บทที่ 292 การแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบ
บทที่ 292 การแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบ
ในขณะที่ฝูงชนเข้ามาใกล้เซี่ยหยู่เว่ยในระยะ 10 เมตร จู่ ๆ มันก็มีโซ่สีทองปรากฏขึ้นมาขวางกั้นทุกคนเอาไว้
“ราชินี คุณออกมาตั้งกิลด์ของตัวเองเถอะ พวกเราพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อคุณ”
“ผมรักคุณ”
ผู้เล่นอีกกว่าแสนคนต่างก็ตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ภาพบรรยากาศคล้ายกับคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ที่แฟน ๆ กำลังส่งเสียงเชียร์ศิลปินบนเวที
อย่างไรก็ตามเซี่ยหยู่เว่ยก็ไม่ได้สะทกสะท้านต่อคำพูดของคนเหล่านี้เลย ในทางกลับกันเธอได้กวาดสายตามองไปยังผู้เล่นทุกคนด้วยแววตาอันเยือกเย็นจนทำให้ทุกคนเงียบเสียงลงด้วยความหวาดกลัว
“ทุกคนบอกว่ารักฉันแต่กลับให้ฉันทรยศต่อบลัดบราเธอร์แบบนี้ ทุกคนคิดบ้างไหมว่าคนอื่นจะมองฉันยังไง?” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวจนเกิดเป็นเสียงก้องกังวานดังเข้าไปภายในหูของทุกคน
ทันใดนั้นผู้เล่นกว่าแสนคนก็ตกตะลึงอยู่กับที่ เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้กันมาก่อนเลย
“ฉันคือหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบลัดบราเธอร์ ดังนั้นกิลด์ ๆ นี้ก็ถือว่าเป็นกิลด์ของฉันด้วยเหมือนกัน ถ้าหากทุกคนอยากจะร่วมงานกับฉันจริง ๆ ฉันก็กำลังคิดจะก่อตั้งกองกำลังพิทักษ์ราชินีขนาด 10,000 คน”
“หากใครคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติเพียงพอให้ไปยื่นใบสมัครที่จุดรับสมัครของบลัดบราเธอร์ได้เลยแล้วอีกครึ่งเดือนฉันจะมาคัดเลือกสมาชิกภายในกองกำลังทั้งหมดด้วยตัวเอง” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว ซึ่งคำตอบนี้มันก็ทำให้พวกฉือมู่, ฉงป้า, บลัดไทแรนท์และหัวหน้ากิลด์ขนาดใหญ่ที่กำลังรับชมภาพเหตุการณ์ผ่านทางการถ่ายทอดสดใช้มือทุบลงไปบนโต๊ะด้วยความเสียดาย
“เซี่ยหยู่เว่ยมีหุ้นในบลัดบราเธอร์ด้วยงั้นเหรอ?!” ฉือมู่อุทานขึ้นมาอย่างประหลาดใจ
“โธ่เว้ย! ทำไมอะไร ๆ มันไม่เป็นไปอย่างที่ฉันคิดเลยนะ” แบล็คบลัดบ่น
…
ความจริงแล้วเหตุการณ์นี้มีหัวหน้ากิลด์ขนาดใหญ่นับ 10 กิลด์คอยบงการอยู่เบื้องหลัง แต่สิ่งที่น่าแปลกนั่นก็คือผู้คนเหล่านี้ไม่เคยได้นัดแนะแผนการกันมาก่อน แต่พวกเขากลับคิดที่จะบ่อนทำลายบลัดบราเธอร์ในลักษณะที่คล้าย ๆ กัน
น่าเสียดายที่เซี่ยหยู่เว่ยมีจิตใจที่เข้มแข็งมากและเธอก็ไม่ได้ดูอ่อนต่อโลกเหมือนกับรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นเพียงแค่หญิงสาวอายุประมาณ 20 ปี
หลังมองดูผู้เล่นกว่า 100,000 คนที่กรูกันไปยังจุดรับสมัครของบลัดบราเธอร์ ฉือมู่ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันขมขื่นว่า
“นี่พวกเรากำลังช่วยให้ลู่หยางแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเหรอเนี่ย?”
