ตอนที่ 8 .. “ หัวใจ..ใครจะรู้ ”

องค์หญิงใบ้ กับ เจ้าชายยาจก

-A A +A

ตอนที่ 8 .. “ หัวใจ..ใครจะรู้ ”

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย องค์หญิงใบ้ กับ เจ้าชายยาจก

  เป็นเพียงความบันเทิงในการฟังเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึง เหตุการณ์ของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น .. ด้วยความเคารพผู้ประพันธ์นิยาย .. มัชฌิมา

คาซอย – คาซอย

https://www.youtube.com/watch?v=0s9uhZFqGkw

ขอขอบคุณ วงคาซอย จาก ค่าย โฟสเอส ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

ตอนที่ 8 .. “ หัวใจ..ใครจะรู้ ”

   เมืองราม จ้องหน้าเมฆในรูปจนคิดอะไรไปมาได้อย่างและกำลังประติดประต่อเรื่องราวอะไรบางอย่างได้ แต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ก็ต้องพยายามไขปริศนาที่แสนจะวุ่นวายและสับสนนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด

“เดี๋ยวนะ แกบอกว่า ติดคุกตลอดชีวิต แต่มีคนช่วยมันให้ออกมาเดินเล่นกรีดกายข้างนอกได้ แกช่วยสืบให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันอยากรู้ว่า แบ็คไอ้ที่ว่าเส้นใหญ่ของมันหนะคือใคร”

“ได้ แต่อาจจะช้าหน่อยนะ เพราะถ้าลองเส้นใหญ่ขนาดนี้ มันคงต้องมีความซับซ้อนอะไรมากกว่าที่พวกเราคิดแน่ ถ้าเส้นไม่ใหญ่พอจริงๆคงทำแบบนี้ไม่ได้หรอก”

“ฉันเชื่อความสามารถของนาย ชาญชัย” แล้วเมืองรามก็เอามือตบไหล่เพื่อน

฿฿฿฿฿ ----- ฿฿฿฿฿

   นานวันเข้าจนเกิดและกลายเป็นความรักขึ้นมาตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกันระหว่างธวัชและนก โดยที่เจ้าตัวทั้งสองนั้นไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าใครรักใครก่อน รู้แต่ว่าทั้งสองคนไม่อยากจะห่างจากกันถ้าไม่จำเป็น เช่นไปไหนนานๆ ถ้าเช้าไปเย็นกลับทุกวันๆ นกก็ทำตัวปกติ แต่ถ้าเมื่อใด ธวัชไม่กลับมานอนบ้าน นกจะชะเงื้อรอจนกว่าธวัชจะกลับมา ไม่หลับไม่นอนเลยทีเดียว

   วันนี้วันที่ 3 เมษายน ธวัช พานกมาเที่ยวไหว้พระวัดไร่ขิง มาล่องเรือที่แม่น้ำท่าจีน เที่ยวตลาดน้ำดอนหวาย ใน 1 วัน นกเหมือนจะทวีความเป็นเจ้าของตัวธวัชมากขึ้นทุกวัน มากกว่างามตาเสียอีกไม่ว่าจะทำอะไร ก็บริการธวัชไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะทานขนม ก็ป้อน ทานข้าวก็ป้อน แทนที่ธวัชจะป้อนเธอ แต่เธอกลับทำให้เอง

   บนเรือขณะที่ล่องเรือแม่น้ำท่าจีน (แม่น้ำท่าจีนหรือเรียกอีกชื่อว่าแม่น้ำนครชัยศรี) ห่างจากวัดไร่ขิง ธวัชพานกมานั่งที่ท้ายเรือ

“สนุกไหม” นกพยักหน้า “มีความสุขไหม” นกพยักหน้า คราวนี้แถมหอมแก้ม 1 ครั้ง ให้รู้ว่ามีความสุขแน่นอน

“คราวหน้าจะมาอีกไหม” นกยิ้ม และชี้ไปที่ธวัช เหมือนจะบอกว่า

“พี่วัชไปไหน หนูไปด้วยเสมอ” และยกนิ้ว Ok ธวัช ดึงแขนนกเข้ามาก็กอดและหอมหน้าผาก แล้วก็ชี้ให้ดูธรรมชาติ

   ธวัชก็ใช้กล้องถ่ายรูปเล็กๆที่มีอยู่ของโทรศัพท์เก็บภาพความหวานในวันนี้ไปก่อน ทั้งสองเดินเที่ยวกันอย่างมีความสุข และขากลับก็แวะจ่ายตลาดที่วัดดอนหวาย ก่อนจะกลับบ้าน

   ขนาดวันที่ไปเรียนทำกับข้าวและทำขนม เวลาที่ธวัชมารับช้า เธอก็จะต่อว่าธวัชทันที บางครั้งก็งอนแบบไม่มีสาเหตุ จนต้องทำให้ธวัชต้องมารับให้ตรงเวลาทุกครั้ง

“ทำไมมาสาย” นกชูข้อความสำคัญให้อ่านทันที

“มัวไปทำอะไร” แล้วก็งอนหันหลังให้ทันที ธวัชง้อนกด้วยการหอมแก้มนก 2 ข้าง นกก็เอามือถูออก สะบัดหน้า

“อย่ามายุ่ง” แล้วธวัชก็ เดินอ้อมไปข้างหน้า ยกนิ้วก้อยข้างซ้ายชูขึ้นมา แล้วก็จับมือขวานกขึ้นมาเอง

“นะ นะ คนดี พี่ติดงานจริงๆ พอดูนาฬิกาพี่ก็รีบมาเลยทันที อีกอย่างรถมันติดด้วย”

“ไม่ หนูรอนานมาก” เธอส่งข้อความให้ดู แต่ไม่มองหน้า

“มัวแต่ไปดูแลคนอื่นอยู่ใช่ไหมหละ นกมันไม่สำคัญ” เจอประโยคนี้เข้าไปถึงกับจุกเลยธวัช

“ไม่นะ ใครบอกนกไม่สำคัญสำหรับพี่ Ok งั้นวันนี้ขอไถ่โทษด้วยการพานกไปดูหนัง 1 รอบ เครไหม”

“จริงนะ” นกเผลอยิ้มออกมา ดีใจใหญ่ เพื่อไม่ให้ธวัชเปลี่ยนใจ เธอรีบจูงธวัชไปที่รถเลยทันที

   ธวัชเห็นความใสซื่อของนกก็อดที่จะยิ้มและหัวเราะไม่ได้ระหว่างที่ใส่หมวกกันน๊อคให้เธอ พอขึ้นรถนกก็กอดธวัชปั๊บทันทีเหมือนระบบอัตโนมัติ ธวัชก็จับแขนนกขยับให้แน่นแล้วก็ออกรถตรงไปที่โรงหนังทันที

   เมื่อถึงโรงหนังจริงๆนกก็กระโดดหอมแก้มธวัช เพราะเธอนึกว่าเขาหรอก ธวัชเอามือจับหัวนกเขย่าเล่น และก็บอกนกว่าอยากดูเรื่องอะไรก็ชี้เอาได้เลย นกดีใจมากเลือกอยู่พักใหญ่ พอได้เรื่องที่ถูกใจก็ซื้อน้ำและป๊อบคอนเข้าไปนั่ง Sweet กัน

   งามตา กลับมาจากโรงเรียน รีบไปหาธวัชที่ร้าน แต่ก็ผิดหวังไม่เจอ เธอนั่งรอจนเย็นค่ำ ธวัชก็ไม่โผล่มาสักที เพราะธวัชกำลังดูหนังอยู่กับนก..1 ทุ่ม เวลาในขณะนี้ เมื่อรอนาน ธวัชไม่มาเธอก็ลุกออกจากร้านเดินกลับบ้านด้วยความผิดหวัง น้ำตาเธอเริ่มรินไหลออกมา เธอเดินอย่างช้าๆก้มหน้าคิดอะไรไปมา โดยไม่ได้สนใจใคร

   เมืองรามเดินออกมาจากประตูข้างวัดพอดี หลังจากที่ขึ้นไปหาหลวงตาบุญ เอารูปของเมฆไปฝากไว้ให้กับหลวงตาว่า ถ้าเจอคนคนนี้ผ่านมาแถวนี้ให้ช่วยติดต่อบอกด้วย เพราะเป้นคนร้าย เมืองรามเห็นงามตาเดินผ่านไป ก็เลยเรียก

“งาม” งามตาหันมาอย่างช้าๆ เมืองรามเห็นน้ำตาเธอ งามตาร้องไห้ เมืองรามจึงรีบเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง

