บทที่ 5...2/3
“อยู่เฉยๆ ตัดแขนเสียดีไหม ดื้อไม่เข้าเรื่อง” รามินแกล้งบ่นเพราะมันเงียบเกินไป ทั้งที่เขาชอบห้องเงียบๆ แบบนี้เป็นที่สุด “ผมถอดเสื้อแล้วคุณไปแกะสร้อยข้อมือออกเอาเองน่าจะง่ายกว่า”
“ฉันไม่อยากได้เสื้อของคุณ”
ลัลนารีบห้าม คราวก่อนเธอตกสระน้ำเพราะเขาไม่ใส่เสื้อ คราวนี้เธอได้เป็นลมแน่ๆ เธอไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าเขาอีกเป็นหนที่สอง
“ถ้างั้นก็มาช่วยกันแกะสร้อยข้อมือของเธอออก สวมเข้าไปได้ยังไงเล็กแค่นี้”
ลัลนาพยักหน้าเห็นด้วยไม่เงยหน้า รามินก้มลงมาอย่างระวังยื่นมือไปจะช่วยลัลนาถอดสร้อยออกจากข้อมือ ลมหายใจอุ่นๆ ของชายหนุ่มผะผ่าวที่แก้มของหญิงสาว
“เดี๋ยวฉันถอดสร้อยข้อมือเองดีกว่าค่ะ คุณยืนเฉยๆ อย่าก้มหน้าลงมาได้ไหม” ลัลนากลั้นใจบอกรามิน เขาจะดุ เธอก็ยอมละ เขาไม่รู้หรือไงว่าความใกล้ชิดของเขาทำให้เธอหัวใจเต้นแรงเกินไป จนกลัวตัวเองจะเป็นลม
รามินเงยหน้าขึ้นรู้สึกว่าลัลนาจะสั่งเขาบ่อยเกินไปแล้ว อีกทั้งคนของเขาก็ทำหน้าที่ดีเกินไปหรือเปล่า เขาแค่สั่งว่าให้ลัลนาเข้ามาในบ้านหลังนี้ได้ตลอดเวลา แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เข้ามาในห้องของเขาได้โดยที่ไม่มีใครห้าม
“เร็วๆ เข้าผมจะไปทำงานสายเพราะคุณแล้ว ส่วนคุณก็จะไปทำงานสายเหมือนกัน”
ลัลนาดึงสร้อยข้อมือจนข้อมือแดงมาจนถึงสันมือเพราะมันไม่มีสลักให้ดึงออก เธอใส่สร้อยข้อมือเส้นนี้มาตั้งแต่อายุ 25 ปีแล้วไม่เคยถอดออกเลย ผ่านมาแค่ปีเดียว ทำไมถึงได้ถอดออกยาก แต่หลังจากพยายามอยู่หลายนาทีสร้อยก็หลุดจากข้อมือของเธอ แต่ยังติดที่กระดุมเสื้อของรามินต่อแทน
“เสร็จแล้ว”
รามินพยักหน้า แล้วหายไปอีกห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อ ลัลนาละล้าละลังเพราะสร้อยข้อมือของเธอยังอยู่ที่เขา ชายหนุ่มเหมือนจะรู้เลยบอกอย่างกับมีตาที่มองทะลุกำแพงได้ว่า
“ถ้าผมเอาสร้อยข้อมือออกจากกระดุมได้จะส่งคืนไปให้คุณ เชิญออกไปจากห้องของผมได้แล้ว”
ลัลนานับหนึ่งถึงห้าในใจแล้วยอมออกไปจากห้อง ตอนนี้นอกจากไม่ได้พาสปอร์ตคืนแล้ว เธอยังเสียสร้อยข้อมือตุ้งติ้งให้กับรามินอีก เถอะน่า รามินไม่ใช่คนผิดคำพูด ทั้งพาสปอร์ตและสร้อยข้อมือตุ้งติ้ง เธอได้คืนแน่นอน แต่ที่เธอควรหนักใจตอนนี้คือเรื่องนัดบอดดูตัวที่รามินจัดแจงต่างหาก เธอไม่ได้ต้องการมีสามีเร็วๆ นี้ เขาอยากไล่เธอออกจากบ้านไปเร็วๆ จนต้องหาสามีให้เธอเร็วขนาดนี้เลยหรือ
