บทที่ 316 อินทรีสายฟ้า
บทที่ 316 อินทรีสายฟ้า
“หากคุณยอมขายวัตถุดิบพวกนี้ให้กับผมในราคาตลาด ผมจะยอมซื้อสมุนไพรและแร่ระดับต่ำภายในคลังของคุณทั้งหมด” ลู่หยางกล่าว
ข้อเสนอของอีกฝ่ายทำให้ลู่จงเทียนตกตะลึงขึ้นมาอย่างกะทันหัน เพราะเขากำลังกังวลว่าจะขายของพวกนั้นออกไปไม่ได้อยู่พอดี
“คุณพูดจริงเหรอ?!”
“ผมจะไปโกหกคุณทำไม แต่คุณจะต้องจัดหาวัตถุดิบเลเวล 30 ให้กับผม 10 ชนิด ๆ ละ 1,000 ชุด หากคุณทำไม่ได้ข้อเสนอของผมก็ถือว่าเป็นโมฆะ” ลู่หยางกล่าว
“เฮ้พี่ชาย! สิ่งที่คุณพูดมันไม่มากเกินไปหน่อยงั้นเหรอ วัตถุดิบ 10 ชนิดที่คุณพูดถึงมีมูลค่ามากกว่า 6 ล้านเครดิตเชียวนะ หากมันรวมกับข้อเสนอที่คุณพูดมา มันก็หมายความว่าคุณต้องจ่ายเงินให้กับผมมากกว่า 6,300,000 เครดิต”
“เรื่องนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วง ปัญหาเพียงอย่างเดียวคือคุณมีวัตถุดิบเพียงพอตามที่ผมต้องการหรือเปล่า” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ลู่จงเทียนคิดกับตัวเองอยู่สักครู่ว่าถึงแม้เขาจะคิดราคาวัตถุดิบในราคาตลาด แต่มันก็รวมเป็นมูลค่าที่สูงมากแล้วมันจึงไม่มีช่องว่างให้เขาขอราคาเพิ่มอีก
“ได้ เดี๋ยวผมจะจัดส่งสินค้าให้กับคุณตอนนี้เลย”
“คุณช่วยส่งวัตถุดิบทั้งหมดไปที่คลังหมายเลข 33 ทางเหนือของเมืองเซนต์กอลล์และรบกวนช่วยเซ็นสัญญารักษาความลับกับเราด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้คุณนำเรื่องนี้ไปเปิดเผยต่อคนนอกอย่างเด็ดขาด” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหา” ลู่จงเทียนกล่าว
ไม่นานลู่จงเทียนก็ส่งวัตถุดิบไปยังคลังที่ลู่หยางกำหนดไว้ ส่วนชายหนุ่มก็ติดต่อไปยังสตูดิโอแห่งที่ 2 เพื่อกว้านซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติม
การเจรจายังคงเป็นไปในลักษณะเดิม โดยลู่หยางได้ทำการขอซื้อเหมาวัตถุดิบทั้งหมดและให้สตูดิโอเหล่านั้นทำการส่งไอเท็มไปยังคลังหมายเลข 33
ขณะเดียวกันชายหนุ่มก็ได้เรียกฮั่นจงให้เดินทางไปยังคลังหมายเลข 33 เมื่อได้เห็นวัตถุดิบที่กองรวมกันอยู่มากกว่า 20,000 ชุด ฮั่นจงก็พูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจว่า
“ลู่หยาง นายไปเอาวัตถุดิบมากมายขนาดนี้มาจากไหน?”
“ผมเหมาซื้อพวกมันมาจากพ่อค้ารายใหญ่หลายรายเลยครับ” ลู่หยางกล่าว
“นายมีเงินเหลืออยู่เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ลู่หยางส่ายหน้าพร้อมกับกล่าวว่า
“ผมพึ่งได้เงินสนับสนุนมาจากนักลงทุนรายใหญ่และใช้เงินที่เขาให้มาในการซื้อวัตถุดิบพวกนี้ ผมขอฝากอาจารย์เปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นวัตถุดิบระดับทอง 1,000 ชิ้นภายในช่วง 10 วันนี้ด้วยนะครับ”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะคอยดูแลเรื่องนี้ให้เอง” ฮั่นจงกล่าว
ลู่หยางพยักหน้ารับก่อนจะเดินทางไปยังคลังของร้านตีเหล็ก ซึ่งหลังจากเวลาได้ผ่านพ้นมา 5 วัน พวกเสี่ยวเหลียงก็ทำการทดลองสวมใส่อุปกรณ์ต่างมิติจนหมดทุกชิ้น
ภายในอุปกรณ์เหล่านั้นมันได้มีอุปกรณ์ระดับเงินเลเวล 30 อยู่ 98 ชุด, อุปกรณ์ระดับทอง 26 ชุดและอุปกรณ์ระดับตำนานของนักเวทอีก 1 ชุด
“พี่เอาอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปใส่สิ มันเพิ่มพลังโจมตีเวทได้สูงมากเลยนะ” ฮั่นเฟยกล่าวอย่างตื่นเต้น
ชายหนุ่มหยิบคทาต่างมิติและอุปกรณ์อีก 17 ชิ้นขึ้นมาสวมใส่ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่า
“ไหนทุกคนลองเดาซิว่าตอนนี้พลังโจมตีเวทของฉันเพิ่มขึ้นมาเป็นเท่าไหร่แล้ว?”
