียงกา ซึ่งตามกฎของเกมหากผู้เล่นว่ายน้ำในทะเลเกินครึ่งชั่วโมงพวกเขาจะเข้าสู่สภาวะเหนื่อยล้า และถ้าหากผู้เล่นยังไม่หาสถานที่พักผ่อนพวกเขาก็จะจมน้ำตายในทันที
ขณะเดียวกันบริเวณท่าเรือเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ก็มีเกาะในทะเลอยู่ทั้งหมด 6 เกาะ ซึ่งแต่ละเกาะจะอยู่ห่างกันประมาณ 20 นาที
ลู่หยางใช้เวลาว่ายน้ำ 20 นาทีไปยังเกาะ ๆ หนึ่ง ก่อนที่เขาจะนั่งพัก 10 นาทีแล้วว่ายน้ำตรงไปยังเกาะต่อไป
แน่นอนว่าในเกมย่อมมีผู้เล่นสายชิวที่ว่ายน้ำมาเที่ยวเล่นบนเกาะพวกนี้อยู่เช่นกัน แต่หลังจากที่ชายหนุ่มว่ายน้ำไปจนถึงเกาะที่ 4 เขาก็ไม่พบกับผู้เล่นเลยแม้แต่คนเดียว
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาว่ายน้ำไปจนถึงเกาะที่ 6 มันก็ทำให้เขาต้องประหลาดใจเพราะว่ามันได้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ที่นี่
ผู้เล่นบนเกาะก็กำลังประหลาดใจที่ได้เห็นลู่หยางด้วยเช่นกัน เมื่ออีกฝ่ายว่ายมาจนถึงฝั่งเขาจึงรีบเดินเข้าไปทักทายอย่างกระตือรือร้น
“สวัสดีพี่ชาย นี่ฉันไม่คิดเลยนะเนี่ยว่ามันจะมีคนแบบเดียวกับฉันอยู่ด้วย”
“สวัสดีคุณคือ…” ลู่หยางเอ่ยทักทายแต่ก็ยังรู้สึกว่าอีกฝ่ายหน้าคุ้น ๆ
“ผมชื่อวอร์สกายไบรท์คิงครับ”
“ถ้าหากผมเดาไม่ผิดคุณคือโจวเทียนหมิง 1 ใน 2 หัวหน้ากิลด์วอร์สกายใช่ไหม?” ลู่หยางถามด้วยแววตาอันเป็นประกาย
“คุณรู้ชื่อผมได้ยังไงกันเนี่ย?!” โจวเทียนหมิงอุทานอย่างตกใจ
ลู่หยางทำการถอดเสื้อคลุมปลอมตัวออกเพื่อเปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริง
“สวัสดี ผมชื่อลู่หยาง หัวหน้ากิลด์บลัดบราเธอร์แห่งเมืองเซนต์กอลล์”
ดูท่าแล้วคนนี้พันธมิตร ว่าไหม?
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 176
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น