เมดาเดินตามมาและรอจนกระทั่งเห็นว่าลัลนาออกมาจากห้องของรามินหลังจากเข้าไปในนั้นเกือบครึ่งชั่วโมง แม่บ้านสาวเดินหลบออกมาทางบันไดด้านหลังซึ่งสามารถหลบกล้องวงจรปิดได้เพื่อโทรหาไนลา หน้าที่ของเธอนอกจากเป็นแม่บ้านในบ้านของรามินแล้ว ยังมีอีกหน้าที่ซึ่งหากไม่ทำ ตอนนี้น้องชายของเธอคงถูกไล่ออกจากการเป็นพนักงานของเอ็มวาย กรุ๊ป ด้วยอำนาจที่ไนลามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน แม้การรายงานเรื่องในบ้านของรามินจะไม่ใช่สิ่งที่เธออยากทำ แต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเองและน้องชาย
“คุณลัลนามาหาคุณรามินในห้องนอนตอนเช้าวันนี้ค่ะ” เมดารายงาน จงใจไม่ลงลึกรายละเอียดว่าลัลนาเข้าไปในห้องของรามินนานแค่ไหน
“ได้ค่ะ ฉันจะคอยรายงานไปเรื่อยๆ”
เมดากดวางสายเมื่ออีกฝ่ายกดวางไปก่อนโดยกำชับให้รายงานเรื่องของลัลนาไปเรื่อยๆ เมดารู้สึกไม่ดีนักที่ต้องทำแบบนี้ แล้วที่น่ากังวลกว่านั้นคือเธอไม่รู้เลยว่านอกจากตนเองแล้ว มีใครอีกบ้างที่ไนลาส่งเข้ามาเพื่อเป็นสายคอยรายงานสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับรามินและลัลนา หากเธอไม่รายงานในบางเรื่องจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอและน้องชายหรือเปล่า
อิซารายงานความเคลื่อนไหวของบุคคลต่างๆ ในตระกูลไอมาล การที่รามินต้องดูแลทุกคนทำให้เขาจำเป็นต้องรู้ว่าใครกำลังคิดอะไรหรือคาดเดาให้ได้ว่าจะทำอะไร การพลาดมองคนผิดอาจนำมาซึ่งความเสียหายในอนาคตก็ได้ แม้เขาจะยอมให้ไนลาในเรื่องของไซรัสซึ่งได้ไปเป็นรองประธานฝ่ายวางแผนธุรกิจ ซึ่งนับว่าสำคัญต่อธุรกิจของตระกูลไม่น้อย แต่เขายังมีคนที่คอยเป็นสายหากว่าไซรัสก่อเรื่อง เขาจะสามารถตามไปแก้ไขได้ทัน
การเป็นญาติกันทำให้บางครั้งเขาต้องยืดหยุ่นในบางเรื่องและมีจุดยืนที่แน่วแน่ในบางเรื่อง อย่างเช่นการที่ไนลาเสนอให้มีการเพิ่มตำแหน่งที่จะกลายเป็นหอกข้างแคร่ในอนาคตของรามิน รามินจึงเรียกประชุมและจัดให้มีการโหวตจะได้หมดข้อครหาว่าเขาใช้อำนาจเกินหน้าที่ ไนลาจึงต้องเลิกล้มแผนนี้ไป
“เงียบจนน่าสงสัยไหมครับ” อิซาเอ่ยขึ้นเมื่อรายงานเรื่องของไซรัสไปทำงาน ทั้งที่ปกติแล้วแทบไม่หยิบจับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
“ไม่สงสัยสิแปลก พี่ไนลาไม่ยอมอ่อนข้อกับผมง่ายๆ หรอก การส่งไซรัสมาต้องมีจุดประสงค์อื่นแน่” ตอนนี้รามินแค่เดินไปตามเกม หากไนลาไม่ทำอะไรเกินกว่าสิ่งที่สามารถทำได้ เขาจะไม่ขัดขวาง
อิซาหยิบไอแพดมาส่งให้รามินเพราะมีอีกเรื่องที่เกี่ยวกับไซรัสที่เขาไม่ได้รายงานแต่แรก ทว่าด้วยสัญชาตญาณของเขาเองจึงคิดว่าไม่ควรมองข้าม
