บทที่ 293 ชดใช้
บทที่ 293 ชดใช้
“พรุ่งนี้ให้นายนำทีม 20,000 คนไปที่วินด์ธันเดอร์ไฮแลนด์” ลู่หยางกล่าว
“นั่นมันพื้นที่ชายแดนระหว่างพวกเรากับเพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่ไม่ใช่เหรอครับ? พวกเพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่เก็บเลเวลกันอยู่แถวนั้นไม่น้อยเลย” ซุนหยูถามด้วยแววตาเป็นประกาย
“ไล่คนพวกนั้นออกไปให้หมด ต่อไปนี้พื้นที่ทางตอนเหนือจะอยู่ในการควบคุมของเรา” ลู่หยางกล่าว
“ได้ครับ” ซุนหยูตอบ
“เราทำแบบนี้มันจะไม่กระทบกระทั่งกับฉือมู่งั้นเหรอ?” ถูเฟิงถาม
ลู่หยางหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะพูดออกไปว่า
“เขาแอบมาติดต่อคนของฉันลับหลัง แม้แต่เรื่องของเซี่ยหยู่เว่ยเขาก็ยังแอบมีส่วนร่วม ถ้าฉันไม่ตอบโต้เรื่องนี้กลับไปบ้างในอนาคตเขาก็คงคิดว่าฉันไม่กล้าจะตอบโต้เขากลับไป”
“หัวหน้า ถ้าพวกเพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่มีการต่อต้านผมจัดการกับพวกมันได้เลยใช่ไหมครับ?” ซุนหยูถาม
ในกองกำลังของเขามีผู้เล่นเลเวล 30 อยู่ประมาณ 6,000 คนแล้ว เมื่อมันได้รวมกับผู้เล่นชั้นยอดอย่างแบล็คโน้ตและเรดลีฟไฟอิ้งอีกประมาณ 50 คน มันก็ทำให้กองกำลังของเขาถือได้ว่าเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งมาก
“นายจัดการตามเห็นสมควรได้เลย แต่จำเอาไว้ว่าจุดประสงค์ของการฆ่าคนคือการสร้างความวุ่นวายเท่านั้น เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของนายคือการสังหารเจ้าแห่งลมและผู้พิทักษ์ของมันเพื่อเอาแก่นเวทมนตร์กลับมา”
“เชื่อใจผมได้เลยครับ” ซุนหยูกล่าวอย่างหนักแน่นและสิ่งที่ทำให้เขาชื่นชมลู่หยางมากที่สุดคือชายคนนี้มักจะทำอะไรที่ศัตรูคาดเดาไม่ได้อยู่เสมอ
“ฉันจะบอกความลับอย่างหนึ่งให้นายได้รู้เอาไว้ว่าแก่นเวทมนต์ธาตุลมที่ได้จากเจ้าแห่งลมเป็นไอเท็มสำคัญสำหรับการปลดล็อคอาชีพลับวินด์ธันเดอร์ฮันเตอร์ ซึ่งเป็นอาชีพที่ปลดล็อคได้ยากที่สุดในเกมนี้แล้ว” ลู่หยางกล่าว
“ขอบคุณครับหัวหน้า” ซุนหยูกล่าว ก่อนที่เขาจะเดินออกไปอย่างมีความสุข
“ฉันเพิ่งได้รายงานจากจุดรับสมัครว่ามีคนผ่านมาตรฐานเข้าร่วมกิลด์ใหม่ประมาณ 50,000 คน พรุ่งนี้นายช่วยนำคนทั้ง 50,000 คนนี้ไปที่ป่าเรดวูดที่อยู่ใกล้ ๆ กับป้อมปราการแบล็คร็อคด้วย” ลู่หยางหันไปพูดกับเจียงเจ๋อ
“นั่นมันพื้นที่ของฉงป้าไม่ใช่เหรอ? แบบนี้มันจะมีปัญหากระทบกระทั่งกันไหม?” เจียงเจ๋อถาม
