บทที่ 356 ลอสซิตี้

-A A +A

บทที่ 356 ลอสซิตี้

บทที่ 356 ลอสซิตี้

ลู่หยางพอจะคาดเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าสกิลที่หลานอวี่เรียนรู้มาจะต้องเป็น 2 สกิลนี้

เรดโลตัสแดนซ์เป็นสกิลที่จะเรียกกลีบดอกไม้สีแดงโปรยลงมาในพื้นที่โดยรอบ ซึ่งกลีบดอกไม้แต่ละดอกจะสร้างความเสียหายจริงเท่ากับเลเวลของผู้ใช้งานคูณด้วย 100 มีระยะเวลาแสดงผลอยู่ 3 วินาทีและจะมีรัศมีในการเรียกดอกไม้อยู่ที่ 10 เมตร

อะไนฮิเลชั่นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสกิลที่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรงมาก และถึงแม้ตัวสกิลจะมีพลังโจมตีพื้นฐานอยู่เพียงแค่ 50 หน่วย แต่มันสามารถเพิ่มความเสียหายได้ตามพลังโจมตีเวท และความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสกิลนี้จะเป็นความเสียหายจริงที่ไม่คิดคำนวณพลังป้องกันของฝ่ายตรงข้ามทั้งพลังป้องกันทางกายภาพและพลังป้องกันทางเวทมนตร์

“พวกเราไปลุยกันต่อเถอะ” ลู่หยางกล่าว

“ไปไหนเหรอคะ?” หลานอวี่ถามอย่างกระตือรือร้น

“ลอสซิตี้ ดันเจียนระดับอีปิคเลเวล 60” ลู่หยางตอบ

“หา! พวกเราเพิ่งจะเลเวล 30 เองนะ พวกเราจะลงดันเจียนเลเวล 60 กันไหวเหรอ?” หลานอวี่พูดด้วยความตกใจ

“ไหวสิ” ลู่หยางกล่าวก่อนจะพาหลานอวี่วิ่งออกไปทางทิศตะวันตกของเมือง ซึ่งหลังจากที่เขาผ่านป้อมปราการวินด์ธันเดอร์ไป 2 วัน เขาก็ไปถึงแผนที่ที่มีชื่อว่าเดสโซเลทแลนด์ จากนั้นเขาก็ใช้เวลาอีก 2 วันในการวิ่งไปยังแผนที่เลเวล 60 ที่มีชื่อว่าฟอร์เซคเคนแลนด์

ตามเนื้อเรื่องของเกมพื้นที่แห่งนี้เคยมีประชาชนเป็นจำนวนมากถูกปีศาจเข้ามาล่อลวง พวกเขาจึงเลิกศรัทธาต่อเทพเจ้าและหันไปบูชาเหล่าปีศาจ พวกเขาจึงถูกลงโทษจากเทพเจ้าบนสวรรค์ให้น้ำท่วมทั้งอาณาจักรจนทำให้มีผู้เหลือรอดชีวิตเพียงแค่เล็กน้อย ซึ่งในเวลาต่อมาผู้เหลือรอดชีวิตเหล่านั้นก็ได้กลายเป็นปีศาจและได้ใช้ชีวิตอยู่บนแผ่นดินที่เหลืออยู่

เมื่อเวลาผ่านไประดับน้ำก็ค่อย ๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ พื้นที่อาศัยของเหล่าปีศาจจึงลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน แต่ในขณะที่พวกมันกำลังจะจมน้ำตาย เทพปีศาจเปลวเพลิงก็พลีชีพในระหว่างการต่อสู้กับเทพเจ้าทำให้เศษหัวใจของเขาตกลงมายังสถานที่แห่งนี้

เทพปีศาจเปลวเพลิงถือว่าเป็นเทพเจ้าที่แท้จริง แม้ว่าเขาจะสิ้นชีพลงไปแล้วแต่เปลวไฟบนเศษหัวใจของเขาก็มีพลังมากพอที่จะระเหยน้ำในทะเลสาบออกไปได้ทั้งหมดและทำให้อาณาจักรแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่อันแห้งแล้ง

เหล่าปีศาจที่รอดชีวิตคิดว่าเหตุการณ์นี้เป็นของขวัญจากปีศาจที่พวกเขานับถือ พวกเขาจึงนำเศษหัวใจแห่งเทพปีศาจเปลวเพลิงไปบูชาไว้ในซากปรักหักพังของอาณาจักร

จุดประสงค์ที่ลู่หยางเดินทางมาที่นี่คือการกำจัดโซโลทอร์ ผู้ซึ่งเป็นราชาปีศาจเพื่อนำเศษหัวใจเทพปีศาจเปลวเพลิงกลับไปทำการอัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูรของเขา

ในที่สุดชายหนุ่มก็พาหลานอวี่มาจนเห็นประตูเมืองลอสซิตี้ ซึ่งตลอดทางมาที่นี่มันก็ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยอันตราย เพราะแม้แต่มอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดก็ยังมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับอีลิทเลเวล 30 ซึ่งมอนสเตอร์เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะมีพลังโจมตีที่สูงมาก แต่พวกมันยังมีสกิลพิเศษคอยก่อกวนผู้เล่นในระหว่างการต่อสู้อีกด้วย

