บทที่ 128 เปิดกล่องแพนดอร่าอีกครั้ง

หากนำน้ำยาต้านเวทออกไปวางขาย มันจะมีราคาอย่างน้อย 10 กว่าเหรียญทอง อย่างไรก็ตามมันก็เป็นของที่หาได้ยากมากจนไม่ค่อยมีปรากฏให้เห็นในตลาดแม้จะเป็นในอนาคตอีก 10 ปีก็ตาม

ลู่หยางกลับมาที่ห้องปรุงยาก่อนจะมองไปยังน้ำยาขวดสีเขียวใสด้วยความตื่นเต้น ความใสของน้ำยาคือตัวแทนของความบริสุทธิ์ ยิ่งน้ำยามีความใสมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์มากขึ้นเท่านั้น

“น่าเสียดายจริง ๆ ที่มันใช้งานได้แค่ 3 วินาที” จินปู้ฮวนกล่างอย่างท้อใจและเขาก็ยังไม่ได้เข้าใจความสำคัญของน้ำยาขวดนี้

“น้ำยาขวดนี้ฉันขอซื้อเอง ฉันจะให้ค่าตอบแทน 10 เหรียญเงิน ต่อไปถ้ามียาแบบนี้อีกก็ช่วยเก็บพวกมันมาให้ฉันด้วย” ลู่หยางกล่าว

จินปู้ฮวนไม่คิดว่าลู่หยางจะให้ความสำคัญกับยาต้านเวทมากขนาดนั้น เขาจึงพูดออกไปว่า

“ไม่ต้องจ่ายเงินให้ผมหรอกครับ น้ำยานี่ดูไม่มีประโยชน์อะไรเลยด้วยซ้ำ เวลาแค่ 3 วินาทีมันจะเอาไปทำอะไรได้ ถ้าคุณชอบต่อไปถ้าผมทำอะไรแปลก ๆ ขึ้นมาได้อีกผมจะเก็บพวกมันเอาไว้ให้คุณทั้งหมด”

“เงินที่ฉันให้มันยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของน้ำยาขวดนี้มาก แต่นั่นมันเป็นค่าตอบแทนตามกำหนดที่มีในสัญญา ดังนั้นมันจึงเป็นค่าตอบแทนที่นายสมควรจะได้อยู่แล้ว ต่อไปถ้ามียาแบบนี้อีกฉันก็จะจ่ายเงินให้นายแบบนี้อีกเหมือนกัน”

“สาเหตุที่ฉันทำแบบนี้ก็ไม่ใช่เพราะฉันเห็นแก่เงินหรือเอานายมาเป็นหมากตัวหนึ่ง แต่ฉันให้ความสำคัญกับสัญญามาเป็นอันดับ 1 ดังนั้นหากฉันสัญญาอะไรเอาไว้แล้วทุกอย่างมันก็สมควรจะต้องเป็นไปตามนั้น” ลู่หยางกล่าว

“ถ้าอย่างนั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะครับ” จินปู้ฮวนกล่าวอย่างเข้าใจ เพราะท้ายที่สุดเขาก็ต้องการเงินจำนวนนี้จริง ๆ ไม่ว่ายังไงครอบครัวที่โลกภายนอกของเขาก็ยังต้องมีคนคอยดูแล

“เรื่องยาต้านพิษเป็นยังไงบ้าง?” ลู่หยางถาม

“ตอนนี้ผมทำได้แค่ 60 ขวดโดยรวมแล้วมันยังค่อนข้างช้าไปหน่อย” จินปู้ฮวนตอบ

“มันยังช้าเกินไปจริง ๆ… เอาแบบนี้ไหมนายค่อย ๆ ปรุงยาไป ส่วนฉันจะไปหารายชื่อมาให้แล้วนายค่อยไปชักชวนคนพวกนั้นมาช่วยปรุงยาด้วยกัน ถ้าพวกเขาไม่ยอมมานายก็แค่บอกไปว่านายมีสูตรยาต้านพิษ ขอแค่พวกเขาเซ็นสัญญาทุกคนก็จะได้รับสูตรนี้ไปเหมือนกันหมด” ลู่หยางกล่าว

“ถ้าเอาสูตรยาต้านพิษมาล่อแล้วใครมันจะไปปฏิเสธข้อเสนอแบบนี้ได้” จินปู้ฮวนกล่าว

ลู่หยางเผยรอยยิ้มก่อนที่เขาจะส่งรายชื่อคน 8 คนไปให้กับเด็กหนุ่ม

“ฉันเชื่อว่าพวกเขาต้องยอมมาช่วยนายแน่”