“เป็นไร” ใครทำอะไรงาม บอกพี่ แฟนงามใช่ไหม ไป พี่จะไปถามมัน ว่าทำกับงามแบบนี้ได้ยังไง” เมืองรามจับแขนซ้ายงาม

   งามแกะมือเมืองรามออก แล้วมองหน้า ไม่พูดอะไร แล้วก็เดินต่อไป เมืองรามวิ่งไปดักหน้า

“ทำไมหละงาม ถ้าเขาไม่ดีกับงาม งามก็เลิกกับเขาซิ ถ้ารักเขาและมันทำให้งามเจ็บงามจะทนทำไม รักคนที่เขารักเราดีกว่า”

“แล้วใครหละคะที่รักงาม” คราวนี้ยอมเปิดปากพูด งามตาเงยหน้าขึ้นไปถาม

“ก็” จะบอกงามไปตรงๆก็ไม่กล้า “คือ”

“เสียเวลาเปล่าๆ งามขอตัว” พอเขาเดินจากไป ก็มาเขกหัวตัวเอง และตบปากตัวเอง ว่าทำไมถึงไม่พูดออกไปว่าชอบเขา

   เมืองรามก็ได้แต่ยืนมองงามตาเดินจากไปต่อหน้านั่นแหละ โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้

“”””” ***** “””””

   4 ทุ่มแล้ว ธวัชพึ่งพานกกลับมาถึงบ้าน แม่เดินออกมาพอดี เลยพูดประชด

“แหมพ่อคุณ นึกว่าจะไม่กลับบ้านกลับช่องซะแล้ว พาน้องไปตระเวนมาทั้งวัน รู้ทั้งรู้ว่าน้องไม่ค่อยแข็งแรง ไปลูก ไปอาบน้ำนอน คราวหลัง ถ้าแกล้งหนูแบบนี้อีกบอกแม่นะลูก แม่จะทำโทษมันเอง”

   ธวัช ยืนยิ้มแบบมีความสุข หลังจากอาบน้ำเสร็จทั้งสองคนก็ออกมายืนคุยกันที่ระเบียงหน้าบ้าน ธวัชยืนโอบนกอยู่ เขาชี้ให้นกดูดาวบนท้องฟ้าแล้วก็แอบหอมแก้มซ้าย นกก็หันมาตีธวัชแต่ก็มีความสุข นกจ้องตาธวัชด้วยสายตาที่หวานยังกะน้ำเชื่อม

   ธวัชค่อยๆเอื้อมมือซ้ายลงไปหยิบของในถุงขึ้นมา โดยตัวเองทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วเอามาลอยไว้ตรงหน้านก เมื่อเธอเห็นว่าเป็นโทรศัพท์ เธอก็กระโดดหอมแก้มขวาธวัช แล้วแช่ไว้นานมากทันทีโดยไม่รีรอ แล้วก็สะบัดหน้าออกมา กระโดดดีใจใหญ่วิ่งรอบบ้านเลย จนทำให้แม่กับพ่อต้องโผล่หน้ามาดูว่านังหนูมันเป็นอะไร พ่อกับแม่เห็นนกถือโทรศัพท์ ก็พอจะเข้าใจ

   นกวิ่งไปหอมแก้มซ้ายธวัชอีกครั้ง เธอรวบถุงแล้วก็ลากธวัชไปที่ศาลาหน้าบ้านทันทีเพื่อจะดูว่าโทรศัพท์เครื่องนี้ มีอะไรบ้าง ธวัชก็บอกนกตามที่คนขายบอกมา ว่าทำอะไรได้บ้าง

“เครื่องนี้นะที่ร้านเขาบอกว่าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดเลย พี่เห็นมันเป็นรูปแอปเปิ้ล สวยดี สีออกชมพู พี่ชอบ คิดว่าคงเหมาะกับน้อง ก็เลยให้เขาทำให้” นก ส่งข้อความให้อ่าน “แพงไหม ท่าทางจะแพงนะ สัญลักษณ์นี้”

“ไม่เป็นไร สำหรับนก พี่ไม่คิดว่าแพง เพราะพี่อยากให้นกได้ใช้ของดีๆเหมือนคนอื่นเค้าบ้าง”

   นก ยกมือไหว้ธวัช อย่างงามและก็เอนตัวไปกอดธวัช สักพักก็ถอยออกมา ธวัชอธิบายต่อ

“เขาบอกว่ามีครบหมดเลยสำหรับวัยรุ่นปัจจุบัน พี่ก็ไม่เข้าใจที่เขาพูดหรอก เห็นบอกว่ามี Line, Facebook และอะไรอีกนะ เออ แมสเซนเจอร์ ประมาณนั้น พี่ก็จำที่เขาบอกมาได้แค่เนี่ย แฮ่ๆ” และธวัชก็เกาหัว แล้วนกก็ลองกล้องถ่ายรูป

   เธอถ่ายรูปธวัช ธวัชก็แอ็กท่าให้ถ่าย และก็เซลฟี่ตัวเอง เสร็จแล้วก็มาเซลฟี่คู่กับธวัช เธอเพลินจนสนุกอยู่พักใหญ่ เกือบลืมว่าถ้าเธอมีแค่คนเดียวแล้วเธอจะเอาไปเล่นกับใคร เธอจึงเดินมาหาธวัชแล้วหยิบกระดาษที่วางอยู่ตรงนั้นเขียนข้อความให้อ่าน

“แล้วของพี่วัชหละไม่มีเหรอ แล้วน้องจะเอาไปเล่นกับใคร”

   แล้วธวัชก็แอบส่งสติ๊เกอร์ไลน์ไปให้นก เสียงดัง “ตึ๊ง” นกรีบเปิดดู เป็นสติ๊เกอร์ ไลน์สวัสดีโบกมือให้ นกรีบเอามือทุบอกธวัชทันที “พี่วัชหนะ ชอบแกล้งหนู” แล้วก็มีข้อความมาอีก 1 ข้อความ

“ขอโทษ โกรธพี่เหรอ” นกมองหน้าแล้วเอานิ้วบีบจมูกทันที แล้วก็พิมพ์ตอบ

“เจ้าเล่ห์นัก” ธวัชถามกลับ “แล้วรักไหม” นกแกล้งตอบ “เกลียด” ธวัชรู้ว่านกโกหก “จริงอะ”

“คนบ้า ก็รู้อยู่แล้วว่าเค้า..” ธวัชชี้ไปที่หน้านก แล้วพูดออกมาด้วยเสียง “ตอบให้ดีนะ”

“ไม่รู้” นกพิมพ์ลงไป แล้วให้สติ๊เกอร์โกรธโมโหหน้าแดงไป

“แอ่น แอนแอ๊น” ธวัชทำเสียงตื่นเต้น แล้วก็ค่อยๆชูโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาให้นกเห็น พอนกเห็นว่าสวยก็รีบคว้ามากอดเลย

“สวยอ่ะใหญ่ดีด้วย แลกกัน” นกเขียนใส่กระดาษไม่พิมพ์

“น้องเป็นผู้หญิงใช้เครื่องนั้นดีแล้ว กระทักรัดดี สีสวยด้วย”

“ไม่ หนูจะเอาเครื่องนี้ มันใหญ่ดี” แล้วก็เอามากอดไว้ไม่คืนให้ เธอปิดเครื่อง แล้วยัดใส่เสื้อใน และวิ่งเข้าห้องนอนทันที

“น้องนก เล่นแบบนี้เลยเหรอ” หมดปัญญาแล้วธวัชก็ต้องตามใจ ไอโฟนไม่เอาแต่กลับเอา Vivo V19 ราคาไม่กี่บาท เขาส่ายหัว

   < ที่จริงแล้วที่ธวัชมาช้าไม่ได้ติดงานตามที่แก้ตัวให้นกตั้งแต่ทีแรกหรอก แต่เขาแอบไปซื้อโทรศัพท์มือถืออย่างดีมาให้นกใช้ต่างหาก ไว้สำหรับติดต่อกับเขาเวลาที่คิดถึงกัน ตามที่เมืองรามเคยแนะนำไว้ >

 “ได้ๆ” จนได้สุดท้ายธวัชก็แพ้นกจนได้ สักพักนกก็วิ่งออกมาใหม่ อ้อมเสามาหยิบเอาถุงกลับไปเพราะไม่มีที่ชาร์ต

   ธวัชเดินตามเข้าไปในห้องรีบปิดประตูเพราะกลัวยุงเข้า นกเอามือดันตัวแล้วชี้หน้าบอก

“ไม่ให้นะ ยังจะมาเอาคืนอีก น้องไม่ให้ บอกแล้วไง ว่าน้องจะเอาเครื่องนี้”