ยังดีที่ลู่หยางมีสกิลอัญเชิญนกฟีนิกซ์ขึ้นมาคอยนำทาง ไม่อย่างนั้นด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาในปัจจุบันพวกเขาก็คงจะมาไม่ถึงที่นี่อย่างแน่นอน

ตลอดทางหัวใจของหลานอวี่เต้นรัวขึ้นมาไม่หยุด เพราะเธอไม่เคยต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่าตัวเองขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะตอนที่ได้เห็นเลเวลของมอนสเตอร์เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมเรื่อย ๆ มันก็ทำให้ความกลัวภายในใจของเธอเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นมาด้วยเช่นกัน สิ่งเดียวที่ทำให้เธอสามารถทนมาจนถึงตอนนี้ได้นั่นก็เพราะท่าทีอันสงบนิ่งของลู่หยางราวกับว่าทุก ๆ อย่างยังคงอยู่ในการควบคุม

ระหว่างนั้นลู่หยางก็ไม่ทันได้สังเกตเลยว่าหลานอวี่กำลังแอบมองเขาอยู่ เพราะเขาจำเป็นจะต้องสังเกตการณ์เหตุการณ์รอบข้างอย่างระมัดระวัง

ทันใดนั้นมันก็มีเสียงเหมือนเหล็กขูดพื้นดังขึ้นมาแต่ไกล ก่อนที่พวกเขาจะได้เห็นกลุ่มปีศาจที่มีเขาแกะและเดินลากค้อนขนาดใหญ่เดินเข้ามาทางพวกเขา

ฟอลเลน

เลเวล 60

พลังชีวิต 150,000/150,000

ชาติก่อนเคยมีกิลด์จากฝั่งยุโรปเผยแพร่วีดีโอการบุกเข้าไปในดันเจียนในตอนที่พวกเขามีเลเวล 30 ซึ่งในระหว่างทางพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์เลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้มันจึงสร้างเสียงฮือฮาในวงการเกมได้เป็นอย่างมาก

ลู่หยางสามารถจดจำวิธีการเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำ เพราะในดันเจียนลอสซิตี้จะมีการสุ่มเกิดแร่อีเทอนอลโกลด์ 5-10 ก้อนในทุกวัน

ย้อนกลับไปในตอนนั้นกิลด์ของเขาอยู่ในสภาพที่ขัดสนเงินเป็นอย่างมาก เขาจึงพาสมาชิกชั้นยอดภายในกิลด์มาทำตามผู้เล่นภายในวีดีโอนั้นและจำเป็นจะต้องใช้เวลาเกือบสัปดาห์กว่าจะหาวิธีเข้าไปในดันเจียนได้

การจะเดินผ่านที่นี่อย่างปลอดภัยไม่จำเป็นว่าผู้เล่นจะต้องมีอาชีพโจร เพราะเมื่อเลเวลของพวกเขากับมอนสเตอร์ต่างกันถึง 30 เลเวล การใช้สกิลหายตัวหรือไม่ได้ใช้มันก็แทบจะไม่มีความแตกต่างใด ๆ เลย

วิธีที่สามารถใช้การได้จริง ๆ คือการสังเกตการเดินของฝูงมอนสเตอร์ โดยหลังจากที่ฝูงมอนสเตอร์ฝูงแรกเดินห่างจากผู้เล่นไป 30 เมตร พวกเขาก็จะต้องรีบเดินตามหลังพวกมันไปในทันที ซึ่งกระบวนการนี้มันจะดำเนินต่อไปจนกระทั่งพวกเขาได้เดินไปจนถึงฝูงปีศาจสามตา

ปีศาจสามตาเป็นมอนสเตอร์พิเศษที่ไม่มีหูและไม่มีจมูก ดังนั้นถ้าหากผู้เล่นซ่อนตัวด้านหลังของพวกมันได้ แม้ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นเลเวล 0 แต่ตราบใดที่ปีศาจสามตามองไม่เห็นคุณ เมื่อนั้นคุณก็จะไม่ได้พบกับอันตราย

หลังจากลู่หยางอธิบายจุดสำคัญให้หลานอวี่ฟัง ฟอลเลนกลุ่มแรกก็เดินทางจากพวกเขาไปในระยะ 30 เมตรพอดี

“สาวน้อยดูวิธีการเดินของฉันให้ดี ๆ นะ หลังจากนี้ให้เลียนแบบการเคลื่อนไหวของฉันโดยละเอียด พยายามอย่าผิดพลาดอย่างเด็ดขาด” ลู่หยางกล่าว