รายชื่อที่ลู่หยางส่งไปให้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักปรุงยาระดับสูงที่ชายหนุ่มจำได้ในชาติก่อน และทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เคยคิดค้นสูตรน้ำยาชนิดพิเศษเป็นของตัวเอง

“เดี๋ยวผมจะติดต่อพวกเขาไปเดี๋ยวนี้เลย” จินปู้ฮวนกล่าว

“เดี๋ยวฉันส่งสัญญาจ้างงานให้ ยกเว้นนายคนที่เหลือฉันจะแบ่งกำไรให้ 1 ใน 9 ส่วน” ลู่หยางกล่าว

“เข้าใจแล้วครับ” จินปู้ฮวนกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

แม้นักปรุงยาจะได้รับส่วนแบ่งกำไรเพียงแค่ 1 ใน 9 แต่ถ้าหากพวกเขาขยันปรุงน้ำยาอยู่เสมอ การที่พวกเขาจะสามารถสร้างเงินล้านขึ้นมาได้มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก มันจึงไม่มีใครยอมปฏิเสธข้อเสนอดี ๆ แบบนี้หรอก

ลู่หยางเก็บน้ำยาต้านเวทมนตร์ก่อนจะบอกลาจินปู้ฮวน จากนั้นเขาก็หยิบกล่องแพนดอร่าทั้งสามกล่องออกมาจากกระเป๋า

ต้องยอมรับจริง ๆ ว่ากล่องแพนดอร่ามีแรงดึงดูดสมกับชื่อของพวกมัน เพราะกล่องเหล่านี้ต่างก็ยั่วยวนอยากให้ใครเปิดกล่องเพื่อดูสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ด้านใน

“อุปกรณ์ทุกอย่างฝากฮั่นอิ่งไปแล้วตอนนี้นอกจากเงิน 9 เหรียญทองฉันก็ไม่มีอะไรติดตัวแล้วสินะ” ลู่หยางพึมพำกับตัวเองขณะเทเลพอร์ตกลับไปยังวิหารเทพอสูร จากนั้นชายหนุ่มก็นำเงินทั้งหมดภายในตัวเอาไปฝากไว้ภายในตัววิหารก่อน

ความเป็นจริงเขาก็อยากจะเปิดกล่องแพนดอร่าภายในวิหารเทพอสูรอยู่เหมือนกัน แต่กล่องแพนดอร่ามีโอกาสเรียกบอสระดับลอร์ดเลเวล 50 ออกมาด้วย หากบอสถูกอัญเชิญออกมาจริง ๆ ในเวลานั้นมันก็อย่าว่าแต่ตัวของเขาเลย เพราะแม้แต่วิหารเทพอสูรก็อาจจะถูกทำลายได้ ชายหนุ่มจึงไม่มีทางเลือกนอกเสียจากจะกลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์

ลู่หยางเดินทางไปยังพื้นที่บริเวณทางตอนเหนือของเมืองซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีคนอยู่น้อยมากที่สุด จากนั้นเขาก็หาพื้นที่บริเวณที่ไม่มีคนวางน้ำยาต้านเวทและกล่องแพนดอร่าอีกสองกล่องไว้บนพื้น เหลือกล่องแพนดอร่าเอาไว้ในกระเป๋าเพียงแค่กล่องเดียว

สาเหตุที่ต้องทำแบบนี้ก็เพื่อป้องกันในกรณีที่เปิดกล่องแพนดอร่าแล้วทำให้ไอเท็มทุกชิ้นภายในตัวละครถูกลบหายไป ซึ่งการเอาไอเท็มอื่น ๆ มาวางไว้ด้านนอก มันก็จะทำให้ไอเท็มเหล่านั้นยังคงอยู่

“ขอของดี ๆ ด้วยเถอะสาธุ” ลู่หยางอธิษฐานก่อนจะยื่นมือออกไปเปิดฝากล่องแพนดอร่า

แสงสีดำส่องสว่างพร้อมกับร่างกายของลู่หยางที่เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้มันก็หมายความว่าเขาสุ่มได้ของรางวัลที่ห่วยแตก

ระบบ: หมอกดำพัดผ่านตัวคุณทำให้ไอเท็มทั้งหมดในกระเป๋าและช่องสวมใส่ถูกลบหายไปทั้งหมด

“เฮ้อ! เกือบไปแล้ว” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือการลดค่าสถานะของตัวละครลง สำหรับกรณีของหมอกดำเขาไม่ได้เกรงกลัวเลย เพราะท้ายที่สุดเขาก็ได้เตรียมการโยนของทุกอย่างไว้บนพื้นหมดแล้ว

“กล่องนี้ขอดี ๆ นะ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องแพนดอร่าขึ้นมาเปิดเป็นกล่องที่ 2