“เปล่า พี่ไม่ได้มาเอาเครื่องคืน น้องจะเอาพี่ให้” เธอถึงเอามือลง

“แล้วพี่เข้ามาทำไม น้องจะนอน” แกล้งเอามือปิดปาก ทำง่วง

“พี่จะเปลี่ยนเบอร์ นั่นมันเครื่องพี่ เบอร์พี่” นกยกนิ้วชี้ขึ้นมา แล้วรีบดึงโทรศัพท์ออกมาจากเสื้อในทันที

   ธวัชเห็นก็ยิ่งปวดใจ โทรศัพท์ฉัน ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ เขาคิดในใจ นกเปิดเครื่องแล้วรีบพิมพ์ข้อความไปบอก

“No No No ไม่เปลี่ยน” พอข้อความเข้า ก็อ่าน “อ้าว” แล้วก็ถามนก “ทำไม”

“ดี จะได้รู้ว่าเจ้าชู้ไหม” ธวัชตกใจประโยคนี้ เป็นไปได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ “เฮ้ย”

“ดูซิว่าจะมีสาวๆคนไหนโทรมาหาบ้าง ให้มันรู้ไปว่าพี่โกหกหนูรึเปล่า ที่ชอบมารับหนูสายไม่ตรงเวลา”

   เป็นเรื่องแล้วไงธวัช เขาหันหน้าหนีนกแล้วเกาหัว ไม่น่าพลาดเลย น่าจะเอาเครื่องมาให้เค้าเลือกก่อนจะได้ไม่ต้องเวียนหัวแบบนี้แล้วจะเอาไงหละทีนี้ เบอร์ติดต่อกับเพื่อนๆและลูกค้าทั้งหลาย ก็ต้องคอยตามแก้ภายหลังแล้วกัน แม่คุณไม่คืนทั้งเครื่องทั้งเบอร์แล้วนี่ หันไปดูอีกทีหนีนอนไปซะแล้ว ก็เลยจำยอมเดินออกมาแบบผิดหวัง แล้วคืนนั้นธวัชไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเพราะต้องเปลี่ยนชื่อเบอร์ที่ได้มาใหม่ และเปลี่ยนชื่อรูปในไลน์ ได้มานอนจนเกือบตี 3 ก็เลยตื่นสาย 8 โมงแล้ว นกเห็นธวัชยังไม่ตื่น

   “ตื่นๆๆ” นกเปิดมุ้งเข้ามาเขย่าตัว ธวัชตกใจนึกว่าคนร้ายเข้ามาทำร้าย ก็เลยดึงตัวนกลงมา

   ร่างเธอนอนอยู่ด้านล่างกับที่นอน ธวัชเงื้อมมือจะต่อย นกร้องแล้วเอามือบังหน้า พอรู้ว่าเป็นนก ก็เอามือลง แล้วก็ ลุกขึ้นมา เปิดมุ้งเดินออกไป นกยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้ จึงยังนั่งตัวสั่นอยู่ในมุ้งธวัช แล้วมองออกไปดูท่าทีว่าธวัชเป็นยังไงบ้าง ยังไม่กล้าออกไป คงนึกว่าธวัชยังโกรธเรื่องเมื่อคืนอยู่ ธวัชเดินไปอาบน้ำ แม่เดินออกมานึกว่าธวัชอยู่ในมุ้ง เพราะธรรมดาธวัชจะเก็บมุ้ง ก็เลยเดินไปเปิดมุ้ง “อ้าว” กลับเห็นเป็นนกนั่งตัวสั่น ผมยุ่ง กระดุมเสื้อหลุด 2-3 เม็ด เหมือนกับพึ่งทำอะไรกันมาในมุ้ง

  แม่ไม่พูดอะไร ปิดมุ้ง แล้วเดินออกมาเลย นกพอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งไปดึงแขนแม่ แล้วรีบอธิบาย ว่ามันไม่ใช่อย่างที่แม่คิดนะ

“แม่ แม่ แม่จ๋า แม่ ฟังหนูก่อน” เธอคุกเข่าดึงแขนแม่ จนแม่ต้องหยุดแล้วหันมามองด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง

“มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิดนะจ๊ะแม่” เธอพยายามอธิบาย แต่แม่ได้คิดไปแล้ว เหมือนแม่จะผิดหวังมากที่นกชิงสุกก่อนห่าม แล้วก็แกะมือนกออกไม่พูดอะไรเดิน เดินเข้าบ้านไป

   พอธวัช ออกมาจากห้องน้ำ ก็เจอแม่ตบหน้าดังฉาด พ่อเห็นเข้า ถึงกับงง ธวัชก็งง ว่าอยู่ดีๆทำไมแม่ถึงมาตบหน้าตนเอง

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นแม่มึงไปตบหน้าลูกทำไม”

   นกวิ่งเข้ามา ไม่ทันแล้ว แม่หันมามองหน้านก แล้วก็เดินลงบันไดหลังบ้านไปเลย

“แล้วตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้น จะมีใครบอกอะไรฉันได้บ้างไหม ธวัช”

   แล้วพ่อก็หันไปถามธวัช ธวัชก็ส่ายหน้า แล้วเดินหลีกไปแต่งตัว พ่อจึงเดินไปถามนก 

“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นเหรอลูก” นกก็รีบเขียนข้อความให้พ่ออ่าน เพราะเมื่อกี้ เธอหากระดาษไม่ทันที่จะบอกกับแม่

“สายแล้ว หนูเห็นพี่วัชไม่ตื่น ก็เลยเข้าไปปลุก แต่ไม่รู้ว่าพี่วัชเป็นอะไร จับตัวหนูเหวี่ยงลงไปกับที่นอนคงนึกว่าหนูเป็นโจรจะมาทำร้ายมั้ง หนูตกใจก็เลยนั่งอยู่ในมุ้งพี่วัช ก็เท่านั้น ผมหนูเสื้อหนูก็เป็นแบบนี้กระดุมมันหลุดตอนนั้น แต่หนูไม่ได้มีอะไรกับพี่วัชอย่างที่แม่คิดจริงๆนะพ่อ” พอพ่ออ่านจบ ก็เข้าใจแล้ว ก็เลยเอามือลูบหัวนก นกนั่งร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดพ่อ

“สะอิ้งมันเป็นคนใจร้อน ไม่คิดที่จะถามอะไรใครเลย เออ..นิ่งลูกนิ่ง เดี๋ยวพ่อจะจัดการให้”

   แล้วก็ลุกไปมองดูเมียตัวเอง เห็นเดินหลังไวๆออกจากบ้านไปแล้ว ตาทดส่ายหัว แล้วก็เดินไปหาธวัช ที่พึ่งแต่งตัวเสร็จ

“อย่าไปโกรธแม่แกเลยนะ เดี๋ยวข้าจะจัดการให้ นกมันบอกเรื่องราวให้ข้าฟังหมดแล้ว”

   ธวัชก็พยักหน้าแล้วก็เดินลงบ้านไปนกวิ่งตามแล้วยัดปิ่นโตใส่มือเหมือนเดิม ธวัชหันมามองหน้านกยิ้มให้ แล้วก็จูบหน้าผากและเดินลงบ้านไปทำงานทันที จากนั้นเธอก็ใช้เวลาว่างที่มีอยู่จัดการกับโทรศัพท์เครื่องใหม่ของเธอทันที แต่แปลกที่เธอรู้เรื่องการสมัครอีเมล์ ทั้งๆที่เธอจำอะไรไม่ได้ แต่เธอก็ทำได้ เธอสร้างอีเมล์ขึ้นมา เพื่อที่จะลงทะเบียน Line และ Facebook

   เธอนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานเธอไปเที่ยวกับธวัชมาและได้ถ่ายรูปเอาไว้มากมาย มันต้องอยู่ในเมมแน่นอน เธอก็รีบเข้าไปดูที่คลังรูปภาพ และสวรรค์เป็นใจที่เธอคิดถูก เอาเครื่องนี้มา รูปเพียบ เธอดีใจมาก เธอรีบสมัคร Facebook ทันที และเมื่อเธอมี Facebook เธอก็รีบอัปโหลดรูปที่เธอกับธวัชไปเที่ยวขึ้นไปเก็บและบรรยายเรื่องราวทันที เมื่อเรื่องราวของเธอเริ่มปรากฏในเฟส อะไรจะเกิดขึ้นตามมา คงไม่ต้องคิดหละทีนี้

