บทที่ 317 วิธีเปลี่ยนอาชีพที่โหดร้าย
บทที่ 317 วิธีเปลี่ยนอาชีพที่โหดร้าย
ลู่หยางใช้สกิลฮีลเพื่อเพิ่มพลังชีวิตของตัวเอง ก่อนจะหันไปตะโกนบอกลูกน้องที่อยู่ทางด้านหลังว่า
“ใครที่โดนฟ้าผ่าให้รีบฟื้นฟูพลังตัวเองกลับมาทันที แต่จำเอาไว้ว่าให้ใช้น้ำยาฟื้นฟูพลังชีวิตอย่าใช้ผ้าพันแผล”
สาเหตุที่ลู่หยางต้องสั่งออกไปแบบนั้นเพราะการใช้ผ้าพันแผลเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตจำเป็นจะต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่เป็นเวลา 10 วินาที ซึ่งในช่วงเวลานั้นพวกเขาก็อาจจะโดนฟ้าผ่าลงมาซ้ำได้
“ครับ/ค่ะ” สมาชิกภายในทีมไม่มีใครที่จะบ่นเรื่องการใช้น้ำยาฟื้นฟูพลังชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว แม้ว่าน้ำยาเหล่านี้จะมีราคาแพงมากแค่ไหนก็ตาม
ท้ายที่สุดการเดินทางครั้งนี้ก็เป็นการเดินทางมาเพื่อเปลี่ยนอาชีพ ยิ่งไปกว่านั้นหัวหน้ากิลด์ของพวกเขายังนำทีมมาด้วยตัวเอง สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมันก็มากพอที่จะทำให้พวกเขาเอาไปโอ้อวดภายในกิลด์ได้ตลอดชีวิต
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ลู่หยางนำทุกคนปีนขึ้นไปถึงยอดเขาได้สำเร็จ ซุนหยูจึงมองไปยังก้อนเมฆสีขาวที่อยู่ใต้เท้าพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“โอ้โหสูงมาก!”
บริเวณยอดเขามีนกอินทรีสายฟ้าบินวนไปมาให้เห็นอยู่หลายตัว แต่เมื่อพวกมันได้พบเห็นผู้บุกรุกนกอินทรีเหล่านี้ต่างก็ส่งเสียงกรีดร้องขึ้นมาด้วยความโกรธ
อินทรีสายฟ้า (แรร์)
เลเวล 30
พลังชีวิต 7,000/7,000
“สัตว์เลี้ยงหายาก! มันมีอยู่มากขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?” นักธนูคนหนึ่งอุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
สัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดภายในเกมคือสัตว์เลี้ยงชนิดหายาก เพราะพวกมันมีค่าสถานะที่สูงกว่าสัตว์เลี้ยงธรรมดาถึง 1 ใน 5 แถมยังมีสกิลพิเศษติดตัวมาอีกด้วย ทำให้ในปัจจุบันสัตว์เลี้ยงหายากจึงมีราคามากกว่า 2 เหรียญทอง แม้ว่าสัตว์เลี้ยงตัวนั้นจะเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงเลเวล 10 ก็ตาม
“ถ้าเราจับมันไปขาย พวกมันน่าจะทำเงินได้มากกว่า 20 เหรียญทองเลยนะ”
“หัวหน้า พวกเราจะจับพวกมันใช่ไหมครับ?” นักธนูคนหนึ่งถามขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“ใช่ สาเหตุที่ฉันพาพวกนายขึ้นมาที่นี่ก็เพื่อขึ้นมาจับพวกมันนี่แหละ” ลู่หยางตอบ
“แล้วทำไมพวกมันถึงไม่บินลงมาล่ะครับ ถ้ามันบินอยู่แบบนี้แล้วพวกเราจะจับพวกมันยังไง?” นักธนูคนหนึ่งพูดอย่างหงุดหงิด