“1,500?”
“1,800?”
“2,000!”
ลู่หยางส่ายหน้าก่อนจะพูดออกไปว่า
“2,268”
“โอ้โห! แบบนี้เบลซซิงเบิร์สของลูกพี่มันก็สามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่า 2,700 หน่วยแล้วนะ” เสี่ยวเหลียงอุทานอย่างตกตะลึง
“ถ้าพี่ใช้เวทมนตร์ต้องห้ามออกมา ผมว่านอกจากตัวแทงค์มันก็คงจะไม่มีใครรับการโจมตีของพี่ไหว” ฮั่นอวี่กล่าว
ลู่หยางพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ซึ่งในชาติก่อนเขาก็ไม่เคยสวมใส่ชุดอุปกรณ์ระดับตำนานเต็มตัวแบบนี้อยู่เหมือนกัน และในคราวนี้สาเหตุที่เขาสามารถรวบรวมชุดอุปกรณ์ระดับตำนานได้มันก็เป็นเรื่องของดวงล้วน ๆ
ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้นแบล็คเฟลมก็ติดต่อเข้ามา
“หัวหน้า ตอนนี้นักเวทไฟภายในทีมของเราทั้ง 100 คนเรียนรู้สกิลลมหายใจมังกรกันหมดแล้วครับ ขั้นตอนต่อไปพวกเราจะต้องทำอะไรครับ?”
“กลับไปที่ป้อมปราการคริมสันเพื่อเก็บเลเวลต่อ ฝากบอกทุกคนด้วยว่าฉันเตรียมชุดเซ็ตแอช 100 ชุดเอาไว้ให้แล้ว หากใครมีเลเวลถึง 30 ก็ให้พวกเขาเอาชุดใหม่ไปใส่ได้เลย” ลู่หยางกล่าว
“ขอบคุณครับหัวหน้า” แบล็คเฟลมกล่าวอย่างตื่นเต้น
ก่อนหน้านี้ด้วยความช่วยเหลือจากลู่หยาง มันก็ทำให้เขาได้เปลี่ยนอาชีพเป็นแบล็คเฟลมเมจแถมยังได้เรียนรู้เวทมนตร์กึ่งต้องห้ามมาอีกด้วย ยิ่งในตอนนี้ลู่หยางยังหาอุปกรณ์มาให้พวกเขาเพิ่มเติม มันจึงทำให้ชายหนุ่มรู้สึกซาบซึ้งจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี
“ช่วงนี้ก็พยายามเก็บเลเวลเข้าล่ะ อย่าทำให้ฉันผิดหวัง” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“หัวหน้าวางใจผมได้เลยครับ หากทุกคนได้ยินเรื่องนี้พวกเขาจะต้องดีใจกันมากแน่ ๆ” แบล็คเฟลมกล่าว
หลังจากลู่หยางวางสายไปได้ไม่ถึง 10 นาที ซุนหยูก็ติดต่อเข้ามาหาเขาด้วยเช่นกัน
“หัวหน้า พวกเรารวบรวมแก่นเวทมนตร์ได้มากกว่า 20,000 ชุดแล้วครับ จำนวนแค่นี้มันมากพอแล้วหรือยัง?”
ลู่หยางคำนวณภายในใจก่อนจะพูดออกไปว่า
“ส่งคนเอาพวกมันไปใส่ไว้ในคลังกิลด์แล้วเลือกนักธนูเลเวล 30 มา 50 คน ในอีก 2 ชั่วโมงให้ทุกคนมารวมตัวกันที่เชิงเขาธันเดอร์เอจบนที่ราบสูงวินด์ธันเดอร์ไฮแลนด์”
“ได้ครับ” ซุนหยูตอบ
หลังจากวางสายลู่หยางก็มองไปยังคนรอบข้างพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“ฉันขอออกไปจัดการธุระก่อน พวกนายแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองก็แล้วกัน”
“ลูกพี่จะเริ่มทำสงครามแล้วเหรอครับ?” เสี่ยวเหลียงถาม
ลู่หยางเผยรอยยิ้มโดยไม่ตอบอะไร จากนั้นเขาก็เดินออกจากร้านตีเหล็กไปที่คลังของกิลด์เพื่อเอาแก่นเวทมนตร์ก่อนจะทำการเทเลพอร์ตไปยังวิหารเทพอสูร
แก่นเวทมนตร์เป็นวัตถุดิบสำหรับการสร้างคัมภีร์เวทมนตร์และอุปกรณ์ระดับต่ำบางชนิด แต่ภายในเกมมันก็มีคนอยู่น้อยมากที่รู้ว่าแก่นเวทมนตร์สามารถนำมาอัปเกรดได้
ภายในแก่นเวทมนตร์เก็บสะสมพลังของลมและสายฟ้าเอาไว้ หากผู้เล่นทำการอัปเกรดแก่นเวทมนตร์สำเร็จ 10 ครั้ง มันจะกลายเป็นผลึกลมฟ้าซึ่งเป็นไอเท็มชนิดเดียวที่สามารถใช้จับนกอินทรีสายฟ้าได้
2 ชั่วโมงต่อมาลู่หยางก็ได้ทำการเปลี่ยนแก่นเวทมนตร์กว่า 600,000 ชิ้นให้กลายเป็นผลึกลมฟ้าเพียงแค่ 51 ชิ้นเท่านั้น