หลานอวี่พยักหน้ารับอย่างตื่นเต้นพร้อมกับมองดูลู่หยางที่ค่อย ๆ ก้าวเท้าไปด้านหน้าทีละน้อย ซึ่งหลังจากที่ฟอลเลนกลุ่มแรกเดินผ่านระยะ 30 เมตรไป ฟอลเลนกลุ่มที่ 2 ก็เดินตามหลังมาและตำแหน่งของพวกมันก็เกือบจะมองเห็นพวกเธอพอดีทำให้หลานอวี่ต้องค่อย ๆ เดินตามลู่หยางไปด้วยหัวใจที่เต้นระรัว

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวทุกอย่างจะดีเอง” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับกระชับมือที่จับหลานอวี่เบา ๆ

“ฉันไม่เป็นไร” หลานอวี่กล่าว

ลู่หยางพยักหน้ารับพร้อมกับพาหลานอวี่เดินต่อไป ซึ่งทุก ๆ 30 เมตรที่เดินผ่านไปจะมีฟอลเลนกลุ่มใหม่เดินตามมาทางด้านหลังและหลังจากที่พวกเขาเดินไปได้อีก 50 เมตร มันก็มีปีศาจสามตาตัวหนึ่งอยู่ด้านหน้า โดยปีศาจตัวนี้เป็นเหมือนกับหัวโต ๆ ที่มีแขนขายื่นออกมาทั้ง 4 ข้าง

ช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด ลู่หยางจึงจูงมือหลานอวี่ย่อตัวเดินอย่างช้า ๆ และในระหว่างที่ฟอลเลนเดินไปจนถึงจุดสุดท้ายและกำลังจะหันหลังกลับ ในเวลานั้นพวกเขาก็ต้องกระโจนไปยังด้านหลังปีศาจสามตาโดยไม่ให้มอนสเตอร์ตัวไหนพบเห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาเลย

ยิ่งพวกเขาเข้าไปใกล้ปีศาจสามตามากเท่าไหร่ หัวใจของหลานอวี่ก็ยิ่งเต้นรัวขึ้นมาเท่านั้น แต่โชคดีที่การเดินตามลู่หยางทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้เป็นอย่างดี หลานอวี่จึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

บริเวณโดยรอบยังมีปีศาจสามตาอยู่อีกหลายตัว แต่โชคดีที่ปีศาจพวกนี้ยืนอยู่ห่างกันแต่ละตัวมากกว่า 30 เมตร

หลังจากที่ทั้งคู่ค่อย ๆ ย่องไปจนถึงบ้านหลังหนึ่ง มันก็มีนกปีศาจบินผ่านมาจากบนฟากฟ้า ชายหนุ่มจึงรีบกดหลานอวี่ให้นอนราบไปกับพื้นเพื่อให้พวกเขาหลบพ้นจากระยะการตรวจจับของนกบนฟ้า

เมื่อนกปีศาจบินผ่านไปลู่หยางก็พาหลานอวี่ไปยังด้านข้างของตัวบ้าน จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า

“เหยียบไหล่ชั้นแล้วกระโดดขึ้นไป”

“เอ่อ…ฉันว่าพี่เหยียบไหล่ฉันขึ้นไปก่อนดีกว่า” หลานอวี่กล่าวพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง

“ทำไมล่ะ?” ลู่หยางถามอย่างสับสน

“ทำไปเถอะ ไม่ต้องถาม” หลานอวี่ตอบอย่างเขินอาย

ลู่หยางสังเกตคนรักของตัวเองอย่างละเอียด ก่อนที่จะสังเกตเห็นว่าหญิงสาวสวมชุดคลุมยาวซึ่งมันมีลักษณะคล้ายกับชุดกระโปรง

“เอาแบบนี้แล้วกัน เธอใช้มีดเอสเคพเดจเจอร์เล่มนี้กระโดดขึ้นไป เดี๋ยวฉันจะใช้สกิลแฟลชเทเลพอร์ตตามขึ้นไปเอง” ลู่หยางกล่าว

หลานอวี่พยักหน้ารับก่อนที่จะขว้างมีดขึ้นไปทางด้านบน ส่วนลู่หยางก็ได้ใช้สกิลเทเลพอร์ตกระโดดตามขึ้นไปด้วยเช่นกัน

“ใช้มีดได้ไม่เลวเลยนี่” ลู่หยางกล่าวชม

“ก็แค่พอใช้ได้ค่ะ” หลานอวี่กล่าวพร้อมกับส่งมีดคืน

ลู่หยางยื่นมือออกไปผลักมือของหญิงสาวพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า

“เธอเก็บเอาไว้ก่อน หลังจากนี้เราจะต้องเทเลพอร์ตกันอีกหลายครั้ง”

หลานอวี่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ จากนั้นทั้งสองก็วิ่งไปตามหลังคาบ้าน ซึ่งหลังจากที่ทั้งคู่หลบการมองเห็นของนกปีศาจไปหลายครั้ง ลู่หยางก็พาหลานอวี่มาถึงทางเข้าดันเจียนลอสซิตี้ได้สำเร็จ

 

 


มาทำไมกันนะ? ทุลักทุเลเหลือเกิน 5555

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.