ระยะของสกิลจับสัตว์เลี้ยงของนักธนูอยู่ที่ 5 เมตรเท่านั้น แต่พวกอินทรีสายฟ้าบินอยู่เหนือศีรษะของพวกเขาเกินกว่า 50 เมตร มันจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถจะใช้สกิลจับสัตว์เลี้ยงออกมาได้
เมื่อลู่หยางได้เห็นสีหน้าของทุกคน เขาก็เผยรอยยิ้มพร้อมกับหยิบผลึกลมฟ้าออกมาจากกระเป๋า
“ซุนหยูช่วยเอาพวกมันไปแจกให้กับทุกคนหน่อย”
“นี่มันอะไรครับ?” ซุนหยูถามอย่างสงสัย
“นี่คือผลึกลมฟ้าที่ได้รับมาจากการสังเคราะห์แก่นเวทมนตร์มากกว่า 60,000 ชิ้น ถึงแม้ฉันจะเอาแก่นเวทมนตร์ทั้งหมดที่พวกนายหามาเอามาสังเคราะห์ แต่ฉันก็ได้รับผลึกลมฟ้ามาแค่ 51 ชิ้นเอง” ลู่หยางอธิบาย
“โอ้โห! พวกเราทั้ง 6,000 กว่าคนต้องใช้เวลารวบรวมวัตถุดิบพวกนั้นตั้ง 1 สัปดาห์ แต่มันกลับเอามาสังเคราะห์เป็นผลึกลมฟ้าได้ 51 ชิ้นเองเหรอครับ?” ซุนหยูเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่ามันมีค่ามากแค่ไหน จำเอาไว้ว่าการเปลี่ยนอาชีพมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หรอกนะ” ลู่หยางกล่าว
ซุนหยูพยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะแจกผลึกลมฟ้าให้กับทุกคน
ชายหนุ่มรอจนกระทั่งซุนหยูแจกผลึกลมฟ้าให้กับทุกคนเรียบร้อยแล้ว เขาจึงพูดขึ้นมาว่า
“ทุกคนกระจายกันไปหาพื้นที่ของตัวเองแล้ววางผลึกลมฟ้าห่างจากตัว 5 เมตร อีกไม่นานอินทรีสายฟ้าจะบินลงมาหาผลึกลมฟ้าเอง ในเวลานั้นพวกนายก็จับมันได้เลย”
แม้คำพูดของลู่หยางจะฟังดูง่าย แต่การกระทำกลับเป็นสิ่งที่ยากมาก และในชีวิตก่อนกว่าที่ผู้เล่นจะเรียนรู้เรื่องนี้ มันก็ต้องรอเวลาผ่านพ้นไปเกือบ 1 ปีหลังจากที่เกมเปิดให้บริการ
ย้อนกลับไปในตอนนั้นมีสตูดิโอภายในทวีปยุโรป 1 ทำการวิจัยไอเท็มแปลก ๆ ภายในเกม และเมื่อพวกเขาได้พบว่าอินทรีสายฟ้าบนภูเขาธันเดอร์เอจเป็นสัตว์เลี้ยงหายาก พวกเขาจึงใช้เวลาวิจัยมอนสเตอร์ชนิดนี้เป็นเวลานานกว่า 3 เดือน
ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบว่าอินทรีสายฟ้ามีสกิลพิเศษติดตัวมาด้วยจริง ๆ ซึ่งสกิลนั้นมันก็เป็นสกิลที่มีชื่อว่าไลท์นิ่งเบลด
ไลท์นิ่งเบลด: ยิงสายฟ้าใส่เป้าหมายพร้อมกับสร้างความเสียหาย 450 หน่วย การโจมตีสามารถชิ่งไปยังเป้าหมายต่อไปได้สูงสุด 20 เป้า และทุกครั้งที่สายฟ้าชิ่งไปยังเป้าหมายใหม่ มันจะเพิ่มความเสียหายขึ้นมาอีก 5%
หากศัตรูเป็นเพียงเป้าหมายเดี่ยว ไลท์นิ่งเบลดจะไม่สามารถสร้างความเสียหายได้มากนัก แต่ถ้าหากศัตรูอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ไลท์นิ่งเบลดก็จะกลายเป็นสกิลที่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างน่ากลัวเลยทีเดียว
นอกจากนี้อินทรีสายฟ้ายังมีความสามารถในการบินข้ามศีรษะตัวแทงค์ไปจู่โจมนักเวทและนักบวชภายในกองทัพของศัตรูได้ แล้วเนื่องมาจากผู้เล่นอาชีพเหล่านี้มีพลังชีวิตที่น้อยมาก ไลท์นิ่งเบลดจึงกลายเป็นสกิลที่สามารถสังหารผู้เล่นเหล่านี้ได้ในคราวเดียว