----- &&&&& -----

   ทันทีที่มีสมาชิก Facebook คนใหม่เพิ่มขึ้น ระบบจะเปิดและ Up เรื่องราวอัตโนมัติทันที พร้อมทั้งแนะนำเพื่อนใหม่ให้เสมอ เพียงไม่กี่นาที ภาพของนกและธวัช ก็ออกสู่สายตาสาธารณะชนแล้ว มีเหรอที่นักเลงคีย์บอร์ดอย่างงามตา,แม้นมาศและหญิงยุ แม้กระทั่งเมฆ จะไม่เห็นภาพดังกล่าวนั้น

“หญิงรัน” หญิงยุ หลุดปากออกมา แล้วเธอก็รีบไล่ดูรูปภาพและเรื่องราวที่ปรากฏขึ้น ดูวันที่ และสถานที่ ยังไง เธอก็จำเพื่อนได้ ถึงจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม เธออ่านเรื่องราวที่บรรยายด้านบน

“วันนี้มีความสุขจังที่ได้มาเที่ยวกับคนที่เรารักและรักเรา”

< ติด Hashtag (แฮชแท็ก) > ไว้ซะด้วยว่า ล่องเรือสำราญที่แม่น้ำนครชัยศรี เท่านั้นแหละ เธอก็โทรหาเมืองรามทันที

   ตึ๊ดๆๆ เมืองรามลืมโทรศัพท์ ไว้ในรถ เพราะเขากำลังนั่งประชุมและสืบเรื่องราวของเมฆอยู่กับเพื่อนใน สน. เมื่อติดต่อเมืองรามไม่ได้ เธอไม่รอช้ารีบกดเพิ่มเพื่อนทันที กับ Little Bird แล้วก็รีบคว้ากระเป๋าและกุญแจรถออกไปเลย

   ทางแม้นมาศ ก็เห็นภาพสวยๆผู้หญิงก็น่ารัก ผู้ชายก็หล่อ แต่ไม่รู้ว่าใคร แต่เธอชอบเพราะภาพแต่ละภาพมันดูเป็นธรรมชาติดี เธอก็เลยกดเพิ่มเพื่อนด้วยอีกคน

   ทางงามตานี่ซิ เป็นเรื่อง นั่งทานข้าวอยู่ที่โรงเรียน ทานไปดูเฟสไป

“พี่วัชนี่ ทำแบบนี้ได้ยังไง” เธอไม่กดเพิ่มเพื่อนเหมือนสองคนนั้น แต่คงจะไปลุยธวัชด้วยตัวเองแน่ ขณะที่กำลังโมโห เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆตกใจว่างามเป็นอะไร ตาขวางมือสั่น จึงเรียกสติ

“งาม งาม ไอ้งาม” คำสุดท้าย ถึงได้สติกลับคืนมา เลยมองไปยังเพื่อนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“เป็นอะไร” เพื่อนถาม เพราะเห็นงามตามีอาการแปลกๆและอารมณ์เปลี่ยนไป “เปล่า”

“จะมาเปล่าอะไร ฉันเห็นแก มือสั่น ตาลอยตอนที่ดูโทรศัพท์หนะ ไหนดูซิแกดูอะไร”

   แล้วเพื่อน ก็คว้าโทรศัพท์งามมาดู เห็นเป็นรูปนกที่ถ่ายคู่กับธวัช นั่งเฮฮามีความสุขกันบนเรือ กอดกัน หอมแก้มกัน หลายสิบรูป จนเพื่อนสงสัยเลยถาม แล้วก็คืนโทรศัพท์ให้ “ใคร แกรู้จักเหรอ ผู้ชายหรือผู้หญิงหละ”

“ทั้งคู่แหละ” งามตอบแบบหน้าตาบอกบุญไม่รับ “ทำไม แฟนแกเหรอ”

“เออ..ใช่” เพื่อน จ้องหน้า “ถ้าผู้ชายคนนั้นแฟนแก แล้วนั่น ทำไมเขาไปกอดไปจูบไปหอมกับผู้หญิงในรูปอยู่หละ กิ๊กเหรอ”

“ไม่รู้โว๊ย..” และก็ไม่กินข้าวต่อเลย หยิบกระเป๋า แล้วเดินออกจากโรงอาหารทันที “พี่วัชนะพี่วัช คอยดู”

“เฮ้ย บ่ายมีเรียนต่อนะไอ้งาม” เธอชูมือขวาขึ้น โบกมือบ๊ายบาย “ไม่ลงไม่เรียนมันแล้ว จะไปลุยผัว”

   นั่นดูงามตาพูด เพื่อนได้ยินเข้าก็ตกใจ เอามือปิดปากทันที..ส่วนเมฆ เมื่อได้เห็นรูปของนกและธวัชในเฟส ขณะที่กำลังพักหลบตำรวจและงานอยู่ ก็มั่นใจเพิ่มขึ้นอีกว่า ยังไงก็ใช่ วันสงกรานต์นี้ ยังไงก็ไม่รอดมือแน่

----- +++++ -----

  หญิงยุ มาหาเมืองรามที่ สน.นั่นเอง แต่ก็ช้า ไม่ทันเมืองรามอีก เพราะเขาได้ออกไปกับผู้กองชาญชัย ไม่ได้เอารถตัวเองไป

“ติดต่ออะไรครับคุณ” จ่าคนหนึ่ง ต้อนรับ “ผู้กองเมืองรามอยู่ไหมคะ”

“ท่านออกไปกับผู้กองชาญชัยเมื่อครู่นี้เองหละครับ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เอารถไป เพราะเห็นนั่งรถผู้กองชาญชัยไป”

“ขอบคุณมากเลยค่ะ” จะทำยังไงดีหละเมืองรามไม่อยู่จะทำยังไง สิ่งที่คิดได้ตอนนี้ เหลือคนเดียวก็คือ..

   < ตึ๊ดๆๆ > “สวัสดีครับ”  ริชาร์ด กำลังนั่งทำงานอยู่ “ริชาร์ด” หญิงยุพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีเลย

“อ้าว มีอะไรด่วนกับผมเหรอครับ ในตารางไม่มีนัดถ่ายอะไรนี่ครับ”

“ไม่เกี่ยวกับโฆษณาหรอกค่ะ แต่เกี่ยวกับหญิงรัน”

“มีอะไรเหรอครับ ฟังเสียงดูแล้วไม่ดีเอาเลย”

“สะดวกออกมาหาหญิงไหมคะ คุยทางนี้คงไม่สะดวก”

“ได้ครับ เดี๋ยวผมออกไป แล้วจะให้ผมไปหาที่ไหน”

&&&&& $$$$$ &&&&&

   งามตา กลับจากโรงเรียน ลงจากรถสองแถวได้ ก็ตรงดิ่งไปหาธวัชที่ร้านทันที โดยไม่เข้าบ้าน แต่ธวัชไม่อยู่เข้าไปหาหลวงตาบุญที่วัด จึงทำให้พายุลงที่ไอ้สองคนที่อยู่ รับกรรมไป

“พี่วัชอยู่ไหน พี่จ้อย พี่เอี้ยง” ทั้งสองคนชี้ไปที่วัด แล้วงามตาก็หันหน้ามุ่งไปที่วัดทันที

“แล้วแกรู้เหรอว่า พี่วัชอยู่ไหน” เอี้ยงถาม

“จะไปอยู่ไหนได้ ถ้าไม่ใช่กุฎิหลวงตาบุญ”

“แน่ใจเหรองาม แกไม่โทรไปหาพี่เค้าก่อนหละ”

   ว่าแล้วงามก็ทำตามที่จ้อยพูด เสียงดังที่นก เพราะเบอร์ของธวัชกลายเป็นของนกไปแล้ว นกเลื่อนปิด ไม่รับสาย เพราะถึงรับก็พูดกะใครไม่ได้ งามตาโกรธอีกคิดว่าธวัชตัดสาย งามตาโกรธมากเอาเท้าถีบเก้าอี้ที่อยู่ตรงนั้น ล้มละเนละนาดเป็นแถบๆ

   โทรไปอีก งามตาลองดูอีกครั้ง นกก็ตัดอีกเป็นครั้งที่สอง ยิ่งทำให้เธอฉุนหนักเข้าไปอีก

“ตัดสายงามเหรอพี่วัช 2 ครั้งติดๆกันน่าดู เดี๋ยวได้เห็นดีกัน” ว่าแล้วระเบิดก็ลงอีกลูก งามโยนเก้าอี้อีกตัวดังโครม เข้าไปในร้าน