“คนทั้ง 50,000 บาทคนที่นายพาไปด้วยต่างก็เป็นคนบ้าที่ตั้งใจจะเข้าร่วมทีมของเซี่ยหยู่เว่ย สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคือโอกาสในการแสดงฝีมือ ถ้าพวกโอเวอร์ลอร์ดไม่พอใจอะไรนายก็จัดการกับพวกมันได้เลย”
“คนพวกนี้ต่างก็เป็นผู้เล่นระดับสูงที่มีเลเวล 25 ขึ้นไป หากพวกเขามีประสบการณ์ในสนามรบจริงสักครั้งพวกเขาก็จะพัฒนากลายเป็นผู้เล่นชั้นยอดได้ไม่ยากแล้วจะมีคุณสมบัติเข้าร่วมกับทีมของเซี่ยหยู่เว่ยได้จริง ๆ ขณะเดียวกันถึงแม้พวกโอเวอร์ลอร์ดจะไม่พอใจ แต่พวกมันก็ต้องชั่งใจกันอย่างหนักว่าการปะทะกันในครั้งนี้มันจะคุ้มค่าจริง ๆ หรือเปล่า” ลู่หยางกล่าว
“คราวนี้ฉงป้าคงจะหัวเสียหนักแน่” เจียงเจ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“หลังจากเรายึดพื้นที่นั้นได้แล้วเราจะไม่ทำการคืนพื้นที่ให้กับพวกมันอย่างเด็ดขาด จุดประสงค์หลักของฉันไม่เพียงแต่จะแก้แค้นฉงป้าเท่านั้น แต่ในทุก ๆ วันจะมีไฮดร้าเกิดขึ้นมาในป่าเรดวูดด้วย จากข้อมูลที่บิทเทอร์เลิฟได้มาจากบลัดไทแรนท์ มันก็ดูเหมือนว่าไฮดร้าจะดรอปไอเทมที่มีชื่อว่าไฟร์สเน็คกอล ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการเรียนรู้สกิลลมหายใจมังกร” ลู่หยางกล่าว
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว” เจียงเจ๋อกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“แบล็คเฟลม นายพาทีมนักเวทไปทั้ง 100 คนไปด้วย แต่อย่าเพิ่งไปเรียนรู้สกิลลมหายใจมังกรล่ะ เพราะอีกสักพักฉันมีของดีกว่านั้นจะให้นาย” ลู่หยางกล่าว
“ครับหัวหน้า” แบล็คเฟลมตอบ
ลู่หยางคิดเรื่องอาชีพของแบล็คเฟลมเอาไว้นานแล้วว่าเขาต้องการจะให้อีกฝ่ายเปลี่ยนอาชีพเป็นแบล็คเฟลมเมจ ซึ่งจะมีใบเปลี่ยนอาชีพดรอปลงมาจากบอสของป้อมปราการคริมสัน
หลังจากสั่งการเจียงเจ๋อและแบล็คเฟลมจนเสร็ จลู่หยางก็หันไปพูดกับพวกฮั่นอิ่งว่า
“เดี๋ยวพวกเธอไปเก็บเลเวลในถ้ำปีศาจโบราณเพื่อรวบรวมบลูปริ้นและเอมเมอรัลด์คริสตัล”
“ครับ/ค่ะ” ทั้งสี่คนพูดพร้อมกัน
หลังจากทุกคนออกไปจากห้องลู่หยางก็ทุบโต๊ะอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่อีกต่อไป เพราะท้ายที่สุดหากพวกฉิงชางและสามพี่น้องตระกูลไป๋ถูกซื้อตัวออกไปจากกิลด์จริง ๆ ความเสียหายนั้นมันก็จะส่งผลกระทบมากกว่าการที่เขาสูญเสียเซี่ยหยู่เว่ยไปเสียอีก
โชคดีที่คนเหล่านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ซื่อสัตย์ อย่างไรก็ตามลู่หยางก็ตัดสินใจว่าเขาจะไม่มีทางยอมปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ
“พวกมันต้องชดใช้!”