ในชีวิตก่อนเมื่อหัวหน้ากิลด์ใหญ่ได้เห็นผลของสกิลไลท์นิ่งเบลด พวกเขาต่างก็แสดงความคิดเห็นออกมาอย่างเสียดาย ซึ่งมันก็มีหลาย ๆ คนออกมาพูดในแนวทางเดียวกันว่าหากพวกเขามีฝูงอินทรีสายฟ้าตั้งแต่เลเวล 30 การทำสงครามในช่วงเวลานั้นมันก็คงจะง่ายขึ้นเยอะ
น่าเสียดายที่กว่าพวกเขาจะรู้เรื่องอินทรีสายฟ้า ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็มีเลเวลเกินกว่า 50 แล้ว อินทรีสายฟ้าจึงกลายเป็นเหมือนกับเครื่องประดับที่ไม่สามารถนำมาใช้การได้จริง ลู่หยางเลยอยากจะลองดูว่าหากพวกเขาจับอินทรีสายฟ้ามาได้ในช่วงเวลานี้ พวกมันจะส่งผลกระทบต่อสงครามมากขนาดไหน
“หัวหน้า ผมจับได้แล้ว!” ผู้เล่นที่ชื่อเกลวินด์ตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ขณะมองดูอินทรีตัวสีฟ้าสดที่กำลังยืนเกาะอยู่บนแขนของเขา
“ผมก็จับได้แล้วครับ!”
…
ไม่นานนักธนูทั้ง 50 คนก็จับนกอินทรีสายฟ้าได้สำเร็จเหลือเพียงแค่ซุนหยูที่ยังไม่ได้ลงมือทำอะไร เพราะในฐานะของหัวหน้าทีม เขาจึงเลือกที่จะคอยดูแลลูกน้องทุก ๆ คนก่อนแล้วค่อยจับสัตว์เลี้ยงของตัวเองทีหลัง
เมื่อได้เห็นทุกคนจับอินทรีสายฟ้าได้เรียบร้อยแล้ว ซุนหยูจึงหาที่วางผลึกลมฟ้าด้วยเช่นกัน จากนั้นเขาก็ถอยออกไปยืนห่างจากผลึก 5 เมตร
บนท้องฟ้ายังมีอินทรีสายฟ้าเหลืออยู่มากกว่า 10 ตัว เมื่อมีอินทรีตัวหนึ่งสัมผัสได้ถึงผลึกสายฟ้า มันก็บินลงมาด้านล่างในทันที แต่ในขณะที่อินทรีตัวนั้นกำลังจะบินลงมาจนถึงพื้น มันก็มีเสียงกรีดร้องของนกอินทรีตัวหนึ่งดังขึ้นมาเสียก่อน
ลู่หยางรีบเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนที่เขาจะได้พบกับอินทรีสายฟ้าตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าอินทรีสายฟ้าปกติถึง 2 เท่าค่อย ๆ บินลงมาทางด้านล่างแล้วกลืนผลึกลมฟ้าของซุนหยูเข้าไป
ราชาอินทรีสายฟ้า (แรร์อีลิท)
เลเวล 30
พลังชีวิต 15,000/15,000
ซุนหยูมองอินทรีด้านหน้าอย่างตกตะลึง เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าอินทรีสายฟ้าของตัวเองที่บินลงมาจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่หาได้ยากกว่าคนอื่นแบบนี้
“หัวหน้า ผมควรทำยังไงดีครับ?” ซุนหยูถามอย่างสับสน
“รีบจับมันสิ โอกาสแบบนี้มันมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ” ลู่หยางพูดอย่างตื่นเต้น
“มันจับได้ด้วยเหรอครับ?” ซุนหยูกล่าวพร้อมกับใช้สกิลจับสัตว์เลี้ยง
ราชาอินทรีสายฟ้าที่พึ่งกลืนผลึกลมฟ้าเข้าไปแสดงสีหน้าออกมาอย่างพึงพอใจ และถึงแม้ว่ามันจะมีอาการต่อต้านอยู่บ้าง แต่ในเวลาไม่ถึง 2 นาทีด้านหลังซื่อของราชาอินทรีสายฟ้าก็ปรากฏชื่อของซุนหยูตามมาในวงเล็บ