“ถึงเขาจะได้คนไปเยอะมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอะไรหรอก ท้ายที่สุดหากผู้เล่นพวกนั้นไม่มีอุปกรณ์ที่ดีพอ พวกเขาก็มีแต่ปริมาณแต่ไม่มีคุณภาพ” ฉงป้าพูดอย่างไม่ใส่ใจ
ฉือมู่พยักหน้าลงมาอย่างเห็นด้วยแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพิ่มเติม จากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปและถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่ตอนนี้พวกเขาต่างก็ตั้งเป้าไปที่ลู่หยางเหมือน ๆ กัน
การที่จู่ ๆ ในเมืองเซนต์กอลล์มีกิลด์ขนาดใหญ่อย่างเดธโซลถือกำเนิดขึ้นมาก็ทำให้พวกเขาไม่พอใจอยู่แล้ว ยิ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้มันได้พิสูจน์เป็นอย่างดีว่าบลัดบราเธอร์คือกิลด์ใหญ่ที่มีความสามัคคีกันมาก มันจึงทำให้กิลด์ของลู่หยางกลายเป็นคู่แข่งอันดับต้น ๆ ที่พวกเขาควรจะทำลายไม่ให้ขวางทาง
—
สำนักงานใหญ่บลัดบราเธอร์ในเมืองเซนต์กอลล์
ฉิงชาง, สามพี่น้องตระกูลไป๋และแกนนำคนอื่น ๆ ของบลัดบราเธอร์กำลังมองไปทางเซี่ยหยู่เว่ยอย่างตื่นเต้น
“ดีจริง ๆ ที่เธอยังไม่คิดจะทิ้งพวกเราไปไหน” ฉิงชางพูดแทนทุกคน
“ขนาดพวกนายยังไม่ไปไหนเลย ถ้าฉันทิ้งทุกคนไปฉันก็คงจะเป็นคนไร้น้ำใจเกินไปแล้ว” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ระหว่างเดินทางกลับมาลู่หยางได้เล่าเรื่องที่กิลด์ใหญ่พยายามซื้อตัวแกนหลักของบลัดบราเธอร์ให้กับเซี่ยหยู่เว่ยฟังแล้ว มันจึงทำให้เธอพอจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เธอไม่อยู่
“ดีจริง ๆ ที่พวกเราไม่สูญเสียใครไปเลย”
“ไอ้พวกนั้นมันจะได้รู้กันสักทีว่าพวกเราสามัคคีกันแค่ไหน” จางจื่อโป๋กล่าว
“ฮ่า ๆ ๆ ฉันนับถือศักดิ์ศรีของทุกคนจริง ๆ” ไป๋เหลิงกล่าว
“แรงกดดันในคราวนี้ไม่ได้ทำให้พวกเราแตกแยกแต่ทำให้พวกเราเชื่อใจกันมากขึ้น คราวนี้ฉันต้องขอขอบคุณทุกคนมากที่ยังคงไว้ใจในตัวฉันอยู่” ลู่หยางกล่าวอย่างจริงใจ
“หัวหน้านี่คือสิ่งที่พวกเราควรจะทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? แต่เราก็ไม่ควรปล่อยเรื่องคราวนี้ไปง่าย ๆ ด้วยเหมือนกัน เรื่องที่แบล็คบลัดกับบลัดไทแรนท์พยายามทำลายพวกเรามันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ฉงป้ากับฉือมู่พวกมันจะเลวเกินไปหน่อยแล้ว!” ไป๋เหลิงกล่าวอย่างหงุดหงิด
“สบายใจได้ คราวนี้มันไม่มีใครหยุดยั้งการเติบโตของบลัดบราเธอร์ได้อีกแล้ว และพวกเขาก็ต้องชดใช้สิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปในวันนี้” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้มอันเย็นยะเยือก