—
เช้าวันรุ่งขึ้น
ขณะที่ฉือมู่กำลังตื่นนอน ชิงเฟิงก็รีบติดต่อเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก
“หัวหน้าเกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ! ซุนหยูของบลัดบราเธอร์ได้นำกองกำลัง 20,000 คนมายึดพื้นที่เก็บเลเวลของเราทางตอนเหนือของเมืองเซนต์กอลล์ ทำให้ผู้เล่นเดิมของเราที่เก็บเลเวลอยู่บริเวณนั้นถูกสังหารกันไปจนหมดแล้ว”
“อะไรนะ?! นายช่วยเล่ารายละเอียดให้ฉันฟังหน่อยสิ” ฉือมู่ถามอย่างตกใจ
“จู่ ๆ ช่วง 7 โมงเช้าของวันนี้ ซุนหยูก็ได้นำกองกำลัง 20,000 คนบุกเข้ามาทางพื้นที่เก็บเลเวลทางตอนเหนือของเมืองเซนต์กอลล์ ซึ่งแต่เดิมพื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่เก็บเลเวลของกองพันที่ 3 ของเรา ผมยังไม่รู้รายละเอียดของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผลลัพธ์คือทั้งสองฝ่ายเกิดการปะทะกันและทำให้คนของเรากว่า 1,000 คนถูกทีมของซุนหยูกำจัดจนหมด” ชิงเฟิงกล่าว
“ซุนหยูคือลูกศิษย์ของลู่หยางใช่ไหม? ทางบลัดบราเธอร์มีการเคลื่อนไหวอะไรต่ออีกหรือเปล่า?” ฉือมู่ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ซุนหยูฝากหัวหน้ากองพันที่ 3 มาบอกคุณว่าต่อไปนี้พื้นที่เก็บเลเวลทางตอนเหนือของเมืองจะเป็นของบลัดบราเธอร์ ห้ามไม่ให้คนของเพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่เข้าไปในพื้นที่ของพวกเขาอีกเป็นอันขาด” ชิงเฟิงกล่าว
ฉือมู่ขมวดคิ้วคิดอยู่สักพัก ก่อนที่เขาจะถอนหายใจและพูดออกมาว่า
“ลู่หยางกำลังเอาคืนฉันอยู่สินะ”
ชิงเฟิงนิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไร เพราะภายในใจเขาก็รู้สึกไม่พอใจการกระทำของฉือมู่ในก่อนหน้านี้อยู่บ้าง ท้ายที่สุดการพยายามขโมยแม่ทัพของพันธมิตรและการยุยงให้ 1 ในแม่ทัพของพันธมิตรแยกตัวออกจากกิลด์ไป มันก็ไม่ใช่เรื่องที่คนดี ๆ สมควรจะทำออกไปแบบนั้นเลย
“แล้วตอนนี้พวกเราจะแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่เก็บเลเวลของกองพันที่ 3 ยังไงดีครับ?” ชิงเฟิงถาม
“รอฉันเข้าเกมก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ฉือมู่กล่าว
—
ในเกม
หลังฉือมู่เข้ามาภายในเกม จู่ ๆ เขาก็ถูกฉงป้าเชิญเข้าไปในพื้นที่พิเศษโดยที่ยังไม่ทันได้ทำอะไร
“มีอะไรงั้นเหรอ?” ฉือมู่ถาม
“คราวนี้ลู่หยางทำเกินไปแล้ว! เขาได้ส่งกองกำลัง 50,000 คนเข้ามาในป่าเรดวูดห่างจากป้อมปราการแบล็คร็อคของผมไปไม่ไกล และประกาศว่านับแต่นี้ต่อไปพวกเขาได้ยึดครองที่นั่นเอาไว้แล้ว ถึงผมจะพยายามส่งคนไปเจรจาแต่คนของผมก็ถูกฆ่ากลับมาหมด” ฉงป้าพูดด้วยความโกรธ
“ลู่หยางคงจะรู้เรื่องที่พวกเราพยายามไปดึงตัวคนของเขาและกำลังพยายามจะแก้แค้นพวกเราคืนสินะ” ฉือมู่กล่าว
“คุณก็โดนพวกเขาโจมตีด้วยงั้นเหรอ?” ฉงป้าถามอย่างตกตะลึง
“ลู่หยางส่งซุนหยูกับกองกำลังอีก 20,000 คนมาไล่คนของฉันออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองและฆ่าคนของฉันไปอีกพันกว่าคน” ฉือมู่กล่าว