“หัวหน้า ผมจับได้แล้ว!” ซุนหยูอุทานอย่างตื่นเต้น
ลู่หยางถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนที่เขาจะเดินไปตบไหล่ซุนหยูเบา ๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า
“นายนี่มันโชคดีจริง ๆ”
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผลึกลมฟ้าชุดนี้จะเอามาจับราชาอินทรีสายฟ้าได้ เพราะท้ายที่สุดเงื่อนไขในการเปลี่ยนอาชีพที่เขาพาทุกคนมาคือการพาอินทรีสายฟ้าที่มีสกิลวินด์ธันเดอร์วิงไปให้แอซไรต์ ซึ่งเป็น NPC พ่อค้าทะเลทรายบริเวณเขตทางใต้ของเมืองเซนต์กอลล์
เมื่อผู้เล่นพาอินทรีสายฟ้าที่มีสกิลตรงตามเงื่อนไขไปหาแอซไรต์ เขาจะทำการหยุดผู้เล่นคนนั้นเอาไว้พร้อมกับเสนอซื้ออินทรีสายฟ้าในราคา 20 เหรียญทอง ซึ่งถ้าหากผู้เล่นเลือกไม่ขาย เขาก็จะเสนอใบเปลี่ยนอาชีพมาแลกกับอินทรีสายฟ้าไป
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ลู่หยางตื่นเต้นได้มากขนาดนี้ มันก็เพราะราชาอินทรีสายฟ้าคือสัตว์เลี้ยงที่มีสกิลวินด์ธันเดอร์วิงติดตัวมาตั้งแต่เกิด
หลังจากซุนหยูฟังลู่หยางอธิบายถึงเงื่อนไขการเปลี่ยนอาชีพ เขาก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเซ็ง ๆ ว่า
“แบบนี้มันก็หมายความว่าผมต้องขายราชาอินทรีสายฟ้าให้กับเขางั้นเหรอครับ?”
“ใช่” ลู่หยางตอบพร้อมกับพยักหน้า
“ภารกิจเปลี่ยนอาชีพของนักธนูนี่มันโหดร้ายจริง ๆ กว่าจะจับอินทรีสายฟ้าได้ มันก็ต้องใช้แก่นเวทมนตร์ไปตั้งเยอะ หลังจากจับสัตว์เลี้ยงหายากมาได้ก็ต้องให้สัตว์เลี้ยงพวกนี้กับ NPC ไปอีกทั้ง ๆ ที่ถ้าเรามีสกิลไลท์นิ่งเบลดในระหว่างการเปลี่ยนอาชีพ มันจะทำให้ความเร็วในการเก็บเลเวลของพวกเราเพิ่มขึ้นจากเดิมแท้ ๆ” ซุนหยูเริ่มบ่น
เกลวินด์และนักธนูคนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าอย่างเสียดายด้วยเหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งเปลี่ยนอาชีพ คอยฟังคำสั่งจากฉันแล้วไปเปลี่ยนอาชีพกันทีหลัง” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ซุนหยูกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนที่จะแอบส่งข้อความไปหาลู่หยางอย่างลับ ๆ
“หัวหน้ากำลังจะเริ่มทำสงครามแล้วใช่ไหมครับ?”
ชายหนุ่มตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มอันลึกลับ ก่อนที่จะหันไปพูดกับทุกคนว่า
“ทุกคนแยกย้ายกันกลับได้ ส่วนซุนหยูตามฉันเข้าไปในเมือง”
ซุนหยูมองไปยังลู่หยางด้วยแววตาอันเป็นประกาย ก่อนที่เขาจะเทเลพอร์ตกลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์ด้วยความหวัง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 157
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น