“คุณไซรัสสั่งให้นักบินเตรียมตัวไว้ เครื่องบินส่วนตัวก็ถูกเรียกใช้ในอีก 2 วันข้างหน้า ให้ผมสืบต่อไหมครับ”
รามินส่ายหน้าคิดไว้อยู่แล้วว่าไซรัสไม่อยู่เฉยๆ ทำงานหาความก้าวหน้าอย่างที่ไนลาต้องการไปได้ตลอดรอดฝั่งหรอก หลานคนนี้เจ้าคิดเจ้าแค้น
“ไม่ต้องแล้ว หลานคนนี้ทำอะไรที่เดาได้ไม่ยากมาตลอด เหลือแต่คนกลางนั่นแหละจะลังเลหรือเปล่า”
อิซาขมวดคิ้วพยายามคิดว่าไซรัสจะทำอะไร แต่รามินดูไม่ร้อนใจอะไรเลย แสดงว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ว่าแต่คนกลางที่รามินพูดถึงนั้นหมายถึงใครกัน บอดี้การ์ดยังคงพยายามหาคำตอบ บางครั้งเจ้านายที่คิดการณ์ไกลและรู้ทันคนอื่นก็ทำให้บอดี้การ์ดแบบเขาปวดหัวเพราะคิดตามไม่ทัน
ลัลนาถูกใครก็ไม่รู้ส่งข้อความให้มาพบกันที่ดาดฟ้าของตึกเอ็มวาย กรุ๊ป ตอนแรกเธอจะปล่อยผ่าน แต่เพราะคำพูดว่า ‘อยากช่วย’ ทำให้เธอสงสัยว่าใครกันที่ส่งข้อความมา หญิงสาวขึ้นลิฟต์มาชั้นบนสุด เมื่อเดินไปเธอจึงได้พบคนที่ไม่อยากพบ ทำให้กำลังจะเดินกลับ แต่ไซรัสกลับวิ่งมาขวางทางไว้
ลัลนามองเขาอย่างระแวงไม่ไว้วางใจพลางคลำไปที่กระเป๋าเสื้อซึ่งเธอพกคัตเตอร์อันเล็กมาด้วย แค่เผื่อไว้ ตอนนี้เธอไว้ใจใครไม่ค่อยได้ เผื่อถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่หรือฆ่า รามินจะตามไปช่วยทันทุกครั้งหรือเปล่าก็ไม่รู้
“คุณต้องการพบฉันทำไม ระหว่างเราไม่น่ามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน”
ไซรัสพยักหน้าเห็นด้วย แต่เพราะเขาหาวิธีที่ดีต่อเขาและลัลนาได้แล้วก็แค่เท่านั้นเอง
“ฉันรู้ว่าเธออยากลับประเทศไทย แต่ติดที่อารามินขวางไว้เลยทำให้ยังกลับไปไม่ได้ ถ้าฉันจะช่วยเธอเองล่ะ”
ลัลนานิ้วหน้าพลางก้าวถอยหลัง คนอย่างไซรัสจะช่วยเธอย่างจริงใจเนี่ยนะ ใครจะเชื่อ
“ช่วยทำไม ไม่มีเหตุผลที่คุณจะมาช่วยฉัน”
ไซรัสกอดอกใส่ เขาไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ แต่รู้ว่าทำร้ายไม่ได้ เขาไม่อยากมีปัญหากับอารามิน แต่ถ้าลัลนาสมัครใจไปเองย่อมไม่ใช่ความผิดของเขา
“การมีเธอเข้ามาในครอบครัวเป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการ เพราะฉะนั้นฉันช่วยเธอก็เหมือนได้ทำให้ตัวเองสบายใจไปด้วย เธอเองก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่อยู่แล้วไม่ใช่หรือ”
ตอนแรกลัลนาคิดว่าจะอยู่ไปเรื่อยๆ ใครพูดอะไรเธอจะไม่สนใจ แต่เพราะรามินพูดเรื่องดูตัวนัดบอดจะหาสามีให้เธอ ทำให้ความคิดนั้นเริ่มรวนเร เธอยังไม่อยากแต่งงาน ยังไม่อยากมีใครในชีวิต อยากทำงานไปเรื่อยๆ หากพบใครที่เธออยากจะรักนั่นล่ะ การแต่งงานจึงจะเกิด ไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะความต้องการของรามิน
