กว่าจะมีแฟนได้สักคนมันโคตรยาก : อยากคบกันไปนานๆ อ่านทางนี้

เคยไหม ที่หลายครั้งเราคิดว่าคนรักของเรามีข้อเสียต่างๆ นานา

เคยไหม ที่เราคิดว่าคนรักของเราช่างไม่ได้ดั่งใจเอาซะเลย

ถ้าเราเคยคิดแบบนั้น จงเชื่อเถอะว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร เพราะทุกคนก็ล้วนแต่เคยคิด หรือเคยรู้สึกแบบนั้นกันแทบจะทุกคน อย่าว่าแต่เราคิดแบบนั้นกับคนรักของเราเลย แม้แต่ตัวเราเองก็ยังขัดใจตัวเองด้วยซ้ำ

คงมีคู่รักหลายคู่ที่เผชิญกับปัญหาเหล่านี้แล้วนำไปสู่การเลิกรากัน แต่ก็มีคู่รักหลายคู่ที่ผ่านอุปสรรคทำนองนี้ไปได้ และมีความเข้าใจกันมากขึ้น ยอมรับในตัวของอีกฝ่ายกันมากขึ้น

บางครั้งเรามัวแต่มองข้อเสียจากคนของตัวเอง จนลืมไปว่า “ในตอนนั้นเราตัดสินใจคบกันเพราะอะไร” กว่าคนคนหนึ่งจะได้มาพบกัน ถูกใจกัน รักกัน และตัดสินใช้ชีวิตร่วมกันมันไม่ใช่เรื่องง่าย

ในครั้งนั้นเราอาจจะตัดสินใจอยู่ด้วยกันเพราะข้อดีที่เราเห็นในตัวของอีกคนหนึ่ง รักแรกเจอมองอะไรก็สวยงามไปหมด ณ เวลานั้นเราอาจจะยังไม่รู้ข้อเสียของอีกคน หรือแค่ว่าเรา “จงใจมองข้ามมันไป” เพราะความรู้สึกรักมันชนะทุกสิ่ง

แต่พอความรักหรือความพึงใจในตัวอีกฝ่ายมันจางไปตามเวลา เราเลยไม่สามารถทำใจมองข้ามข้อเสียของอีกคนไปได้ ซึ่งนี่แหละคือการเริ่มต้น “ชีวิตคู่” อย่างแท้จริง

หลายคนผ่านด่านนี้ไปได้ แต่หลายคนก็หยุดความสัมพันธ์กันเอาไว้ตรงจุดนี้ เพราะทนรับข้อเสียของอีกคนไม่ไหว

ความถูกอกถูกใจในข้อดีของกันและกัน มันอาจจะนำพาให้คนสองคนได้มารักกัน ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน สร้างครอบครัวด้วยกัน และคบกันได้ยาวนาน

แต่สิ่งสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือการที่เรายอมรับซึ่งกันและกัน โดยการ “ยอมรับ” ที่ว่านี้ ไม่ได้หมายถึงเพียงข้อดีของอีกคนเท่านั้น ทว่าหมายรวมถึงข้อเสียบางอย่างของคนรักของเราด้วย

เราควรแยกแยะให้ออกว่า อันไหนเป็นข้อเสียยิบย่อยเล็กๆ ที่เราควรยอมรับมันเป็นหนึ่งในตัวตนของคนที่เรารัก และอันไหนเป็น “ข้อเสียใหญ่” ที่เราจะไม่ทน หรือทนไม่ไหวจริงๆ

เมื่อรู้แล้วให้หาทางออกร่วมกัน แก้ข้อเสียใหญ่ที่จะกระทบความสัมพันธ์ และมองข้ามข้อเสียเล็กๆ ในแง่ของการยอมรับและเข้าใจ

ไม่มีใครที่ดีที่สุดและไม่มีข้อเสียอะไรเลย ทุกคนมีข้อดีข้อเสียเหมือนๆ กันหมด ดังนั้นการใช้ชีวิตร่วมกันมันถึงต้องยอมรับข้อเสียของอีกคนด้วย อย่าลืมว่าเมื่อตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ไม่ใช่แค่เราที่กำลังมองเห็นและอดทนกับข้อเสียของเขา แต่เขาเองก็กำลังมองเห็นข้อเสียของเราและกำลังอดทนกับข้อเสียของเราด้วยเหมือนกัน

เราจงชื่นชมข้อดีของอีกคน ยอมรับข้อเสียบางอย่างของอีกคน และพยายามยอมรับตัวตนซึ่งกันและกัน เข้าอกเข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจกันให้มากที่สุด เพราะในท้ายที่สุดแล้ว เราและเขาก็คือชีวิตคู่ คือคนสองคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน และจะสร้างครอบครัวด้วยกันในอนาคต

บททดสอบของชีวิตคู่ไม่ได้เริ่มต้นในตอนที่คนสองคนรักกัน แต่มันเพิ่งเริ่มในตอนที่ความรักอันสดใหม่เจือจางลง การที่เราจะไม่ทำให้เรือรักล่มกลางทาง คือคนทั้งสองจะต้องอยู่กันด้วยมิตรภาพ อยู่กันด้วยความเข้าอกเข้าใจ โปรดอย่าลืมว่าเรือลำนี้จะต้องพายกันสองคน ขาดคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้ และเมื่อไหร่ที่ข้อเสียของอีกคนทำให้เราไม่สบายใจหรืออึดอัด โปรดจงให้นึกถึงห้วงเวลาแรกที่เรารักกัน จากนั้นให้พูดคุยหาทางออกร่วมกัน อะไรปรับได้ไม่ได้ อะไรที่เรายอมรับได้และไม่ได้

ความรักที่ยั่งยืน ไม่ใช่ความรักที่หวานหอมอยู่ตลอดเวลา แต่มันคือความรักที่คนสองคนยอมรับซึ่งกันและกัน และมีความเห็นอกเห็นใจเป็นพื้นฐาน