   นกเห็นแล้วว่าเป็นชื่องามตา ทางนกก็ใช่ย่อย ลมเพชรหึงขึ้นเช่นกัน “พี่วัช กลับมาบ้านน่าดู เจ้าชู้นัก” ขณะที่เธอกำลังนั่งทำกับข้าวอยู่ เธอสับหมูอย่างแรงจนเขียงแทบจะแตกหักให้ได้ พ่อเห็นก็เลยเข้าไปห้าม

“ใจเย็นๆลูก ใจเย็นๆ เดี๋ยวของมันจะพัง” นกลืมตัว พอตั้งสติได้ ก็ขอโทษพ่อ ยกมือไหว้ขณะที่ถือมีดอีโต้ขึ้นมาด้วย

   พ่อเอาปลายนิ้ว ดันมีดไปที่อื่น นกเห็นก็เลยเอาลง แล้วยิ้มแหยๆ พ่อก็ยิ้มแหยๆเช่นกัน แล้วก็เดินออกไปเลย

+++++ ===== +++++

   งามตาเดินตรงดิ่งขึ้นไปบนกุฏิแบบไม่สนใจใคร พอเห็นธวัชนั่งอยู่กับหลวงตาบุญก็ยืนท้าวสะเอวพูดส่งเสียงแต่ไกล เหมือนเมียตามผัวยังไงยังงั้น “พี่วัช” ธวัชกับหลวงตา หันไปดูตามเสียงนั้น แล้วก็ค่อยๆเดินเข้ามา

“ตัดสายหนูได้ไง ทำไมทำนิสัยแบบนี้ บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ทำไม” เดินมาถึงพร้อมชี้หน้าว่าธวัช แบบไม่ได้สนใจพระเลย

“อีงาม” หลวงตาบุญเหลืออด ทนไม่ไหว “ขา” งามตาลืมตัว นึกขึ้นมาได้ว่านี่มันบนกุฏิ ไม่ใช่บ้านตัวเอง

“เอ็งเป็นอะไร ผีเข้ารึ ถึงได้มาออกฤทธิ์ออกเดชที่นี่ ห๊ะ” พองามตา ตั้งสติได้ ก็นั่งลงยกมือขอโทษหลวงตา

“เออ หนู” พูดไม่ออกเลยคราวนี้ “ไม่เห็นหัวพระ อย่างข้าเลยนะเอ็ง ไปโดนตัวไหนมาหละ ไหนบอกข้าซิ”

   เจอหลวงตาว่าเข้าให้แบบไม่ได้ตั้งตัวเหมือนกัน “หนูขอโทษค่ะหลวงตา มันโมโหก็เลยลืมตัว”

“แล้วแกไปโมโหอะไรมา แล้วมายืนท้าวสะเอวว่าเจ้าวัชมันแต่ไกลเนี่ย ข้ากำลังปรึกษามันเรื่องงานวันที่ 6 และวันสงกรานต์อยู่ที่จะถึงไม่กี่วันนี่แล้ว เอ็งมาทำเสียเส้นหมด หมดกัน จะพูดอะไร ข้าลืมหมด”

“นั่นนะซิแล้วตกลง มันเรื่องอะไรกัน พี่เองก็ยังไม่รู้เรื่องเลยที่อยู่ดีๆ งามมายืนท้าวสะเอวว่าพี่เนี่ย”

“ก็พี่วัชหนะตัดสายงามทำไมตั้งสองครั้ง งามก็โมโหนะซิ”

“แค่เนี่ย” หลวงตาจ้องหน้างาม “ค่ะ..แล้วมีเรื่องอื่นด้วย มีหลายคดีที่ต้องสะสางค่ะหลวงตา”

“อะไรวะ เจ้าวัช เอ็งไปมีคดีอะไรกะนังงามมันวะ”

“ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกันครับหลวงตา” แล้วธวัชก็หันไปถามงามตา

“คดีอะไรของเอ็งวะ” แล้วงามก็เปิดเฟสและชูภาพที่นกกับธวัชหวานกันอยู่บนเรือให้ธวัชดู

   ธวัช หยิบโทรศัพท์ของงามตามาดูอย่างชัดๆแล้วก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น ตายละวา เขานั่งอึ้งไปเลย

“ไงหละ มีอะไรจะแก้ตัวไหม” หลวงตาถาม ธวัชพูดอะไรไม่ออก “มีอะไรเหรอเจ้าชาย” 

“เออ..งั้นผมขอตัวก่อนแล้วกันนะครับหลวงตา แล้วพรุ่งนี้เช้าผมจะมาใหม่อีกที”

“เออๆไปเถอะไป Clear กันให้เรียบร้อย” แล้วหลวงตาบุญก็ลุกเดินออกไปเลย

“ว่าไงพี่วัช ตอบมา หลักฐานมัดตัวขนาดนี้ มันหมายความว่าไง พี่กับนกหนะ ไหนบอกว่าไม่มีอะไรกันไง”

   ธวัชไม่พูดอะไร รีบลุกเดินไปใส่รองเท้าแล้วเดินลงกุฏิทันที งามตาวิ่งตามไป

“พี่วัช ว่าไง ตอบมาซิ หนูเป็นแฟนพี่นะ หนูไม่มีสิทธิ์หึงสิทธิ์หวงรึไง พี่วัช” เธอวิ่งไปทุบหลังธวัช

“ที่แฟนตัวเองแอบไปจู๋จี๋กับผู้หญิงคนอื่นหนะ พี่วัช” ธวัชเดินหนี อย่างเร็ว

   งามตา ก็วิ่งตาม จนออกมาถึงหน้าวัด ธวัชมองซ้ายมองขวา ข้ามถนนและเดินเข้าร้าน

“มาแล้วโว๊ยไอ้เอี้ยง” งามตาก็วิ่งข้ามถนนตามมา ธวัชมองเข้ามาในร้านเห็นเก้าอี้กระจายวายวุ่น ก็ไม่สบอารมณ์เช่นกัน

   ธวัชเดินเข้ามาหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่กับปิ่นโต แล้วจะเดินกลับบ้าน งามตาโยนหนังสือที่ถืออยู่ดักเอาไว้ ธวัชจึงหยุดได้

“จะไปไหนพี่ จะรีบไปนอนกกนังนกมันใช่ไหม” ธวัชมองหน้างาม

“หยุดพูดนะงาม และหยุดนิสัยพาลแบบนี้ได้แล้ว พูดจาไม่น่ารักเลย” จ้อยกับเอี้ยง ตั้งท่าฟังอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้

“ผัวใคร ใครก็รัก ผัวใครใครก็หวง แล้วนี่พี่ เอานังนกไปกอดไปจูบหลบสายตาหนูบนเรือแบบนั้น ใครจะทนไหม หนูไม่ยอม”

“เฮ๊ยไอ้จ้อย มึงได้ยินอย่างที่กูได้ยินไหม” จ้อย พูดออกมาแบบไม่คิด

“นี่อีงามมันเสร็จลูกพี่เราแล้วเหรอวะ ตอนไหนวะเนี่ย” จ้อยเจอเอี้ยง ตบกบาล

“มึงก็พูดไป ตอนเขาได้กัน มึงอยู่ใต้เตียงเขารึไง ฟัง” เอี้ยงพูดซะเห็นภาพเลย

“งามพูดอะไรน่าเกลียด แล้วพี่ไปเป็นผัวงามตั้งแต่เมื่อไหร่ พูดแบบนี้ออกมา งามจะเสียนะ”

“นั่นกูว่าแล้วว่าไม่ใช่” จ้อยพูดออกมาอีกแล้ว “มึงนี่จริงๆเลยไอ้จ้อย ฟัง อย่าพึ่งสอด” เอี้ยงอยากฟังต่อ

“หนูไม่สน หนูไม่อายก็มันเป็นความจริง พี่เป็นแฟนหนู อีกหน่อยมันก็คือผัวนั่นแหละของๆหนู หนูไม่ชอบ ที่ใครจะมาแอบกินแอบแบ่งไปใช้ หนูไม่ให้ เข้าใจไหมพี่วัช” ยังไงงามตาก็ไม่สน ยังดันทุรัง ยืนยันความเป็นเมียจอมปลอมอยู่

“พูดไม่รู้เรื่องแล้วงาม เอาไว้ให้งามใจเย็นก่อนแล้วกัน แล้วพี่จะอธิบายให้ฟังนะ วันนี้งามกลับไปก่อน”

“ไม่กลับ ถ้าวันนี้คุยกันไม่รู้เรื่อง ยังไงหนูก็ไม่กลับ เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใครทั้งนั้น”

“โอ๊ย งามพี่ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับงามแล้วพี่ไปหละ” แล้วธวัชก็เดินจากไป งามวิ่งตามไปดึงแขน ดึงปิ่นโตโยนทิ้งคลอง