คราวนี้แสงที่ส่องสว่างออกมาจากกล่องคือแสงสีทอง ลู่หยางจึงเบิกตากว้างด้วยความตกใจเพราะแสงสีทองมันหมายถึงว่าเขาได้รับอุปกรณ์พิเศษ

ระบบ: คุณได้รับมีดเอสเคพเดจเจอร์ 

สิ่งที่ปรากฏคือมีดสั้นสีเงินที่ได้รับการออกแบบค่อนข้างโบราณ ความยาวของตัวมีดมีเพียงแค่ 20 เซนติเมตร อย่างไรก็ตามเมื่อได้เห็นมีดเล่มนี้ลู่หยางก็ตื่นเต้นจนหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก นี่ถ้าหากเขาไม่กลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน ลู่หยางก็คงจะส่งเสียงตะโกนด้วยความดีใจขึ้นมาแล้ว0

มีดเอสเคพเดจเจอร์

เลเวล 0

รายละเอียด มีดวิเศษที่มีความสามารถแหวกว่ายผ่านมิติ ตามตำนานเล่าว่ามันเป็นอาวุธติดตัวของเทพแห่งการขโมย

อาวุธชิ้นนี้คือสิ่งที่ผู้เล่นทุกคนในชาติก่อนอยากจะได้รับมาในครอบครอง ซึ่งความสามารถของมันก็เหมือนกับคำอธิบาย วิธีการการใช้งานคือการขว้างมีดออกไป จากนั้นผู้เล่นก็สามารถที่จะเทเลพอร์ตตามมีดไปได้ในระยะไกลมากที่สุด 30 เมตร

ราคาของมีดเล่มนี้ในชาติก่อนเคยพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 500 เหรียญทอง แต่มันก็มีคนน้อยมากที่จะยอมขายมีดออกมา เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่จะได้รับมาจากการฆ่าบอสตัวไหนก็ได้

มีดเอสเคพเดจเจอร์จะดรอปลงมาจากบอสระดับลอร์ดเลเวล 50 ขึ้นไปเท่านั้น และอัตราการดรอปยังต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพียงแค่ 1 ใน 100,000 ขณะเดียวกันบอสระดับลอร์ดทั่วทั้งเซิร์ฟเวอร์ก็มีอยู่ไม่ถึง 1,000 ตัวเท่านั้นเอง

ชาติก่อนลู่หยางเคยโชคดีได้มีดเอสเคพเดจเจอร์มาเล่มหนึ่ง สำหรับนักเวททุกคนแล้วมีดเล่มนี้มีความสำคัญมาก เพราะถ้าหากนักเวทนำมีดมาใช้ร่วมกันกับสกิลแฟลช มันก็จะทำให้พวกเขาสามารถหลบหนีออกไปได้ไกลถึง 60 เมตร

ในแง่มุมของการโจมตี มันก็ถือว่าเป็นอาวุธที่มีประโยชน์ด้วยเช่นกัน โดยกลยุทธ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในสนามประลองเมื่อชาติก่อนคือการใช้มีดเอสเคพเดจเจอร์เทเลพอร์ตไปปรากฏตัวหน้าศัตรูตั้งแต่เริ่มเกม จากนั้นนักเวทก็จะทำการปล่อยเฟลมสตอร์ม, เฟลมเบิร์ดและเบลซซิงเบิร์สเพื่อสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะใช้สกิลแฟลชถอยออกมาตั้งหลักก่อนที่ศัตรูจะทันได้ตั้งตัว

เมื่อกลับมาเกิดใหม่ลู่หยางก็เคยคิดว่าเขาจะต้องหามีดเอสเคพเดจเจอร์มาครอบครองให้ได้ แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะโชคดีได้มันมาจากการเปิดกล่องแพนดอร่าแบบนี้

ชายหนุ่มเก็บของทุกอย่างเข้ากระเป๋า ก่อนที่จะทำการเทเลพอร์ตกลับไปยังวิหารเทพอสูร เพราะในตอนนี้เขาต้องการตีบวกมีดเอสเคพเดจเจอร์ก่อนเป็นอันดับแรก

แม้มีดเอสเคพเดจเจอร์จะเป็นไอเท็มพิเศษแต่มันก็สามารถนำมาตีบวกได้ โดยการตีบวกสูงสุดจะอยู่ที่การตี +19 ซึ่งกรณีที่มีดเอสเคพเดจเจอร์ยังไม่ได้รับการตีบวก มันจะมีคูลดาวน์การเทเลพอร์ตอยู่ที่ 2 นาที แต่ในกรณีที่มันถูกตีบวกจนถึง 19 แล้วระยะเวลาคูลดาวน์ในการเทเลพอร์ตจะเหลือเพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้น