“ลู่หยางตั้งใจจะทำอะไรกันแน่? เขาต้องการจะตัดขาดความสัมพันธ์ของพวกเรางั้นเหรอ” ฉงป้าถามอย่างประหลาดใจ
“ฉันว่ามันคงไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพราะพวกเราทั้ง 3 ฝ่ายต่างก็ต้องพึ่งพากันและกัน เพียงแต่คราวนี้เขาแค่พยายามเตือนพวกเราว่าอย่าไปยุ่งกับเรื่องภายในของพวกเขา” ฉือมู่กล่าว
“จะกิลด์ไหนมันก็มีเรื่องการซื้อตัวด้วยกันทั้งนั้นแหละ ทำไมเขาจะต้องโมโหขนาดนั้นด้วย?!” ฉงป้ากล่าวอย่างไม่พอใจ
“เขายังเป็นเพียงแค่เด็กจะมีอารมณ์หุนหันไปบ้างมันก็เป็นเรื่องปกติ อย่างน้อยเขาก็ยังไม่ได้เข้ามายึดดินแดนหลักของพวกเราแสดงว่าเรื่องนี้มันยังพอมีช่องว่างให้เจรจาอยู่บ้าง” ฉือมู่กล่าว
“ถึงเราจะพอพูดคุยกับเขาได้ แต่ผมกลัวว่าลูกน้องที่เขาส่งมาจะไม่ยอมคุยอะไรน่ะสิ คุณอาจจะยังไม่รู้ว่ากองทัพที่เขาส่งมาคือกองกำลังพิทักษ์ราชินีที่เขาเพิ่งรับเข้ากิลด์ไปใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นลู่หยางยังตั้งกฎภายในกิลด์ของตัวเองว่าคนที่จะสามารถเข้าร่วมทีมของเซี่ยหยู่เว่ยได้จะต้องเคยเข้าร่วมสงครามกับบลัดบราเธอร์มาก่อน คนพวกนั้นมันเลยกระหายสงครามและคิดจะใช้คนของผมเป็นเหยื่อในความก้าวหน้าของพวกมัน” ฉงป้ากล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ฉันคิดว่านายควรใจเย็น ๆ เอาไว้ก่อน ลู่หยางไม่ได้เสียเงินลงทุนกับกองกำลังนี้เลยแม้แต่นิดเดียว พวกเขาต่างก็มารวมตัวกันเพราะเสน่ห์ของเซี่ยหยู่เว่ย ถึงนายจะทำสงครามกับพวกเขาไปแต่มันก็ไม่คุ้มค่ากับนายหรอก” ฉือมู่กล่าว
นี่คือสิ่งที่ฉงป้ากังวลอยู่เหมือนกัน เขาจึงพูดออกไปว่า
“แล้วจะให้ผมทำยังไง?! จะปล่อยให้พวกมันยึดป่าเรดวูดไปงั้นเหรอ พื้นที่นั้นมันอยู่ห่างจากป้อมปราการของผมแค่ 2 ชั่วโมง พูดตรง ๆ ว่าตอนนี้ผมไม่กล้าทุ่มเทกำลังอย่างเต็มที่เพื่อทำการบุกโจมตีป้อมปราการอีกต่อไปแล้ว”
“2-3 วันนี้ฉันแนะนำให้นายอดทนเอาไว้ก่อน อีกสักพักฉันจะหาข้ออ้างให้เหลยหลงกับเฉียนเฉียนมาช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ให้” ฉือมู่กล่าวอย่างจนใจ
เดิมทีฉงป้าอยากจะให้ฉือมู่มาเป็นแนวร่วมในการกดดันลู่หยางให้ถอนกำลังของตัวเองกลับไป อย่างไรก็ตามฉือมู่กลับยอมแพ้แต่โดยดีเขาจึงออกจากพื้นที่พิเศษไปอย่างไม่พอใจ
—
บนกำแพงป้อมปราการแบล็คร็อค
ฉงป้ามองไปยังป่าเรดวูดที่อยู่ไกลออกไปและได้เห็นเงาราง ๆ ของพวกบลัดบราเธอร์ที่กำลังเก็บเลเวลอยู่ในพื้นที่ มันจึงทำให้เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธเป็นอย่างมากจนต่อยกำแพงเข้าไปอย่างแรง
“ฉือมู่ว่ายังไงบ้างคะ?” ฉวยอู๋อี้ถามด้วยความเป็นห่วง
“ไอ้แก่นั่นมันไม่ยอมช่วยฉันเลย” ฉงป้ากล่าว
“พวกเราจะตอบโต้พวกมันกลับไปไหมครับ?” แฟนทอมเอจถาม
“ไม่ตอบโต้อะไรทั้งนั้น ทุกคนแยกย้ายกันไปเก็บเลเวล ทำเป็นมองไม่เห็นพวกมันไปก่อน” ฉงป้ากล่าวอย่างหงุดหงิด
สงครามประสาท
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 230
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น