“ทุกคนมาถึงแล้วหรือยัง?” ลู่หยางติดต่อไปหาซุนหยู
“ทุกคนมารวมตัวกันเรียบร้อยแล้วครับ” ซุนหยูตอบ
“โอเค เดี๋ยวฉันรีบไป” ลู่หยางตอบก่อนที่เขาจะรีบเดินทางไปยังเชิงเขาธันเดอร์เอจอย่างรวดเร็ว
ครึ่งชั่วโมงต่อมาลู่หยางก็มองเห็นซุนหยูและนักธนูอีก 50 คนยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว
“พวกเขาคือสมาชิกที่ไว้ใจได้และทุกคนก็เป็น 1 ในผู้เล่น 10,000 คนที่ยอมพลีชีพให้กับเราในสงครามกับบลัดเติสตี้ครับ” ซุนหยูพูดแนะนำ
ลู่หยางมองดูนักธนูเหล่านี้ด้วยความพึงพอใจ เพราะในสงครามกับบลัดเติสตี้หากไม่มีผู้เล่นกลุ่มนี้เสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อเป็นเหยื่อล่อ บางทีพวกเขาก็อาจจะพ่ายแพ้ในสงครามครั้งนั้นก็ได้
“ขอบคุณทุกคนที่เชื่อมั่นในกิลด์มาโดยตลอด วันนี้ฉันจะไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวังและฉันก็จะพาพวกนายทุกคนไปเปลี่ยนอาชีพพร้อมกันหมดเลย” ลู่หยางกล่าว
เมื่อได้ยินคำพูดของลู่หยาง มันก็ทำให้ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
ช่วงเวลานี้การเปลี่ยนอาชีพเป็นสิ่งที่ทำได้ยากเป็นอย่างมาก เมื่อลู่หยางบอกว่าจะพาพวกเขาไปเปลี่ยนอาชีพ ทุกคนจึงรีบตามหัวหน้ากิลด์เข้าไปในภูเขาธันเดอร์เอจด้วยความตื่นเต้น
—
เขาธันเดอร์เอจ
สถานที่แห่งนี้คือหนึ่งในแผนที่เลเวล 30 ที่ผู้เล่นไม่ชอบมากที่สุด เพราะพื้นที่ของภูเขาอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตร และผู้เล่นก็จำเป็นจะต้องเดินด้วยเท้าเพื่อขึ้นไปบนภูเขาเท่านั้น
ขณะเดียวกันบนภูเขาก็มีมอนสเตอร์อยู่เพียงแค่ชนิดเดียว ซึ่งมอนสเตอร์ตัวนั้นนั่นก็คือนกอินทรีสายฟ้า
อย่างไรก็ตามนกอินทรีสายฟ้าก็แทบที่จะไม่บินโฉมลงมาทางด้านล่างเลย ดังนั้นถึงแม้ผู้เล่นหลายคนจะอยากจับนกอินทรีเหล่านี้มาเป็นสัตว์เลี้ยง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหาโอกาสจับพวกมันได้ แล้วถึงแม้นาน ๆ ครั้งจะมีนกอินทรีสายฟ้าบินโฉบลงมาด้านล่างด้วยเช่นกัน แต่การจับก็มักจะจบลงด้วยความล้มเหลวเพราะนกอินทรีสายฟ้าเป็นมอนสเตอร์ที่มีนิสัยดุร้ายมาก
ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องมาจากภูเขาธันเดอร์เอจสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตร มันจึงทำให้ตัวภูเขาเกือบจะสูงถึงก้อนเมฆและทำให้ทั่วทั้งภูเขาถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้าตลอดทั้งปี หลังจากผู้เล่นหลาย ๆ คนปีนขึ้นไปบนภูเขาได้ประมาณ 1,000 เมตร พวกเขาก็มักจะโดนฟ้าผ่า ซึ่งฟ้าผ่าแต่ละครั้งสามารถที่จะลดพลังชีวิตของพวกเขาได้ถึง 10%
ที่สำคัญคือยิ่งผู้เล่นปีนขึ้นไปสูงมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งมีโอกาสโดนฟ้าผ่ามากยิ่งขึ้นเท่านั้น และในปัจจุบันลู่หยางก็นำทีมปีนขึ้นมาบนภูเขาในระดับความสูง 1,000 เมตรเรียบร้อยแล้ว
เปรี้ยง!
สายฟ้าฟาดลงมาจากก้อนเมฆด้วยเสียงดังสนั่นพร้อมค่าตัวเลขความเสียหายที่ปรากฏเหนือศีรษะของลู่หยาง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 189
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น