ทันใดนั้นเองฮั่นอิ่ง, ฮั่นเฟย, ฮั่นอวี่และมู่หยูก็เดินเข้ามาจากทางประตู พวกไป๋เหลิงจึงมองไปที่ลู่หยางด้วยความประหลาดใจ
“หัวหน้า พวกเขาคือ…” ฉิงชางพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“นายเดาถูกแล้วพวกเขาทั้ง 4 คนคือพี่น้องของฉันเอง และพวกเขาก็ยังเป็นครอบครัวของฉันในชีวิตจริงด้วย” ลู่หยางกล่าว
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” ฮั่นเฟยกล่าว
“หัวหน้า! คุณซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ลึกลับมากเกินไปแล้ว พวกเขาทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นชั้นแนวหน้ากันหมดเลยนะ” ฉิงชางพูดขึ้นมาอย่างตกตะลึง
ซิลเวอร์แดกเกอร์หรือฮั่นเฟยกลายเป็นผู้เล่นที่โด่งดังหลังจากการต่อสู้ที่ป้อมปราการฟลาวเวอร์จบลง และฉายาเทพมิติสังหารก็ได้แพร่กระจายไปยังผู้เล่นเป็นจำนวนมาก
วีรกรรมที่ฮั่นเฟยได้ทำเอาไว้ทำให้สมาชิกของบลัดเติสตี้ตั้งคำถามกับลีฟซองซึ่งเป็นโจรมิติเหมือนกัน ขณะที่ทางลีฟซองก็ได้ออกมายอมรับด้วยตัวเองว่าเขายังไม่สามารถเลียนแบบการเคลื่อนไหวของซิลเวอร์แดกเกอร์ได้
หยินเฟิงหรือฮั่นอวี่ก็โด่งดังจากการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน เพราะทักษะในการสังหารผู้เล่นจากระยะ 100 เมตรทำให้ใครก็ตามที่ได้ยินชื่อของเขาคนนี้ต้องตัวสั่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว ท้ายที่สุดระยะ 100 เมตรก็เป็นระยะที่อยู่เหนือเกินกว่าขอบเขตการมองเห็นของคนส่วนใหญ่ ดังนั้นหากใครทำให้หยินเฟิงโกรธขึ้นมา คน ๆ นั้นก็อาจจะถูกสังหารโดยไม่ทันได้รู้ตัว
เรดไนท์หรือฮั่นอิ่งก็โด่งดังจากการต่อสู้ในเชิงเขาเชอร์ลอคด้วยเหมือนกัน เพราะถ้าหากเธอไม่ได้อัญเชิญเฮลไฟร์ลอร์ดออกมา บลัดบราเธอร์ก็คงจะพ่ายแพ้ไปตั้งนานแล้ว
ทางด้านมู่หยูก็มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก เพราะเธอคือผู้ครอบครองเวทมนตร์ต้องห้ามธาตุสายฟ้าที่ช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับบลัดบราเธอร์มาแล้วหลายครั้ง
“หัวหน้า ถ้าเราได้ 4 คนนี้มาเข้ากิลด์ ความแข็งแกร่งของพวกเรามันก็จะเพิ่มขึ้นจากเดิมไปเยอะเลย” ไป๋ฉือกล่าว
“ฉันไม่ได้มีแค่พวกเขาหรอกนะ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับโบกมือให้สัญญาณ
ฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่รีบวางถุงที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะในทันที พวกฉิงชางจึงรีบเดินเข้าไปตรวจสอบดูด้วยความสนใจ