   ธวัชเห็นพฤติกรรมแบบนั้นของงามตา ยิ่งทำให้ธวัชไม่พอใจงามตาเป็นอย่างมาก

“ทำอะไรหนะงาม ปิ่นโตมันไม่รู้เรื่องอะไรด้วย แล้วไปทำแบบนั้นทำไม รู้ไหม ราคาเท่าไหร่”

   หัวใจ..ใครจะรู้ หละครับคราวนี้ เมื่อความหึงหวงเข้ามาบังตาบังใจงามตาซะขนาดนั้น ธวัชเห็นดังนั้นก็รีบเดินกลับบ้านทันที

“พี่วัช กลับมานะ กลับมาเดี๋ยวนี้ กลับมาพูดกันให้รู้เรื่องไอ้ผัวเฮงซวย”

“เอ้ย ตกลงวันยังไงกันวะไอ้เอี้ยง ตกลงเป็นหรือไม่เป็นวะ” จ้อยเจ้าปัญหา อยากรู้ความจริงขึ้นมาแล้ว

“แล้วกูจะรู้ไหม ถ้ามึงอยากรู้ โน้น ไปถามลูกพี่มึงดูโน้น สำหรับกู ไม่อยากรู้ ไปทำงานต่อดีกว่า”

   เอี้ยงพูดจบก็หันกลับไปทำงานทันที งามตาพอตั้งสติได้ ในเมื่อยังไม่ได้คำตอบที่พอใจ ก็วิ่งตามธวัชไปอีก ไปทันทีหน้าบ้าน ธวัชกำลังจะเปิดประตูเข้าบ้านเห็นงามตาวิ่งมา ก็หันไปชี้หน้างามตาทันที

“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะงาม พี่ขอบอกเป็นครั้งสุดท้าย” งามหยุดทันที

“ถ้างามยังไม่หยุดบ้าและพูดเพ้อเจ้ออะไรแบบเมื่อกี้ เราสองคนไม่ต้องมาคุยมาเจอกันอีก กลับไป มีสติเมื่อไหร่ แล้วเราค่อยมาคุยกัน” งามตา ยืนนิ่งไม่พูดอะไร โกรธก็โกรธ หันซ้ายขึ้นไปมองบนบ้าน เห็นนกออกมายืนอยู่บนระเบียงบ้าน

“ว่าไง” แล้วงามตาก็ค่อยๆเดินถอยหลังออกไป พร้อมกับสายตาที่มองนก แบบไม่คลาดสายตา

   ก่อนที่งามตาจะเดินลับตาไป ธวัชก็บอกเรื่องโทรศัพท์

“สำหรับเรื่องโทรศัพท์ พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอก พี่เปลี่ยนเบอร์ เบอร์เก่าพี่ให้นกใช้ คงเข้าใจแล้วนะ”

   แล้วธวัชก็เดินเข้าบ้านไป งามตาก็ต้องเดินกลับบ้านแบบผิดหวัง เธอเดินปาดน้ำตาไปตลอดทาง ผ่านร้าน จ้อยกับเอี้ยงก็มอง งามตาก็ยกมือชี้หน้าทั้งสองคน แบบไม่พอใจ แล้วก็ก้มเก็บสมุดหนังสือที่หล่นอยู่ และเดินกลับบ้านไปแบบไร้วิญญาน 

   ธวัชเดินขึ้นมาบนบ้าน นึกว่าหมดเรื่องงามตาแล้วจะสบายใจ เจอนกยืนท้าวสะเอวตาเขียวอยู่ตรงหน้าอีกคน

“อะไรอีกหละคนนี้ แม่คุณแม่ทูนหัว” นกเอาเบอร์โทรที่งามตา โทรเข้าวันนี้ให้ธวัชดู

“รู้แล้ว” แล้วธวัชก็เอามือดันมือนกออกไป นกเดินตามไปดักหน้าไว้ เหมือนเมียจับผิดผัวอีกคน

“อธิบายมา เดี๋ยวนี้ ด่วน” ข้อความในไลน์วิ่งเข้าเครื่องธวัช เขาจับโทรศัพท์มาเปิดอ่าน

“ไม่มีครับ ไม่มีอะไรจะอธิบาย” แล้วธวัชก็เดินไปนั่งที่ศาลา

“คงโทรหากันบ่อยซิท่า” มาอีก 1 ข้อความ

“นก จะเอาอะไรกับพี่” นกเอานิ้วชี้ขวาชี้ไปที่หน้าธวัชทันที เหมือนบอกว่า “ได้” ด้วยสีหน้าที่ไม่ดีเอาซะเลย

   แล้วก็เดินหันหลังกลับเข้าครัว พร้อม 1 ข้อความตามหลัง “อย่ามายุ่งอะไรกับน้องอีก ทางใครทางมัน” เท่านั้นแหละ ธวัชหมดแรงไม่รู้จะทำยังไงดี วางโทรศัพท์แล้ววิ่งตามนกเข้าไปในครัว

นกหูไวมากคราวนี้เหมือนรู้ เธอหันมาชี้หน้าธวัชอีกครั้งด้วยสีหน้าที่เย็นชา สายตาเหมือนไม่สนใจ อย่ามายุ่งกับเธอ ทำเอาธวัชกลัวขึ้นมาทันที แม่เดินออกมาพอดี ว่าจะเข้าไปขอโทษธวัชเรื่องเมื่อเช้า เพราะได้รู้ความจริงจากตาทดเรียบร้อย แต่ก็ต้องแปลกใจที่เห็นนกกับธวัช เหมือนจะทะเลาะกันอยู่ ก็เลยยังไม่เข้าไป ธวัชยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น นกก็ไม่สนใจ นั่งทำกับข้าวทำครัวต่อ

<<<<< ----- >>>>>

   มืดแล้ว ริชาร์ดกับหญิงยุ พึ่งได้เจอกันเหมือนมาเดท ริชาร์ดก็เลยถือโอกาสชวนหญิงยุทานมือค่ำในวันนี้ ก่อนที่จะคุยในเรื่องที่หญิงยุนัดมาคุยด้วย “เชิญครับ องค์หญิง” แล้วริชาร์ด ก็เลื่อนเก้าอี้ให้หญิงยุ

“บ้าพูดอะไร หญิงไม่ใช่ซะหน่อย” หญิงยุ หันไปบอกริชาร์ด

“แต่สำหรับผม หญิงยุ ใช่เสมอครับ” หยอดซะขนาดนั้น หน้าไม่แดงก็ให้มันรู้ไป

“ทานก่อนนะครับ พออิ่มแล้วจะได้คุยกัน” หญิงยุไม่พูดอะไรมาก เขิน “ค่ะ” แล้วทั้งสองก็ทานมื้อค่ำอย่างมีความสุข

   ริชาร์ดเหมือนจะตกหลุมรักหญิงยุเข้าแล้วโดยไม่รู้ตัว เพราะเขาชอบแอบมองเธอตลอดเวลา หัวใจ..ใครจะรู้ ว่าแอบชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ คนดิบๆเจ้าชู้อย่างริชาร์ดเนี่ยนะ จะมาสนใจผู้หญิงเชยๆอย่างหญิงยุ

   หลังจากที่ทานเสร็จ ก็นั่งจิบไวน์เบาๆปิดท้าย “เอาหละครับ คราวนี้คุณหญิงมีอะไรจะให้เกล้ากระหม่อมรับใช้ก็ว่ามา”

“ดูพูดเข้า ไม่เอาไม่เอา หญิงไม่ชอบ หญิงไม่ใช่คนถือยศถือศักดิ์อะไรขนาดนั้น”

“ผมล้อเล่น ก็ผมเห็นคุณเครียด” หญิงยุยิ้มให้ “ก็เรื่องของหญิงรัน เพื่อนหญิงนะซิคะ คุณดูนี่ซิ”

   แล้วยุหญิง ก็เอารูปของหญิงรันกับธวัชให้ริชาร์ดดู หัวโขกกันดังโป๊ก ทั้งสองเอามือลูบหัว

“ขอโทษครับ” ริชาร์ดขอโทษก่อน “หญิงก็ขอโทษค่ะ ไม่ทันดู”

   แล้วหญิงยุ ก็ส่งโทรศัพท์ให้ริชาร์ดแทนการยื่นหน้าไปหา ริชาร์ดก็ดู แต่เขาคงไม่เข้าใจ

“ลืมไป ถึงผมดู ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี” เพราะริชาร์ดไม่รู้จัก “นั่นซินะ หญิงก็ลืม คืองี้” หญิงยุ เอานิ้วชี้ไปที่รูปของหญิงรัน