“คุณทำได้อย่างที่พูดจริงๆ หรือเปล่า” หญิงสาวลองหยั่งเชิงดูก่อน
“แน่นอน อารามินจะไม่รู้ว่าเธอหายไป จนกระทั่งเครื่องบินขึ้นไปแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นอารามินก็ทำอะไรไม่ได้ ยกเว้นแต่ไปตามเธอกลับมา แต่ฉันคิดว่าอารามินไม่ทำแบบนั้นหรอก”
แผนฟังดูดี แต่ว่าเธอมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งซึ่งมันสำคัญมาก
“พาสปอร์ตของฉันอยู่ที่อาของคุณ คุณแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ฉันได้ไหมล่ะ”
ไซรัสไหวไหล่ราวกับเรื่องนี้ช่างง่ายดาย “พาสปอร์ตจะมาอยู่กับเธอในวันที่เดินทาง คนของแม่ฉันในบ้านของอารามินจะหาพาสปอร์ตของเธอเจอแน่นอน”
ลัลนาประหลาดใจในตอนแรก แต่ก็เข้าใจในวินาทีต่อมา พวกตระกูลไฮโซร่ำรวยมักมีสายคอยส่งข่าวสินะ ว่าแต่ใครกัน รามินไม่รู้ตัวเลยหรือว่ามีสายของแม่ไซรัสหรืออาจจะคนอื่นๆ อีกอยู่ในบ้านของตัวเอง
ช่างเถอะ มันเป็นเรื่องที่ลัลนาคิดว่ารามินจัดการได้ สิ่งที่เธอต้องจัดการเหมือนกันคือหนีการดูตัว การไปจากที่นี่แล้วหาทางต่อน่าจะดีกว่า เพียงแต่ไซรัสไว้ใจได้แค่ไหน
“ตกลง ถ้าคุณพร้อมให้ฉันเดินทางเมื่อไหร่ก็ติดต่อมา” หญิงสาวตอบรับไปก่อน แม้จะไม่ไว้ใจไซรัสเลยก็ตาม ถ้าถึงเวลานั้นเธอเปลี่ยนใจไม่ไป ไซรัสก็ทำได้แค่รอ
“อีก 2 วัน ตอนนั้นอารามินจะไปต่างเมือง ทางสะดวกให้เธอเดินทางพอดี”
“ตามนั้น ฉันคงไม่ขอบคุณ เพราะทั้งหมดที่คุณทำ คุณแค่ทำเพื่อตัวเอง” ลัลนายิ้มให้ไซรัสอย่างรู้ทันกัน
ไซรัสมองตามรู้สึกแปลกใจที่ลัลนายอมตกลง เขาเองก็ระแวงว่าเธอจะไปบอกเรื่องนี้กับอารามินอยู่เช่นกัน ตอนนี้เหมือนเขาและเธอกำลังวัดใจกันอยู่ หากพาลัลนาออกนอกประเทศไปได้โดยที่อารามินไม่รู้ เขาจะปล่อยเธอไม่ตามรังควานและไม่ถือสาเรื่องที่เธอได้เงินมรดกจากพ่อของเขา แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น เขาคงปล่อยลัลนาไปใช้ชีวิตสงบสุขพร้อมเงินของพ่อเขาไม่ได้หรอก
คิดว่ารอบนี้ลัลนาจะได้ขึ้นเครื่องบินมั้ย 555 เตือนแบบหวังดีจริงๆ นะลัล ว่าที่สามีของแกที่แกยังไม่รู้ตัวว่าจะได้มาเป็นสามีอ่ะฉลาด
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ ใครอยากอ่านนิยายเรื่องอื่นๆ ของโบว์ มีใน meb นะคะ ไปอ่านระหว่างรอเรื่องนี้ได้ค่ะ โบว์ทำโปรโมชั่นเรื่อยๆ นิยายลดราคาลงมาน่ารัก
อัมราน l บรรพตี - อีบุ๊กหนังสือ นิยาย การ์ตูน (คลิก)
บรรพตี (อัมราน)


แสดงความคิดเห็น