“นี่มันชุดเซ็ตเดธระดับแพลตตินั่ม!” ไป๋เหลิงอุทานด้วยความตื่นเต้น
“มันยังมีชุดเซ็ตเมจิกสตีลกับชุดเซ็ตฟลอว์เลสดีเฟนส์อีกอย่างละ 100 เซ็ตด้วย” ฉิงชางพูดอย่างดีใจ
ปัจจุบันกิลด์ได้มีบลูปริ้นของชุดเซ็ตโรยอลตี้, เดธ, เมจิกสตีลและฟลอว์เลสดีเฟนส์ของนักรบ ชุดเซ็ตไฟร์สปิริตของนักเวท และชุดเดรสแอสซาซินของโจรที่ฉือมู่ได้ส่งมาให้กับพวกเขาในคราวก่อน
ทางบลัดบราเธอร์คอยทำหน้าที่ผลิตอุปกรณ์ขึ้นมาส่วนหนึ่ง และมีฮั่นจงคอยช่วยดูแลการผลิตอุปกรณ์ขึ้นมาอีกส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตามวัตถุดิบสำหรับการผลิตชุดเซ็ตเดธ, เมจิกสตีลและฟลอว์เลสดีเฟนส์เป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก และมันก็จำเป็นจะต้องใช้เวลาถึง 9 วันเต็ม ๆ กว่าที่พวกเขาจะผลิตอุปกรณ์ขึ้นมาได้ขนาดนี้
ขณะเดียวกันพวกไป๋เหลิงก็ได้รับชุดเซ็ตโรยอลตี้มาติดตั้งเรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาอยากได้ชุดเซ็ตระดับแพลตตินั่มเข้ามาเสริมด้วย เพราะท้ายที่สุดทั้ง 2 ชุดเซ็ตสามารถติดตั้งพร้อมกันได้อย่างสมบูรณ์และมันก็ยังช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้กับพวกเขาได้ถึง 626 หน่วย
“พวกนายทั้ง 5 ทีมเอาอุปกรณ์เซ็ตแรกทั้ง 300 เซ็ตนี้ไปแบ่งเท่า ๆ กัน อีกสักพักฉันจะทยอยส่งอัญมณีเสริมพลังให้กับทุกคนเอง ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเราจะเริ่มบุกป้อมปราการคริมสันอย่างเต็มที่ หากใครได้รับใบเปลี่ยนอาชีพให้แยกตัวไปทำภารกิจเปลี่ยนอาชีพได้เลย หากใครติดขัดตรงไหนให้รีบติดต่อฉันมาในทันที เอาล่ะทุกคนยกเว้นซุนหยูกับแบล็คเฟลมออกไปจัดการเรื่องของตัวเองได้” ลู่หยางกล่าว
ปัจจุบันเขามีใบเปลี่ยนอาชีพอยู่ทั้งหมด 10 ใบ ซึ่งเขาก็ได้แจกจ่ายไปให้พวกเอ็ม 16 เรียบร้อยแล้วผู้ที่พึ่งได้รับใบเปลี่ยนอาชีพจึงแยกย้ายกันไปเปลี่ยนอาชีพของตัวเอง ส่วนทางด้านฉิงชางและไป๋เหลิงที่เปลี่ยนอาชีพเรียบร้อยแล้วก็รับหน้าที่นำอุปกรณ์ใหม่ไปแจกจ่ายให้กับสมาชิกภายในทีมของตัวเอง
หลังจากเวลาผ่านพ้นไปเพียงแค่ไม่นาน ภายในห้องก็เหลือเพียงแต่ซุนหยู, เจียงเจ๋อ, แบล็คเฟลม, ถูเฟิงและสามพี่น้องตระกูลฮั่น
“หัวหน้ามีอะไรงั้นเหรอครับ?” ซุนหยูถามและเนื่องมาจากคนวัยเดียวกันมักจะสนิทกันได้ง่าย เมื่อสักครู่นี้เขาจึงเริ่มสนิทกับมู่หยูไปบ้างแล้ว
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 157
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น