“รูปที่เห็นหนะ หญิงมั่นใจว่าคือหญิงรันเพื่อนของหญิง ถึงแม้ว่าในรูปหนะจะไม่มีเหลือร่องรอยเค้าโครงอะไร”

“คนหน้าเหมือนมีก็เยอะเดี๋ยวนี้ อีกอย่าง บางรูปก็ไกล มันคงจะไม่บังเอิญขนาดนั้น”

“ถึงชุด,ผม,สภาพเปลี่ยนไป ขนาดนั้น แต่เธอคล้ายมาก หญิงก็เลยอยากให้คุณช่วยหญิงตามหาคนสองคนในรูปนั่น ว่าพวกนั้นอยู่ที่ไหน นะค่ะ ริช” หญิงยุ อ้อนวอนริชาร์ด “แล้วทำไมไม่บอกเมืองรามหละ”

“หญิงติดต่อรามไม่ได้..นะ ริช นะ” หญิงยุ ค่อยๆเลื่อนมือขวา ไปแตะมือซ้ายริชาร์ด แล้วตีเบาๆ ริชาร์ดมองหน้าหญิงยุ

“ผมคงไม่มีทางเลือกใช่ไหมครับหญิง” ริชาร์ดพูดเหมือนน้อยใจ

“นึกว่าช่วยหญิงนะค่ะ จะให้หญิงไหว้ก็ได้เอ้า”

   หญิงยุถึงกับจะกราบไหว้ริชาร์ดแล้วในตอนนี้ เพราะพึ่งใครไม่ได้

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกครับคุณหญิง”

“รามเขาอาจจะงานเยอะ แล้วหญิงจะบอกรามอีกที แต่ตอนนี้หญิงต้องรู้ให้ได้ว่า ผู้ชายที่อยู่กับหญิงรันหนะคือใคร”

   แล้วริชาร์ด ก็ดู Hashtag (แฮชแท็ก) ว่าอยู่ที่ไหน และพยายามหารายละเอียดให้กับหญิงยุให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ในตอนนี้

“ในนี้บอกว่าล่องเรือสำราญ อยู่ที่วัดไร่ขิง นี้เองนี่ แต่มันก็ฟันธงไม่ได้อยู่ดีว่าอยู่แถวนี้ เขาอาจจะมาเที่ยวกันก็ได้ ยากมาก”

“หญิงว่า มันต้องมีเบาะแสอะไรมากกว่านี้อีก นี่คุณดูตรงนี้ซิ รูปนี้บอกว่าอยู่ที่วัดดอนหวาย และรูปนี้เป็นวัด มันคล้ายกับวัดที่เกิดเรื่อง หญิงจำได้ลางๆไม่ผิดนะ มันต้องอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ในบริเวณนี้แหละ”

“อืม เอางี้ ช่วงที่เราถ่ายเก็บภาพเสริมเราก็ไปตามสถานที่พวกนี้ แล้วค่อยตามสืบย้อนรอยไปหาต้นตอก็แล้วกัน ผมว่า ถ้าคนนี้เขาโพสต์รูปพวกนี้ได้ เดี๋ยวต่อไป เขาก็ต้องโพสต์อีก แล้วเราค่อยว่ากันอีกทีดีไหม”

“ดีค่ะ” หญิงยุ มองหน้าริชาร์ด แล้วก็ยิ้ม “หญิงเลือกคนไม่ผิดเลยนะคะ”

   หญิงยุ ตีมือริชาร์ดเบาๆอีกครั้ง แล้วก็ดึงมือกลับมา

“ไม่เป็นไรครับ สำหรับคุณหญิง น้อยกว่านี้ได้ไง ผมช่วยเต็มที่อยู่แล้ว”

“ขอบคุณค่ะ” แล้วหญิงยุก็นั่งยิ้มจน ริชาร์ด ไม่อยากที่จะละสายตาไปจากเธอได้เลย

===== ***** =====

  วันนี้วันที่ 6 เป็นวันจักรี เมืองรามพายุ้ยหรือแม้นมาศมาทำบุญที่วัด และจะแนะนำธวัชให้เธอรู้จักเสียที หลังจากที่ได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว ก็ใจเย็นลงมากมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น และวันนี้เองวันที่แม้นมาศไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้พบกับคนที่เธออยากเจอมานานแล้วนั่นก็คือธวัชเจ้าชายยาจกของเธอนั่นเอง แล้ววันนี้แหละอีกเช่นกัน ที่เมืองรามก็จะได้รู้ซะทีว่าใครคือ แฟน ของงามตา

   เมืองรามคิดว่ายังคงมีหวังถ้าคิดจะเดินหน้าจีบงามตาแบบจริงจัง เพราะไม่อยากให้เธอเสียน้ำตาและร้องไห้อีก เธอน่ารัก ยังไงก็ตัดใจไม่ลง จะเดินหน้าสู้กับชายคนนั้นสักตั้งหนึ่ง หัวใจ..ใครจะรู้ ในเมื่อเธอยังไม่ได้แต่งงานกันซะกะหน่อย เมืองรามคิดแบบนั้น

+++++ ===== +++++

               เช้าวันใหม่ ธรรมชาติที่สดใสสวยงามกับชนบทที่เรียบง่าย ชีวิตของชาวบ้านทั่วไป ฝูงชนเดินเข้าออกวัดทำบุญกัน รอยยิ้มที่แม้นมาศเห็น เธอไม่เคยสัมผัสธรรมชาติและชีวิตของผู้คนแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เมืองรามพาเธอมา เธอยิ้มไม่หยุด

“เป็นไงชอบเหรอยุ้ย พี่เห็นหนูยิ้มไม่หยุดเลยตั้งแต่มาถึงแล้ว”

“ก็มันสวยจริงๆนี่พี่ หนูพึ่งรู้นะว่า นอกเมืองแบบนี้ ชีวิตเรียบง่ายแบบนี้ ก็มีความสุข ไม่เหมือนกับชีวิตในตู้สี่เหลี่ยมแบบที่หนูอยู่เลย” เมืองรามเอามือจับหัวยุ้ยเขย่าเหมือนเด็กน้อยน่าเอ็นดู

   ยุ้ยยิ้มแหยๆแล้วก็เดินแบบเขินอาย เพราะไม่เคยมีใครมาทำกับเธอแบบนี้มาก่อน ทำไมหัวใจเธอเต้นตุ๊บๆ เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน หัวใจ..ใครจะรู้ ไม่ยักกะเหมือนตอนที่คิดถึงเจ้าชายยาจก หัวใจไม่ยักกะเต้นแรงแบบนี้

   เมืองรามเดินไปที่กุฏิหลวงตาบุญ แม้นมาศก็เดินตามไปแบบไม่รู้ตัว เขาไปไหนฉันไปด้วยว่างั้น เห็นธวัชกำลังทำโน้นทำนี่อยู่กับหลวงตาบัว เมืองรามกับแม้นมาศ ยกมือสวัสดีหลวงตา และเขาก็ทักทายเพื่อน

“สวัสดีตอนเช้า..ว่าไงวะเพื่อน” ธวัชหันหน้ามายิ้มให้เพื่อน แล้วเดินเอาสมุดเงินฝากไปเก็บให้หลวงตาบุญในห้อง

“สวัสดีครับหลวงตา” แม้นมาศ เห็นหน้าธวัชชัดๆเธอตกตะลึงในงามหล่อและรูปงามของธวัช แต่ยังไม่รู้ว่าคือใคร

“เอ้าๆมากันเหนื่อยๆ มานั่งกันก่อน” หลวงตาบุญ เชื้อเชิญเมืองราม กับแม้นมาศ

“ไงนังหนู ทะโมนน้อย วันนี้มากับเค้าได้หละ” หลวงตา ทักซะแม้นมาศค้อนควับให้เลย

“หลวงตาหนะ พูดซะหนูเสีย ขายไม่ออกเลย หนูไม่ใช่ทโมนซะหน่อย ออกจะน่ารัก” หลวงตาหัวเราะ

“ลักไปทิ้งนะซิ” เมืองรามแหย่เข้าไปอีก ยุ้ย ทุบหลังเมืองรามอย่างแรง ธวัชเดินออกมาจากห้องหลวงตา ตรงไปที่ชุดน้ำชา

“ข้าหยอกเล่น ไม่เอาน่า เขาเรียกรักดอกจึงหยอกเล่น” แม้นมาศ ยังยกมือพนมอยู่ แล้วก็หัวเราะไปด้วย

“เจ้าชาย” หลวงตาหันไปเรียกธวัช ขณะที่กำลังหันหลังไปเตรียมยกน้ำชามาให้เพราะมีแขกมา แม้นมาศ ได้ยินคำว่าเจ้าชายก็เลยนิ่งอึ้งไปเลย “เจ้าชาย” เขานึกในใจว่า จะใช้เจ้าชายคนเดียวกันกับคนที่เธออยากเจอหรือไม่

   แล้วธวัชก็คลานเอาน้ำชา มาส่งให้หลวงตา เช่นเดิม หลวงตาก็รินน้ำชาส่งให้ทั้งสองคน แล้วก็ดึงเพื่อนมานั่งข้างๆ

 “ยังขยันเหมือนเดิมนะเพื่อน ไอ้เจ้าชาย วันๆ ถ้าไม่อยู่ที่ร้านก็มาขลุกอยู่กับหลวงตาที่นี่หละนะมึง”

“มันเป็นปกติของกูอยู่แล้ว กูทำมาจนชิน” ขณะที่เมืองรามคุยกับธวัชอยู่นั่น เขายังไม่เห็นว่าแม้นมาศเป็นยังไง

   หลวงตาเห็นแม้นมาศนิ่งเหมือนโดนสะกดจิต ตาเหวอ ลักษณะเหมือนโดนของ ไม่รู้ว่านังหนูมันเป็นอะไร แล้วเมืองรามก็หันไปหาแม้นมาศ เพื่อที่จะแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนรักของเขา

“อ้าว เป็นอะไรไปหละยุ้ย ยุ้ย” เมืองรามเอามือตีไปที่ตักของแม้นมาศ จนเธอหลุดจากภวังค์

“ขา พี่ราม อะ อะไรคะ” ยุ้ยตอบเมืองรามแบบเอ๋อๆ เหมือนคนที่พึ่งตื่นจากการหลับนัย

“เป็นอะไรของเราหนะ นี่มานี่ มารู้จักเพื่อนพี่” แล้วก็เอามือชี้ไปที่ธวัช

“ธวัช เพื่อนพี่ หรือ เจ้าชายยาจก ที่เคยเล่าให้ฟังไง” เท่านั้นแหละ น้ำชาที่ถืออยู่หล่นทันที

“โอ๊ย..” น้ำชาร้อนๆโดนตักเธอ เธอก็ร้องลั่นเลย จนเมืองรามตกใจ

   ธวัชคลานไปดู แล้วเก็บแก้วชาออกไปวางที่อื่น และก็เอาผ้าสะอาดแถวนั้น เช็ดกางเกงให้และเช็ดพื้นแถวนั้นด้วย

“เป็นอะไรมากไหมครับคุณ” แม้นมาศยังคงนิ่ง เหมือนช๊อค คราวนี้หัวใจเธอเต้นแรงเร็วมากผิดปกติ มากกว่าเมื่อกี้เสียอีก

“ยุ้ย ยุ้ย เป็นอะไร” เมืองรามเห็นยุ้ยนิ่งไป เขาตกใจเหมือนกันเพราะไม่เคยเห็นยุ้ยเป็นแบบนี้ ยุ้ยไม่พูดอะไร

   หลวงตา บอกให้เมืองรามและธวัชจับเธอนอนลงก่อน

“จับนังหนูนอนราบก่อน เร็ว นั่นตาลอย มือไม้เกร็งไปหมดแล้ว”

   ธวัชก็วางเธอลงบนตักของเขา แล้วหยิบหนังสือพิมพ์แถวนั้นพัดไปมา เสียงเอะอะ งามตา เดินขึ้นมาพอดี

“มีอะไรกันหนะ” เมืองรามหันไปตามเสียง ก็ต้องตะลึงอีกคนที่เห็นงามตาที่นี่

   แล้วงามก็เดินอ้อมไปอยู่กับธวัช เธอนั่งลงแล้วเอามือเกาะไหล่ธวัช

“ก็เด็กคนนี้ซิ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร อยู่ดีๆก็แน่นิ่งไปเลย ตาขวางมือเกร็งไปหมดเนี่ย เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตอบ พี่ก็เลยเอานี่พัดให้”

“ไหนดูดิ๊ ขอดูให้ชัดๆหน่อยซิว่าใคร” พองามตาเห็น ก็จำได้ว่า เป็นยัยพี่คนนั้นที่เดินชนกับเธอเมื่อวันก่อน

“เธอ” งามตา ทำท่าตกใจ ธวัชก็เลยถาม “งามรู้จักเด็กคนนี้เหรอ”

“ไม่หรอก แต่หนูเคยเจอกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เราเดินชนกันแล้วมีปากเสียงนิดหน่อยที่ปากทาง”

“เหรอ” เมืองราม ถามต่อ “ยุ้ยมาที่นี่เหรองาม”

“ใช่พี่ราม” คราวนี้ธวัชเป็นฝ่ายงง บ้างแล้วว่า สองคนนี้ไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่

“เดี๋ยวๆ เดี๋ยว” ธวัชขอแทรกกลางครัน

“อะไร” เมืองรามกับงามตอบพร้อมกัน

“นี่มึงสองคนเนี่ย ไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ กูไม่รู้เลยนะเนี่ย”

“นานแล้ว ตั้งแต่วันที่กูมาเจอมึงวันนั้นแหละ เกือบเดือนแล้ว”

“เหรอ ปิดกูเงียบเลยนะมึง” เมืองรามมองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

“อ้าว ไอ้เหี้ย แล้วจำเป็นไหม เวลาที่กูรู้จักใคร กูต้องรายงานมึงหนะไอ้วัช ไอ้เจ้าชายซังกะบ๋วย”

   เท่านั้นแหละ งามตาถึงกับผลักเมืองรามทันทีอย่างแรง ทำให้เมืองรามเสียหลักก้นจ้ำเบ้า มาว่าแฟนตัวเองได้ยังไง ฉุนไม่ชอบ

“พูดให้ดีนะ ใคร ใครซังกะบ๋วย มาว่าแฟนงามแบบนี้ได้ยังไง”

   เท่านั้นแหละ เมืองราม ที่นั่งอยู่กับพื้นลุกไม่ขึ้นทันทีพอรู้ว่า คนที่อยากรู้คือใคร ที่แท้ก็คือธวัชเพื่อนรักเขานั่นเอง ระหว่างนั้น แม้นมาศได้สติ รู้สึกตัวพอดี เธอค่อยๆลืมตามาเห็นธวัชกำลังเอาหนังสือพิมพ์พัดให้เธอ เอามือลูบผมเช็ดหน้าเช็ดตาให้ เธอก็ค่อยๆลุกขึ้นมา ธวัชพยุงเธอให้นั่งแบบสบายๆ แม้นมาศก็มองไปรอบๆเห็นคนมากมาย กำลังจ้องมองเธออยู่ เห็นเมืองรามลงไปนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ข้างหน้า ธวัชและงามตามองมาที่เธอ

“เจ้าชาย ไม่น่าเชื่อ นี่เราไม่ได้ฝันไปนะไอ้ยุ้ย เจ้าชายยาจกตัวเป็นๆอยู่ตรงหน้าเรา” ยุ้ยบ่นกับตัวเอง ขณะที่กำลังสลึมสลือ

“เป็นไงบ้างครับคุณ ดีขึ้นรึยัง มีโรคประจำตัวอะไรบ้างรึเปล่า” ธวัชถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ ไม่ค่ะ” เธอยังคงตกใจเล็กน้อย ธวัชรีบหายาดมจากกระเป๋าเสื้อของเขา เจอพอดี

“ค่อยๆ ผ่อนคลายนะครับ เอานี่ยาดม” แล้ว แม้นมาศก็รับยาดมมาจากธวัช และค่อยๆหันมาทางหลวงตา

“เป็นไงบ้างนังหนู ดีขึ้นรึยัง หลวงตาตกอกตกใจหมดเลย”

“หนูต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น มันตกใจจนรับไม่ทันหนะค่ะหลวงตา”

“แล้วมันตกใจเรื่องอะไรหละนังหนูฮึ ไหนบองอาตมา มาซิ”

“ก็” เธอเอามือขวายกขึ้นมา แล้วค่อยๆชี้นิ้วกลับไปที่ธวัช

“ผม” ธวัช ตกใจเล็กน้อย แม้นมาศ พยักหน้า

“ทำไมหละ ไปตกใจอะไรกับเจ้าวัชมันรึ” หลวงตาบุญ ถามแม้นมาศ

>>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 9 .. “ เลือนลาง ” 

ตอนที่ 8 .. “ หัวใจ..ใครจะรู้ ”

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.